ตอนที่แล้วGE491 วังสังหาร (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE493 อสูรโบราณ (ฟรี)

GE492 เกาะอสูร (ฟรี)


วังสังหารเป็นศัตรูที่ทรงพลัง แตกต่างจากหานเนี่ยเทียน หรือนิกายปีศาจขาว

แต่โชคดีที่ฟู่หลิงหลงตายไปแล้ว สวนทาสโลหิตจึงไม่มีเจ้าของ ต่อให้ช่วงชิงสตรีทั้งหมดในนั้นมาเป็นกระถางขัดเกลา ก็ไม่ถือเป็นการยั่วยุวังสังหาร

การที่ฟู่หลิงหลงสร้างสวนทาสโลหิตขึ้นคงเป็นเพราะมันต้องการจะใช้ประโยชน์บางอย่าง ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่หนิงฝานต้องรู้ เขารู้แค่เพียงว่า พวกนางคือกระถางขัดเกลาชั้นเลิศ

แต่ปัญหามีเพียงอย่างเดียวคือทางเข้าของที่นั่นได้ถูกทำลายไปแล้ว จึงไม่รู้ว่าจะเข้าไปในนั้นได้ยังไง?

แม้เป็นสตรีผมแดงก็ไม่รู้วิธีกลับไปยังที่ของนางเช่นกัน

ด้วยระดับพลังของหนิงฝานตอนนี้ เขายังไม่มั่นใจว่าจะจับตัวสตรีในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงสุด หรือไร้แบ่งแยกมาเป็นกระถางขัดเกลาได้

“ตอนนี้ยังไม่เหมาะให้ไปสวนทาสโลหิต ไว้วันไหนที่ข้าทรงพลังขึ้นค่อยคิดเรื่องนี้อีกที เพราะหากฝืนก็รังแต่จะทำให้ถูกพวกนางสังหาร”

“เรื่องสำคัญที่สุดตอนนี้คือการเดินทางไปยังเกาะอสูร และช่วยหมิงเชว่รับสืบทอดพลัง”

ในขณะที่หนิงฝานกำลังขบคิด จู่ๆสตรีผมแดงกลับใบหน้าซีดขาว ร่างกายสั่นสะท้าน ใบหน้าบีดเบี้ยวราวกับกำลังทนต่อความเจ็บปวดที่รุนแรง และเปล่งเสียงร้องด้วยความทรมาน

หนิงฝานไม่ได้สงสารนาง เพียงยืนมองเงียบๆ เพื่อหาว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับนาง

อาการเจ็บปวดที่นางต้องเผชิญ เป็นเพราะนางออกมาจากสวนทาสโลหิตนานเกินไป ทำให้อายุขัยลดลวงอย่างรวดเร็ว

พวกนางเกิดจากการเร่งการเติบโตในสวนทาสโลหิต หากออกมาจากที่นั่น จะถูกลดทอนอายุขัยเหลือเพียง 1 ใน 20 ส่วน นั่นหมายความว่าสภาพร่างกายของนางจะเสื่อมเร็วกว่าทั่วไปหลายเท่า

การฝึกตนก็เป็นเช่นนี้ ผู้ที่เร่งรัดให้ได้มาซึ่งพลัง ก็ต้องรับกับการแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อเช่นนี้ให้ได้

อาการบาดเจ็บของนางทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ หนิงฝานที่ยืนมองเงียบๆ รู้แล้วว่านานคงไม่มีทางรอด จึงเริ่มปลดอาภรณ์ของนาง

“เจ้าจะทำอะไรกับข้า!” นางหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะนางยังไม่เคยได้สัมผัสกายบุรุษตั้งแต่เกิดมา

“ขัดเกลาผสาน” หนิงฝานกล่าวเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มลงมือ

“เจ้ากล้าเหรอ?” นางโกรธมากแต่ไร้หนทางขัดขืน นางรู้สึกเพียงมีบางสิ่งที่สอดใส่เข้ามาในตัวนาง ก่อนที่ความเจ็บปวดจะแผ่ซ่านไปทั่วร่าง แต่เมื่อจุดที่ไวต่อความรู้สึกของนางถูกหนิงฝานสัมผัสเค้นคลึง ความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ค่อยๆบรรเทาไป

ระหว่างที่ร่วมรัก แม้ว่าความเจ็บปวดจะหายไป แต่นางก็เริ่มสัมผัสได้ว่าพลังในร่างนางค่อยๆถูกดึงออกไป ระดับพลังลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่านางอยากสังหารหนิงฝานที่ล่วงเกินนาง แต่การล่วงเกินของเขาก็ทำให้นางคลายความเจ็บ ทำให้นางทนกับสภาพที่เป็นอยู่ได้ จึงถือเป็นการช่วยชีวิตนางในทางหนึ่ง

นางรู้แก่ใจดีว่า หากออกจากสวนแห่งนั้นมา ต่อให้หนิงฝานไม่ดูดซับพลังของนาง นางก็จะต้องตาย!

ดังนั้น… นางจึงเลิกขัดขืน แล้วคล้อยตามหนิงฝานไปทุกการกระทำ แต่ใช่ว่าจะยอมรับในสิ่งที่หนิงฝานทำ

ผ่านไป 1 ชั่วยาม พลังของนางก็เหลือเพียงขอบเขตเปิดเส้นชีพจร การสูญเสียพลังระดับนี้ทำให้นางไม่อาจทนรับสภาพได้และหมดสติไป

การสูญเสียพลังของนางแลกมากับการที่อายุขัยของนางคงที่ ความเจ็บปวดหายไปราวกับสามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติอีกครั้ง

หนิงฝานได้ปราณมาจากนางเพียง 5 หมื่นเกราะ รวมกับของเดิมเป็น 7 แสน นับว่าปราณที่ได้มาจากนาง แทบจะใกล้เคียงกับผลไม้แห่งเต๋าไร้ดัดแปลง

“การขัดเกลาผสานง่ายกว่าการหาผลไม้แห่งเต๋าจริงๆ” หนิงฝานสวมอาภรณ์พลางหันมองสตรีผมแดงเล็กน้อย

นางคิดสังหารเขา การที่นางโดนแบบนี้ก็ถือว่าสมควร

หนิงฝานนำนางเข้าไปไว้ในแหวนกระถางขัดเกลา พลางบอกกล่าว

“ชุ่ยหลิง เยว่หลิง ดูแลนางด้วย ถึงนางจะอยู่เพียงขอบเขตเปิดเส้นชีพจร แต่ในอนาคตนางยังใช้ประโยชน์ได้”

“รับทราบ” เสียงของชุ่ยหลิงและเยว่หลิงดังขึ้น

หนิงฝานนั่งขัดสมาธิเพื่อดูสิ่งที่เปลี่ยนไปในร่างกายตน หลังจากได้ร่วมรักกับสตรีผมแดง สัมผัสกระบี่ของหนิงฝานกลายเป็นสีโลหิต ปราณสังหารที่ได้จากนางไม่ได้เป็นผลร้าย แต่ช่วยยกระดับสัมผัสกระบี่ของเขาขึ้น

หนิงฝานมุ่งหน้าไปยังหอคอยอัสนี สงบใจ ทบทวนในสิ่งที่ผ่านมาในอดีต

เมื่อตอนยังเยาว์ หนิงฝานใช้ชีวิตอยู่ด้วยความเกลียดชังเพราะถูกผู้อื่นข่มเหง และเกลียดชังที่ตัวเองอ่อนแอเกินไป แต่โชคดีที่ได้สร้อยหยินหยาง ฝึกฝน ต่อสู้ และขัดเกลาผสานจนทำให้ก้าวมาถึงทุกวันนี้

ในหัวของหนิงฝานปรากฏเส้นทางสองสาย หนึ่งขาว… หนึ่งดำ...

สุดเส้นทางสีขาวคือฝ่ายธรรมะที่ขาวสะอาด สุดเส้นทางสีดำคือความชั่วร้ายที่ก่อตัว

หนิงฝานถอนหายใจ ก่อนทำลายทั้งสองเส้นทางเพื่อผสานพวกมันเข้าด้วยกัน

“ข้าจะดีกับคนที่ดีกับข้า แต่จะชั่วร้ายเมื่อผู้ใดคิดทำร้ายคนของข้า”

หนิงฝานลุกยืน มุ่งออกจากหอคอยทองคำและโลกเย่าหยวน

เมื่อกลับออกไปที่เรือ หนิงฝานใช้เจตจำนงค์แห่งความทรงจำ ลบล้างความทรงจำของผู้ติดตามหมิงเชว่ทั้งหมด กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้

การลบความทรงจำหรืออ่านความทรงจำทั่วไป จะสร้างความเสียหายให้กับทะเลสติอย่างใหญ่หลวง แต่ด้วยพลังแห่งเจตจำนงค์ของหนิงฝาน แม้ไม่อาจเลี่ยงความเสียหายกับทะเลสติ แต่ก็ลดให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย

เมื่อถูกล้างความทรงจำทั้งหมด ผู้ติดตามของหมิงเชว่ก็หมดสติไป เมื่อตื่นขึ้น พวกมันรู้สึกเจ็บที่ทะเลสติเล็กน้อย แต่ไม่รู้สาเหตุ

“ทำไมพวกข้าถึงได้หมดสติไป?” หนึ่งในผู้ติดตามของหมิงเชว่กล่าวขึ้น

“เหมือจะเกิดอะไรขึ้นสักอย่าง แต่ข้าจำไม่ได้” ชายอีกคนก็สงสัย

ความทรงจำที่หนิงฝานสังหารเต้าเหยียนและจับตัวสตรีผมแดงถูกลบออกไปจนหมด ที่หนิงฝานต้องทำแบบนั้นก็เพื่อความปลอดภัย ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

ป้ายคำสั่งสังหารของหานเนี่ยเทียนตกอยู่ในมือหนิงฝาน แต่ด้วยที่มันใช้ได้แค่ครั้งเดียว ยามนี้มันจึงกลายเป็นของไร้ค่าไป เพียงแต่มันก็คอยเป็นสิ่งย้ำเตือน ว่าเขายังมีศัตรูที่แข็งแกร่งรอให้แก้แค้นอยู่

“ทำไมท่านถึงมีศัตรูที่ทรงพลังขนาดนั้น?” ซูหยานกล่าวถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล นางรู้จักหานเนี่ยเทียน รู้ว่าป้ายคำสั่งสังหารคืออะไร และรู้ว่าองครักษ์ทั้ง 10 ของมันไม่ธรรมดา การที่หานเนี่ยเทียนใช้ป้ายคำสั่งสังหารกับหารต้องมีเหตุผล

นั่นคือหนิงฝานเป็นตัวอันตรายต่อหานเนี่ยเทียน!

จากที่เต้าเหยียนได้กล่าว นางเดาได้ว่าเหตุการณ์น่าเริ่มจากยามที่หนิงฝานอยู่เพียงขอบเขตประสานวิญญาณ ซึ่งเป็นเวลาเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว

ซูหยานคิดไม่ออกว่าเหตุใดขอบเขตประสานวิญญาณจะเป็นอันตรายต่อขอบเขตไร้แบ่งแยกได้

นอกจากนี้ นางยังได้ยินว่าหานเนี่ยเทียนได้ถูกบังคับให้ถอยกลับไปยังโลกพิรุณเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว แต่การบุกของหานเนี่ยเทียนในครั้งนั้นก็ทำให้โลกพิรุณเสียหน้าเป็นอย่างมาก

หรือการมาของหานเนี่ยเทียนในครั้งนั้น เป็นเหตุที่หนิงฝานทำร้ายและไล่หานเนี่ยเทียนกลับไป?

ซูหยานเริ่มค่อยๆเข้าใจในตัวหนิงฝานมากขึ้น นางพอจะเดาได้ว่าเหตุที่หนิงฝานโดดเด่นและทรงพลัง เป็นเพราะเขาถูกกระตุ้นด้วยแรงกดดันมหาศาล

“ถึงข้าจะเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลาง ถึงข้าจะเป็นเพียงมดปลวกในสายตาของผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก แต่ข้าขอสัญญาว่าจะช่วยท่าน!” นางกล่าวกับหนิงฝานด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ในโลกของเผ่าเขาคู่ในคราวนั้น หนิงฝานเผชิญหน้ากับจิตวิญญาณปีศาจ 10 ล้านตนโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัวเพื่อช่วยนาง ดังนั้นนางจะช่วยหนิงฝานต่อสู้กับหานเนี่ยเทียน ต่อให้ต้องตาย นางก็ไม่เสียใจ

“พี่ขนม ข้าหมิงเชว่กก็จะช่วยท่านด้วย!” หมิงเชว่กำหมัดน้อยๆของนางขึ้น แววตาเผยความโกรธ

นางเกลียดผู้ที่เรียกตนว่ากษัตริย์เนี่ย นางเกลียดที่มันคิดสังหารพี่ขนมของนาง ต่อให้มันเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก นางก็ไม่กลัว!

แต่ปัญหาใหญ่สำหรับหมิงเชว่คือ นางเพิ่งบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง ยังไม่อาจช่วยเหลือหนิงฝานได้

“ข้าเชื่อว่าท่านปู่ของข้าต้องจัดการมันได้แน่!” หมิงเชว่นึกถึงปู่ของนางที่อยู่ในสุสานนิกายกุ่ยเชว่

แม้ว่านางไม่อาจต่อกรกับหานเนี่ยเทียนได้ แต่ท่านปู่ต้นไม้ของนางสู้ได้ หากนางขอร้อง ท่านปู่ของนางต้องช่วยเหลือแน่!

“ขอบคุณมาก” หนิงฝานยิ้มให้พวกนาง แม้ว่าพวกนางจะรู้ว่าหนิงฝานมีศัตรูเป็นหานเนี่ยเทียน แต่พวกนางกลับไม่หวาดกลัว ไม่ว่าจะอันตรายขนาดไหน พวกนางก็พร้อมที่จะอยู้เคียงข้าง

เมื่อหมิงเชว่กล่าวถึงปู่ของนาง หนิงฝานก็นึกขึ้นได้ ว่าผู้เชี่ยวชาญผู้นั้น น่าจะต่อกรกับหานเนี่ยเทียนได้

สงครามจะเริ่มต้นในอีก 60 ปีข้างหน้า หากหนิงฝานสนิทกับหมิงเชว่ น่าจะขอให้ปู่ของนางช่วยได้ไม่ยาก

“ต้องงหาผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกมาช่วย ตัวข้าเพียงลำพังไม่อาจต่อกรกับหานเนี่ยเทียนได้ อีกอย่าง มันก็มีองครักษ์มากมาย สมควรมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเต้าเหยียน… ผู้อาวุโสเว่ยฉวนกล่าวว่าจะไปหาผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกมาช่วย ตัวข้าก็ต้องอาศัยกษัตริย์พิรุณ หยิบยืมผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกมาช่วยด้วยอีกแรง”

“พี่ขนม ข้าอยากกินสมบัติสมุนไพรของท่าน” จู่ๆหมิงเชว่ก็กล่าวขึ้น

“สมบัติสมุนไพร?” หนิงฝานประหลาดใจ

“ก็สมบัติสมุนไพรแสนปีที่ชายชราสองคนนั้นมอบให้” นางยังไม่ลืม

“ข้าขอโทษเจ้าด้วย ข้าจำเป็นต้องใช้มันช่วยคนผู้หนึ่ง” หนิงฝานกล่าวขอโทษหมิงเชว่

“อืม… ข้าไม่กินก็ได้” นางพยายามข่มความอยาก แต่ก็แอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่

ในเมื่อสมุนไพรแสนปีของมีประโยชน์กับพี่ขนมของนาง นางก็ไม่อาจขอกินได้

หนิงฝานเหลือใบอัสนีทองคำดำอยู่ 4 ใบ แต่ละใบต้องใช้สมุนไพรแสนปี 5 ชนิดช่วยลดทอนอานุภาพกระทั่งดูดซับได้

หนิงฝานเข้าไปยังโลกหยิน เดินไปยังบ้านของหลั่วโยว่

เขานำใบไผ่อัสนีทองคำดำออกมาใบหนึ่ง และสมุนไพรแสนปีอีก 5 ชนิด แล้วจัดการช่วยนางดูดซับ

เมื่อดูดซับจนหมด ดูราวกับนางกำลังจะทะลวงระดับ แต่ยังขาดปราณไปบางส่วนซึ่งน่าจะต้องใช้สมุนไพรแสนปีเพิ่ม

แม้สมุนไพรแสนปีจะหายาก แต่ตราบใดที่หนิงฝานบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 6 และเอ่ยปาก เหล่าผู้เชี่ยวชาญคงพากันหาสมุนไพรแสนปีมาให้มากมาย

ผ่านไป 7 วัน ในที่สุดเรือก็เดินทางมาถึงเกาะอสูร

ในระหว่างเดินทาง หนิงฝานใช้เวลาไปกับการสลักอักษรปีศาจลงบนอาวุธและปีกเพลิงของตนเพื่อยกระดับ แต่ก็ยกระดับได้ไม่มากนัก เขาจึงใช้เวลาที่เหลือไปกับการทำความเข้าใจวิชาต่อสู้ที่ได้พบมา

เกาะอสูรเป็นที่อยู่ถูกยกตัวให้อยู่สูงกว่าพื้นพิน มีพลังงานที่ทรงพลังบางอย่างอยพยุง ลักษณะของเกาะเป็นเหมือนร่ม มีเสาศิลาขนาดดยักษ์เชื่อมใต้เกาะกับก้นทะเล หากมองไกลๆนอกจากจะมีลักษณะคล้ายร่ม ยังดูเหมือนดอกเห็ด

บนเกาะ หนิงฝานมองเห็นอนุสรณ์ขนาดใหญ่ของสตรีที่งดงามนางหนึ่ง ใต้อนุสรณ์มีคนจำนวนมากนั่งคุกเข่าและท่องบทสวดภาวนา

เมื่อเรือของหนิงฝานเข้าใกล้เกาะ ดวงตาของอนุสรณ์ก็เปล่งประกาย

หนิงฝานแผ่สัมผัสเทพสำรวจไปยังอนุสรณ์ แต่แล้วกลับมีพลังงานบางอย่างต้านสัมผัสเทพของเขาเอาไว้ ซึ่งพลังที่ว่านั่นคือเพลิงธูป

ดูเหมือนอนุสรณ์ที่ได้รับการเคารพบูชาจากผู้คนมาเนิ่มนาน จะทำให้มีพลังของเพลิงธูปเก็บสะสมไว้

เพลิงธูปเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีให้ยกระดับพลัง แต่นอกจากเจ้าของอนุสรณ์แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดดูดซับพลังนั้นได้

หนิงฝานขบคิด บางทีการสืบทอดพลังของซือชางอาจจะเกี่ยวกับเพลิงธูป

หนิงฝานรู้สึกไม่สบายใจ ดวงตาของอนุสรณ์นั่นให้ความรู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อเรือของหนิงฝานไปถึงเกาะ ผู้คนที่อยู่บนเกาะแตกตื่น

“นั่นมัน… มังกรขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง 12 ตนลากเรือ! บนเรือมีผู้เชี่ยชาญไร้ดัดแปลงอยู่ด้วย!” ชายชราในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มผู้หนึ่งอุทาน เพราะตั้งแต่เกิดมา ชายชรายังไม่เคยพบผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงมาก่อน

“ข้าเคยเห็นเรือนั่น! นั่นมันเรือของผู้นำเผ่าเขาคู่… เรือของท่านซูหยาน!” ผู้เชี่ยวชาญกึ่งตัดวิญญาณผู้หนึ่งอุทานด้วยความตกตะลึง

“อะไรนะ! ซูหยาน!”

ทั้งเกาะตกอยู่ในความโกลาหล ทั้งหมดไม่ได้หวาดกลัวซูหยาน แต่หวาดกลัวผู้ที่มากับนาง

ตอนนี้ไม่ว่าผู้ใดในทะเลส่วนในก็รู้แล้วว่าหนิงฝานเป็นผู้สยบเผ่าเขาคู่!

“แย่แล้ว! ท่านหมิงมา พวกเราไม่รอดแน่ ทำยังไงดี!”

“น่าเสียดายที่ผู้นำของเรายังสืบทอดพลังไม่สำเร็จ ไม่อย่างนั้นคงหยิบยืมเพลิงธูปปกป้องเกาะของเราได้”

“เจ้าจะบ้าหรือเปล่า? ขนาดเผ่าเขาคู่ที่ยิ่งใหญ่ยังทำอะไรท่านหมิงไม่ได้ เพลิงธูปจะไปสู้ท่านหมิงได้ยังไง”

“จบสิ้นแล้ว ข้าคงทำได้เพียงรอความตาย ไม่ก็ต้องกลายเป็นทาสของท่านหมิง”

คนบนเกาะแต่ละคนหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ทั่วทั้งเกาะปั่นป่วน

ซูหยานหัวเราะขบขัน ส่วนหนิงฝานทำได้เพียงส่ายหน้า นับว่าชื่อเสียงในด้านลบของเขาเพิ่มพูนกว่าเดิมมาก แค่มาถึงก็ทำให้เกาะปั่นป่วนแล้ว

“พวกเจ้าจะกลัวอะไรนักหนา ข้ากลับมาแล้ว!”

หมิงเชว่กระทืบเท้าน้อยๆของนาง สัญลักษณ์เมฆ 5 สีปรากฏ แผ่แรงกดดันด้วยสายเลือด ทำให้คนบนเกาะทั้งหมดหวาดกลัวและกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง

โลหิตฟู่ลี่ของหนิงฝานสั่นเทาเล็กน้อยจากแรงกดดันของนาง

เขาเร่งกระตุ้นโลหิตฟู่ลี่เพื่อสะกดความสั่นไหว ระดับโลหิตของหนิงฝานสูงกว่าหมิงเชว่ แต่โลหิตของนางมีความพิเศษบางอย่าง จนทำให้โลหิตของเขาสั่นสะท้านได้

“อสูรโบราณ” หนิงฝานรู้ว่าหมิงเชว่มีโลหิตอสูรโบราณ

นี่เป็นครั้งแรกที่หนิงฝานได้เห็นนางแผ่แรงกดดัน บางทีเหตุผลที่โลหิตของหนิงฝานสั่นไหวเป็นเพราะโลหิตอสูรอีกเผ่าพันธุ์ในร่างหนิงฝาน ถูกระดับโลหิตของนางสะกด

ในอนาคตนางจะแข็งแกร่งขึ้นมาก ดังนั้นต้องดูแลนางเป็นอย่างดี...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด