ตอนที่แล้วบาทที่ 38
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตติยบท ความผันแปรและเส้นทางใหม่

บาทที่ 39


บาทที่ 39

หลังจากนั้นหงเซียวก็ได้ไปเยี่ยมหมู่บ้านเซียนคุณไสย และมอบตำราเล่มเดียวกันให้ คัมภีร์หลอมร่างต้นกำเนิด ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถหลอมแมลงคุณไสยในร่างให้กลายเป็นชีพจรเซียนได้ และเพียงใช้แค่ตัวเดียวเท่านั้นแล้วจึงค่อยสร้างชีพจรจริงจุดอื่นขึ้นมาต่อจากนั้นได้ และไม่ต้องกลัวว่าจะมีอายุไขเพียงยี่สิบปีอีกต่อไป

“หลังจากนี้เราจะไปไหนกันดี” จินหลินถามหงเซียว

“เราจะกลับไปที่เกาะ น้องคงจำได้ใช่ไหมว่า พวกเราได้แมลงเซียนกันมาและได้นำไปเลี้ยงไว้ที่เกาะด้วย ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องนำมันออกมาให้คนในเกาะสร้างเซียนขึ้นมากันบ้างแล้ว” หงเซียวกล่าว

“พี่ชายต้องสร้างกองทัพเซียนมากมายเพียงนี้เชียวหรือ” ชิวเยว่อดถามไม่ได้ เธอตามความคิดเขาไม่ทันจริงๆ

“จริงๆแล้วก็ไม่ เพียงแต่ว่าพี่มีความรู้สึกเห็นใจคนอีกมากมายที่ตามหาความฝันแต่กลับต้องเผชิญพบกับทางตัน เหมือนเช่นพี่ยามที่เห็นน้องได้เป็นเซียนต่อหน้าแต่ว่าตนเองกลับไม่มีความหวังแม้เพียงน้อยนิด” หงเซียวตอบ

“พี่ชายช่างน่าสงสาร อือ” ชิวเยว่โอบเขาเข้ามาในอ้อมอก หงเซียวจึงถือโอกาสนั้นประทับปากลงไปบนริมฝีปากของเธอทันที

“พี่ชาย อร้างงงง” หญิงสาวรอบตัวพวกเขาพากันตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่ผันแปรไปเช่นนั้น ต่างคนต่างพากันหน้าแดงซ่าน ต่างพากันสบตากันว่าใครจะเป็นคนถัดไป

พวกเขากลับไปที่เกาะและได้นำเอาแมลงที่อาศัยอยู่ที่ต้นไม้ในค่ายกลออกมาและสอนคนที่นั่นถึงวิธีการเป็นเซียน อย่างไรก็ตามเขาจากที่นั่นมาเพียงไม่นานนักดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่พัฒนาไปมากนัก และกองโจรสลัดก็ยังไม่ได้รุกรานเข้ามาอีก

หงเซียวได้แจ้งพวกเขาถึงวิธีการเพาะพันธุ์แมลงเซียน และการฝึกวิชาเซียน แต่ว่าการเพาะพันธุ์แมลงเซียนนั้นยากลำบากดังนั้นที่เกาะแห่งนี้ พวกเขาจึงจะสร้างเซียนได้อย่างมากก็ห้าปีละหนึ่งคนหรือน้อยกว่านั้น แต่ว่าในครั้งแรกนี้หงเซียวมีแมลงเซียนให้พวกเขาพอที่จะฝึกได้สามคน ดังนั้นพวกเขาจะต้องเลือกเอาว่าจะให้ใครเป็นเซียน

หงเซียวยังอนุญาตให้คนที่ได้ฝึกวิชาเซียนไปฝึกฝนยังใจกลางเกาะได้ แต่ก็ห้ามข้ามไปยุ่งเกี่ยวกับจินปิงโดยเด็ดขาด

“จินปิง อยู่ไหนกัน” จินหลินและสี่หญิงสาวแยกตัวมาเยี่ยมจินปิงขณะที่หงเซียวไปคุยกับชาวบ้าน เธอส่งเสียงผ่านจิตมาพูดคุยกับมังกรสุวรรณอัคคีของเธอตั้งแต่ไกล

“นายหญิง” จินปินพุ่งตัวออกจากถ้ำของตนเองอย่างรวดเร็ว ข้างกายของมันมีมังกรสุวรรณอัคคีตัวเล็กติดมาด้วย

“น้องของเจ้าจะตั้งชื่อว่าอะไรรึ” จินหลินถาม

“ข้าว่าจะให้เขาเป็นคู่ครองของข้า ยังไม่มีชื่อ นายหญิงช่วยตั้งให้หน่อยสิ” จินปิงกล่าว

“จิน--”

“เดี๋ยว หลินหลิน ถ้าตั้งขึ้นด้วยจินเหมือนกันจะกลายเป็นพี่น้องกันไปหรือเปล่า ข้าว่าน่าจะตั้งชื่อสกุลเป็นอย่างอื่นดีกว่าไหม” เหมยเหมยขัดขึ้น

“อืม ถ้าอย่างนั้นก็เป็น หง… หงซื่อ” เธอเอาชื่อพี่ชายกับคนรักมาผสมผสานกัน เรียกเสียงคิกคักให้กับหญิงสาวที่เหลือ

“ขอบคุณนายหญิง หงซื่อ คำนับนายหญิงสิ” จินปิงกล่าวกับมังกรตัวน้อยข้างตัว อีกฝ่ายก็ทำการทักทายจินหลินด้วยไมตรี

เพราะว่าหงเซียวและเหล่าหญิงสาวไม่ได้อยู่ที่เกาะ ทำให้กลิ่นของหอยมุกออโรร่า หรือหอยมุกเนตรรัศมีจางหาย งูดาวทะเล สัตว์อสูรกึ่งงูกึ่งปลาดาวนั้นจึงไม่ได้เข้าแผ้วพานที่ชายฝั่งที่นี่อีก สถานการณ์ที่นี่จึงดูผ่อนคลายอย่างมาก

จินปิงชอบที่นี่มากและขอที่จะอยู่เลี้ยงดูคู่ของมันที่นี่ไม่ติดตามจินหลินไป อย่างไรก็ตามมันก็เติบโตขึ้นมากแล้ว ไม่ติดจินหลินเหมือนเมื่อตอนเล็กๆแล้ว อีกทั้งพวกเขาทั้งคู่ก็ไม่ได้ทำสัญญาสัตว์อสูรกัน ดังนั้นจึงไม่มีข้อผูกมัดใดที่มันจะต้องตามจินหลินไปตลอด ซึ่งเธอก็ได้ตามใจมัน

“ไปก่อนนะจินปิง หงซื่อ” บรรดาหญิงสาวกล่าวคำอำลาพวกมันไปเมื่อถึงเวลา เพื่อไปพบกับหงเซียวที่หมู่บ้านชายทะเล ซึ่งตอนนี้ได้ทำการทำการคัดเลือกเด็กในหมู่บ้านมาดูว่าใครบ้างที่พอจะมีแววที่จะฝึกวิชาเซียนได้บ้างโดยไม่ต้องฝังแมลงเซียน

พวกเขาอยู่ที่นี่กันหลายปี เด็กที่โตที่สุดก็มีอายุประมาณสี่ปีซึ่งยังฝึกอะไรไม่ได้เพราะยังพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังมีเด็กจำนวนหนึ่งที่มีอายุไม่เกินยี่สิบห้าปีที่มากับเรือสลัด หงเซียวสั่งให้พวกเขาได้ทดลองฝึกวิชาเซียนโดยไม่ต้องใช้แมลงเซียน

หงเซียวใช้พลังวิถีเซียนไร้ลักษณ์ด้วยความช่วยเหลือจากผึ้งเซียนโคจรผ่านไปในร่างของพวกเขา และสุดท้ายก็พบว่ามีหนึ่งในนั้นที่สามารถฝึกวิชาเซียนได้ เขาได้มอบวิชาเซียนคุณไสยให้โดยใช้สัตว์ทะเลแทนแมลงทั่วไป กุ้ง กั้ง ปู แมงกะพรุน ปลาหมึก ปลาดาว

และนั่นทำให้หงเซียวได้ความคิดที่จะใช้สัตว์ทะเลเป็นคุณไสยเพิ่มขึ้นมาเช่นกัน เขาเริ่มทำการเก็บสัตว์ทะเลบางชนิด เช่นเดียวกับเหมยเหมยกับซีีชี่

พวกเขาออกจากเกาะและมุ่งหน้าสู่ทวีป เมื่อพวกเขาไปยังหมู่บ้านเซียนคุณไสยนั้น พวกเขาได้อ่านหนังสือเรื่องแมลงศักดิ์สิทธิ์อีกหลายตัว และตอนนี้พวกเขากำลังจะไปเสาะหามัน

ด้วงกว่างหิมะเจ็ดเขา อยู่ที่ด้านเหนือสุดของทวีป ในบริเวณป่าเขตหนาวอันกว้างใหญ่

ใส้เดือนลาวาเปลวฟ้า อยู่ที่เทือกเขาพันเพลิง ฝั่งตะวันตกของทวีป

แมงป่องเก้าหาง ตะขาบหมื่นขา อยู่ที่ทะเลทรายเก้าพิโรธ กลางทวีปใกล้กับสำนักเซียนห้าธาตุ

ที่ใกล้ที่สุดก็คือทะเลทรายเก้าพิโรธ ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งหน้าสู่ทะเลทรายเก้าพิโรธเป็นอันดับแรก

เมืองอันแห้งแล้งแห่งหนึ่งใกล้กับทะเลทรายเก้าพิโรธ ชายและหญิงรวมหกคนสวมเสื้อผ้าที่ดูแตกต่างจากคนแถบนี้เดินเข้ามาที่เมือง

เมืองนี้บ้านทุกหลังก่อสร้างขึ้นมาด้วยอิฐอันแข็งแกร่ง พวกเขาไม่มีกำแพงเมือง แต่ว่าบ้านทุกหลังที่สร้างติดต่อกันนั้นทำให้เกิดเป็นกำแพงเมืองตามธรรมชาติขึ้นมา

ผู้คนที่นี่ปกติแล้วไม่มีใครเดิน ปกติแล้วจะใช้สัตว์พาหนะประจำถิ่น ล่อ เป็นสัตว์พาหนะ ดังนั้นคนที่สวมเสื้อผ้าแตกต่างและใช้การเดินเข้ามาในเมืองนั้นจึงเป็นจุดสนใจของทุกคนได้โดยง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งหกคนนี้ดูคล้ายกับตุ๊กตาเคลือบเทพเจ้าที่พวกเขากราบไหว้อยู่ทุกวันบนหิ้ง พวกเขาและเธอทั้งหล่อทั้งสวยยิ่งกว่าใครที่พวกเขาเคยพบเห็นมาก่อนทั้งหมด

พวกเขาเดินไวมาก เพียงชั่วไม่กี่อึดใจพวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นในโรงเตี๊ยมประจำเมืองแล้ว

“ท่านแขกผู้มีเกียรติ โปรดนั่ง ท่านต้องการรับสิ่งใดโปรดบ่งบอก”

“พวกเราได้ยินชื่อว่าโรงเตี๊ยมของท่านนั้นมีอาหารอร่อยขึ้นชื่อมาก ขนมเปี๊ยะอรุณรุ่ง ใช่หรือไม่” เหมยเหมยถาม

“พวกท่านดั้นด้นกันมาเพื่อที่จะกินขนมเปี๊ยะของข้ารึ ช่างนับเป็นเกียรติอย่างมาก” เถ้าแก่เอ่ยขึ้นอย่างพึงพอใจ

“เช่นนั้นจะช้าอยู่ใย ยกมาให้พวกเราชิมกันสักถาดหนึ่งก่อน” จินหลินพูดตรงๆ

“ขออภัยนายท่าน แต่ว่าถาดหนึ่งมีเพียงห้าลูก” เถ้าแก่เอ่ยอย่างเกรงใจ

“ถ้าเช่นนั้นก็ยกมาสามถาดก่อนก็ได้” หงเซียวกล่าว

“ขอรับนายท่าน” เถ้าแก่รีบกลับเข้าไปและทำการยกขนมเปี๊ยะออกมา

“พี่ชาย เราจะตามหาตัวแมงป่องกับตะขาบนั่นอย่างไร ในเมื่อทะเลทรายนี้กว้างใหญ่มาก” เหมยเหมยถามหงเซียว

“ในเมื่อมีคนเคยพบ พวกเขาก็น่าจะมีวิธีเสาะหามันด้วยเช่นกัน” หงเซียวตอบ

ยามนั้นเถ้าแก่ก็ยกขนมมาถึง หงเซียวจึงถามว่า “เถ้าแก่ แมงป่องเก้าหาง กับตะขาบหมื่นขา ท่านเคยได้ยินข่าวมันบ้างไหม”

“หือ พวกท่านสนใจมันเหรอ พวกมันมีทั่วไปในทะเลทรายแต่จะเจอพวกมันนั้นยากมาก แมงป่องเก้าหางนั้นข้าได้ยินว่าถ้ามันได้กลิ่นเลือดสัตว์บางอย่าง มันก็จะมาอย่างรวดเร็ว แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าสัตว์นั้นจะต้องเป็นสัตว์อะไร ส่วนตะขาบหมื่นขานั้นชอบเล่นน้ำฝนมากพวกมันจะปรากฏตัวขึ้นเหนือพื้นดินทุกครั้ง แต่นั่นจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อทะเลทรายนี้ไม่มีฝนตกมาหลายร้อยปีแล้ว”

“อืม อย่างนั้นรึ” หงเซียวทำท่าครุ่นคิด ขณะที่เหล่าหญิงสาวกำลังหยิบขนมเปี๊ยะก้อนเล็กๆมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด