ตอนที่แล้วบทที่ 32: บอสระดับรีเจนดารีตัวจริง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34: อาชีพเสริม: ผู้วิเศษแห่งจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์

บทที่ 33: โมเสส


เดิมทีสถานที่ก่อสร้างในเมืองนั้นร้อนมาก และเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อของชาวเมือง…

แต่น่าเสียดายที่สภาพอากาศวันนี้ค่อนข้างแย่นิดหน่อยและฝนก็เริ่มที่จะตกแล้ว

วิลเลียมสวมชุดคลุมสีม่วงขณะที่เดินถือร่มบนถนนกรีนสโตน

เมื่อคนงานบางส่วนที่กำลังคุยกันอยู่ท่ามกลางสายฝน เห็นสายตาการจ้องมองของเขาก็สั่นด้วยความกลัว เพราะพวกเขารู้สึกได้ว่าค่าแรงของบ่ายวันนี้ต้องหายไปพร้อมกับสายฝนเป็นแน่…

“หืม ก็แค่ฝนตกไม่ใช่หรอ? ทำไมพวกเขาถึงหยุดทำงาน?” วิลเลียมมองไปยังน็อกซ์ที่ติดตามมาข้างหลัง

“ท่านลอร์ด แค่ฝนหรอครับ?” น็อกซ์ขยับหมวกด้วยความหมดอาลัยตายอยาก เขาไม่สนใจเสียงดังปึ้งปั้งบนศีรษะ ก่อนจะชี้ไปยังลูกเห็บบนพื้นที่ยังคงมีไอเย็นลอยออกมา…

“ใครจะไปรู้ล่ะ…ก็นี่มันเขตร้อน จะไปมีลูกเห็บได้ยังไงกันเล่า?” มุมปากของวิลเลียมกระตุก เขากำลังจะไปหาโมเสส แต่ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นมาทันที พอเขาจะเข้าใกล้โมเสส ฝนก็ตกหนักขึ้นกว่าเดิมและเริ่มกลายเป็นลูกเห็บ ราวกับฟ้ากำลังหยุดยั้งเขาไม่ให้พบโมเสส

นอกจากนี้แล้ว หากไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น โมเสสที่มีลางสังหรณ์ก็ดูเหมือนจะรู้แล้วว่าเขามาทำไม นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้โมเสสเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและบันดาลให้เกิดฝนลูกเห็บที่หนักหน่วงเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่สามารถหยุดวิลเลียมไม่ให้ไปหาเขาได้หรอก

ผ่านไปไม่นาน วิลเลียมก็มาถึงหน้ากระท่อมทำนายโชคชะตาหลังหนึ่ง ก่อนเขาจะสะบัดมือเป็นสัญญาณให้กับน็อกซ์ “กลับไปก่อนเถอะ ข้าจะไปรับการทำนายสำหรับการเดินทางของวันพรุ่งนี้”

“ครับท่านลอร์ด” น็อกซ์มองไปยังวิลเลียมก่อนจะพยักหน้า สำหรับเขาแล้ว ท่านลอร์ดยังคงแปลกประหลาดอยู่สักเล็กน้อย และเขารู้ว่ามีโอกาสที่เขาจะไม่ได้กลับมาหลังจากการเดินทางครั้งนี้

“ก๊อก ก๊อก!” วิลเลียมเคาะประตู

แต่ไม่มีใครตอบกลับมา

“ปัง ปัง!”

ก็ยังไม่มีใครตอบกลับมาอยู่ดี

“ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง...”

“ครืดดด” ชายที่ดูชั่วร้ายมีผมสีเงินและรูปร่างสูงโปร่งเปิดประตูออกมา ดวงตาของเขางุนงงเล็กน้อยและปากก็มีคราบน้ำลายเปื้อนอยู่ เขามองไปยังด้านหลังของวิลเลียม กวาดตาไปรอบๆก่อนที่เขาจะตื่นขึ้นมาแล้วกล่าวว่า “โอ้ ท่านลอร์ด ลูกเห็บที่ไหนพาท่านมาถึงนี่ล่ะเนี่ย? แปลกจริงๆ แม้แต่ฝนลูกเห็บก็ตกที่นี่ได้งั้นหรือ?”

มุมปากวิลเลียมกระตุก เขารู้ว่าชายผู้นี้ไร้ยางอาย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะไร้ยางอายขนาดนี้…

โมเสสเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีระดับสูงเกินไปในเกมเวอร์ชัน 1.0

ในปีที่เปิดเบต้า เขาไม่ได้ใช้เวทมนตร์ใดๆที่เกินกว่าเลเวล 69 เมื่อเริ่มต้นเกม เขาก็ยังแสดงบทบาทที่รู้สึกเหมือนบอสลับกำลังเฝ้าดูผู้เล่นทุกๆคน

และเขาก็เป็นบอสคนนั้น…

“โมเสส ทำไมท่านถึงนอนกลางวันล่ะ? ไม่อยากทำงงทำงานบ้างเลยหรือ?” วิลเลียมหุบร่มก่อนจะเดินเข้าไปยังกระท่อมสลัวๆที่เต็มไปด้วยไอเทมเวทมนตร์ที่ถูกโยนอย่างระเกะระกะ

ลูกแก้วคริสตัล, อัญมณี, ของหายาก และของแปลกๆเกลื่อนกลาดไปหมด ในเวลาเดียวกันก็มีภาพวาดถูกแขวนอยู่บนฝาผนังที่มีสัญลักษณ์เวทมนตร์ที่อ่านไม่ได้!

และเก้าอี้ตัวเดียวที่ลูกค้าสามารถนั่งได้นั้นถูกครอบครองโดยแมวดำสกปรกตัวหนึ่ง

โมเสสดูเยาว์วัยละมุนละไมแต่ก็แฝงไปด้วยความงามที่ลึกลับ ขณะที่เขาหาว ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความงุนงง “ข้าไม่มีงานอะไรทำหรอกท่าน ถึงทำก็ไม่ได้เปิดทำการมากว่าหกเดือนแล้ว ทำครั้งหนึ่งก็เลี้ยงตัวเองได้เป็นปี ตราบใดที่อาณาเขตของท่านยังไม่ถูกยึดครอง ข้าก็วางแผนว่าจะอยู่ที่อาณาเขตแห่งนี้ของท่านจนกว่าจะจากไป...”

“...” วิลเลียมจมไปในความคิดของตนเองประมาณสองวิ ก่อนที่เขาจะตบไหล่โมเสสเบาๆ “ช่วยทำนายให้เราว่าการเดินทางไปยังเมืองบลูมูนวันพรุ่งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่!”

“แน่นอน” โมเสสลุกขึ้นไปยังลูกแก้วคริสตัล

เมื่อโมเสสหันกลับไป วิลเลียมก็มีโอกาสตรวจสอบค่าสถานะของคนตรงหน้าสักที

เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะถูกพบเห็นเข้า เพราะมันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น แม้ว่าผู้สร้างจะมาที่นี่ก็ไม่สามารถค้นพบอะไรได้

โมเสส โฮลี่เวนน์

เผ่าพันธุ์ : มนุษย์

ศักยภาพสายเลือด : รีเจนดารี

อาชีพ : ?

เลเวล : ?

พลังชีวิต : ?

เอาล่ะ นอกจากศักยภาพทางสายเลือดและเผ่าพันธุ์แล้ว ทุกอย่างล้วนเป็นเครื่องหมายคำถาม

แต่ก็ยังมีบางอย่างที่โชคดีอยู่

นั่นคือการมีความสามารถติดตัวดูดีที่เป็นทักษะที่แสนทรงพลัง ทำให้เขาสร้างความประทับใจที่ดีทันทีที่พบเจอกันครั้งแรก

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น

ค่าความประทับใจของโมเสสเพิ่มขึ้น 80 หน่วย

เยี่ยมไปเลย

นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีงาม

“เอื้อมมือมาจับลูกแก้วคริสตัลกับข้า” จากลูกแก้วคริสตัลหลากหลายลูก โมเสสเลือกลูกแก้วสีฟ้าอ่อนขึ้นมาลูกหนึ่ง ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ

วิลเลียมวางมือไว้บนลูกแก้วคริสตัลอย่างเงียบๆ ก่อนโมเสสจะวางทับลงไปด้วยมือของเขา ความรู้สึกเย็นๆถูกส่งออกมาจากมือของโมเสสและค่อยๆแผ่เข้าไปยังลูกแก้วคริสตัล

อาจเป็นเพราะความรู้สึกเย็นที่ไหลผ่านไปตามร่างกายของเขา จึงทำให้วิลเลียมหนาวสั่นขนลุกไปถึงกระดูกสันหลัง

เขามองโมเสสแล้วมองไปยังลูกแก้วคริสตัลที่ส่องประกาย ก่อนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกายของเขา

ตอนที่เขาเป็นผู้เล่นธรรมดา เขาก็เคยอ่านดวงชะตาของเขาเช่นกัน แต่ผู้เล่นไม่มีอนาคต ดังนั้นจึงไม่สามารถอ่านอะไรได้

แต่ว่า…

นักทำนายไม่ได้จับมือเขาไว้อย่างนี้!

ไม่มีอะไรเช่นนี้หรอก!

หรือว่าข่าวลือเกี่ยวกับโมเสสจะเป็นความจริง?

ว่าเขาชอบผู้ชาย…

ภาพต่างๆปรากฏขึ้นบนลูกแก้วคริสตัล

วิลเลียมไม่เข้าใจมัน แม้ว่าเขาจะเกิดใหม่ เขาก็ยังไม่สามารถอ่านมันได้ หากเขาเข้าใจสิ่งเหล่านั้นได้ นักทำนายทั้งหลายในทวีปคงไม่มีอะไรกินแล้ว

โมเสสจ้องมองภาพในลูกแก้วคริสตัลอย่างละเอียด ผ่านไปไม่กี่นาทีเขาก็ปล่อยมือและเลียริมฝีปาก ก่อนจะกล่าวว่า “ข้าไม่เห็นสิ่งเลวร้ายอันใด ทุกอย่างจะราบรื่น ไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่”

“แล้วข้าเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างไหม? หรือได้รับผลประโยชน์อะไรบ้างหรือเปล่า?” วิลเลียมถาม

“ไม่ ข้าบอกท่านได้เพียงแค่ท่านจะโชคดีหรือโชคร้าย หากกล่าวมากกว่านี้เหตุการณ์จะเปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้แล้ว ด้วยความสามารถของท่าน ณ ตอนนี้ ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้” โมเสสใช้นิ้วม้วนผมตัวเองไปมา ส่ายศีรษะของเขาขณะที่นั่งลงบนเก้าอี้

“แค่นั้นก็ได้!” วิลเลียมพยักหน้า ไม่ถามอันใดอีกต่อไป ก่อนจะหยิบเหรียญทองห้าเหรียญออกมาจากกระเป๋าแล้วตบมันลงบนโต๊ะ

โมเสสเก็บพวกมันด้วยความสุขใจก่อนจะยืนขึ้นและกล่าวกับวิลเลียม “ยินดีต้อนรับท่านลอร์ดในครั้งหน้า!”

“โมเสส!” วิลเลียมมองไปยังแมวดำที่เขาไม่สามารถอ่านเลเวลมันได้ อุ้มมันอย่างระมัดระวังแล้ววางมันลงบนโต๊ะก่อนจะนั่งลง

เจ้าแมวดำเดินไปทิ้งตัวลงบนตักของโมเสสด้วยความเต็มใจ มันปล่อยให้เจ้าของลูบหัวเบาๆ

ณ จุดๆนี้ ในที่สุดโมเสสก็ดูเหมือนจะได้ยินคำพูดของวิลเลียม เขาถามด้วยความสับสน “ท่านลอร์ดมีอะไรอีกงั้นหรือ? ข้าจะไม่ไปที่ไหนกับท่านทั้งนั้น ข้าทำได้เพียงทำนายเท่านั้นแล้วก็ไม่มีความสามารถทางด้านต่อสู้อีกด้วย แม้กระทั่งวิธีฆ่าไก่ข้าก็ไม่รู้...”

โมเสสไม่มีพลังการต่อสู้งั้นหรือ? ผู้วิเศษที่ฆ่าไม่ได้แม้กระทั่งไก่งั้นหรือ? หัวใจของวิลเลียมสั่นคลอน ขณะที่พยายามเรียบเรียงคำพูดเขาก็กล่าวว่า “ข้าได้ยินมาว่าท่านดูเหมือนจะรู้เกี่ยวกับมรดกทางพลังเวทย์วิญญาณ?”

โมเสสยังคงเฉยเมย ท่าทางของเขายังคงเงียบสงบราวกับไม่เข้าใจสิ่งที่วิลเลียมกำลังกล่าว

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้วิลเลียมพูดต่อ “ท่านรู้ว่าข้าเป็นครึ่งเอลฟ์ แต่เนื่องจากข้ามีองครักษ์เอลฟ์เลือดบริสุทธิ์จำนวนมาก มันก็พิสูจน์ได้ว่าข้าเป็นคนในราชวงเอลฟ์...”

โมเสสเลิกคิ้วมองวิลเลียม “แล้วอย่างไรล่ะท่านชาย?”

ปัง!

วิลเลียมยืนขึ้น ตบลงบนโต๊ะแล้วตะโกนว่า “มีคนบอกข้าว่าท่านจะสอนเวทย์วิญญาณที่ดีที่สุดให้กับข้า”

“นอกจากนั้น ท่านลืมสัญญาของเราไปแล้วหรือ?”

“ท่านลืมสัญญาที่ให้ไว้กับคนๆหนึ่งงั้นรึ?”

“ท่านลืมคนที่บอกท่านและยินยอมให้ท่านเก็บเวทย์วิญญาณที่ดีที่สุดไว้สำหรับข้าใช่ไหม?”

“...?” ตอนนี้โมเสสสับสนไปหมดแล้วจริงๆ

วิลเลียมยื่นมือออกมาเหมือนกับว่ารอให้เขามอบอะไรบางอย่างให้

มุมปากของโมเสสกระตุก เขาไม่เชื่อว่าวิลเลียมจะสามารถมองเห็นตัวตนของเขาได้ แต่เขาก็ยังคงรู้สึกราวกับถูกหลอก เขาจึงถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “ท่านลอร์ดพบว่าข้าเป็นเจ้าของมรดกความรู้ทางเวทย์วิญญาณได้อย่างไรกัน?”

เขาไม่สามารถโมโหใส่วิลเลียมโดยตรงได้ แต่ว่าเขาตกลงอะไรไปกันนะ?

ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับมันเลย…

แม้ว่าวิลเลียมจะตระหนกอยู่มาก แต่เขาก็ยังเสแสร้งแสดงต่อไป “ข้าคิดว่าท่านควรรู้ว่าข้าได้รับข้อมูลมาจากที่ใด โดยเฉพาะเหตุผลที่ท่านมาอยู่ที่นี่”

“นอกจากนั้น ข้าคือท่านลอร์ด ข้าจะปกป้องร้านทำนายของท่านได้ในอนาคต!”

โมเสสคิดอะไรบางอย่างอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะโยนเจ้าแมวดำออกไปและกล่าวด้วยความเด็ดเดี่ยวว่า “ไม่ใช่ว่าข้าไม่สามารถช่วยท่านได้ แต่ท่านต้องสัญญากับข้าข้อหนึ่งก่อนแล้วข้าจะสอนมรดกความรู้ทางเวทย์วิญญาณที่สมบูรณ์ที่สุดให้กับท่าน ถ้าไม่ ก็อาจเป็นไปได้ว่าทักษะจะด้อยลง...”

วิลเลียมลูบคางเบาๆ “ชิ ท่านยังคงมีเงื่อนไขเช่นเคย อย่ามัวแต่ลังเล ว่าเงื่อนไขของท่านมา?”

“ข้ายังไม่มีมันในตอนนี้!” โมเสสบอกให้เขารออย่างอดทนขณะที่ตนเองกลับไปที่ห้องนอน มีเสียงบางอย่างเกิดขึ้นก่อนที่โมเสสจะหยิบม้วนกระดาษเวทมนตร์อันใหม่ออกมาและวางมันลงบนโต๊ะ

วิลเลียมมองไปที่มัน…

โดยไม่มีคำถามใดๆทั้งสิ้ง

นี่คือม้วนกระดาษมรดกทางเวทย์วิญญาณที่เพิ่งถูกทำขึ้น

ชื่อของมันคือเวทย์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์!

และชื่อของผู้ที่สร้างมันก็คือ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด