บทที่ 20 อันธพาล VS นักดาบคู่ (2)

บทที่ 20 อันธพาล VS นักดาบคู่ (2)

สู้กันไปสู้กันมาเพียงไม่กี่วินาที สถานการณ์กลับสู่ความตาลปัตร เริ่มจากซาโดแก้เกมท่าใหญ่ของนักดาบคู่ได้สำเร็จ ต่อจากนั้นเปิดเกมบุกสวนกลับ

แต่เกมบุกของซาโดในครั้งนี้ยังแกร่งกล้าไม่พอ ขุนช้างใช้จังหวะที่ตนเองสายตาพร่ามัว พลิกแพลงเกม และทำดาเมจไปก่อนเน้นๆ 1 ครั้ง จากนั้นไม่นาน ขุนช้างตกเป็นฝ่ายตั้งรับอีกครั้ง ด้วยสกิลท้าสู้ของอันธพาล

สกิลโซ่ล็อคคอทำงาน Mammoth ถูกล็อคไว้ด้วยโซ่ ไม่สามารถขยับไปไหนมาไหนได้ ต่อจากสกิลล็อคคอจะเป็นสกิลไหนไปไม่ได้  ถ้าไม่ใช่ สกิลช้ำใน

เพราะเป็นคอมโบคู่กันของอันธพาล แต่ครั้งนี้ซาโดกับไม่เลือกใช้ สกิลช้ำในตามต่อ เป็นเพราะอะไรนั้น เหตุผลนี้ต้องให้ระดับยอดฝีมือเท่านั้นถึงจะอ่านเกมออกได้

“ทำไมนายไม่ใช้สกิลช้ำในตามต่อหละพวก”

“โอ้โห 007ZA ถ้านายใช้สกิลช้ำในตามต่อ ดาเมจ* มหาศาลเลยนะพวก”

“อะไรกันเนี่ย เหลือเชื่อ พลาดได้ไง?”

ข้อความจากผู้ชมเกมภายในห้องถาโถมขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาล เพราะไม่เข้าใจการเล่นอันธพาลของซาโด จังหวะผลาญ HP ล๊อตใหญ่มาแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่ใช้สกิลช้ำในแทงลงไป ซึ่งจุดนี้เหล่าผู้ชมที่เชียร์ และ แทงฝั่งซาโด ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก

“เป็นเพราะนักดาบคู่ก้มย่อได้ทันไง” บังเคนก็จิตใจดีซะเหลือเกิน ถึงขนาดเคาะข้อความเฉลยคำตอบให้กับเหล่าผู้ชมที่ไม่เข้าใจการกระทำของอันธพาลในครั้งนี้

แต่ข้อความของบังเคนก็อยู่ได้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น กลุ่มฝูงชนในห้องก็พิมพ์กันอย่างรวดเร็ว จนทำให้ข้อความนี้เลื่อนขึ้นหายไปจากหน้าจอทันที แต่ยังดีที่มีคนหลายคนอ่านข้อความนี้ทัน และคิดตามได้

“เลิกวิจารณ์โง่ๆซะ” คนที่รู้คำตอบแล้วเริ่มด่าทอคนในห้องทันที

“นายว่าใครโง่ นายมา PK กับผมป่าว”

“เหอะๆ ฉันไม่ธุระ”

การแข่งยังดำเนินต่อไป คนที่เถียงกันก็ยังเถียงกันต่อไป แต่ความจริงในเรื่องนี้เริ่มกระจ่างขึ้นมาแล้ว หลังจากมีกลุ่มคนเริ่มพิมพ์อธิบายขึ้นมาหลังจากเข้าใจตรงจุดนี้

สกิลโซ่ล็อคคอที่ใช้ออกไปเมื่อครู่ แม้จะรวดเร็วขนาดไหน แต่การคาดเดา สกิลของอันธพาลในลักษณะนี้มันช่างง่ายดายเป็นอย่างมาก

ขอแค่เพียงไม่ตกใจ ตั้งสติให้ดี และควบคุมให้รวดเร็ว เท่านี้คุณก็อาจจะรอดพ้นการคอมโบของอันธพาลได้ แต่พูดเหมือนง่าย เวลาทำจริงน้อยคนเท่านั้นที่จะทำได้ แต่กับขุนช้างในตอนนี้ถือว่าเขาทำสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง

โซ่ที่ล็อคคอ ล็อคออกไปในจังหวะที่ขุนช้างกำลังย่อตัวพอดี แม้จะหลบสกิลโซ่ล็อคคอไม่ทัน แต่การจะใช้สกิลช้ำในต่อ ย่อมต้องใช้เหล็กแทงลงไปยังร่างกายของ Mammoth ซึ่งการย่อตัวของเขานับว่าประสบผลสำเร็จ ซาโดไม่เลือกเสี่ยงใช้ สกิลช้ำใน ก็เพราะว่า หากโจมตีหลังจากการล็อคคอ ดาเมจจะ* 2 และผลของการโจมตีใส่ศีรษะ ดาเมจจะรวมเป็น *4 ถ้าหากใช้สกิลช้ำในออกไป เป็นการแทงเหล็กธรรมดาๆ ใส่ร่างกายของผู้เล่น ดาเมจจะมากกว่าการโจมตีเพียง 1.5 เท่า เท่านั้น

ซึ่งมันไม่คุ้มที่จะใช้ สกิลช้ำใน ในช่วงที่ดาเมจกำลังคูณ 4  แต่ถ้าหากว่าหลังจากเราใช้ สกิลช้ำในแล้ว ยังสามารถโจมตีได้ต่อ นั้นแหละถึงจะคุ้มอย่างแท้จริง

แต่ขุนช้างเขาจะปล่อยให้ซาโดโจมตีสำเร็จหลังจากใช้ สกิลช้ำในงั้นหรอ ? ไม่มีทาง! เขาจะไม่ให้ซาโดทำสำเร็จแน่นอน ขุนช้างต้องใช้ช่วงจังหวะที่หลบ และสวนกลับใส่เราในทันที ซาโดมั่นใจตรงจุดนี้

เพราะฉะนั้นจึงไม่เลือกใช้ สกิลช้ำในออกมา และเลือกใช้ สกิลรุมกินโต๊ะแทน ดาเมจ*2 จากการโจมตีหลังใช้ สกิลโซ่ล็อคคอ หากโจมตีใส่ส่วนหัวได้อีกจะ *4  การย่อตัวของขุนช้างก็จะด้อยประสิทธิภาพลงในทันที เพราะสกิลรุมกินโต๊ะ ความสามารถของมันคือ ยืดเท้าและแยกเท้าออกนับ 10 เพื่อจู่โจมเป้าหมาย

ตุ๊บๆ ตุ๊บๆ ตุ๊บๆ ๆๆๆๆๆ

เท้านับ 10 ของ 007ZA ย่ำลงใส่ Mammoth อย่างเต็มที่ ดาเมจจากการโจมตีในครั้งนี้นับว่าสูงมากเลยทีเดียว แต่การย่ำลงในครั้งนี้ รวมๆแล้วโดนศีรษะไปแค่ 2 ครั้งเท่านั้น เพราะ ขุนช้างทำการยกดาบขึ้นมาป้องกันส่วนของศีรษะของเขาไว้ แต่ก็ป้องกันได้ไว้ไม่ทั้งหมด

หลังจากการย่ำเท้าครั้งสุดท้ายเสร็จสิ้น  Mammoth ถูกเหยียบย่ำอย่างรุนแรง  ใบหน้าถึงกับจูบอยู่กับพื้นดินเลยเดียว

ผลของ สกิลท้าสู้ หมดลง แต่การโจมตีของอันธพาลยังไม่จบ แม้คู่ต่อสู้จะนอนอยู่บนพื้นก็ยังสามารถโจมตีต่อได้ ท่อนเหล็กตามมา ฟาดเข้าใส่แผ่นหลังของขุนช้าง

แต่ขุนช้างที่มีการบังคับรวดเร็ว ไม่ได้ใช้การนอนกลิ้งทันทีหลังจากที่หน้าจูบดิน เขาเงยหน้าขึ้นมาก่อน เพื่อมองหาตำแหน่งที่ซาโดกำลังเข้าจู่โจม

ซึ่งตำแหน่งที่ซาโดเล็งจู่โจมนั้น ไม่ใช่ตำแหน่งที่ขุนช้างกำลังนอนอยู่ แต่เป็นตำแหน่งทางซ้ายถัดไป 1.5 ช่องตัว ซึ่งซาโดคาดเดาล่วงหน้าว่า ขุนช้างจะต้องพลิกตัวไปทางใดทางหนึ่งอย่างแน่นอน ไม่ซ้ายก็ขวา

แต่ไม่ใช่ เขาไม่พลิกตัว เขาเงยหน้าขึ้นมาก่อนทีหนึ่ง เมื่อเห็นว่าซาโดกระโดดลงมายังทางขวามือของตนเอง เขาจึงพลิกตัวไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว พร้อมรีบลุกขึ้นทันที

ซาโดที่คำนวณการเข้าจู่โจมผิดพลาด ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้หาแผนสำรองมาประครองเกมบุกเอาไว้

ทันทีที่รู้ว่าขุนช้างหลบการโจมตีนี้ไปได้แล้ว ก็ทำการเตะกวาดไปหน้าทันที  สกิลเตะทราย ในพื้นสนามประลองที่ไม่ได้มีทรายมากนัก แต่เมื่อซาโดใช้สกิลเตะทรายออกไป ทรายกองหนึ่งที่ฝ่าเท้าของ 007ZA ก็พุ่งกระจายไปทางของ Mammoth อย่างรวดเร็ว

วิธีหลบคือ หันสายตาออกข้างช่วงเวลาหนึ่ง แต่เพียงแค่ช่วงเวลาที่หันสายตาออกข้างในเสี้ยววิ เราก็จะไม่เห็นคู่ต่อสู้ว่าเขากำลังทำอะไร?  การเตะทราย จึงเป็นสกิลที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก

กองทรายกระจายพุ่งขึ้นใส่ Mammoth อย่างรวดเร็ว ขุนช้างบังคับหันสายตาออกข้าง  เพื่อหลบอาการทรายเข้าตา ที่มีผลทำให้มองไม่เห็นชั่วขณะ

ซาโดจึงสบโอกาสเข้าจู่โจมในช่วงขณะที่ Mammoth หันออกข้าง สกิลเข่าพิฆาตพุ่งเข้าใส่ แต่ทว่าช่วงจังหวะนี้เอง ซาโดถึงกับต้องหยุดใช้ สกิลเข่าพิฆาต กระทันหัน

เพราะว่า ช่วงจังหวะที่เข่าพิฆาตแทงออกไป ใบหน้าของ Mammoth ที่มีท่าทีว่าจะหันหน้าหลบการปาทรายได้หันหลบไปจริงๆ

แต่เมื่อหันหลบไปแล้ว สกิลก้าวพริบตา ถูกใช้งานออกมาทันที เขาใช้การหันหน้าหลบเพื่อหลอกล่อเท่านั้น จุดประสงค์ของเขาจริงๆ คือ การใช้ก้าวพริบตาตั้งแต่ทีแรก

ก้าวพริบตาปรากฏตัวไปยังตำแหน่งด้านบนทางขวามือของ 007ZA จากนั้น สกิลดาบคู่ดาวตก ถูกใช้งานออกมาอย่างรวดเร็วในทันที

ซาโดหันมุมมองไปอีกครั้งก็พบว่า สกิลดาบคู่ดาวตก ใช้งานออกมาแล้ว ดาบทั้ง 2 ไขว้กันไว้ยังตำแหน่งด้านหน้า ตัวละครพุ่งลงมาอย่างรวดเร็วเหมือนดาวตก โดยใช้ดาบคู่ในการพุ่งชนเข้าใส่

ความเร็วของการพุ่งลงมาจากด้านบนของสกิลดาบคู่ดาวตก นับว่ารวดเร็วเป็นอย่างมาก ซาโดที่หันมุมมองไปอีกที เห็นสกิลถูกใช้งานออกมาแล้ว ก็มีทางเลือกไม่มากนัก

ตัดการม้วนกลิ้งทิ้งไปได้เลย เพราะไม่ทันอย่างแน่นอน หากใช้หมัดอัปเปอร์คัตแลกกันทำดาเมจ เหมือนจะไม่คุ้ม เพราะ สกิลดาบคู่ดาวตก มีการผลักชนที่รุนแรง ดาเมจก็ใช่ย่อย

หากใช้ หมัดอัปเปอร์คัตสวนไป แม้จะทำดาเมจกลับได้ แต่ฝ่ายที่คุมเกมบุกยังคงเป็น ขุนช้างเหมือนเดิม

เพราะฉะนั้นแล้ว ด้วยความชำนาญทางอาชีพอันธพาลของซาโด สถานการณ์แบบนี้เขามีการตัดสินใจได้ดีและรวดเร็วเป็นอย่างมาก สกิลวิถีอันพาล ถูกใช้งานออกมาอย่างรวดเร็ว

ร่างกาย 007ZA แดงก่ำในทันที ผลผลักปลิว การกระแทกไร้ผล ดาเมจที่รับจากการโจมตีในช่วงตัวแดงลดน้อยลง 10% แถมยังเพิ่มดาเมจให้อีก 10%

ช่วงจังหวะการปะทะกันซึ่งๆหน้าแบบนี้ ขุนช้างชอบเป็นอย่างมาก ตัวแดงแล้วไง ไม่ปลิวแล้วไง ดาเมจรับน้อยลงแล้วไง แค่ 10% เท่านั้น ตีมันทั้งๆที่ร่างแดงนั่นแหละ

ดาบคู่ดาวตกพุ่งเข้าใส่โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เหล็กในมือของ007ZA ก็พร้อมเข้าปะทะเช่นกัน อันธพาลกระโดดขึ้นพร้อมปล่อยหมัดอัปเปอร์คัตออกไป แม้จะไม่มีผลผลักปลิวด้วยอาการตัวแดง แต่หมัดอัปเปอร์คัตก็ไม่ใช่สกิลที่จะเข้าปะทะกับดาบคู่ดาวตกตรงๆได้

เหล็กแทงขึ้น ดาบไขว้กันด้านหน้าเป็นเหมือนเกราะพร้อมเข้าชน แต่หมัดอัปเปอร์คัตที่ปล่อยออกไปกลับแทงทะลุดาบทั้ง 2 เจาะเข้าไปยังลำตัวของนักดาบคู่ ดาบคู่ที่ไขว้กันก็พุ่งชนทำดาเมจใส่ตัวของ 007ZA แต่ไม่มีผลผลักปลิวใดๆ ขุนช้างรู้ตัวทันทีว่า แย่แล้ว!!

ทำไมถึงแย่ ? ก็เพราะว่า สกิลหมัดอัปเปอร์คัตใช้เพื่อหลอกล่อเท่านั้น สกิลที่ปล่อยออกมาจริงๆของ 007ZA คือ ช้ำใน สกิลช้ำในเสียบนักดาบคู่กลางอากาศ

ไหนๆก็รับสกิลช้ำในไปแล้ว ก็ขอโจมตีกลับบ้างเถอะ ดาบคู่ฟาดลงใส่ 007ZA เช่นกัน แต่จังหวะที่เหล็กกำลังชักออก ตัวละครของ 007ZA กลับหมุนตัวกลางอากาศอย่างรวดเร็ว

สกิลหมุนตัวเตะ ขุนช้างที่กำลังฟาดดาบจู่โจม กลับโดนสกิลหมุนตัวเตะ ตัดหน้าการโจมตีของตนไปเสียก่อน ตัวละคร Mammoth โดนเตะลอยขึ้นทันที

แต่การลอยขึ้นในครั้งนี้ไม่ได้สูงมากนัก ซาโดจึงใช้สกิลปาขวด ขวดระเบิด ปาใส่แผ่นหลังของ Mammoth เพื่อทำดาเมจและใช้แรงระเบิดทำให้ตัว Mammoth ลอยสูงขึ้น

ขุนช้างก็ไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในความเสียเปรียบนานเกินไป เขาพยายามหาวิธีแก้จากการโดนเตะลอยในครั้งนี้

ศีรษะของ Mammoth หันไปเห็นขวดระเบิดลูกนี้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงบังคับตัวละครเอียงข้างเล็กน้อยในขณะที่นอนอยู่กลางอากาศ แรงระเบิดจากสกิลขวดระเบิด ทำให้องศาการลอยในครั้งนี้ที่ซาโดเล็งไว้ เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง ซาโดก็รู้ตรงจุดนี้ แต่แก้ไขไม่ทันแล้ว

จังหวะพลิกตัวและโดนแรงระเบิด มีช่องว่างช่องหนึ่งปรากฏออกมา ขุนช้างรีบคว้าช่องว่างนี้เอาไว้อย่างสุดความสามารถ สกิลฟาดฟันจันทร์เสี้ยว ถูกใช้งานออกมาอย่างรวดเร็ว

ลำแสงวงโค้งรูปจันทร์เสี้ยวขนาดใหญ่ พุ่งออกไปยังช่องว่างตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นช่องว่าง ตำแหน่งที่สามารถจู่โจม007ZAได้

แต่มีหรือที่ซาโดจะไม่รู้ว่า หลังจากการระเบิดเปลี่ยนทิศ ช่องว่างตรงนี้ก็จะเกิดขึ้นทันที และขุนช้างต้องคว้ามันเอาไว้อย่างแน่นอน เพื่อที่จะกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง

แม้สกิลที่ขุนช้างใช้ออกมานั้น เหนือความคาดหมายของซาโดไปนิดหน่อย  สกิลฟาดฟันจันทร์เสี้ยว จะเป็นสกิลที่มีแนวขวางยาวมากและมีความหนา ด้วยการม้วนกลิ้งจะไม่สามารถหลบความยาวของสกิล ฟาดฟันจันทร์เสี้ยวได้อย่างแน่นอน จังหวะนี้จึงต้องกระโดดข้าม เพื่อหลบมันไปเท่านั้น

ไหนๆก็บังคับควบคุมด้วยการกระโดดหลบไปแล้ว ด้วยความไม่ประมาท และเพื่อความปลอดภัย สกิลคาถาไฟ ถูกใช้งานออกมาด้วย อันธพาลพ่นเปลวไฟ ช่างดูเป็นอะไรที่ไม่เข้ากันเสียเลย

การใช้คาถาไฟในครั้งนี้ เล็งยิงไปยังตำแหน่งที่ Mammoth กำลังจะตกลงพื้น แต่กลับช้าไปเล็กน้อยเท่านั้น Mammoth หล่นลงมายังพื้นสนามประลองก่อน พร้อมทั้งเก็บตัว ม้วนกลิ้ง และวิ่งเข้าใส่อันธพาลทันทีอย่างรวดเร็ว

ระหว่างวิ่งก็ได้ทำการโยกหลอก ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง สกิลทีมี่อยู่ในตอนนี้ ก็คูดาวน์เสร็จไปหลายสกิลแล้ว แต่ไม่เลือกทำการใช้ออกมาก่อน เพราะซาโดก็คาดเดาได้เช่นกันว่า สกิลไหนบ้าง ที่นักดาบคู่พอจะมีให้ใช้ออกมาในตอนนี้

ส่วนอันธพาลของซาโด สกิลแต่ละอย่างจำพวก อัปเปอร์คัต หมุนตัวเตะ เข่าพิฆาต ย่อมมีการคูดาวน์ที่รวดเร็ว อาชีพอันธพาลเป็นอาชีพที่ไม่ได้มีสกิลหวูหวา Effect อลังการ การผสมผสานสกิลก็น้อยนิด

แต่จุดเด่นก็ย่อมมีเช่นกัน การออกท่าไว สกิลคูดาวน์ไว การทำดาเมจรุนแรง แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ จะมีผลได้ก็ต่อเมื่อ ต้องเข้าประชิดคู่ต่อสู้ให้ได้ และทำการโจมตีใส่ให้โดนคู่ต่อสู้เท่านั้น

ถ้าหากอันธพาลเผชิญกับ อาชีพจู่โจมไกลที่สุดของเกมแบบ พลปืนไกล อย่างแรกที่ต้องคิดก็ คือ ทำอย่างไรให้ประชิดตัวให้ได้ไวที่สุด และ เสีย Hp น้อยที่สุด

หลังจากนั้นกระบวนการต่อไป คือ อย่าปล่อยให้เขาหลุดออกจากระยะเราเป็นอันขาด หากหลุดออกไปแล้ว เราต้องรีบตามต่อ ถ้าตามต่อช้าไป อาจจะสูญเสีย HP ไปมาก

หลังจากนั้นหละ?  พลปืนระยะไกล ก็สามารถยืนแบกดาเมจสู้กับเราได้ เพราะHp ที่เหลืออยู่ของเราตอนนี้ ยืนรับดาเมจแทบไม่ได้แล้ว

เพราะฉะนั้นทุกอาชีพจึงมีจุดเด่น จุดอ่อน ผสมปะปนกันไป อยู่ที่ว่าใครจะมีไหวพริบ ทักษะ ฝีมือการควบคุม ที่ดีกว่า ผ่านสถานการณ์ตรงจุดยากลำบากมาได้เร็วกว่ากัน

เหมือนกับที่โทโกะได้ประลองกับซาโด เขาสามารถมัดมือมัดเท้าอันธพาลได้อยู่หมัด ถึงแม้ว่าจะเสียเปรียบเรื่องสนามการประลอง  สนามที่ใช้เลือกประลอง ก็เป็นจุดสำคัญ ต่อแต่ละสายอาชีพเป็นอย่างมากเช่นกัน

หลังจากนักดาบคู่วิ่งเข้าใส่อันธพาลของซาโด ทั้ง 2 ก็แลกหมัดกันอย่างเมามัน เหล็กฟาดไป ดาบฟาดมา ดาเมจที่ได้รับและเสียก็พอๆกัน เท้า เข่า ตรงไหนมีช่องว่างเอาหมด แม้แต่โขกหัวก็ยังเอา

สกิลของอันธพาล ก็มีการโขกหัวด้วยเช่นกัน หากวัดกันที่ เท้า และ เข่า ขุนช้างเป็นลองอย่างเห็นๆ ไม่ได้เป็นรองที่ฝีมือการเล่น แต่เป็นรองในเรื่องของสกิล

เพราะว่า ซาโดมีการใช้ลูกไม้หลอกแทงเข่าธรรมดาบ้าง เข่าพิฆาตบ้าง ยิ่งสกิลพวกนี้โหลดไวอีก สถานการณ์ทางฝั่งของขุนช้างจึงไม่สู้ดีเท่าไหร่ เขาต้องเว้นระยะห่างออกมาอีกหน่อย เพื่อทำให้การใช้สกิลสำฤทธิ์ผลของมันบ้าง

แต่พอเริ่มถอยห่าง ซาโดก็เริ่มตามติด สกิลท้าสู้ก็ใช้ออกมาอย่างเหมาะเจาะ พอขุนช้างใช้สกิลที่ทำให้ตัวเองพอถอยออกมาได้บ้างนั้น ซาโดกลับเปิดใช้สกิลวิถีอันพาลเข้าประชิดวงในอีกครั้ง

หลังจากการใช้ วิถีอันพาล โซ่ล็อคคอก็ตามติด แต่ขุนช้างก็ไม่ได้ยอมให้สกิลที่เป็นจุดเด่นของอันธพาล ได้ใช้ออกมาจู่โจมตนเองอย่างง่ายๆ

โซ่ล็อคคอเข้ามาด้านหลังMammoth  สกิลก้าวดาบหวนกลับ ก็พุ่งไปยังจุดที่ซาโดใช้ โซ่ล็อคคอออกมา โซ่ล็อคคอล็อคไม่โดน จึงจำใจต้องยกเลิกสกิลทันที

พอกดยกเลิกสกิลปุ๊บ ขุนช้างก็แสบไม่เบา กดสกิลก้าวดาบหวนกลับอีกครั้ง เพื่อกลับมายังตำแหน่งเดิม และฟันเสยอย่างรวดเร็ว แต่ฟันเสยคราวนี้ ไม่เสย เพราะอันธพาลยังอยู่ในโหมด วิถีอันธพาล

ที่ต้องเลือกใช้ฟันเสยก็เพราะว่า ขุนช้างมั่นใจว่าสกิลนี้ ต้องโดนแน่ๆ เพียงแค่จะทำดาเมจใส่ 007ZA เท่านั้น และการฟันเสยคราวนี้ เป็นการฟันเสยที่สวยงามจริงๆ เพราะเป็นการหันหลังและแทงดาบคู่ออกไป

สุดท้ายนัวเนียกันไปมาอย่างเมามัน HP ของทั้ง 2 คนก็เหลือไม่มากแล้ว ซาโด 22% ขุนช้างเข้าสู่โหมดเลือดส้ม 14%