ตอนที่แล้วตอนที่ 6 เปลวไฟแห่งความหวัง 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 ค่ำคืนที่มืดมิดบนดวงจันทร์โฉมใหม่ 2

ตอนที่ 7 ค่ำคืนที่มืดมิดบนดวงจันทร์โฉมใหม่ 1


ตอนที่ 7 ค่ำคืนที่มืดมิดบนดวงจันทร์โฉมใหม่ 1

สถานที่แห่งนี้เรียกว่าเป็นแสงสว่างให้เด็กกำพร้า ที่นี่เต็มไปด้วยเสียงเด็ก ทั้งงอแงร้องไห้ ตะโกนต่อสู้กันอย่างเจี๊ยวจ๊าว มีพลังมากมายมหาศาลสัมผัสได้ ณ ที่แห่งนี้ เด็กทั้งหมดเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่หลงเหลือญาติพี่น้องที่ไหน แต่ครูพี่เลี้ยงก็พยายามเลี้ยงดูอย่างดีเพื่อทำให้เด็กเหล่านั้นมีชีวิตที่ดีขึ้น นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมเด็กที่นี่จึงไม่รู้สึกขาดความอบอุ่น แต่แล้วก็ยังมีเด็กที่สร้างปัญหาอยู่เช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วเด็กก็คือเด็กอยู่ดี

ถึงกระนั้นวันนี้เป็นวันที่มีเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวมากกว่าทุกวัน โดยปกติแล้วจะมีแค่เด็ก ๆ และครูพี่เลี้ยงอยู่ ณ แห่งนี้ แต่ทว่าวันนี้มีผู้คนแปลกหน้าปะปนอยู่ด้วย

เธอเป็นหญิงชราที่ผ่านช่วงวัยกลางคนมาแล้ว เธอเดินก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับทักทายกลุ่มผู้คน

มีคนเคยกล่าวไว้ว่าเมื่อยังเด็กเรามักจะถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นส่วนใหญ่ แต่พอเราเริ่มแก่ชราลงคนเรามักจะตัดสินจากความสำเร็จในชีวิต ถ้าสิ่งที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องจริง เธอผู้นี้คงใช้ชีวิตได้อย่างเที่ยงธรรม เธอชรามากพอจนผมเธอครึ่งหนึ่งเปลี่ยนเป็นสีขาว แต่ผู้คนที่มองไปยังเธอจะรู้สึกสงบลงอย่างไม่รู้ตัว เธอดูเป็นคนมีคุณธรรมสูง รอยยิ้มของเธอช่างอบอุ่น มันทำให้คิดถึงคุณยายที่กำลังต้อนรับกลับบ้าน เธอมีหน้าตาแบบนั้น

เธอเป็นผู้อำนวยการมูลนิธิเด็กกำพร้าและมีนิสัยโอบอ้อมอารีตั้งแต่ยังเด็ก เธอเกิดมาเพื่อเป็นศูนย์กลางเลี้ยงดูเด็กเร่ร่อนให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี ทั้งยังเป็นผู้หญิงที่มีผู้คนต่างนับถือ

“สวัสดี!”

ถึงเธอเป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสียง แต่เธอก็ไม่ถือตัวพร้อมโบกมือทักทายผู้คน

ในกลุ่มทั้งหมดมีประมาณยี่สิบสามคนคละเพศวัย ผู้ชายมีสิบเก้าคนและผู้หญิงมีสี่คนอยู่ในช่วงอายุยี่สิบต้น ซึ่งเป็นกลุ่มชมรมจากมหาวิทยาลัยใกล้เคียง

กลุ่มอาสาสมัครจะมาประมาณสองครั้งต่อเดือน ผู้อำนวยการจึงรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้รับการต้อนรับอย่างดี

“เข้ามาได้เลยค่ะ”

มูลนิธิเด็กกำพร้าเป็นเช่นเดียวกันหมดที่ยังขาดกำลังคนเพื่อเลี้ยงดูเด็ก และการที่มีอาสาสมัครมาเพียงสองครั้งต่อเดือนจึงเป็นประโยชน์ต่อมูลนิธิเป็นอย่างมาก

“คุณมินซุง นี่คุณไม่ได้กำลังจะบอกฉันว่าตอนนี้คุณเป็นประธานชมรมแล้ว ใช่มั้ย?”

“ใช่แล้วครับ โปรดดูแลเราด้วยนะครับท่านผู้อำนวยการ”

“ต้องเป็นฉันต่างหากที่ต้องพูดแบบนั้น ได้โปรดดูแลเราด้วยนะคะ”

ผู้อำนวยการกำลังพูดคุยกับชายชื่อว่า มินซุง ทั้งยังมองไปยังผู้คนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา

“ทำไมวันนี้มีผู้คนเพ่นพ่านที่นี่เต็มไปหมด”

“มีสมาชิกใหม่มาที่นี่ครับ”

“อ๋อ ฉันเข้าใจละ”

ถึงกระนั้นผู้อำนวยการก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงมีคนมากมายที่นี่ มันเป็นเวลาห้าปีแล้วที่เธอได้ร่วมโครงการกับชมรมอาสาสมัคร เวลานี้ของทุกปีจะมีการรับสมัครสมาชิกใหม่เข้าชมรมเสมอ แม้ว่าความจริงผู้อำนวยการจะคิดว่าผู้คนอาจมากเกินไปแต่ก็ไม่ได้กังวลอะไร ยังไงที่นี่ยังคงขาดกำลังคน ดังนั้นเธอจึงยินดีต้อนรับทุกคนที่มาเยือนที่นี่ บางทีวันนี้อาจจะสามารถทำความสะอาดครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้

“ผมจะแนะนำสมาชิกใหม่ให้คุณรู้จัก”

มินซุงเริ่มแนะนำสมาชิกใหม่ผู้ที่เพิ่งเข้าร่วมกลุ่มอาสา ณ ตอนแรกเธอมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับกำลังยินดีต้อนรับทุกคน แต่แล้วใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเหมือนเขาเริ่มแนะนำสมาชิกใหม่

‘พวกเขาดูเหมือนไม่ใช่คนที่สนใจเข้ามาเป็นจิตอาสาจริง’

เธอดูแลมูลนิธิเด็กกำพร้ามากว่าสิบปี แค่มองบุคลิกก็รู้ว่าผู้ใดสนใจที่จะเป็นจิตอาสาจริงหรือไม่ และสมาชิกใหม่ที่มินซุงกำลังแนะนำอยู่มีท่าทีไม่สนใจที่จะเป็นจิตอาสาเท่าไหร่นัก จากประสบการณ์เธอมองออกว่าผู้คนเหล่านี้เป็นอย่างไรแล้วคงโชคดีอยู่บ้างถ้าพวกเขาไม่ก่อปัญหาเพิ่ม

แน่นอนเมื่อมีชนกลุ่มใหญ่ก็ต้องมีคนพวกนี้ที่แอบแฝงตัวมาด้วยเสมอ แต่ตอนนี้มันดูมากเกินไป

ผู้อำนวยการเริ่มเข้าใจเหตุผลเมื่อมินซุงกำลังแนะนำนักเรียนคนหนึ่งเป็นพิเศษ

‘มันคงเป็นเพราะเด็กคนนี้สินะ’

งดงาม นี่เป็นคำเดียวที่จะอธิบายความเป็นเธอได้ ผมดัดเล็กน้อยแลดูพลิ้วไหวเหมือนสายน้ำตก เมื่อเธอเริ่มขยับเรือนร่าง ผมเธอไหวตามราวกับสายน้ำที่ไหลเชี่ยว และผิวพรรณไม่มีตำหนิแม้แต่น้อยมันนุ่มราวกับว่าถ้ามีแมลงมาสัมผัสอาจลื่นล้มได้ ทั้งยังมีขนตาที่ยาวและโค้งสวย ปากเธอสีแดงเข้มยิ่งทำให้ผู้คนที่เห็นหลงใหล ต่างกับผู้หญิงอีกคนที่เขาแนะนำ เธอแต่งหน้ามาเล็กน้อย แต่นี่ทำให้ความสวยดูเด่นแบบสดใส

“สวัสดีค่ะ”

เมื่อเธอโค้งศีรษะลง ผมเธอพลิ้วไสวเหมือนสายน้ำที่ไหลลงมาประคอ ถ้าหากผู้อำนวยการมีกล้องและมีความสามารถในการถ่ายรูป ก็คงจะถ่ายรูปเธอผู้นี้เก็บไว้ ความสวยของหญิงสาวผู้นี้ทำให้เธอหลงในภวังค์ไปชั่วขณะ

นานมากแล้วที่เธอไม่เคยพบเห็นหญิงสาวที่สวยขนาดนี้

‘ชายส่วนใหญ่ที่นี่ต่างรุมล้อมเด็กหญิงผู้นี้’

ผู้อำนวยการพยักหน้าลงเล็กน้อยขณะที่เด็กสาวโค้งคำนับ เธอชายตามองคนอื่นเช่นกัน ประธานมินซุงและชายทุกคนจ้องมองหญิงสาวราวกับโดนมนต์สะกด

ผู้อำนวยการถอนหายใจเล็กน้อย เธอไม่ได้วางแผนไว้ว่าต้องมีส่วนร่วมในชีวิตรักใคร ทั้งกำลังสมเพชชายเหล่านั้นที่ตามติดหญิงสาวสง่างามผู้นี้ เธอตัดสินใจจะไม่คิดสนุกกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ที่ยังกังวลคือวันนี้ผู้ชายเหล่านั้นจะทำงานให้กับมูลนิธิเด็กกำพร้าได้เต็มที่หรือไม่

ถ้าเด็กคนนี้ยังเป็นที่หลงใหลอยู่

เธอเคยบอกว่าชื่อจังจียุนใช่ไหม? แต่อยากน้อยเธอคนนี้ก็สนใจที่จะเป็นจิตอาสาจริง นั่นทำให้ผู้อำนวยการรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย

‘ก็รู้สึกแย่นะที่ต้องทำแบบนี้ แต่ก็ต้องใช้เด็กคนนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์’

ชายส่วนใหญ่ที่นี่ต่างตกหลุมรักและอยากดูดีในสายตาจียุน ดังนั้นเธอจำให้ชายเหล่านั่นนั่งข้างจียุนจะได้ตั้งใจทำงานหนักเพื่อดูดีต่อหน้าเธอ ผู้อำนวยการใช้จียุนเพื่อควบคุมแรงงานทั้งหมด

หลังจากแนะนำตัวเสร็จ นักศึกษาจะได้รับมอบหมายงานจากผู้อำนวยการและครูพี่เลี้ยง เป็นอย่างที่ผู้อำนวยการคาดไว้ นักศึกษาส่วนน้อยมาเพื่ออยากทำงานจิตอาสา งานพวกเขาหยุดชะงักเพราะเอาแต่มองดอกไม้แสนงดงามที่ชื่อว่าจียุน ครูพี่เลี้ยงเริ่มขมวดคิ้วเมื่อเห็นแบบนั้น ผู้อำนวยการมีประสบการณ์หลายปีและมีฝีมือ จึงมอบหมายให้จียุนทำงานหนักที่สุดต่อไป แน่นอนว่าเธอให้จียุนทำงานต่อหน้าผู้ที่ชื่นชอบเธอ ชายเหล่านั้นตกหลุมกับดักผู้อำนวยการเสียแล้ว

“ฉันทำเองค่ะ”

จียุนกำลังเคลื่อนย้ายของหนักขณะเดียวกันมีชายคนหนึ่งเดินตัดหน้า ก่อนที่เธอจะพูดอะไรบางอย่างออกไป ชายผู้นั้นได้หยิบของหนักที่เธอแบกไว้ราวกับกำลังขโมย เขาฉีกยิ้มอันสดใสและเดินนำหน้าเธออย่างมั่นใจ

‘เขาพยายามทำดีกับเธอเพื่อกำลังทำคะแนนน่ะสิ’

หัวใจเขาเต็มไปด้วยสีชมพูและหอบความหวังไว้ และแผ่นหลังเยียดตรงราวกับว่างานที่ทำไม่หนักเลย เขารู้สึกได้ว่าจียุนกำลังมองจากทางด้านหลัง

จียุนมองจากด้านหลังตามที่เขาหวังเอาไว้ แต่ใบหน้าไม่ได้แสดงถึงความรู้สึกดีแบบที่คาด ในความจริงมีแต่ใบหน้าที่ดูรังเกียจชายผู้นั้น

สถานการณ์เดิมเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเธอพยายามทำอะไรที่ดูยากลำบากสักนิด ก็จะมีนักเรียนชายคอยมาตัดหน้าเพื่อทำงานให้เธอ เธอเหมือนข้าวบาร์เลย์ที่บรรจุไว้ในถุงคอยดูผู้คนทำงาน เธอพยายามปฏิเสธความช่วยเหลือจากทุกคนหลายครั้ง แต่เด็กนักเรียนชายก็ยังดื้อรั้น พวกเขาไม่เคยฟัง เธอเริ่มทำหน้ารังเกียจมากขึ้น

จียุนถอนหายใจขณะมองหางานอื่นที่พอจะทำได้ เธอมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือไม่ใช่เพื่อรับการปฏิบัติเหมือนเจ้าหญิง เธอพยายามพูดอธิบายต่อทุกคน แต่พวกผู้ชายก็ยังคงเพิกเฉยต่อคำพูดเธอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด