ตอนที่แล้วตอนที่ 1-2 ฉันเฝ้าวอนขอพบปาฏิหาริย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2-2 นาฬิกาทรายมรกต

ตอนที่ 2-1 นาฬิกาทรายมรกต


ตอนที่ 2 : นาฬิกาทรายมรกต

เมื่ออายุครบสิบสี่ปี ชีวิตก็ยุ่งยากขึ้น เราทั้งสองคนเรียนอยู่ในชั้นปีที่สาม กาลเวลาเดินทางมาได้ครึ่งทางของความสำเร็จแล้ว ช่วงเวลาหกปีที่บรรดาบุตรสาวและบุตรชายของผู้สูงศักดิ์ใช้ในสถาบันซานคริสเตียนที่ตั้งอยู่ในเขตเมือง ตึกอาคารของสถาบันสวยงามสะดุดตา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปราสาทหลังโอ่อ่า สิ่งปลูกสร้างแห่งอื่นรายล้อมสองอาคารนี้ไว้

กิจวัตรประจำวันของฉันที่มีแต่การเดินทางไปมาระหว่างหอพักและสถาบันได้เริ่มเปลี่ยนแปลง บัตรเชิญไปงานเลี้ยง ณ ปราสาทรัตติกาลเริ่มส่งมามากขึ้น แน่นอนว่า ฉันต้องควงแขนกับชไนเดอร์ไปงานเลี้ยงเหล่านั้น จะได้ไปเที่ยวสถานที่น่าตื่นตานี้เพื่อพบปะทักทายผู้คนมากมาย

เรากลายเป็นที่รู้จักในฐานะ ‘คู่รักผู้สูงศักดิ์ที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ซานคริสเตียนก่อตั้งมา’ และเราทั้งสองยังคงครองตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง ถึงอย่างนั้น ผู้คนในตระกูลกาวิเซล่าไม่สนใจความสำเร็จของฉันแต่อย่างใด งานเลี้ยง ณ ปราสาทรัตติกาลครั้งนี้พวกเขาเข้าร่วมเช่นกัน และเหมือนเคย พวกเขาเมินเฉยเวลามีผู้คนชื่นชมในตัวฉัน พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ท่านพี่มักจะพ่นคำคมดูแคลนฉันออกมาประมาณว่า ‘การโด่งดังในหมู่หญิงสาวนั้นง่ายนิดเดียว’ ขณะนั้นฉันได้แต่ฝืนยิ้ม และชไนเดอร์พูดขึ้นมาว่า ‘เจ้าควรภูมิใจในตนเองนะ...รอนย่า เพราะเจ้าเป็นหญิงสาวที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์’ จากนั้นฉันจึงส่งยิ้มหวานอย่างสุภาพให้ผู้ที่ใจดีกับฉันเสมอ

ฉันมีความสุขที่ชไนเดอร์เป็นคนเดียวที่เข้าใจฉัน และนี่ก็เพียงพอแล้ว

การแต่งงานของเราจะเกิดขึ้นเมื่ออายุครบสิบห้าปีบริบูรณ์ ทว่าชไนเดอร์ต้องการแต่งงานกับฉันทันทีหลังเรียนจบ จากนั้นเราจะได้ครองคู่กันในสถาบัน จากนั้นชไนเดอร์ยืนกรานอย่างเด็ดขาดว่าเราสองคนควรจะหมั้นหมายกันไว้ พวกผู้ใหญ่จึงเห็นด้วย

และแล้วก็มาถึงวันที่ชไนเดอร์ต้องพบกับนางเอกในนิยาย ฉันเคยคิดว่าอนาคตของฉันและเขาจะไม่เหมือนเนื้อเรื่องที่ฉันเคยอ่าน ทว่าเขาทั้งสองคนก็ยังพบกันอยู่ดี

ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของท่านบารอน มิซาโน่ อโลก้า

หญิงสาวสง่างามผู้นี้มีผมสีดำสนิท ดวงตาหวานหยดน่าพิสมัยและมีบุคลิกรักสันโดด ชไนเดอร์ผู้เป็นมิตรกับทุกคนเริ่มพูดคุยกับมิซาโน เขาทั้งสองได้สร้างความสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว มิซาโนที่เมินเฉยกับทุกคนได้เปลี่ยนเป็นคนอ่อนโยนเมื่อเธอได้พูดคุยกับชไนเดอร์ เหมือนดั่งเนื้อเรื่องในนิยายที่ฉันเคยอ่าน และใช่ มิซาโนตกหลุมรักชไนเดอร์

ที่จริงแล้วชไนเดอร์ค่อนข้างโด่งดังและหญิงสาวหลายคนชื่นชอบเขา

บุตรชายผู้ฉลาดเฉลียวและเป็นมิตรของพระอนุชาของกษัตริย์ เขาเป็นที่ชื่นชอบและมีสหายที่ไว้ใจได้หลายคน ซึ่งในทางตรงกันข้าม ฉันมีสหายเพียงไม่กี่คน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครจงเกลียดจงชังฉัน

ระหว่างพักคาบเรียน ฉันมักทำตัวผ่อนคลายแสนสบาย ชไนเดอร์มาพบและตะลึงงันเหมือนเคย ทว่าเขาก็ดูแลฉันอย่างดีเช่นเดิม ขณะที่ฉันกำลังจะงีบหลับ เขาจะคอยอุ้มฉันไปนอนบนที่นอน ชไนเดอร์ผู้ใจดีและเข้าใจฉันเสมอมา ในตอนนี้ เขาได้เปลี่ยนไปทีละน้อย...

ในปีที่ชไนเดอร์ไปพบกันมิซาโน ฉันจะโดนถอนหมั้นและโดนไล่ออกจากโรงเรียน ทว่าทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยดี ฉันเริ่มคิดถึงเรื่องนี้ ความเข้มแข็งก็เพิ่มขึ้น

ไม่นานมานี้ ฉันพบชไนเดอร์และมิซาโนอยู่ด้วยกันนอกห้องเรียนบ่อยครั้ง เมื่อเขาเห็นฉัน ชไนเดอร์มักจะหยุดคุยกับเธอแล้วเดินมาหาทุกครั้ง ซึ่งมิซาโนก็มองฉันด้วยสายตาไม่ดีนัก

เธอมองฉันว่าเป็นคู่แข่งตั้งแต่แรกที่พบ เธอเป็นที่สองรองจากฉันในแวดวงสังคมของหญิงสูงศักดิ์ ทว่าไม่ใช่กับอาจารย์ เพราะเธอพยายามอย่างหนักด้วยตัวเอง ที่จริงแล้วเธอฉลาดอย่างน่าชื่นชมและเก่งด้านเวทมนตร์มาก เธอฉลาดกว่าฉันเสียอีก ในทางกลับกัน ฉันต้องเรียนกับอาจารย์แสนเข้มงวด และท่านคอยชี้แนะว่าฉันจะต้องทำอะไรบ้างก่อนที่จะเข้าสถาบันนี้ แต่ก็ต้องขอบคุณท่าน เพราะฉันได้ขึ้นเป็นสตรีผู้สูงส่งที่สุดในแวดวงสังคมหญิงสูงศักดิ์

ในสายตาของเธอ ฉันเป็นคู่หมั้นของคนที่เธอตกหลุมรัก นั่นคงทำให้เธอเกลียดฉันมากกว่าเดิม ทว่าฉันก็ใช้ชีวิตโดยที่ไม่ใส่ใจอะไรนัก

ไม่เป็นไร... หัวใจของชไนเดอร์อยู่ที่ฉัน

วันหนึ่งในขณะที่ฉันกำลังแบกหนังสือกองโตที่อ่านหมดแล้วไปคืนยังหอสมุด ตอนที่ฉันกำลังกุลีกุจอประคองหนังสือเหล่านั้น มีนักเรียนคนหนึ่งวิ่งมาชนโดยบังเอิญ หนังสือหล่นลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ‘ตึง!’ เสียงหนังสือล่วงหล่นกระจัดกระจายอยู่บนพื้น ฉันกระวนกระวายไล่ตามเก็บหนังสือเหล่านั้น ก่อนที่ฉันจะเดินถึงตีนบันได ฉันพบมิซาโนยืนอยู่ตรงนั้น ฉันมัวแต่ยุ่งอยู่กับการตามเก็บหนังสือจนไม่ทันเห็นว่าเธอยืนอยู่ตรงนั้น หนังสือเกือบจะหล่นไปโดนหน้าเธอ ใบหน้าของมิซาโนเปลี่ยนเป็นถมึงทึง

ฉันรู้สึกเสียใจและยิ้มอย่างหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ “ขออภัย ข้ามิได้ตั้งใจ...”

ในฐานะที่ฉันเป็นลูกสาวของผู้สูงศักดิ์ การขอโทษเช่นนี้ก็มิผิดอันใด ทว่ามิซาโนไม่พอใจและจ้องมาที่ฉันอย่างไม่เป็นมิตรนัก

น้ำเสียงของฉันทำให้เธอไม่ชอบใจหรือ? หรือบางทีเธออาจคิดว่านี่คือการก่อกวน เพราะฉันอยากให้เธอหยุดยุ่งและเข้าใกล้ชไนเดอร์เสีย ฉันต้องการขอโทษเธออีกครั้ง ทว่าเธอหันหลังและเดินหนีไป

วันถัดมา ณ ชั้นเรียนเวทมนตร์ มีนักเรียนอยู่คนหนึ่งสูญเสียการควบคุมพลัง

“รอนย่า!”

กลุ่มพลังเวทมนตร์พร้อมกับเสียงดังสนั่นพุ่งมาทางฉัน ชไนเดอร์รีบวิ่งเข้ามาเพื่อปกป้อง ทว่าสัญชาตญาณป้องกันตัวของฉันเร็วกว่ามาก ฉันร่ายมนตร์สะท้อนกลับพลังงานนั้น โชคร้ายที่พลังงานเวทมนตร์สะท้อนกลับแล้วแฉลบไปยังมิซาโน แน่นอน... เธอจ้องเขม็งมาที่ฉัน

ฉัน... ฉันไม่ได้ตั้งใจ...

นักเรียนผู้ที่ควบคุมพลังเวทมนตร์ไม่ได้ถูกดุเป็นธรรมดา และชั้นเรียนก็ได้ดำเนินต่อไปตามปกติ การจับคู่ประลองเวทก็ได้เกิดขึ้น.. และฉันได้ประลองกับมิซาโน...

เนื่องจากการประลองเวทส่งผลต่อคะแนน ฉันจึงจำเป็นต้องต่อสู้และจำเป็นต้องชนะเธอ มิซาโนจ้องมาที่ฉันด้วยสายตาโหดร้าย

แต่... มันก็ช่วยไม่ได้...

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเหมือนในนิยายที่ฉันเคยอ่าน ถึงฉันจะไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่ก็เหมือนกับว่าฉันกำลังตามราวีมิซาโนอยู่ แม้ว่าจะไม่เคยทำอะไรไม่ดีต่อเธอเลย ฉันก็ยังรู้สึกว่าเรื่องราวทั้งหมดกำลังจะจบตามแบบนิยาย ความกังวลของฉันเพิ่มมากขึ้น

ในฐานะลูกสาวผู้สูงศักดิ์แห่งตระกูลกาวิเซล่า ‘ผู้ปกครองเมืองหลวงฝั่งใต้’ ผู้คนมากมายพยายามเข้าหาฉัน นอกจากนี้ฉันยังเป็นคู่หมั้นของลูกชายของท่านดยุค ฉันคือลูกสาวผู้สูงเกียรติของท่านเคานต์และมีมิตรสหายที่แท้จริงอันน้อยนิด บรรดาสตรีผู้สูงศักดิ์ชวนฉันไปเข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชา ที่น่าตกใจคือมีการเตรียมพื้นที่พิเศษเอาไว้ให้ฉัน

วันนี้ฉันได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชา สถานที่จัดงานเลี้ยงที่ชั้นหนึ่งมีผ้าใบกั้นลมตั้งอยู่ เหมือนกับที่ร้านเสริมสวยไม่มีผิด ไม่ไกลจากตรงนั้นมีบันไดวนซึ่งเชื่อมกับชั้นสองและสาม

ความจริงก็คือ ฉันอยากพักผ่อนเอนกายคนเดียว ทว่าเมื่อคิดถึงอนาคต การพบปะกับบรรดาลูกสาวของผู้สูงศักดิ์สำคัญกว่ามาก ในห้องนั้นเต็มไปด้วยแสงอันอบอุ่น ฉันได้จัดเตรียมเครื่องดื่มและขนมไปด้วย บรรดาลูกสาวของผู้สูงศักดิ์เกรงใจเกินกว่าจะรับชาและขนมที่ฉันเตรียมมา แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ได้ลิ้มลองรสชาติ ก่อนจะชื่นชอบชาและกาแฟที่ฉันจัดเตรียมมาให้

“ท่านหญิงรอนย่า ไม่เกินไปหรือที่มิซาโนทำตัวสนิทสนมกับท่านชายชไนเดอร์?”

“ท่านหญิงรอนย่าควรสั่งสอนให้นางรู้จักที่ต่ำที่สูงนะเจ้าคะ!”

เรื่องราวที่พูดคุยในวันนี้ล้วนเป็นเรื่องของ ‘มิซาโน’

บรรดาลูกสาวผู้สูงศักดิ์ที่สง่างาม สวมเสื้อผ้าอาภรณ์หรูหราภายใต้แสงแดดอันอบอุ่น กำลังมีความสุขกับการจิบชาจากถ้วยชาแสนล้ำค่า พวกเธอมีความคิดอันชั่วร้ายภายใต้รอยยิ้มแสนหวาน

“มิซาโน่กำลังวางแผนแย่งท่านชายชไนเดอร์ไป ท่านหญิงรอนย่าควรตักเตือนนางให้รู้จักที่ของตนหรือไม่เจ้าคะ?”

ฉันได้แต่ยิ้มตอบบรรดาสตรีผู้สูงศักดิ์ที่พยายามชักนำความคิดเหล่านั้นให้แก่ฉันภายใต้รอยยิ้มแสนหวาน

“มิต้องทำอันใดให้เสียแรง ข้าเชื่อเสมอว่าลูกสาวของผู้สูงศักดิ์ทุกคนย่อมกระทำแต่สิ่งดี”

“ท่านหญิงรอนย่า ท่านช่างใจเย็นเสมอ”

“จริงเจ้าค่ะ ท่านเป็นคนดีอะไรเช่นนี้”

“และยิ่งไปกว่านั้น ชาในวันนี้รสชาติช่างมหัศจรรย์”

“ใช่เจ้าค่ะ ขนมที่จัดเตรียมมาก็วิเศษไม่แพ้กัน”

ฉันรู้สึกโล่งใจเมื่อได้เปลี่ยนเรื่องพูดคุย ทว่าหลังจากความโล่งใจนี้ยังมิทันเลือนหายไปก็ได้มีสัตว์สีดำลึกลับพุ่งตกลงมากลางเวหา

“กรี๊ดดดด!!” บรรดาสาวผู้สูงศักดิ์ส่งเสียงกรี๊ดออกมา

เมื่อตั้งใจมองแล้วสัตว์สีดำลึกลับนั้นคือแมงมุมสีดำขนาดเท่ากำปั้น

“ไม่นะ!!” ใบหน้าของบรรดาสาวผู้สูงศักดิ์เริ่มซีดเซียว

ทว่าฉันกลับนิ่งสงบ ไม่อุทานอันใด หากมิใช่สัตว์ที่ขึ้นต้นด้วยจอจาน (จิ้งจก) ฉันก็ไม่กลัวสัตว์ชนิดใดเลย

เจ้าแมงมุมตัวนี้มีพุงค่อนข้างใหญ่จึงทำให้ตัวมันดูอวบอั๋น รวมไปถึงตากลมโตของมันทำให้มันดูน่ารักสำหรับฉัน เมื่อฉันมองขึ้นไปยังโถงทางเดินชั้นสอง ฉับพบว่ามิซาโนยืนดูอยู่ตรงนั้น ทำสีหน้าราวกับว่าเธอเอาชนะได้แล้ว และเดินจากไป ทั้งหมดนี่เป็นฝีมือเธอหรือ

บรรดาสาวผู้สูงศักดิ์รีบวิ่งหนีไป ดูเหมือนว่าพวกนางจะกลัวแมงมุมตัวนี้จริง

ฉันนั่งดื่มกาแฟพร้อมกับมองแมงมุมที่น่ารักตัวนั้น แล้วได้ยินเสียงอันมีชีวิตชีวาดังมาจากด้านหลัง

“สวัสดีรอนย่า นั่งจิบชาอยู่คนเดียวหรือ?”

เมื่อฉันหันหลังไปก็พบกับ เฮนเซล ไรลีย์ หนุ่มผมทองสว่าง เส้นผมของเขารวบเอาไว้ด้านหลัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด