ตอนที่แล้วตอนที่ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน

ตอนที่ 3


ตอนที่ 3 จะชมปะป๊าบ้างก็ได้นะ

ฉันได้ลองถามเรื่องราวต่างๆ จากคลาวด์ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับการจัดการตำแหน่งภายในของทางโบสถ์

การที่เบตได้รับการแต่งตั้งให้เป็นซิสเตอร์นั้น สำหรับเบตคงจะเป็นเรื่องที่เธอใฝ่ฝันอยู่แล้ว

ตรงนี้ฉันไม่ได้ติดใจอะไร

แต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากคลาวด์ก็ทำให้ฉันเกิดคำถามขึ้นมาเต็มไปหมด

นี่มันค้ามนุษย์ชัดๆ เลยไม่ใช่หรือยังไง

คลาวด์บอกว่าก่อนที่ฉันจะมาเมืองท่าเมื่อ 1 ปีก่อน

มีลูกสาวของครอบครัวหนึ่งถูกชักชวนให้เข้าไปรับตำแหน่งซิสเตอร์ที่เมืองหลวง

แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวการกลับมาของผู้หญิงคนนั้น

การได้เป็นผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับคนที่นี่มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก

เพราะเชื่อกันว่าผู้ที่รับใช้พระผู้เป็นเจ้านั้นจะได้รับอำอวยพรจากสวรรค์ที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองตนเองและครอบครัวจากภัยร้ายทั้งปวง

“ถ้าเกิดเรื่องพวกนั้นเป็นเรื่องจริง...เนเน่”

“รับทราบแล้วค่ะคุณหนู เรื่องการตรวจสอบฝากให้เป็นหน้าที่ดิฉันได้เลยค่ะ”

เอ๊ะ? ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ

เอาเถอะ

“ส่วนนายคลาวด์ พาฉันไปหาเบตที”

“รู้แล้วล่ะน่า คำสั่งของคุณหนูแองเจล่าผู้ยิ่งใหญ่ ตัวกระผมนั้นมิอาจปฏิเสธได้อยู่แล้วล่ะ”

คลาวด์แกล้งใช้คำพูดเพื่อล้อเลียนฉัน

ตัวฉันเมื่อก่อนก็วางตัวกับทั้งสามคนไว้อย่างชัดเจนว่าอยากเป็นเพื่อนด้วยกัน

ถึงเนเน่จะไม่คิดแบบนั้นก็เถอะ

ฉันที่ได้ยินแบบนั้นจึงส่งสายตาชนิดที่ว่าสามารถสูบเลือดสูบเนื้อให้หมดตัวได้ในพริบตาหากยังกล้าพูดอีก

“เข้าใจแล้วๆ ไม่ล้อแล้วก็ได้”

ฉันหลับตาแล้วพยักหน้าให้เป็นการตอบโต้คล้ายๆ กับ “อืม”

“คุณหนูแองเจล่าผู้หยิ่งใหญ่ในราชอาณาจักร”

.....

หลังจากนั้นเพียงพริบตาเดียวคลาวด์ถูกเนเน่ทุ่มลงกับพื้น

เหมือนทุกๆ ครั้งที่ฉันโดนแกล้งก็จะได้เนเน่มาช่วยไว้เสมอ

หลังจากที่เนเน่ได้รับหน้าที่ไปตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของทางโบสถ์ที่ฉันไหว้วานไป ทำให้ตอนนี้ฉันไม่มีคนคอยคุ้มกัน

คลาวด์นายได้สิทธิ์นั้น

คลาวด์กลายมาเป็นคนคุ้มกันให้กับฉันชั่วคราวในระหว่างที่เนเน่ไม่อยู่

เรื่องเกี่ยวกับเบตและโบสถ์ในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาอย่างคลาวด์หรือแม้แต่ชนชั้นสูงอย่างฉันจะเข้าไปยุ่งได้เลย

เพราะศาสนาในบางประเทศนั้นมีพลังอำนาจเหนือกว่ากษัตริย์เสียด้วยซ้ำไป

แน่นอนว่าถึงแม้ในราชอาณาจักรคูราเซียจะไม่ได้มีอำนาจมากนัก

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย

กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรคูราเซียเองก็ยังต้องคิดไตร่ตรองก่อนที่จะเข้ามายุ่งเรื่องของทางโบสถ์เช่นกัน

แล้วตัวฉันที่ไม่ได้เป็นกษัตริย์ ไม่ได้มีอำนาจมากมายเท่าท่านพ่อจะสามารถจัดการปัญหาเรื่องนี้ได้หรอ

หรือว่าจะขอให้ท่านพ่อช่วยอีกแรง

ไม่ได้ๆ ถ้าทำแบบนั้นก็มีแต่จะสร้างเรื่องน่าปวดหัวให้ท่านพ่อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แค่เรื่องที่ฉันถูกไล่ออกจากโรงเรียนนั่นก็มากพออยู่แล้ว

ฉันจะให้ท่านพ่อเข้ามายุ่งเรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด

ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ใจจริงฉันเองก็กลัวอยู่เหมือน

ทั้งในโลกใบนี้และอีกโลกหนึ่งนั้นการเข้าไปแทรกเรื่องพวกนี้มักจะจบไม่สวยเท่าไหร่นัก

“คลาวด์ แล้วหลังจากที่เบตได้เป็นซิสเตอร์แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปล่ะ”

“ก็ถ้ายังอยู่ในเมืองท่าแห่งนี้ฉันก็พอจะช่วยดูแลได้บ้าง แต่ถ้าหากถูกส่งตัวไปที่อื่นทางนี้เองก็จนปัญญาเหมือนกัน”

“หมายความว่าก่อนที่เบตจะถูกส่งตัวไปเราต้องทำอะไรสักอย่างสินะ”

“ก็ตามที่ว่ามานั่นแหละ”

หมายความว่าตอนที่เบตยังอยู่ที่นี่เรายังพอมีโอกาสสินะ

“เธอเอาจริงอย่างนั้นหรอ ที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องของทางโบสถ์น่ะ”

“เอาจริงสิ”

“เธออาจจะกลายเป็นศัตรูกับโบสถ์และอาจจะถูกขับไล่เลยก็ได้นะ”

“ฉันไม่สนเรื่องพวกนั้นหรอก...ไม่สิถ้าบอกว่าไม่เลยก็ดูจะเป็นการโกหก แต่ตราบใดที่เพื่อนของฉันกำลังมีปัญหาแล้วจะให้ฉันอยู่เฉยๆ น่ะ ไม่มีทาง”

“ให้ตายสิ เธอนี่มัน”

ถ้าแค่เพื่อนคนเดียวยังช่วยไม่ได้ล่ะก็ นั่นก็ไม่ใช่ฉันแล้วล่ะ

ในระหว่างการเดินทางไปยังโบสถ์ที่เบตอยู่นั้นฉันก็ได้เดินผ่านและพบปะกับผู้คนมากมาย

เนื่องจากโบสถ์นั้นอยู่ไม่ไกลมากฉันจึงอยากเดินแทนการนั่งรถม้า

เพื่อปกปิดตัวตนด้วยส่วนหนึ่ง

ตอนนี้ฉันกลายเป็นเด็กสาวชาวบ้านธรรมดาจากชุดที่ใส่

เป็นชุดเดรสธรรมดาๆ ทั่วไปที่หาได้ในเมืองนี้

ถ้าหากใส่ชุดที่เนเน่เตรียมมาให้ล่ะก็คงจะเดินในเมืองลำบากแน่

แล้วฉันเองก็อยากสัมผัสบรรยายของคนทั่วไปดูบ้าง

“ที่นี่คนเยอะขนาดนี้เลยหรอ”

“เมื่อก่อนก็ไม่ได้เยอะเท่านี้หรอก เป็นเพราะดยุกลินคอล์นที่นี่เลยพัฒนาจากเมื่อก่อนมาก”

“งั้นหรอ ท่านพ่อนี่สุดยอดไปเลยนะ”

“แต่ลูกสาวกลับ...เห้อ”

“นั่นหมายความว่ายังไงที่พูดน่ะ”

ถ้าเนเน่อยู่ล่ะก็ป่านนี้คงล้มตึงไปแล้วล่ะ

ในขณะที่ฉันกำลังเถียงกับคลาวด์อยู่นั้นก็เห็นร้านขายของข้างๆ ที่ขายเครื่องประดับ

มีทั้งสร้อยข้อมือ สร้อยคอ ต่างหู เป็นของที่เบตชอบทั้งนั้นเลยนี่นะ

เพราะว่าอยู่ที่โบสถ์ตลอดเวลา ถ้าหากว่าฉันไม่ได้มาที่เมืองท่าเบตก็แทบจะไม่ได้ออกไปไหนเท่าไหร่

ส่วนเรื่องเงินที่จะเอามาซื้อของพวกนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเป็นคนใจดีมากขนาดที่ว่าเอาของกินที่โบสถ์ในส่วนของตัวเองไปให้เด็กคนอื่นๆ

ถ้าตัวเองมีเงินเหลือขนาดนั้นก็คงจะเอาไปซื้อของกินให้เด็กคนอื่นๆ ไม่ก็ซื้อแต่หนังสือเก่าๆ เอามาอ่านเท่านั้นแหละ

เพราะเบตเป็นคนแบบนั้นล่ะนะ

ฉันเดินเข้าไปที่ร้านเลือกดูเครื่องประดับพวกนั้น

“ฉันไม่คิดว่าของพวกนี้จะทำให้เธอพอใจได้หรอกนะ”

“ทำไมล่ะ ฉันคิดว่ามันก็สวยดีนะ”

“ใช่แล้วล่ะแม่หนู ตาถึงดีนี่ ดีกว่าคนที่มาด้วยกันซะอีก”

อุ้บ

ฉันเกือบหลุดหัวเราะเพราะคุณป้าที่ขายเครื่องประดับดันเข้าข้างฉันแถมยังแขวะใส่คลาวด์ด้วย

คลาวด์ทำสีหน้าเรียบเฉยไม่สนใจคำพูดของคุณป้าขายเครื่องประดับและเบนหน้าไปอีกทาง

ส่วนฉันและคุณป้ามองหน้ากันและแอบหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย

หลังจากนั้นฉันกับคลาวด์ก็เดินทางต่อไปที่โบสถ์

เพื่อจะได้เจอกับเบตเพื่อนสมัยเด็กอีกคนของฉัน

แล้ว....

ทะ...ทำไมโบสถ์ถึงได้ใหญ่โตแบบนี้ล่ะ

“นั่นใช่โบสถ์เมื่อตอนนั้นจริงๆน่ะหรอ เมื่อก่อนมันทั้งเก่าแล้วก็โทรมแถมเล็กกว่านี้ตั้งเยอะ”

“เพราะได้รับเงินสนับสนุนจากดยุกลินคอล์นล่ะนะ ถึงได้กลายมาเป็นโบสถ์แบบนี้”

เอ๋ ท่านพ่ออีกแล้วหรอ?

คนที่สนแต่งานและเรื่องที่ทำแล้วได้ผลตอบแทนอย่างท่านพ่อจะมาทำเรื่องแบบนี้ได้

ตระกูลของฉันรวยขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย ก็รู้อยู่หรอกว่าท่านพ่อไม่ใช่ธรรมดา แต่การที่บริจาคเงินจนเปลี่ยนโบสถ์เล็กๆ โทรมๆ จนมีสภาพแทบไม่ต่างจากราชวังขนาดย่อมเลยนะ นี่ใช่รวยธรรมดาแน่หรอ

เอาเถอะ

ท่านพ่อเป็นคนที่เดาใจยากอยู่ด้วยสิ บางทีท่านอาจจะอยากได้อำนาจจากทางโบสถ์มาสนับสนุนตัวเองบ้างก็ได้

ใช่ ใช่แล้ว

ท่านพ่อกำลังจะทำการปฏิวัติเลยต้องการคนหนุนหลัง ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี

ไม่ผิดแน่นอน

ถ้าหากซื้อใจคนของโบสถ์และชักชวนมาร่วมมือกันได้ก็ไม่มีใครหยุดท่านพ่อได้

ฉันพยักหน้าขึ้นลงและยิ้มอย่างพอใจที่ตัวเองรู้แผนที่ท่านพ่อวางเอาไว้

ที่จริงแผนการจะที่ท่านพ่อจะปฏิวัตินั้นตัวฉันในโลกนี้ไม่ได้รับรู้ล่วงหน้าเลยแม้แต่น้อย เพราะมัวแต่ลุ่มหลงไปกับความรักจอมปลอมนั่นจนละเลยครอบครัวแสนสำคัญเพียงคนเดียวอย่างท่านพ่อไป

แต่ว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้มันไม่มีในฉากเกมที่ฉันเคยเล่นอีกแล้ว

เป็นการกำหนดเรื่องโดยตัวฉันเองและฉันจะเป็นคนกำหนดชีวิตของตัวเอง

จะไม่ยอมให้ใครต้องตายเด็ดขาด

ทั้งๆ ที่ฉันเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างแต่สีหน้าของคลาวด์กับมองฉันด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

ประมาณว่ายายนี่เป็นอะไรไปอยู่ๆ ก็ยิ้มอยู่คนเดียว

เพราะว่านายไม่เข้าใจยังไงล่ะ

เขตเทราเรีย

คฤหาสน์ตระกูลไลออนฮาร์ท

“ป่านนี้เด็กคนนั้นคงจะได้เจอกับคลาวด์และเบตแล้วหรือยังนะ”

“ปะป๊าๆ เบตบอกว่าโบสถ์ที่เบตอยู่เก่ามากและไม่มีเงินพอจะเลี้ยงทุกคน แองจี้ขอเอาเงินของแองจี้ไปให้เบตได้ไหม”

“ป่านนี้เด็กคนนั้นจะได้เห็นโบสถ์หลังใหม่นั่นหรือยังนะ”

ทุกครั้งที่ได้ไปที่นั่นเด็กคนนั้นก็มักจะขอตามเราไปด้วยทุกครั้ง

แล้วในทุกๆ เย็นก็จะกลับมาเล่าว่าตัวเองเล่นอะไรกับเพื่อนบ้าง

แต่ว่าที่เมืองนั้นยังไม่ได้รับพัฒนาทำให้ยังมีพวกอันทพาลที่คอยข่มเขงรังแกคนอื่นอยู่

ถ้าเกิดให้แองจี้ไปเล่นตอนที่ไม่ได้คอยตามดูอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ ก็เลยจัดการทุ่มเงินเพื่อพัฒนาเมืองนั้นไป

ส่งทหารยามเข้าไป

แล้วก็เห็นว่าทำเลดีก็เลยช่วยเรื่องการสร้างท่าเรือไว้ให้ด้วย เพราะคิดว่าคงได้ใช้แน่นอนในอนาคต

ที่ทำทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วงแองจี้นะ แองจี้จะชมปะป๊าบ้างก็ได้นะ

อยากจะพูดแบบนั้นอยู่หรอก

แต่พอแองจี้โตขึ้นแล้วไม่เรียกว่า ปะป๊า เหมือนแต่ก่อนนี่ก็ทำให้เหงาเหมือนกันนะ

“อะแฮ่ม นายท่านครับเตรียมรถสำหรับกลับเมืองหลวงไว้แล้วครับ”

“อืม ยะ...ยังมีเรื่องที่ต้องสะสางให้เสร็จอยู่ที่เมืองหลวงอีกหลายเรื่องด้วยสิ”

หลังจากที่น้อมส่งดยุกลินคอล์นแล้วก็ไปทำหน้าที่ของตนเองตามปกติของงานพ่อบ้าน

“ที่จริงอยากจะไปเมืองท่านั้นกับคุณหนูแต่ด้วยที่ว่าต้องรักษาเกียรติของดยุกประจำตระกูลเอาไว้เลยไปไม่ได้”

พลูลี่ผู้นี้สงสารแทนจริงๆ ท่านดยุก

ทันทีที่เข้าไปใกล้โบสถ์ฉันก็ได้ยินเสียงของพวกเด็กๆ ดังมาแต่ไกล

เป็นน้ำเสียงหัวเราะสนุกสนานตามประสาพวกเด็กๆ ที่เล่นกัน

ยังมีอยู่สินะ พวกเด็กๆ น่ะ

ที่โบสถ์ของเมืองหลวงมีโบสถ์อยู่หลายแห่งด้วยกันแต่ไม่มีพวกเด็กๆ อยู่เลยแม้แต่คนเดียว

เพราะพวกขุนนางที่มาร่วมงานทางโบสถ์ไม่ชอบพวกเด็กกำพร้าพวกนั้นจึงสั่งโบสถ์ไป

ที่จริงพวกขุนนางไม่สิทธิ์ก้าวก่ายเรื่องของทางโบสถ์ด้วยซ้ำแต่คงจะมีเรื่องเงินๆ ทองๆ เข้ามาเกี่ยวด้วยแน่นอน

แต่ท่านพ่อไม่ใช่คนแบบนั้น ท่านพ่อไม่มีทางทอดทิ้งพวกเด็กๆ พวกนี้ได้ลงคอหรอก

ประตูบานใหญ่เปิดออก

ในที่สุด...ฉันก็จะได้เจอเบต

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด