ตอนที่แล้วเล่ม1 : บทที่ 48 – พินิจพิเคราะห์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม1 : บทที่ 50 – การเปลี่ยนรูปร่าง

เล่ม1 : บทที่ 49 – การปะทะกันอย่างรุนแรง


กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 49การปะทะกันอย่างรุนแรง

หน้าผาทวิลโบเรียเป็นหุบเขาลึกที่อยู่ถัดมาจากเทือกเขาเล็กๆ ที่เรียกว่าเทือกเขาทวิลโบเรีย ทางเดินแคบๆ แบ่งออกเป็นสองทาง และเนื่องจากขบวนไม่สามารถปีนเขาได้ จึงจำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง เมื่อพวกเขาเข้าใกล้เส้นทางก็เริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันจางๆ

พวกเขาระแวดระวังหากโทเบียสคิดวางแผนจะซุ่มโจมตีพวกเขาบริเวณนี้ การต่อสู้ที่เกิดขึ้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาจะใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศเมื่อศัตรูโจมตีมาจากบนเทือกเขาและถอยกลับตามแผน

เควินกำลังจ้องเขม็งไปที่หุบเขาและโนอาห์ก็เดินมาข้างๆ เขาเพื่อถามสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจเมื่อได้เห็นสีหน้าของเขา

“ข้างล่างนั่นมีอะไรหรือ?” โนอาห์ถามและทอดสายตาไปยังจุดที่เควินมอง

“ข้าก็ไม่มั่นใจ ข้ารู้ว่าข้างล่างนั่นมีการสะสมของ”ลมหายใจ“ที่สูงมากแต่ตรงนั้นเป็นอาณาเขตของสัตว์เวทมนตร์ ครั้งล่าสุดที่มีคนพยายามจะกวาดล้างที่นี่และตั้งเป็นคฤหาสน์ เราก็ได้เสียตระกูลขุนนางขนาดกลางในโลกแห่งผู้ฝึกตนไปอีกหนึ่งตระกูล”

โนอาห์รู้สึกตกใจเล็กน้อย หน้าผาแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่น่าขุนลุกขึ้นมาในสายตาเขาทันที

“ท่านจะรับมือยังไงหากมีการซุ่มโจมตี?”

พวกเขาจะต้องปะทะกับชายผู้ที่ปรารถนาจะยึดตำแหน่งอัครบิดรของตระกูลขุนนางขนาดกลาง หากหุบเขาแห่งนี้จะเป็นจุดที่ดีที่สุดสำหรับการซุ่มโจมตีสำหรับเขา โนอาห์ก็มั่นใจว่ามันจะเกิดการปะทะขึ้นอย่างแน่นอน

“เราถอยไม่ได้และเราก็ยอมให้พวกมันต้อนเราเข้าไปในหุบเขาไม่ได้ ข้าจะโจมตีทันทีที่ข้าพบศัตรูส่วนเจ้าคอยเป็นกำลังเสริมกับคนของข้าเพื่อปกป้องขบวนรถม้าของนายน้อย คนอื่นๆ มีอิสระที่จะใช้ชีวิตเพื่อที่จะให้ข้าได้มีเวลาฆ่าศัตรูทุกคนทิ้ง”

คำกล่าวถึงการต่อสู้ที่อาจจะหนักหนาจากปากของเควินนั้นทำให้โนอาห์ตัวสั่นเล็กน้อย

‘ตอนนั้นการขอโทษคือสิ่งกระทำที่ดีที่สุดแล้วที่ฉันเลือกทำ’ ความมั่นใจของเขาที่มีต่อเควินลดลงอย่างมาก ‘อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงหัวหน้าของผู้พิทักษ์’

ขบวนเข้าสู่ทางเดินและกลุ่มทหารก็ตั้งรูปขบวนพร้อมสำหรับการโจมตี โนอาห์อยู่บนหลังคารถม้าของเบซิลในท่าหลับตา ตั้งสมาธิไปยังประสาทสัมผัสเพื่อสัมผัสถึงศัตรูที่อาจจะกำลังใกล้เข้ามา

เส้นทางไม่ยาวมาก หากคงความเร็วไว้เท่านี้ก็จะผ่านไปได้ภายในหนึ่งวัน แต่ในทุกๆ นาทีที่ผ่านไปกลับรู้สึกยาวนานไปชั่วกัลป์

ความเข้มข้นของ “ลมหายใจ” เพิ่มขึ้นตั้งแต่พวกเขาเข้าสู่เส้นทางนี้ และดูเหมือนจะมาถึงจุดสูงสุดของเส้นทางแล้วเมื่อพวกเขาเดินทางมายังจุดกึ่งกลางพอดี

ขณะนั้นเองก็มีบางอย่างเกิดขึ้น

กระสุนน้ำพุ่งเข้าใส่ผู้ฝึกตนคนหนึ่งใกล้ๆ กับโนอาห์และเจาะทะลุกะโหลกศีรษะของเขา ชายคนนั้นล้มลงกับพื้นและตายในทันที

ไม่มีใครในขบวนทันสังเกตเห็นการโจมตีที่เข้ามาเลยและเกิดเสียงตกใจตามมาหลังจากที่ทหารคนนั้นล้มลง

“จอมเวทย์!”

โนอาห์โพล่งออกมาทลายความเงียบด้วยการเตือนขณะรีบชักดาบออกมาและพุ่งสายตาไปยังทิศทางที่คาดว่าการโจมตีมาจากทางนั้น เขาไม่รู้สึกถึงการโจมตีของศัตรูที่เข้ามาเลยซึ่งหมายความว่าผู้โจมตีมีความเชี่ยวชาญด้านพลังงานจิตสูงกว่าเขา!

กลุ่มผู้ปกป้องขบวนกำลังเข้าสู่ความโกลาหลจากนั้นเควินก็ตะโกนให้พวกเขาสงบลง

“เข้าประจำที่! มุ่งหน้าไปตามเทือกเขา! ตามข้ามา!”

เขาประจำอยู่ทัพหน้าและมุ่งหน้าตรงไปยังเทือกเขาพร้อมกับค้อนใหญ่ในมือทั้งสองข้าง กระสุนน้ำอีกนักถูกยิงมายังทิศทางของเควิน แต่เขาเหวี่ยงค้อนและกระสุนถูกทำลาย จากนั้นเขาก็กระโดดไปยังตำแหน่งที่กระสุนนั้นพุ่งมา ขณะนั้นเอง กระสุนอีกสองนัดก็พุ่งเข้ามาหาเขาแต่ถูกขวางไว้ด้วยหน้าค้อน จากนั้นเควินก็เหวี่ยงค้อนฟาดพื้นตรงหน้า

ตู้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นและเกิดหลุมลึกห้าเมตรบนพื้น

“เออร์วินออกมาสู้กันซึ่งๆ หน้า อย่ามัวแต่หลบซ่อนอยู่เลย!”

ดูเหมือนว่าเควินตะโกนออกไปในอากาศแต่จากนั้นก็มีใครบางคนปรากฏตัวออกมาท่ามกลางหมอกควันที่โพยพุ่งออกมาจากแรงกระแทก

“เจ้าไม่เคยเปลี่ยนเลยนะเควิน ทุ่มสุดตัวเสมอ ซึ่งข้าเกรงว่าครั้งนี้มันจะไม่เป็นไปดั่งที่เจ้าหวัง”

ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งในชุดผ้าคลุมสีเขียวเดินออกมาจากควันและเผชิญหน้ากับเควิน เออร์วินยกมือขึ้นและกระสุนน้ำก็ถูกยิงออกมาจากมือข้างนั้น เควินทำลายกระสุนสองนัดนั่นและพุ่งไปยังทิศทางของเออร์วินด้วยเจตนาฆ่าอันแรงกล้า

เมื่อเออร์วินเห็นชายร่างยักษ์วิ่งตรงเข้ามา แต่เขาเพียงแค่ยืนอยู่กับที่และปล่อยห่ากระสุนออกมา กระสุนส่วนใหญ่ถูกทำลายด้วยค้อนของเขาแต่ก็มีบ้างบางนัดที่ยิงถูกตัวเควินและทิ้งบาดแผลเล็กๆ ไว้เป็นที่ระลึก

เมื่อเควินใกล้จะถึงตัวจอมเวทย์ สายน้ำสามสายก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นและมัดตัวเขาไว้เพื่อขัดขวางการเคลื่อนไหว

เออร์วินพยักหน้ากับภาพชายที่ติดกับดักและพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ

“อย่างที่คิดไว้เลยกับร่างกายอันดับสี่ กระสุนน้ำของข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถึงเจ้าจะตายไปจากสถานการณ์ครั้งนี้ก็คงจะเป็นปัญหาใหญ่น่าดู แต่ถึงกระนั้นชีวิตของเจ้าก็ไม่ได้มีความสำคัญต่อท่านโทเบียสอยู่ดี”

ทันทีที่เขาพูดเช่นนั้น กลุ่มทหารที่สวมเกราะสีเขียวก็วิ่งออกมาจากจุดต่างๆ บนเทือกเขาโดยมุ่งเป้าไปยังกลุ่มของผู้คุ้มกันขบวน

เออร์วินใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเพื่อดึงผู้ที่แข็งแกร่งของกลุ่มผู้คุ้มกันออกมาจากกลุ่ม จากนั้นกลุ่มผู้คุ้มกันขบวนก็จะเหลือแค่ผู้ที่อ่อนแอ

ทหารฝ่ายศัตรูจำนวนสิบห้าคนโถมเข้าใส่แนวป้องกันจากทหารธรรมดา ซึ่งไม่มีใครเลยที่สามารถยับยั้งศัตรูไว้ได้ ทหารธรรมดาที่ขวางทางอยู่ถูกฆ่าตายหรือไม่ก็บาดเจ็บสาหัสจากการที่ศัตรูเพียงหนึ่งคนเหวี่ยงอาวุธของเขา

‘ผู้ฝึกตน!’

จากตำแหน่งที่โนอาห์ยืนทำให้เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดได้อย่างชัดเจนว่าช่วงเวลาของเขาใกล้เข้ามาและตั้งสมาธิอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน รสชาติของการต่อสู้อันเข้มข้นสะท้อนผ่านดวงตาที่เย็นชาทั้งคู่ของเขา

‘ในที่สุดก็ได้ต่อสู้กับผู้ฝึกตนจริงๆ แล้วสินะ ชักอยากรู้แล้วสิว่าจากจุดนั้นฉันเติบโตมาขึ้นมามากแค่ไหนแล้ว’

ทหารของ โทเบียส ลานเซย์ทลายแนวป้องกันแรกมาได้และเข้าปะทะกับทหารของเควิน

โนอาห์ตรวจสอบศัตรูและเลือกชายคนหนึ่งที่ถือขวานใหญ่เป็นเป้าหมาย เขาปล่อยคลื่นลมใส่ชายคนนั้นตามมาด้วยการโจมตีระยะประชิดเมื่อทหารคนนั้นพยายามหยุดการโจมตี เมื่อเขาเห็นคลื่นลมก็ยกขวานขึ้นมากั้น

คลื่นลมถูกทำลายด้วยความรุนแรงและบังคับโนอาห์ยกดาบขึ้นมาขวางขวานที่พุ่งเข้ามาหาเขา

เพล้ง!

ดาบสองเล่มสกัดกั้นการโจมตีอันหนักหน่วงและทำให้โนอาห์กระเด็นออกไประยะหนึ่งก่อนจะพลิกตัวกลับมาตั้งหลักได้อย่างปลอดภัย

ทหารคนดังกล่าวหันไปยังทิศทางของโนอาห์และเกิดความประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นว่าเด็กคนนี้สามารถสกัดกั้นการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย แต่ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ เด็กคนนั้นหันมายิ้มให้เขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด