ตอนที่แล้วบทที่ 11 กำจัดไททรัล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 13 กฎระเบียบของค่ายฝึก

บทที่ 12 ตัดสินใจ


บทที่ 12 ตัดสินใจ

เมื่อทั้งคู่ผ่านการทดสอบแล้ว ผู้คุมสอบได้พาซาโด มิร่า และ ชายอีก 2 คน ก็คือ นักดาบคู่ และ จอมเวทย์กึ่งธาตุ ไปนั่งในห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง  หลังจากเข้ามาในห้อง ก็มีคนมาเสริฟน้ำ และ บราวนี่ให้นั่งกินระหว่างรอไปพลาง

จากการพูดคุยกันระหว่างซาโดและมิร่า จึงรู้ว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น บ้านเกิดของเธออยู่ในเมืองแห่งนี้ เธอเป็นเด็กผู้หญิงผมสั้น รูปร่างดี หน้าตาน่ารัก การแต่งตัวของเธอก็ออกแนวเท่ห์ๆ ทันสมัย

จากการพูดคุยด้วยกันกับซาโด ก็รู้ว่าเธอไม่ได้มีนิสัยห้าวเหมือนอย่างเช่นในเกม เธอพูดจาไพเราะ และไม่ได้มีนิสัยเย่อหยิ่ง ในแบบที่ว่า ผู้ชายเข้ามาคุยแล้วก็ไม่สนใจ ใครคุยดีด้วย เธอก็คุยตอบ คุยด้วยรอยยิ้มอันแสนน่ารักของเธอ

ส่วนจอมเวทย์กึ่งธาตุคนนี้ เขามีชื่อว่า เคน เคนเป็นคนอิสลาม อายุ 21 ปี หลังจากซาโดโดและมิร่า ได้พูดคุยทำความรู้จักกับเคน  ทั้ง 2 จึงเรียกเขาว่า บังเคน

บังเคนเป็นคนที่มีการเล่นแบบใจเย็น สุขุม รอบคอบ เน้นการวางแผนที่แยบยลก่อนการต่อสู้ แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งของเขา คือ ความเร็วมือ ซึ่งความเร็วมือของเขาอยู่ในระดับปานกลาง สามารถเร่งขึ้นสูงได้บางจังหวะเท่านั้น ไม่สามารถทำแบบถี่ๆได้

แต่ด้วยวิธีการเล่นของเขาที่อยู่ในระดับสูง จุดนี้ช่วยเขากลบเรื่องจุดอ่อนความเร็วมือไปได้ส่วนหนึ่ง จากการวางแผนคิดรอบคอบของเขา ทำให้ผู้เล่นที่มีความเร็วมือสูง ยากที่จะรังแกเขาได้เช่นกัน

ส่วนนักดาบคู่คนนี้ เขามีชื่อว่า ขุนช้าง เป็นคนไทยแท้ๆ ไม่มีผสม ขุนช้างอายุ 22 ปี แก่ที่สุดในในกลุ่ม แต่อายุ 22 ปี เป็นช่วงเวลาที่เรียกว่ากำลังพีคของนักกีฬาอาชีพเลยก็ว่าได้

ลักษณะนิสัยของขุนช้าง คือเป็นคนที่คิดอะไรออกก็พูดออกมาเลย จากการพูดคุยกันของทั้ง 4 คน ขุนช้างจะเป็นคนที่พูดด้วยแล้วเข้าใจยากจริงๆ คำถามที่ถามไปมักได้คำตอบที่ไม่ตรงกับมาเสมอ

ทั้ง 3 คนทำอะไรในเรื่องนี้ไม่ได้ จึงปล่อยผ่านไป แต่ทว่าในการเล่นเกม จากการแสดงฝีมือของขุนช้าง แม้จะพูดไม่รู้เรื่อง เข้าใจไม่ตรงกับคำถาม แต่เมื่อสั่งอะไรไป ช้างทำได้หมด

ฝีมือการเล่นของช้างก็อยู่ในระดับสูง ทั้งเรื่องความเร็วมือ การใช้สกิลต่างๆตั้งแต่พื้นฐานยันเปลี่ยนอาชีพ ซาโดและมิร่าลองคิดๆดูแล้ว ถ้าหากเป็นการต่อสู้ 1-1 ช้างเป็นคนที่รับมือได้ยากอย่างแน่นอน

“พวกนายมีทีมไว้ในใจแล้วหรือยัง?” คำถามนี้บังเคนเป็นกล่าวออกมาในขณะที่นั่งรออยู่ในห้อง

“ผมอยากเข้าทีม GMY เพราะมีนักดาบคู่ที่เก่งกาจที่สุด แต่ไอดอลของผม คือ วาย” ขุนช้างรีบตอบคำถามของบังเคนในทันที

“เอิ่มมมม ถ้านายไปเข้าทีม GMY นายจะมีโอกาสได้ลงงั้นหรือ? การจะแทรกตัวเข้าไปแทนที่รองกัปตันทีมของเขา เป็นเรื่องที่ยากมากเลยนะ”

“สมกับเป็นนาย ฉลาดมาก สงสัยผมคงต้องคิดใหม่แล้ว”

บังเคนถึงกับต้องส่ายหัวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว เรื่องง่ายๆแค่นี้เอง หมอนี่มันก็คิดไม่ได้จริงๆ แต่การที่อยากเข้าก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าได้ ถ้าหากกัปตันทีมหลงเจี้ยน ไม่เลือกเขา เขาก็ต้องอยู่ที่ค่ายแห่งนี้ต่อไป

เพื่อพัฒนาฝีมือและรอทีมอาชีพในลีค มาดึงตัวไปอยู่ในสังกัด เพียงแค่สอบผ่านไม่ใช่ว่าจะสามารถเลือกทีมไหนก็ได้ การสอบผ่านครั้งนี้เป็นแค่เครื่องยืนยันความเก่งของตนเองในระดับหนึ่งเท่านั้น

ซึ่งก็ถือว่าเป็นเพียงแค่ก้าวแรก แต่ถ้าหากว่าใครที่สามารถสอบผ่าน แล้วมีนักกีฬาอาชีพพากลับไปยังสโมสรทันที นั่นแสดงว่า ฝีมือของเขาคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ

คนที่เคยทำแบบนี้ได้ ก็คือ วาย กัปตันทีมของ 3HL แถมยังขึ้นเป็นกัปตันคนต่อไปอย่างรวดเร็วเสียด้วย

“สำหรับผม อยู่ทีมไหนก็ได้ครับ ถ้าหากได้รับคำเชิญชวนเข้ามา แล้วมิร่าหละ? ชอบทีมไหน?” ซาโดกล่าว

“ด้วยอาชีพของฉัน แน่นอนว่า RBM คือทีมที่ฉันไม่ควรย่างก้าวเข้าไปในตอนนี้ หากมีใครเลือกฉันจริงๆ ฉันก็ต้องลองพิจารณาดูอีกที”

“อื้ม ปรากฏว่าทุกคนไม่มีความแน่นอนในเรื่องนี้สินะ”

“แล้วบังหละ?” ซาโดกล่าวถาม

“สำหรับบังนะหรอ ตัดทีม GMY ออกไปก่อนได้เลย รุ่นพี่หลงเจี้ยนมีคุณสมบัติที่ดีกว่าบังในทุกๆด้าน และบังคิดว่า บังจะอยู่ในค่ายฝึกแห่งนี้เพื่อพัฒนาฝีมือสัก 1 ปีก่อน แล้วค่อยไปลุยลีคอาชีพในฤดูกาลที่ 4”

“ความคิดบังก็ไม่เลวนะ” มิร่ากล่าว

“ผมพึ่งเห็นบังไม่ฉลาดก็คราวนี้แหละ” ขุนช้างไม่เข้าใจถึงเหตุผลของบังจึงกล่าวออกมาทันที

บังเคนก็ไม่ได้สนใจคำพูดของช้างนัก เพราะเขารู้ว่าขุนช้างเป็นคนยังไง จึงปล่อยผ่านบทสนทนาของขุนไป

“ถ้าหากเราไปอยู่ตามทีมระดับกลางๆ เพื่อหาโอกาสลงสนามเล็กๆน้อยๆหละ?” ซาโดกล่าวถามต่อทันที

“บังก็คิดเรื่องนี้ไว้เหมือนกันนะ แต่พอมาคิดๆดูแล้ว การที่เราอยู่ที่นี่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง และไม่เปิดเผยข้อมูลให้แก่กลุ่มนักกีฬาอาชีพก่อนจะดีกว่า

เราอาจจะเริ่มฤดูกาลที่ 4 ได้อย่างราบรื่นกว่านี้ มันก็แค่ความคิดส่วนตัวของบังนะ ถ้าหากมีทีมไหนเชื้อเชิญพวกนายไป พวกนายเลือกพิจารณาเอาเองได้เลย แต่บังขออยู่ที่นี่ต่อก่อน”

“ความคิดของบังก็ไม่เลว แน่วแน่ดีเหมือนกัน”

“อีกอย่างอายุของนาย 16 อายุของมิร่า 17 ด้วยฝีมือในตอนนี้ เสริมประสบการณ์ต่ออีกสักปีจากค่ายแห่งนี้ แล้วเข้าไปลุยต่อในลีคอาชีพ ยังถือว่าพวกนายก้าวเข้ามาในวงการนี้เร็วเกินไปเลย”

“แล้วผมหละบัง บังว่าด้วยฝีมือของผมในตอนนี้ลุยลีคอาชีพเป็นไงบ้าง?” ขุนช้างกล่าวขึ้นพร้อมลุกขึ้นยืนและกวาดมือทั้ง 2 ขึ้นฟ้า เหมือนตัวเองกำลังใช้สกิลวายุมังกรคู่

“แบบนายหรอผมว่าสบายๆเลยหละ” ในการพูดกับคนที่อายุมากกว่า เคนไม่กล้าแทนตัวเอง ว่าบังเคน แต่ใช้เรียกตนเองว่า ผม ส่วนช้างแม้จะอายุเยอะกว่าบังเคน แต่ก็เรียกเขาว่าบังเคนตามที่ซาโดและมิร่าเรียกกัน

“ผมก็ว่างั้นแหละ วายุมังกรคู่ที่ปลิดชีพไททรัล พวกคุณคงเห็นมันเต็มๆตาแล้วสินะ”

“ป่าว ผมหมายถึง คุณได้นั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างสนามสบายเลยหละ”

“…”

ก๊อก ก๊อก !!! เสียงประตูดังขึ้นจากด้านนอก

เมื่อเปิดประตูเข้ามา ปรากฏร่างคนทั้ง 6 เป็นชาย 5 และหญิง 1 คนแรกที่เดินนำเข้ามาในห้องคือ ผู้คุมสอบเมื่อครู่ ส่วนคนที่ 2 ที่เดินตามเข้ามาเป็นหลงเจี้ยน ตามด้วยโยชิ ยองวอน วาย และเมนี่

ซาโด มิร่า และเคน เห็นเหล่านักกีฬาอาชีพทั้ง 5 เข้ามา ก็รู้ว่ามีการเตรียมตัวอยู่บ้าง แต่พอเจอเข้าจริงๆ ก็ตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว  ส่วนทางด้านของขุนช้าง เขาไม่ตกใจเลยสักนิด พร้อมทั้งเป็นคนพูดออกมาก่อนใครเพื่อน

“ไอดอลของผม” สายตาทั้งหมดหันไปทางเดียวกับทางที่ขุนช้างจ้องมอง ซึ่งก็คือ วายนั่นเอง

“นายรับเขาเข้าไปร่วมสโมสรเลยสิ ผมบอกคุณแล้วว่า คู่หูยุคใหม่ ในฤดูกาลที่ 3 จะต้องเป็นทีมคุณอย่างแน่นอน” คนที่พูดออกมาในครั้งนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโยชิ

“แต่ว่าทีมที่ผมชอบ คือ GMY นะครับ”

“ฮ่าๆๆๆ” วายที่ออกอาการเอ๋อเมื่อครู่หนึ่ง หัวเราะออกมาทันที

“คุณคงต้องเหนื่อยหน่อยแล้วหละ รองกัปตันของผมฝีมือดีมากเลยนะ”

“แล้วคุณว่าฝีมือของผมไม่เอาไหนงั้นหรือ?”

เอาแล้วๆ ไปกันใหญ่แล้ว ทุกคนเมื่อได้พูดคุยกับขุนช้าง ถึงกับต้องส่ายหัวและกุมขมับกันทั้งหมด เขาเป็นคนที่ไม่เข้าใจอะไรเสียเลย

นักกีฬาอาชีพทั้ง 5 อุส่ามาถึงที่แล้วแท้ๆ กับไม่ได้เป็นคนแนะนำตัวเอง ซ้ำยังโดนไอ้เด็กที่ไหนก็ไม่รู้ป่วนมั่วหมด

“แต่ว่าผมตัดสินใจแล้ว ผมจะอยู่ที่นี่ต่อกับเพื่อนของผม” พูดเสร็จช้างก็เข้าไปกอดคอกับบังเคนทันที การกอดครั้งนี้ของช้าง ทำเอาแว่นที่สวมอยู่ของบังเคน แทบกระเด็นหล่นพื้น

“คุณจะอยู่ที่นี่ต่องั้นหรือ?” คนที่ถามคำถามนี้ขึ้นมา คือ ยองวอน

“ครับ” บังเคนตอบ

“ผมสนใจในตัวคุณ และต้องการเชิญคุณให้มายังค่ายฝึกที่สโมสรของผม ที่นี่เป็นค่ายฝึกรวม ไม่ได้มีนักกีฬาอาชีพแบบพวกผมแนะนำแนวทางการเล่นให้หรอกนะ”

“ผมคิดดีแล้วครับ ขอเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากค่ายฝึกรวมแบบนี้อีกสัก 1 ปี แล้วถ้าถึงตอนนั้นแล้ว ผมยังเป็นที่สนใจของคุณอยู่ละก็ ไม่แน่ผมอาจจะไปครับ ขอบคุณมาก”

“ตกลง ผมเคารพการตัดสินใจของคุณ” ยองวอนกล่าว

“แล้วหนูน้อยแม่มดหละ? สนใจมาเข้าร่วมสโมสรทีมผมไหม ?” วายเป็นคนกล่าวและหันหน้าไปทางมิร่า

“ฉันขออยู่ที่นี่ก่อนด้วยเช่นกันค่ะ”

“เอิ่มมม” ในตอนนี้นักกีฬาอาชีพทั้ง 5 คน ต่างรู้สึกงุนงงกับความคิดของพวกเขาเป็นไก่ตาแตกแล้ว ข้อเปรียบเทียบของการอยู่ที่ค่ายฝึกรวมแห่งนี้ และ ค่ายฝึกของสโมสรต่างกันเป็นอย่างมาก

ข้อที่ 1. เงินเดือนที่ได้รับจากสโมสร ย่อมต้องมากกว่าที่นี่อย่างแน่นอน

ข้อที่ 2. หากฝึกฝนอยู่ที่สโมสรแล้วฝีมือพัฒนาขึ้นมาในระดับก้าวกระโดด อาจจะได้ลงสนามแข่งเป็นตัวจริง หรือมีชื่ออยู่ในชุดตัวสำรองก็เป็นได้

ข้อที่ 3. ค่ายฝึกสโมสร จะได้รับคำชี้แนะจากกัปตันทีม และรองกัปตันทีม ส่วนค่ายฝึกรวมที่นี่ จะได้รับคำชี้แนะจากผู้ชำนาญเกมคนหนึ่งเท่านั้น ถ้าเปรียบเทียบความรู้ที่ได้รับระหว่างทั้ง 2 ค่าย ยังไงค่ายจากสโมสรก็ให้ความรู้ เทคนิคต่างๆได้มากกว่า

ค่ายฝึกนักกีฬาอาชีพ ก่อตั้งขึ้นมาปีนี้เป็นปีที่ 2 ผู้ที่อยู่ในค่ายฝึกก่อนหน้านี้มีเพียง 8 คนเท่านั้น ผู้คนทั้ง 8 คนนี้ ไม่ได้รับคำเชิญจากทีมใหญ่ จึงต้องอยู่ฝึกฝีมือที่นี่ก่อน เพื่อให้มีคนจากสโมสรเห็นแวว ว่ามีการพัฒนาขึ้น พอที่จะมาเป็นกำลังเสริมให้กับทีมของตนเองได้

แต่ทว่าในวันนี้ นักกีฬาอาชีพมาเพื่อที่จะต้องการดึงตัวคน 3 คน คือ ซาโด มิร่า และ บังเคน แต่ทั้งมิร่าและบังเคนกลับปฏิเสธข้อเสนอของทีมสโมสรระดับ Top 5 กลับไปหมดแล้ว เหลือก็เพียงแต่ซาโดเท่านั้น ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไรกับเรื่องนี้

“นายจะอยู่ที่นี่กับพวกเขาด้วยไหม?” คราวนี้เมนี่เป็นคนกล่าวถามซาโดที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้าย

“ครับ ผมคิดว่าผมอยู่ที่นี่กับพวกเขาด้วยดีกว่า” ซาโดตอบอย่างไม่ลังเล

“นายคิดดีแล้วใช่มั้ย? ในตอนนี้นายยังเด็ก อยู่ที่นี่ไปสักปีก็ไม่ได้เสียหายอะไรนักหรอก”

“ผมคิดดีแล้วครับ”

“โอเค ตกลงตามนั้น ปีหน้าฉันจะมาถามนายอีกครั้งว่านายยังสนใจมาร่วมสโมสรของฉันอีกหรือเปล่า?”

“ครับ ถึงตอนนั้นผมอาจจะไปกับพวกคุณ ขอบคุณครับ”

การมาในครั้งนี้ของนักกีฬาอาชีพนับว่าสูญเปล่า อุส่าเจอนักกีฬาที่มีฝีมือดีแต่ยังคว้าตัวมาไม่ได้ ก็ต้องกลับไปดูหน้าจอโปรเจคเตอร์ที่ห้องเดิมต่อไป  เพราะยังเหลืออีก 4 กลุ่มที่ยังรอทำการทดสอบในวันนี้

ระหว่างที่นักกีฬาอาชีพทั้ง 5 กำลังเดินออกไปจากห้องนั้น เมนี่ก็ได้เดินมายังข้างตัวของซาโดและกระซิบเบาๆว่า “ช่างไม้คืนนั้นเป็นนายใช่ไหม ?”

ซาโดหันกลับไปมองยังเมนี่และกล่าวขึ้นมาเบาๆว่า “แม่มดคนนั้นคือรุ่นพี่ ?”

เมนี่เพียงยิ้มๆแต่ไม่ได้ตอบอะไร นักกีฬาอาชีพอีก 4 คน รวมไปถึงเพื่อนๆของซาโดทั้ง 3 ต่างเห็น 2คนนี้ ซุบซิบกันครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ยินว่าทั้ง 2 คนคุยอะไรกัน

ทุกคนต่างแปลกใจแต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรขึ้นมา จนถึงระหว่างทางเดินที่กำลังกลับเข้าไปนั่งยังห้องโปรเจคเตอร์นั้น โยชิจึงกล่าวถามขึ้นมาว่า

“เธออยากได้เด็กคนนี้มาเข้าทีมอย่างมากเลยหรือ?”

“ใช่” เมนี่ตอบอย่างไม่ปิดบัง

“อายุเขายังน้อย ดีแล้วที่ให้เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากที่นี่ก่อน”

“แต่จอมเวทย์กึ่งธาตุคนนั้น เขามีฝีมือดีพอจะลุยลีคแล้วนะ” คนที่กล่าวคำนี้ขึ้นมา คือ หลงเจี้ยน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด