ตอนที่แล้วบทที่ 16: อย่าเอะอะกันไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18: มุทะลุ

บทที่ 17: สู้กับเผ่าออร์คตามลำพัง


ง้างคันธนูไปด้านหลังและยิงลูกธนูออกไป!

ง้างคันธนูไปด้านหลังและยิงลูกธนูออกไป!

ลูกธนูที่เคลือบไปด้วยพลังการต่อสู้ยิงออกไปยังพวกออร์คตรวจตราด้วยความแม่นยำที่แน่นอน

ลอทเนอร์เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ พวกออร์คที่ล้มลงบนพื้นถูงยิงที่ศีรษะอันน่าเกลียดของพวกมันด้วยธนูที่เจาะผ่านทะลุออกมา น้ำเลือดสีเขียวไหลออกจากปากแผลตรงที่ลูกธนูทะลุผ่านออกมาเพียงเล็กน้อย และในป่ารกทึบแห่งนี้ กลิ่นของเลือดที่บางเบานั้นจะไม่กระจายออกไปไกลมากนัก

มันมากพอที่จะแสดงให้เห็นว่าวิลเลียมเป็นนักธนูที่มีประสบการณ์มากอย่างแน่นอน

วิลเลียมยิ้มเมื่อเขาเห็นว่าค่าประสบการณ์การของเขากำลังสูงขึ้น ตอนนี้เขาสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ของเขาโดยใช้กลโกงได้แล้ว แต่มันก็ต่ำกว่าเลเวล 5 อยู่ดี ดังนั้นมันจึงไม่มีประโยชน์ที่จะเพิ่มเลเวลโดยที่เอฟเฟคพิเศษและสกิลจะไม่เปลี่ยนไป

การฆ่ามอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่าจะทำให้ได้รับค่าประสบการณ์มากมายอยู่แล้ว แม้แต่กับบอสระดับรีเจนดารีอย่างวิลเลียม

ถ้าเขาสามารถฆ่ามอนสเตอร์ที่เลเวลสูงกว่าเขา 20 เลเวล ในกรณีที่ดีที่สุด เขาก็อาจจะได้รับค่าประสบการณ์ถึงสิบเท่า!

แต่ว่ามันก็มีข้อกำหนดบางอย่างสำหรับความเสียหายต่อมอนสเตอร์…

ค่าประสบการณ์ของผู้เล่นจะสามารถเพิ่มขึ้นได้ 10 เท่า ก็ต่อเมื่อผู้เล่นทำความเสียหายขึ้นไปถึง 100% เท่านั้น เมื่อเปอร์เซ็นต์ความเสียหายลดลง ค่าประสบการณ์ก็จะลดลงเช่นกัน นี่เป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้เล่นเอาเปรียบมอนสเตอร์และฆ่ามอนสเตอร์ตอนที่พวกมันกำลังจะตาย

ส่วนสำหรับไอเท็มที่เป็นแบบใช้ครั้งเดียวนั้น (เช่น ระเบิด, กระสุนปืน) พวกเขาจะสามารถฆ่ามอนสเตอร์ที่เลเวลสูงกว่าตัวเอง 20 เลเวลได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

แต่ว่าจะมีผู้เล่นสักกี่คนที่สามารถจ่ายสำหรับวิธีการแบบนั้นได้?

ทางพฤตินัยแล้วนี่ก็คือการโกงด้วยเงิน!

ดังนั้น…

การมีใครซักคนเพื่อมาเพิ่มเลเวลให้คุณนั้นเป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น!

ในตอนเริ่มต้น วิลเลียมเคยช่วยคนรวยในการเพิ่มเลเวลและใช้จ่ายเงินที่เขาได้รับไปกับในเกม และทีละขั้นๆ เขาก็กลายมาเป็นระดับตำนาน

สำหรับผู้ช่วยผู้เล่นระดับรีเจนดารีคนหนึ่ง ชื่อเสียงของเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขากลายเป็นหนึ่งในผู้ช่วยผู้เล่นที่ดีที่สุดในแผ่นดินรีเจนดารี และหลังจากที่ค่าตัวของผู้ช่วยผู้เล่นเพิ่มเป็นสองเท่าหลายต่อหลายครั้ง มันจึงไม่อาจหยุดเขาจากการเป็นผู้ช่วยผู้เล่นได้

ท้ายที่สุดแล้ว ผู้เล่นคนที่ขึ้นไปถึงระดับรีเจนดารีในเกมนี้ทั้งหมดก็เป็นที่ชื่นชอบของกิลด์ และไม่ใช่เพียงผู้ช่วยผู้เล่นคนหนึ่ง

หลังจากที่ฆ่าออร์คตรวจตราทั้งหมด พวกออร์คที่อยู่ตรงจุดรวมพลก็ยังคงไม่รู้สึกตัวแต่อย่างไร และเพราะอยู่ในช่วงเวลาอาหารค่ำ พวกมันจึงกำลังร้องตะโกนและสวาปามเนื้อย่างกันอย่างเร้าใจ

พวกมันทุกตัวกำลังมีความสุขกับการยัดอาหารใส่กระเพาะ รอบๆปากของพวกมันเต็มไปด้วยคราบมัน

วิลเลียมยืนอยู่บนยอดไม้ มองไปที่หัวหน้าของพวกออร์ค ตัวหัวหน้านั้นมีภาพลักษณ์ที่ย่ำแย่ที่สุด เขากำลังเกาง่ามขาในขณะที่กำลังกินเนื้ออยู่ แถมยังเอามือไปที่จมูกตัวเองเพื่อดมกลิ่น ราวกับว่ากลิ่นมันรุนแรงมาก เขาจึงยิ้มออกมากและหยิบเนื้อขึ้นเพื่อกินต่อไป

“เป็นการรวมตัวของพวกโง่เง่าชัดๆ!” วิลเลียมยกคิ้วของเขาขึ้น ตอนนี้พวกมันกำลังกินอาหารค่ำกันอยู่ เขาจึงไม่สามารถโจมตีได้

หลังจากที่พวกออร์คกินอาหารค่ำเสร็จ พวกมันจะต้องเปลี่ยนกะกับทีมตรวจตราของพวกมัน และพวกมันจะต้องรู้แน่นอนว่าศัตรูบุกเข้ามาแล้ว

“ถ้าอย่างนั้น… วิธีเดียวก็คือการใช้ ‘ศรระเบิด’ เวอร์ชั่นก็อป!” วิลเลียมจ้องไปที่จุดรวมพลของเหล่าออร์ค มีกองไฟทั้งหมด 8 กอง

ตราบใดที่ศรพลังต่อสู้ถูกยิงเข้าไปข้างในนั้น การสัมผัสอย่างเฉียบพลันของพลังการต่อสู้กับดวงไฟจะทำให้เกิดแรงเสียดทาน และหลังจากเกิดแรงเสียดทาน พลังงานการต่อสู้นั้นจะสร้างปฏิกิริยาเคมีกับไฟ

ก็นะ ไม่ว่ายังไงมันก็จะทำให้เกิดการระเบิดขึ้น

ไม่ต้องถามว่าทำไม นี่คือสิ่งที่เกมนี้ตั้งขึ้นมาแบบนี้ มันเป็นหนึ่งในกฎเกณฑ์ของ Gods

“ฮึ่มม ที่นี่ไม่มีถุงน้ำมัน ถ้าไม่อย่างนั้นมันก็จะเผาร่างกายของพวกมันมากขึ้น” วิลเลียมถอนหายใจ เพราะน่าจะมีอะไรแขวนไปพร้อมกับลูกธนูดอกนี้

ตราบใดที่คนๆ หนึ่งเคยเรียนวิธีการใช้ศรระเบิด ก็จะรู้ว่าสามารถนำไอเท็มมาแขวนไว้กับลูกธนูและยิงออกไปได้ ยกตัวอย่างเช่น ถุงพิษ, ถุงน้ำมัน, และคริสตัลธาตุทุกรูปแบบ มันก็จะทำให้เกิดความเสียหายแบบกลุ่มได้อย่างดีทีเดียว หรืออาจจะสามารถใช้คุณสมบัติพลังการโจมตีที่คล้ายๆ กันในระดับกลางก็ได้

สำหรับพวกออร์ค ระเบิดลูกธนูไฟเป็นคู่ปรับตลอดกาลที่พวกมันไม่อาจเอาชนะได้

แม้ว่าผิวที่หยาบกร้านและหนังที่หนาจะทำให้พวกมันดูราวกับหมี โดยที่นอกจากศีรษะของพวกมันแล้ว พูดง่ายๆว่า ทั้งตัวของพวกมันมีขนสีดำขึ้นคลุมทั้งตัวและหลังจากที่ถอดชุดเกราะของพวกมันออก ก็จะเป็นกล้ามแน่นที่เต็มไปด้วยขนดกดำคลุมหน้าอกอยู่

วิลเลียม แบล็คลีฟสูดหายใจเข้าลึกๆ ง้างคันธนูของเขาและยิงลูกธนูไปพร้อมกับพลังการโจมตี!

ฟิ้ววว!

ตู้มมม!

ไฟขนาดใหญ่ระเบิดออกและลามออกไป ออร์คที่อยู่ใกล้ที่สุดกลายเป็นออร์คคลอกไฟในทันที มันแยกเขี้ยวและกวัดแกว่งกรงเล็บไปมา ช่างดูน่าประทับใจเสียจริง!

และสำหรับถ่านเชื้อเพลิงอื่นๆ ด้วยพลังของการระเบิด มันชนเข้ากับออร์คเป็นโหลๆ และพวกที่มีขนเยอะที่สุดก็เห่าหอนขึ้นในพริบตา!

พวกมันหวังว่าจะสามารถดึงขนพวกนี้ออกจากตัวได้

ท้ายที่สุด ออร์คตัวที่มีขนเยอะจะมีรูปร่างที่น่ายำเกรงและได้นั่งอยู่ที่แถวหน้าในเวลาอาหาร แต่ยิ่งพวกเขามีขนเยอะเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งกลัวไฟมากเท่านั้น!

วิลเลียมยังไม่หยุด และความเร็วที่เขาง้างคันธนูและยิงลูกธนูนั้นไม่ธรรมดาเลย ลูกธนูถูกยิงอย่างบ้าคลั่งออกไปยังกองไฟ ในเวลาเพียงแค่สามวินาที กองไฟกองใหญ่ทั้งแปดกองระเบิดออกกองแล้วกองเล่า แม้เสียงดังสนั่นไม่ได้กระจายไปไกลมากนักในป่า แต่มันทำให้อสูรป่าหลายตัวคำรามและทำให้เหล่านกน้อยใหญ่ตกใจบินหนีไป

“ไอ้เอลฟ์น่าเกลียด ฉันเห็นแก ฉันอยากจะกินเนื้อสะโพกของแกจริงๆ! อ๊าา!” ผู้นำออร์คที่เป็นออร์คเบอเซอร์เกอร์1 มีรูปร่างเตี้ยมาก แต่เขากลับฉลาดไม่น้อยเลย

ดังนั้น เขาจึงรีบซ่อนตัวในทันทีและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

แต่คนของเขากลับประสบกับอาการบาดเจ็บสาหัส หัวหน้าผู้กราดเกรี้ยวเดินมุทะลุมาด้านหน้าพร้อมขวานสองด้าม

ริมฝีปากของวิลเลียมกระตุก งานอดิเรกประหลาดอะไรล่ะนั่น? เขาเห็นได้เลยว่าไอ้โง่เง่าคนนี้ไม่เคยกินเอลฟ์สักตัวมาก่อนและรู้แค่วิธีสร้างเรื่องเท่านั้น เนื้อสะโพกของเอลฟ์นั้นไม่…

วิลเลียมไม่เคยกินมาก่อนเหมือนกัน เขาแค่เคยได้ยินมา…

หลังจากการล้างบางด้วยศรระเบิด พวกออร์ค 500 ตนก็ถูกลดเหลือ 300 ในชั่วพริบตา ยังไงซะ พวกออร์คก็เพิ่งสร้างจุดรวมพลใหม่ พวกมันจึงไม่สามารถเริ่มก่อไฟในถ้ำได้ ดังนั้นพวกมันจึงต้องมาจุดไฟด้านนอกเท่านั้น และเพราะพวกมันไม่ได้ตัดต้นไม้ออกไปเยอะเท่าไหร่นัก เหล่าเอลฟ์จึงสามารถรวมตัวกันได้ ผลลัพธ์ก็คือพวกเขาเกือบถูกกำจัดโดยวิลเลียม!

ขนาดที่ว่าออร์ค 300 ตนที่เหลือนั้นถูกไฟคลอกทั้งตัวและก็ดูราวกับชิมแปนซีที่กำลังมอดไหม้…

ออร์คผู้นำเป็นบอสเลเวล 35 ระดับสายเลือดของเขานั้นไม่ชัดเจน แต่ตราบใดที่วิลเลียมไม่โง่ เขาจะไม่มีทางลงจากต้นไม้และไปสู้กับมัน!

ออร์คกลุ่มหนึ่งล้อมเขาที่ยังยืนอยู่บนต้นไม้ คอยยิงพวกมันด้วยความป่าเถื่อนไว้ การเล็งเป้าของเขานั้นแม่นยำมาก มันเป็นอะไรที่น่ากลัวจริงๆ พวกออร์คที่วิ่งอยู่ถูกยิงตัวแล้วตัวเล่าและล้มลงไปที่พื้น

จนถึงตอนนี้ วิลเลียม แบล็คลีฟยังยิงไม่พลาดเลยสักเป้า

“บ้าจริง ไอพวกพรานป่า ลงมาเดี๋ยวนี้นะ!” ออร์คผู้นำกระโจนขึ้น แสงจากขวานทั้งสองส่องรัศมีไปด้วยพลังการต่อสู้

แครก!

ต้นไม้หนาใหญ่ถูกตัดลงโดยขวานนั่น แต่วิลเลียมก็กระโดดไปยังต้นไม้ใหญ่อีกต้นและทำการยิงต่อไป!

เขาไม่ได้ปฏิเสธตัวตนของเขาในฐานะเอลฟ์นักลาดตระเวน…

ที่สุดแล้ว มันก็ไม่มีตัวเลือกให้เลือก อาชีพของผู้รักษาการณ์แห่งรุ่งอรุณนั้นเป็นครึ่งนักลาดตระเวนและครึ่งนักรบ แต่ก็อาจจะมีคนไม่เชื่อ เพราะว่าเขานั้นยิงธนูได้ดียิ่งกว่านักลาดตระเวนและโจมตีได้รุนแรงกว่านักรบคนหนึ่งเสียด้วยซ้ำไป…

จุดรวมพลนี้ของพวกออร์คนั้นไม่ได้น่ากลัวอะไรเมื่อไร้ซึ่งนักธนู แต่ออร์คนักธนูนั้นหายากมาก หายากในที่นี้หมายความว่าพวกเขานั้นเป็นระดับสูง และระดับสูงหมายความว่าพวกเขาอยู่ใกล้กับไฟ…

หลังจากการระเบิดติดต่อกัน มีเพียงออร์คนักธนูไม่กี่คนที่เหลืออยู่ แต่พวกเขาทั้งหมดก็อยู่ในอาการบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถยิงธนูได้เลย

ต่อให้ถ้าใครบางคนให้อาวุธกับพวกเขา พวกเขาก็ไม่สามารถยิงได้อย่างแม่นยำ

ดังนั้น วิลเลียมจึงกระโดดไปมาระหว่างต้นไม้และวิ่งไปวิ่งมาเพื่อสร้างระยะห่างและทำให้พวกมันวิ่งตามเขา เอลฟ์นั้นแยบยล…

และพวกออร์คพวกนั้นก็ไม่สามารถตามได้ทัน

ออร์คผู้นำทำได้เพียงมองดูโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นด้วยดวงตาแดงก่ำ

วิลเลียมกำลังยิงอย่างบ้าระห่ำ เมื่อซองธนูของเขาหมด มันก็จะมีอีกอันโยนขึ้นมา ดังนั้นจึงไม่มีการขาดลูกธนูเกิดขึ้น

แต่การวิ่งไปวิ่งมานั้นไม่มีที่สิ้นสุด หรือก็ต่อเมื่อต้นไม้ทุกต้นถูกโค่นลงและวิลเลียมถูกล้อมโดยพวกออร์คเท่านั้นที่เขาจะหยุดการฆ่าที่เหี้ยมโหดนี้ได้!

หมายเหตุ

เบอเซอร์เกอร์1 หมายถึง นักรบโหดที่อ้างอิงจากนักรบชาวนอร์สโบราณที่รบด้วยความบ้าบิ่นและคลั่งเลือดสาด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด