ตอนที่แล้วบทที่ 15 ต่อสู้ในดันเจี้ยน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 17 เหตุเกิดจากความว่าง

บทที่16 กำจัดบอสโซนที่ 1


บทที่16 กำจัดบอสโซนที่ 1

ทันทีที่ทั้ง 5 เริ่มเข้าทำการจู่โจม บัลลาฮอล์ ก็ไม่ได้ยืนเป็นกระสอบทรายรอให้พวกเขาเตะ และต่อย ร่างสีส้มของมันเปล่งแสงสีส้มออกมา ทำให้เกิดพลังระเบิดออกจากหน้าท้อง แผ่รัศมีวงกว้างไปยังทิศทางของตัวละครทั้ง 5

การโจมตีของบัลลาฮอล์เช่นนี้ เหนือความคาดหมายไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ยากแก่การรับมือ ทุกคนกระโดดขึ้นพร้อมๆกัน ยกเว้นมิร่าคนเดียวที่ทำการขับเคลื่อนไม้กวาดบุกเข้าจู่โจมเป็นคนแรกแล้ว

สกิลบอลพลังเวทย์มนตร์ และสกิลดวงวิญญาณ ล้วนเป็นสกิลแบบทันใจ ใช้ปุ๊บออกมาปั๊บ และยังมีการคูดาวน์ที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก

ทั้ง 2 สกิล ถูกยิงออกมาเป็นจังหวะ ลูกบอลเวทย์มนตร์สีม่วง และ ดวงวิญญาณสีขาว พุ่งออกมาเป็นจังหวะจู่โจมใส่บัลลาฮอล์อย่างรวดเร็ว

ด้วยร่างกายที่อ้วนเตี้ยของมัน มันจึงไม่สามารถหลบการโจมตีอันรวดเร็วนี้ได้ แต่ทว่าดาเมจจากการโจมตีของ 2 สกิลนี้ ทำได้เพียงแค่สะกิดพลังชีวิตของมันเท่านั้น

หน้าท้องของมันที่มีน้ำสีส้มไหลออกมา เริ่มก่อตัวเป็นก้อนเล็กๆ ๆ และก้อนน้ำสีส้มเหล่านี้จะไม่ได้รับดาเมจจากการโจมตีใดๆทั้งสิ้นในขณะก่อตัว

กระบองยักษ์ในมือขวาของมันยกขึ้นฟ้า เตรียมตัวฟาดลงมายังพื้นดิน แต่มิร่าที่มีฝีมือพอจะอยู่ในค่ายฝึกนักกีฬาอาชีพ ไม่ปล่อยให้มันได้ฟาดลงง่ายๆอย่างแน่นอน

ไม้กวาดบินสูงขึ้น พร้อมโปรยผงยาชา ลงมายังท่อนแขนขวาของมัน ทำให้แขนที่ยกขึ้นมาของมันหล่นหวบลงไปข้างตัวทันที

เมื่อบัลลาฮอล์รู้ตัวแล้วว่าแขนขวาของมันโดนยาชาโปรยใส่ มันจึงหมุนตัวออกข้างและใช้หางจู่โจมแทน แต่ขณะมันหมุนตัวใช้หางจู่โจมนั้น แสงสีส้มอันเบาบางได้ก่อตัวเป็นจุดขึ้นที่มุมปากทั้งทางซ้ายและขวาด้วย

มิร่ามองเห็นจุดนี้อย่างชัดเจน สกิลไม้กวาดควงสว่านพร้อมใช้งานในทันที บินขึ้นฟ้า ไม้กวาดควงสว่านใช้ออกมาเพื่อบินขึ้นฟ้าไปยังตำแหน่งสูงสุด แต่ไม่สามารถขึ้นไปยืนบนกำแพงได้

จากนั้นปากของบัลลาฮอล์เปิดขึ้น ทิศทางที่ปากของมันหันไป คือ ทางฝั่งของมิร่า แต่กลับใช้การได้ช้าไปหนึ่งก้าว ลำแสงไฟสีส้มถูกพ่นออกมาจากปากของมัน

มิร่าได้อ่านเกมก่อนล่วงหน้าแล้ว นางใช้ไม้กวาดควงสว่านบินหลบขึ้นฟ้าไปก่อนอย่างรวดเร็ว

ทางฝั่งของซาโด ขุนช้าง และ เจ๊เอมี่ พวกเขาทั้ง 3 หลังจากหลบการฟาดหางของบัลลาฮอล์ได้ กำลังจะเข้าถึงตัวมันอยู่แล้วแท้ๆ

แต่ทว่าลำแสงสีส้มจากปากของมันเริ่มหันมาพร้อมๆกับคอของมัน ซึ่งจุดที่มันหันไปหาจะเป็นตรงไหนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ตรงจุดที่ ทั้ง 3 กำลังวิ่งเข้าใส่มัน

ลำแสงไฟสีส้มอันนี้ ไม่หลบไม่ได้เด็ดขาด หากโดนเข้าไปเต็มๆละก็  HP ของตัวละครคงหายไป 1 ส่วน 4 เป็นอย่างน้อยแน่นอน

สกิลบาทาข้างถนนที่ใช้ออกมาตั้งแต่ฉากการเปิดตัวของบอสจบลง ในตอนนี้ผลของสกิลยังไม่จบ ซาโดบังคับ007ZA วิ่งเข้าไปใกล้ลำแสงสีส้มอันนี้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

จากนั้นด้วยผลของสกิลบาทาข้างถนน ช่วยส่งเสริมการกระโดดให้สูงและไกลขึ้น  การกระโดดครั้งนี้เป็นการกระโดดแบบแนวเฉียงขวา

ที่ต้องกระโดดแบบเฉียงขวาก็เพราะว่าต้องหลบ สกิลของบัลลาฮอล์ จากนั้นสกิลเข่าพิฆาตถูกใช้งานออกมา ด้วยระยะของสกิลเข่าพิฆาต ไม่สามารถจู่โจมถึงตัวของบัลลาฮอล์ได้อย่างแน่นอน

แต่ที่ซาโดต้องใช้สกิลนี้ออกมา เพราะต้องกระโดดตีเข้าวงใน เพื่อเข้าถึงตัวของบัลลาฮอล์ การทำเช่นนี้เป็นการเคลื่อนไหวแบบสัญลักษณ์ น้อยกว่า< > มากกว่า

เข่าพิฆาตลอยไปแต่ไม่ถึงตัวของบัลลาฮอล์ เพียงห่างแค่ 1 ช่วงตัวเท่านั้น แต่ทุกอย่างอยู่ในการคำนวณของซาโดหมดแล้ว สกิลโซ่ล็อคคอ วาร์ปไปอยู่ด้านหลังของบัลลาฮอล์อย่างรวดเร็ว

สกิลช้ำในตามต่อ ซึ่งเป็นคอมโบของอาชีพอันธพาล ผลของการล็อคคอ + สกิลช้ำใน และหากโจมตีใส่ศีรษะของบัลลาฮอล์ในช่วงวินาทีนี้อีก ดาเมจ *4 เป็นอย่างต่ำแน่นอน

“สวยงามเจ้าหนู” ขุนช้างเคาะข้อความออกมาอย่างรวดเร็ว และในจังหวะที่ซาโดกำลังใช้การเคลื่อนที่พื้นฐานแบบน้อยกว่ามากกว่านั้น ขุนช้างก็ไม่ได้ยืนอยู่เฉยๆ

เขาอาจจะวิ่งมาช้ากว่าอันธพาล เพราะไม่มีสกิลบาทาข้างถนน แต่ทว่าเขามีก้าวพริบตา ช่วงเวลาที่ขุนช้างใช้ก้าวพริบตาออกมานั้น คือ ช่วงเวลาที่ลำแสงไฟสีส้มกวาดผ่านตรงหน้า เพื่อไม่ต้องเสียเวลาในการหลบหลีก จึงใช้สกิลนี้หายตัวเข้าวงในได้ทันทีอย่างรวดเร็ว

ก้าวพริบตาครั้งนี้ แว๊บผ่านลำแสงสีส้มตีเข้าวงในเสร็จแล้ว สกิลฟันเสยถูกใช้งานออกมาอย่างสวยงาม ร่างของบัลลาฮอล์ลอยขึ้นฟ้าไปพร้อมกับซาโด ด้วยการที่เป็นบอส น้ำหนักเยอะ การลอยในครั้งนี้จึงไม่ได้สูงมาก

วงแหวนเวทย์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าด้านล่างของบัลลาฮอล์ ครอบคลุมรัศมีของมันไว้ทั้งหมด แต่ขณะร่ายสกิลอยู่นั้น ลูกสมุนของบัลลาฮอล์ที่กำลังก่อตัวอยู่เมื่อครู่ ได้ก่อตัวขึ้นมาเสร็จแล้ว

กลายเป็นบัลลาฮอล์ในร่างจิ๋ว ซึ่งมีความสูงเพียงแค่ครึ่งของตัวละครพวกเขาเท่านั้น แม้จะจิ๋ว แต่ดาเมจที่จู่โจมไม่ได้จิ๋วๆเหมือนร่างของมัน

เจ๊เอมี่รอจังหวะนี้อยู่นานแล้ว จังหวะที่มันก่อตัวเสร็จสิ้น คลื่นขวานผ่าพสุธาซัดออกมาทันที เป็นเพราะดันเจี้ยนนี้เป็นแค่ดันเจี้ยนเก่า ลูกไม้ของบอสต่างๆนาๆ ถูกใช้งานออกมาจนผู้เล่นจำได้กันหมดแล้ว

ซึ่งเจ๊เอมี่แม้ฝีมือจะไม่โดดเด่นแต่เล่นเกมนี้มาตั้งแต่สมัยมันเปิดใหม่ๆ และคนที่เธอเล่นด้วยบ่อยๆ คือยอดฝีมือ ซึ่งคนนั้นก็คือกัปตันทีมของ RBM เมนี่นั่นเอง

คลื่นขวานผ่าพสุธาระเบิดใส่กองบัลลาฮอล์ในร่างจิ๋ว ทำให้พวกมันกระเด็นกลับหลังไป ซึ่งเจ๊เอมี่รู้ดี หน้าที่ของเธอไม่ใช่การทำดาเมจเป็นหลัก แต่ต้องช่วยคุ้มครองไม่ให้มอนเตอร์หรือการโจมตีใดๆ เข้าถึงตัวของจอมเวทย์กึ่งธาตุได้

ส่วนเรื่องช่วยจู่โจมนั้นเป็นเรื่องรองลงมาอีกที และเธอก็ทำหน้าที่นี้ได้ดี จากนั้นเธอเข้าจู่โจมใส่บัลลาฮอล์ร่างจิ๋วด้วยตัวคนเดียว สารพัดสกิลเริ่มถาโถมเข้าใส่อย่างรุนแรง และจังหวะนี้เองวงแหวนเวทย์ของจอมเวทย์กึ่งธาตุก็เริ่มทำงานแล้ว

ภูเขาลูกใหญ่ผุดขึ้นจากผืนดินอย่างรวดเร็ว ซึ่งภูเขาลูกนี้ใหญ่กว่าบัลลาฮอล์เสียด้วย แต่ก็ใหญ่กว่าไม่มากนัก ระหว่างมันผุดขึ้นมา บัลลาฮอล์ที่ลอยอยู่บนฟ้าพร้อมกับ007ZAกำลังร่วงหล่นลงมาพร้อมกันช้าๆ

มิร่าที่กดใช้ไม้กวาดควงสว่านขึ้นไปยังด้านบนเมื่อสักครู่ ผลของการขี่ไม้กวาดจึงได้หมดลงแล้ว มิร่าจึงบังคับทิศทางจากแรงพุ่งที่เหลืออยู่ของไม้กวาดควงสว่าน ให้ร่วงหล่นลงมาในตำแหน่งใกล้เคียงกับบัลลาฮอล์ เพื่อใช้สกิลไม้กวาดปัดเป่าออกมา

ปั้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!

สกิลไม้กวาดปัดเป่า ฟาดใส่อย่างหนักหน่วงลงตรงกลางศรีษะของบัลลาฮอล์  ซึ่งหลังจากที่ซาโดใช้สกิลช้ำในแล้ว เขาได้เปิดใช้ สกิลรุมกินโต๊ะต่อทันที และช่วงเวลาที่รุมกินโต๊ะทำงาน ไม้กวาดปัดเป่าช่วยเสริมแรงอีกต่อหนึ่ง

ยังโชคดีที่สกิลรุมกินโต๊ะเป็นการยืดเท้าออก และ มีเท้านับ 10 ช่วยลุมกระทืบใส่เป็นจังหวะ หากเป็นการลุมกระทืบใส่บอสในคราวเดียว ระยะของไม้กวาดปัดเป่าที่มิร่าใช้ออกมา ไม่สามารถเข้าถึงตัวบัลลาฮอล์ได้อย่างแน่นอน

ตรงจุดนี้เกือบจะเกิดความผิดพลาดในการต่อสกิลจากการไม่ได้สื่อสารกันภายในทีม ถ้าหากว่าลงดันเจี้ยนและเกิดความผิดพลาดเช่นนี้ขึ้นมา สถิติที่ออกมาจะไม่สามารถนำไปแข่งขันได้อย่างแน่นอน

บัลลาฮอล์ล่วงหล่นเหมือนดาวตกที่พุ่งลงมาสู่โลกมนุษย์ แต่จุดที่มันล่วงหล่นนั้น ไม่ได้เป็นพื้นลานกว้างของคุก แต่เป็นจุดที่ภูเขาลูกหนึ่งผุดขึ้นมาอย่างสวยงาม

ซึ่งภูเขาลูกนี้เมื่อผุดออกมาได้ 50% กลับเปลี่ยนสีจากสีน้ำตาลเป็นเขียวขจี ซึ่งสกิลนี้มีชื่อว่า ภูเขาดอกหญ้า สกิล Lv.60 ของจอมเวทย์กึ่งธาตุสายดิน

แม้จะมีชื่อน่ารักๆว่าภูเขาดอกหญ้า แต่ถ้าหากรับมันไปเต็มๆละก็ ความเสียหายที่ได้รับมากกว่าไฟกวาดปฐพีอย่างแน่นอน

ทันทีที่ภูเขาดอกหญ้ากระทบกับบัลลาฮอล์ ลำแสงไฟสีแดงเส้นหนึ่งได้พุ่งออกมาจากตรงจุดกึ่งกลางของภูเขาดอกหญ้า  ลำแสงไฟเส้นนี้ดูคับคล้ายคับคลากับ สกิลธาตุไฟชนิดหนึ่ง สกิลนั้นก็คือ ลาวาจุดปะทุ

สกิลลาวาจุดปะทุ จะเป็นการสร้างแอ่งลาวาเอาไว้บนพื้นดิน หลังการใช้สกิลเสร็จ ลาวาจะระเบิดออกมาในวินาทีที่ 3 และเราจะเห็นบ่อลาวานี้ในวินาทีที่ 2 ของมัน

ส่วนมากสกิล ลาวาจุดปะธุ หากใช้ออกมาในการ PK 1-1 ต้องวางแผนในการใช้ให้แนบเนียน เพราะโอกาสที่จะใช้สกิลนี้แล้วบังเกิดผลมีน้อยมาก ส่วนมากจะนำสกิลนี้ไปเป็นส่วนผสมของสกิลธาตุต่างๆ

ซึ่งภูเขาดอกหญ้าแห่งนี้ เมื่อมีลาวาจุดปะธุตรงส่วนกลางของภูเขาดอกหญ้า จึงเปลี่ยนชื่อให้กับมันใหม่ทันที เพราะเป็นการนำ 2 สกิลมารวมกันเป็น 1  สกิลนี้จึงถูกตั้งชื่อขึ้นมาจากผู้ใช้งานมันสำเร็จคนแรก ซึ่งก็คือ หลงเจี้ยน สกิลนี้มีชื่อว่า ภูเขาไฟฟูจิ

อาจจะฟังดูง่ายๆในการใช้ภูเขาไฟฟูจิออกมา แต่ทว่าการใช้ออกมาไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ต้องคำนวณระยะเวลาการระเบิด และ การใช้สกิลภูเขาดอกหญ้าอย่างเหมาะเจาะ

ตอนซ้อมคุณอาจจะฟลุ๊คทำได้บ้าง แต่พอแข่งจริง ด้วยความตื่นเต้นและต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งในการทำมันออกมา มันจึงไม่ง่าย

ไม่มีใครปล่อยให้คุณยืนร่ายสกิลเช่นนี้แบบหน้าตาเฉยหรอก ยิ่งรู้ว่าเค้าไม่ปล่อยให้เราร่าย  เราจึงต้องหาโอกาสที่สามารถร่ายมันออกมาให้ได้ อาจจะมีหลอกล่อบ้าง เปลี่ยนไปใช้สกิลอื่นบ้างแล้วแต่เทคนิค

หลังจากการจุดปะธุของลาวา บัลลาฮอล์ถูกซัดอย่างสะบัดสะบอม HP ลดฮวบ ฉากปิดของการคอมโบในครั้งนี้มาจากขุนช้างที่กด สกิลก้าวดาบหวนกลับ

หลังจากใช้งานมันออกมาแล้ว จะทำการก้าวไปข้างหน้า 1 ก้าว และหายตัวไปยังตำแหน่งในขอบเขตของสกิล จากนั้นดาบคู่ฟาดฟันอย่างรวดเร็ว 2 ครั้งใน 1 วินาที หากกดสกิลนี้อีกครั้ง  ตัวละครจะกลับมายังตำแหน่งเดิมที่กดใช้งานสกิล

ตู้มมมมมมมมมมม  !!

บัลลาฮอล์ร่วงหล่นบนพื้นดิน ด้วยร่างที่ใหญ่ยักษ์และระบบเกมทำการเสริมสกิลให้แก่มัน หลังจากมันล่วงหล่นในท่านอนดูดาว รัศมีการระเบิดของมันได้เกิดขึ้นมาทันที

แสงสีส้มกวาดผ่านพื้นดินอีกครั้ง และหน้าท้องของมัน ได้กำเนิดลูกของมันขึ้นมาเพิ่มอีก จากนั้นมันเสกกลุ่มนักฆ่าโหด ปีศาจสาว และ ซอมบี้เด็กขึ้นมารอบๆตัว รวมๆแล้วมีทั้งหมด 20 ตัว

ในช่วงจังหวะที่มันหล่นลงบนพื้น ทั้ง 5 คน ได้ถอยห่างออกมาจากมันอย่างพร้อมเพรียงกันแล้ว แสงสีส้มที่กวาดผ่านมาด้วยความเร็ว ทุกคนก็พร้อมรับมือในจุดนี้อยู่ตลอดเวลา จึงทำการหลบผ่านอย่างง่ายดาย

เป้าหมายความเกรียจชังของบอสในตอนนี้ ตกอยู่ที่บังเคนซึ่งเล่นจอมเวทย์กึ่งธาตุ จากการปลดปล่อยสกิล ภูเขาไฟฟูจิลูกนั้น และมีผลพ่วงของสกิลช้ำใน ดาเมจจึงคูณเข้าไปอีก

ฝั่งลูกสมุนของมัน และ กลุ่มคนคุกที่มันเรียกออกมา ต่างเล็งเป้าไปยังจอมเวทย์กึ่งธาตุทั้งหมด เพราะถ้าหากว่าลูกพี่ใหญ่ของมันเกรียจชังคนไหน มันก็จะตามไปตีคนนั้นเช่นกัน แต่พวกมันก็ไม่ได้โง่ขนาดว่า หากมีใครวิ่งผ่านมันจะไม่ตีคนนั้นเลย

กระบองยักษ์ฟาดลงพื้น เกิดการสั่นสะเทือนขนาดใหญ่ ครอบคลุมรัศมีของตัวละครทั้ง 5  ทำให้การบังคับควบคุมตัวละครเกิดความไม่สมดุลชั่วขณะ

บัลลาฮอล์ยกแขนขวาขึ้นกำลังจะทำการตีกระบองยักษ์อีกครั้ง แต่ทว่าร่างของบัลลาฮอล์หายไปในชั่วพริบตา และปรากฏขึ้นตรงเหนือศีรษะของ Pain ห่างเพียงแค่ 2 ช่องตัวเท่านั้น

มือของมันที่ยกค้างไว้ก่อนใช้ก้าวพริบตาในขณะนี้ กลับฟาดลงมาดื้อๆในช่วงที่โผล่ออกมาตรงหน้าของ Pain

ถ้าหากเอาการโจมตีธรรมดาๆ เข้ารับขวานยักษ์ของมันอันนี้ รับรองว่าต้องกระเด็นอย่างแน่นอน สิ่งที่จะต้านมันได้ คือ สกิลเท่านั้น

ในช่วงจังหวะที่มันกำลังจะฟาดกระบองยักษ์นั้น เท้าของมันก็ลงถึงพื้นแบบพอดิบพอดี สกิลพิภพเลื่อนลั่น บอสทุกตัวที่มีความอ้วนและใหญ่ ต้องมีสกิลพิภพเลื่อนลั่นของอัศวินแน่นอนอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่ามันจะใช้ออกมาตอนไหนก็เท่านั้นเอง

กระบองยักษ์ฟาดลงมาใส่ Pain อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเศษหิน เศษดิน พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ถ้าหากโดนพวกหินและดินเหล่านี้กระดอนขึ้นมาใส่ จะทำให้เสีย Hp เล็กน้อยด้วย

คราวที่แล้วซาโดได้ใช้ สกิลบาทาข้างถนน บังคับควบคุมแบบเหนือชั้น โดยใช้เศษหิน เศษดินขนาดใหญ่เหล่านี้ในการเคลื่อนที่ แต่ครั้งนี้ สกิลบาทาข้างถนนยังคูดาวน์ไม่เสร็จ จึงจำเป็นต้องกระโดดและม้วนตัวหลบอย่างเร็วไว

ทางฝั่งของมิร่าก็กำลังหลบหินเหล่านี้อยู่เช่นกัน นางวิ่งครบ 5 ก้าวเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่รีบขึ้นขี่ไม้กวาด เป็นเพราะว่า สกิลพิภพเลื่อนลั่น ทำให้การขี่ไม้กวาดยุ่งยากขึ้น

ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมม !!

กระบองยักษ์ทุบเข้าใส่พื้นอย่างหนักหน่วง ส่วนตัวของ Pain แม้บังเคนจะมีการควบคุมที่เชื่องช้า แต่ยังพอเร่งจังหวะได้เป็นครั้งคราว และเขามีการอ่านเกมที่ดีในการเล่น การใช้เคลื่อนย้ายพริบตา ของบัลลาฮอล์ อยู่ในการคาดเดาของเขา เพราะตัวของจอมเวทย์กึ่งธาตุเอง ก็มีสกิลเคลื่อนย้ายพริบตาเช่นกัน

ช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนกระบองยักษ์จะฟาดลงมา บังเคนได้กดใช้สกิลเคลื่อนย้ายพริบตา เพื่อให้ Pain หนีออกจากรัศมีของพิภพเลื่อนลั่น และ กระบองยักษ์ที่ฟาดลงมาได้ทัน

1 สกิลที่บังเคนใช้ออกมา สามารหลบ 3 สกิลของบัลลาฮอล์ได้อย่างสวยงาม พร้อมทั้งเตรียมตัวสวนกลับเพื่อปิดบัญชีบัลลาฮอล์ตัวนี้แล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด