ตอนที่แล้วบทที่ 4 ลูกค้ารายแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 ยันต์ชำระวิญญาณ

บทที่ 5 เช่าห้อง


“พวกคุณออกไปเถอะ!  ผมไม่ขายให้… แค่ไอ้หมอนี่อยู่ตรงนี้ก็ทำผมอารมณ์เสียแล้ว”  เย่โม่พูดกับซูจิ้งเหวินขณะที่ชี้ไปทางวังเผิง

2-3 ปีมานี้ซูจิ้งเหวินถูกอาการป่วยของแม่กัดกร่อนจิตใจอย่างมาก  เธอสิ้นหวังกับการรักษาของโรงพยาบาลแล้ว อาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกว่าแม่ของเธอเป็นไปได้มากว่าจะถูกวิญญาณร้ายครอบงำ  เพียงแค่หาซื้อของขลังที่ช่วยขับไล่วิญญาณร้ายก็จะแก้ไขได้  แต่เธอซื้อของแบบนี้มาก็ตั้งมาก  แม่ของเธอกลับไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นเลย  มาตอนนี้มีคนบอกว่ายันต์ของเขาช่วยให้แม่เธอฟื้นขึ้นได้  ซูจิ้งเหวินยิ่งไม่อาจปล่อยผ่านเรื่องนี้

ถ้าหากคนตรงหน้าหลอกลวงก็แค่ไม่กี่หมื่นหยวน  สำหรับตระกูลซูของเธอนั้นเงินจำนวนแค่นี้ถือว่าเล็กน้อย  ขอแค่ยังมีความหวัง  ถึงแม้ลึกๆ ในใจของเธอจะรู้ดีว่าที่คนพวกนี้พูด 99% ล้วนหลอกลวงแต่เธอก็ยังอยากจะลองดู...

ฟังที่เย่โม่พูดไหนเลยจะไม่ร้อนใจ  เธอรีบพูดกับเย่โม่  “ขอโทษด้วยอาจารย์  คนผู้นี้กับฉันไม่มีความเกี่ยวข้องกัน”  พูดจบซูจิ้งเหวินก็หันไปมองวังเผิงแล้วพูด  “คุณชายวัง... นายไปเถอะ  อย่าตามมาอีกเลยไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจจับนาย”

วังเผิงได้ฟังดังนั้นก็หันไปมองเย่โม่ด้วยแววตาเย็นยะเยียบ  ในใจคิดว่าเย่โม่ได้กลายเป็นคนพิการไปแล้ว  กลับไปเขาจะต้องสั่งให้คนมาหักแขนหักขาไอ้คนไม่รู้หัวนอนปลายเท้านี้แน่  แต่ในเมื่อซูจิ้งเหวินพูดขนาดนี้แล้วเขาก็ไม่มีหน้าจะอยู่ตรงนี้ต่อ  วังเผิงได้แต่หันหลังเดินจากไปอย่างขุ่นเคือง

เย่โม่มองสายตาของวังเผิงก็รู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไร  ทว่าเขาแค่มาค้าขายเท่านั้น  เสร็จแล้วก็จะรีบจากไปทันที ไหนเลยจะสนใจเรื่องแบบนี้  หรือพูดอีกที... เขาไม่กลัวคนแบบวังเผิงอยู่แล้ว

“‘ยันต์ชำระวิญญาณ’ พวกนี้ฉันต้องการหมดเลย  ทั้งหมดเท่าไหร่?”  หลังจากเห็นวังเผิงเดินจากไปไกลซูจิ้งเหวินก็พูดขึ้นอย่างรีบร้อน

เย่โม่หยิบ ‘ยันต์ชำระวิญญาณ’ ทั้ง 2 แผ่นขึ้นมา

“ยันต์พวกนี้ผมทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างขึ้นมา  ฉะนั้นจึงมีแค่ 2 แผ่นนี้เท่านั้น  เพียงใช้ยันต์เกรดดีแผ่นเดียวก็โอเคแล้ว  ส่วนอีกแผ่นถ้ายังไม่ใช้ก็เก็บไว้ในกล่องหยก  คงเก็บได้เป็นสิบปี  2 แผ่นทั้งหมดสามหมื่นหยวน”  เย่โม่พูดไปพลางยื่น ‘ยันต์ชำระวิญญาณ’ ส่งให้ซูจิ้งเหวิน  รวมทั้งช่วยบอกอีกด้วยว่ายันต์ตัวไหนดีที่สุด

ซูจิ้งเหวินรับยันต์ทั้งสองไปแต่เธอกลับจ่ายเป็นเช็คเงินสดห้าหมื่นหยวน  ตัวเย่โม่เองไม่ใช่คนชอบเอาเปรียบใคร  จึงได้หยิบ ‘ยันต์คุ้มกาย’ และ ‘ยันต์บอลเพลิง’ อย่างละแผ่นส่งให้ซูจิ้งเหวิน

“ในเมื่อให้มาห้าหมื่นหยวนก็เอายันต์ 2 แผ่นนี้ไปด้วย… แผ่นนี้คือ ‘ยันต์คุ้มกาย’  กลับไปแล้วก็เอาใส่ไว้ในถุงหอมแขวนไว้กับตัวก็โอเคแล้ว  ส่วน ‘ยันต์บอลเพลิง’ ใช้สำหรับป้องกันตัว  ถ้าเจอคนมาทำร้ายก็ให้โยนไปตรงๆ แล้วพูดว่า ‘หลิน’ (จุติ/ปรากฏ) ก็ใช้ได้แล้ว”

พอเห็นเย่โม่ไม่อยากเอาเปรียบตน  ความหวังในใจของซูจิ้งเหวินก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น  มองยังไงคนแบบนี้ก็ไม่ใช่นักต้มตุ๋น  เมื่อได้ยินที่เย่โม่อธิยายก็รีบถามขึ้น  “อาจารย์… แล้ว ‘ยันต์ชำระวิญญาณ’ นี่ใช้ยังไง?”

เย่โม่รับเช็คเงินไปแล้วพูด  “แบบเดียวกัน  โยนยันต์ไปทางผู้ป่วยแล้วพูด ‘หลิน’ ก็เรียบร้อย”

“เออ… ไม่ทราบว่าอาจารย์จะสะดวกไปหาแม่กับฉันไหม  ฉันยินดีจะจ่ายให้เป็น 2 เท่าเลย”  หลังจากซูจิ้งเหวินหยิบ ‘ยันต์ชำระวิญญาณ’ ไปเธอก็รู้สึกว่าใจที่เป็นกังวลของเธอค่อยๆ สงบลง  อีกทั้งยันต์กระดาษแผ่นนี้ก็ยังหนักอยู่บ้าง  เธอจึงรู้สึกเชื่อใจเย่โม่ยิ่งขึ้นจึงได้มีความคิดจะเชิญเย่โม่ไปด้วยกัน

แน่นอนว่าเย่โม่ไม่สามารถไปกับซูจิ้งเหวินได้  ได้แค่โบกมือแล้วพูด

“ผมไม่จำเป็นต้องไปหรอก… ยันต์แผ่นนี้รักษาได้แน่นอน”  ซูจิ้งเหวินกับหญิงสาวข้างๆ ที่ชื่อเสี่ยวเยว่เมื่อเห็นว่าเย่โม่ไม่เต็มใจไปด้วย  จึงกลับไปทดสอบยันต์ที่ได้มาด้วยความรีบร้อน

เมื่อเย่โม่เห็นทั้งสองจากไปเขาก็รีบเก็บแผงลอยของตน  จากนั้นก็ไปธนาคารเพื่อเบิกเงิน  สิ่งที่เขาต้องการที่สุดตอนนี้ก็คือเงิน!

..........

“พี่ซู… คนๆ นี้ใส่แว่นดำหน้าตามองไม่ชัดเจน  ที่วังเผิงพูดก็มีเหตุผล  ฉันคิดว่ามีโอกาสสูงที่เขาจะเป็นพวกต้มตุ๋น”  ถึงเธอจะมั่นใจว่าเย่โม่เป็นพวกต้มตุ๋น  ทว่าหญิงสาวที่ชื่อเสี่ยวเยว่ก็พูดขึ้นอย่างระมัดระวัง

ซูจิ้งเหวินถอนหายใจ  ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเย่โม่เป็นพวกต้มตุ๋น  ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เธอก็ยังต้องลองดู  เพราะเธอไม่อยากยอมแพ้กับวิธีใดก็ตามที่อาจช่วยทำให้แม่ของเธอฟื้นขึ้นมาได้  ถึงรู้ว่าถูกหลอกก็ยังอยากลองสักครั้ง…

เห็นซูจิ้งเหวินถอนหายใจแบบนั้น  เสี่ยวเยว่เองก็ไม่พูดอะไรต่อ  บอดี้การ์ดเสี่ยวเยว่ราวกับรู้ว่าซูจิ้งเหวินคิดอะไรอยู่ ใบหน้าของเธอเศร้าลงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

หลังจากเย่โม่ไปเบิกเงินห้าหมื่นหยวนมา  สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกเลยคือหาที่อยู่ใหม่  เพราะช่วงนี้เขาต้องการสมุนไพรมาปรุงยา  อยู่ในมหาวิทยาลัยทำอะไรได้ไม่สะดวกนัก  ถึงแม้ 2-3 เดือนมานี้เขาจะไม่เห็นคนอื่นๆ ในหอพักเลยแม้แต่เงา  แต่เขาเองก็ไม่อยากเปิดเผยเรื่องของตัวเองมากนัก

ขอแค่มีเงิน… การจะหาเช่าห้องพักในหนิงไห่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก  แต่ที่ถูกใจเย่โม่กลับมีไม่มากนัก  เพราะที่ๆ  เขาต้องการไม่เพียงต้องสะอาดเท่านั้น  ถ้าจะให้ดีที่สุดบรรยากาศต้องสดชื่นด้วย  อย่างน้อยก็ต้องมีที่ให้ฝึกฝนทุกวัน

ตอนนี้ระดับของเขาขึ้นได้ยากมาก  แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากให้การฝึกฝนที่ผ่านมาสูญเปล่า  ขอแค่มีวิชาไว้ป้องกันตัวก็พอแล้ว

เขตหนิงตู้ห่างจากมหาวิทยาลัยหนิงไห่กันคนละโยด  ถึงแม้จะนับว่าอยู่เมืองเดียวกันแต่ก็ห่างกันกว่า 30 กิโลเมตร ตอนที่เย่โม่มาถึงหนิงตู้ท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินใกล้พลบค่ำแล้ว

เหตุผลที่เย่โม่ต้องการหาที่พักไกลๆ มีอยู่สองข้อ… ข้อแรกคือไม่อยากให้ใครในมหาวิทยาลัยรู้ความลับของเขา  ข้อสองคือหากภายหลังต้องไปมหาวิทยาลัยจะได้วิ่งไป  ถือเป็นการฝึกฝนร่างกายอย่างหนึ่ง

ขณะที่เย่โม่คิดว่าวันนี้คงหาที่พักไม่ได้แล้วนั่นเอง  ตัวเขาก็ได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าสวนเล็กๆ ที่มีพลังวิญญาณแผ่ออกมาจางๆ  เย่โม่ทั้งประหลาดใจและดีใจ

เพราะตรงหน้าสวนยังแปะป้ายไว้ด้วยว่า ‘มีห้องให้เช่า’

ยังไม่ได้เข้าไปข้างในเย่โม่ก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเช่าสวนนี้  ไม่ไปที่อื่นอีกแล้ว  เพราะพลังวิญญาณที่นี่ถือว่าไม่เลวเลย

“เธอเป็นใคร?”  ประตูที่เย่โม่เคาะถูกเปิดออก  ผู้พูดเป็นหญิงอายุราว 50 กว่าๆ  ขณะที่เธอพูดก็มองสำรวจเย่โม่ไปด้วย

แต่เย่โม่กลับลืมที่จะตอบคำถามนั้น  เพราะตอนนั้นเขาหันไปเห็นว่าข้างในสวนมี ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ อยู่  มิน่าถึงมีไอพลังวิญญาณกระจายออกมา  แต่มีแค่ต้นเดียวเท่านั้นเอง… ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรุงยารวมปราณ

เย่โม่ข่มความตื่นเต้นเอาไว้  เขารีบพูดกับคนตรงหน้าที่เริ่มมองเขาแปลกๆ  “ป้า... ผมเห็นว่าที่นี่มีห้องให้เช่า  ผมอยากจะเช่าสักหน่อย”

ได้ยินเย่โม่พูดดังนั้นเธอก็เข้าใจ... ที่แท้มาเช่าห้องนี่เอง  เธอจึงรีบพาเย่โม่เข้ามาข้างในทันที

เมื่อพูดคุยกันได้สักพักเย่โม่จึงได้รู้ว่าส่วนแห่งนี้มีห้องพัก 2 ห้องคือฝั่งตะวันออก  และฝั่งตะวันตก  มีห้องรับแขก 1 ห้อง  ห้องรับแขกนั้นไม่เปิดให้เช่า  ส่วนห้องฝั่งตะวันตกก็มีคนเช่าไปแล้ว  ทางห้องฝั่งตะวันออกนั้นเดิมที่เป็นห้องที่เจ้าของบ้านใช้อยู่อาศัย  ซึ่งตอนนี้เจ้าของบ้านอยากจะย้ายไปอยู่กับลูกชายที่เขตหนิงทางตอนเหนือ  จึงอยากปล่อยห้องฝั่งตะวันออกให้เช่า  แล้วก็มาเจอเย่โม่พอดี

ที่ทำให้ป้าเจ้าของห้องประหลาดใจก็คือเธอแปะประกาศไปว่าค่าเช่าที่นี่หนึ่งพันหนึ่งร้อยหยวนต่อ 1 เดือน  เด็กหนุ่มคนนี้ดูแล้วไม่น่าจะมีเงินเยอะกลับจ่ายเงินค่าเช่าถึง 1 ปีเต็มโดยไม่พูดไม่จาสักคำเดียว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด