ตอนที่แล้วตอนที่ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3

ตอนที่ 2


ตอนที่ 2 เด็กหลงทาง

รถม้าเคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์ไลออนฮาร์ทตอนเวลารุ่งเช้าเพื่อที่จะได้เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางก่อนค่ำ

ซึ่งก็คือเมืองท่าอันดับหนึ่งของราชอาณาจักรคูราเซียที่อยู่ในเขตเทราเรียของท่านพ่อ

“ถึงแล้วค่ะ คุณหนู”

เนเน่กล่าวขึ้นพร้อมส่งมือมาให้ฉันเพื่อให้จับมือของเนเน่เพื่อลงจากรถม้าอย่างปลอดภัย เพราะฉันใส่ชุดเดรสแบบมีแขนยาวทำให้เคลื่อนไหวลำบากเล็กน้อย

“ขอบใจนะเนเน่”

อันที่จริงฉันอยากใส่ชุดธรรมดาที่ไม่ใช่แขนยาวเนื่องจากอากาศที่เมืองท่านั้นค่อนข้างร้อนในตอนกลางวัน แสงแดดก็แรง เนเน่เลยให้ฉันใส่ชุดนี้มาแทนเพื่อป้องกันผิวไหม้

แต่ชุดนี้ใส่แล้วมันร้อนจริงๆ นะ

“คุณหนูรอที่ด้านนอกก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะนำเอกสารที่นายท่านฝากมาให้กับสมาคมพ่อค้าก่อนสักครู่ค่ะ”

“อืม”

เอกสารที่ท่านพ่อฝากมาเห็นบอกว่าเป็นเอกสารเกี่ยวกับรายงานเศรษฐกิจทางการค้ากับต่างชาติ ห้ามแกะออกดูเด็ดขาดเพื่อปกกันข้อมูลรั่วไหล

ระหว่างที่กำลังรอเนเน่อยู่นั้นฉันได้เห็นเด็กคนหนึ่งท่าทางน่าจะหลงกับพ่อแม่ล่ะมั้ง

เหมือนฉันเมื่อสมัยเด็กจริงๆ

เมื่อก่อนฉันเองก็เคยหลงกับคุณแม่เหมือนกัน แต่ว่าตอนนั้นก็ได้มีพี่สาวใจดีคนหนึ่งมาช่วยไว้

เธอเดินไปที่ประชาสัมพันธ์แล้วประกาศตามหาคุณแม่ของฉันอย่างจริงจัง ราวกับว่าคนที่หลงไม่ใช่ฉันแต่เป็นพี่สาวคนนั้นแทน

ฉันนึกถึงอดีตแล้วก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กคนนั้น

“หนุ่มน้อย หลงกับคุณพ่อคุณแม่หรอ?”

“ชะ...ใช่ครบ แล้วพี่สาวคือ?”

“อ๋อ พี่สาวก็คือคนที่จะมาช่วยหนุ่มน้อยตามหาคุณพ่อคุณแม่ยังไงล่ะ”

“จริงหรอครับ”

“อื้ม ใช่แล้ว”

เด็กน้อยใช้แขนเสื้อที่ยาวจนถึงข้อมือยกขึ้นมาปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา

ราวกับว่าเขานั้นได้มองเห็นความหวังที่จะได้เจอคุณพ่อกับคุณแม่อีกครั้ง

ฉันจูงมือของเด็กคนนั้นออกไปตามหาพ่อแม่ของเด็กคนนั้นทันที โดยไม่ได้รับรู้ถึงสายตาลึกลับที่แอบมองมาเลยสักนิด

ฉันเดินมายันลานกว้างที่มีน้ำพุพุ่งขึ้นมา

จุดนี้เป็นจุดที่มีผู้คนเดินผ่านไปมาตลอดเวลาทำให้คิดว่าน่าจะมีพ่อแม่ของเด็กคนนี้เดินผ่านมาบ้างหรือไม่ก็ครอบครัวอื่นที่รู้จักเด็กคนนี้

ฉันพยายามถามชื่อพ่อแม่ของเด็กคนนี้แต่ดันจำไม่ได้

รู้เพียงแต่ว่าตัวเองชื่อว่า ไคล์ คุณพ่อชอบกินอาหารที่คุณแม่ทำมากแต่มักจะแอบเอาผักไปทิ้งเป็นประจำ

ส่วนคุณแม่นั้นชอบต่อราคาพ่อค้าในตลาดจนใครเห็นเป็นต้องปิดร้านหนี

ฉันที่ไม่มีทางเลือกจึงต้องตะโตนไปตามสิ่งที่รู้มา

“คุณพ่อของน้องไคล์ที่ชอบทานกับข้าวฝีมือภรรยาแต่แอบเอาผักไปทิ้ง กับคุณแม่น้องไคล์ที่ชอบต่อราคาพ่อค้าจนปิดร้านอยู่แถวนี้หรือเปล่าค๊า!!!!!!”

น่าอายชะมัด

นี่บุตรีดยุกขุนนางชนชั้นสูงสุดรองจากราชวงศ์ต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย

“พี่สาวครับ พอเถอะครับ คนเขามองเยอะแล้วผมอาย”

อาย? ทำไมคนที่อายถึงเป็นเธอล่ะ มันต้องเป็นฉันสิ

ฉันตะโกนต่อไปอีกประมาณ 2-3 รอบ ก็มีผู้ชายกับผู้หญิง 2 คนเดินเข้ามาท่าทางน่าจะเป็นพ่อแม่ของไคล์

“ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยพวกเราตามหาไคล์”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

ฉันย่อตัวลงไปพูดกับไคล์

“นี่ คราวหน้าคราวหลังก็อย่าหลงกับคุณพ่อคุณแม่อีกล่ะรู้ไหม”

“ครับ ขอบคุณนะครับพี่สาว”

“ขอบคุณนะคะพี่สาว”

ตัวฉันในอดีตก็เคยพูดคำคำนี้ออกไปเหมือนกันสินะ

ในตอนนั้นตัวฉันที่ไม่รู้ประสีประสายืนอยู่ที่มุมของห้างร้านแห่งหนึ่งแล้วก็ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยไว้

ถึงจะจำชื่อกับหน้าตาไม่ได้แล้วก็ตามแต่ฉันจำคำพูดติดตลกของเธอคนนั้นได้

“ไม่เป็นไรจ้ะ แต่คราวหน้าห้ามหลงอีกนะ มันน่าอาย”

ไคล์เดินจับมือคุณแม่แล้วหันหลังมาโบกมือให้กับฉัน

ภาพนี้สินะที่ผู้หญิงคนนั้นได้เห็น มันเป็นภาพที่ดูแล้วอบอุ่นจริงๆ ภาพของครอบครัวที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งเนี่ย

“ไปกันเถอะเนเน่”

เงียบ....

ปกติแค่ฉันเรียกไม่กี่คำเนเน่ก็มักจะตอบรับอย่างรวดเร็ว แต่ทำไมครั้งนี้ถึงไม่ตอบอะไรเลยล่ะ

มันก็ไม่แปลกที่เธอจะไม่ตอบ เพราะเธอไม่ได้อยู่ที่นี่

“แล้วนี่ฉันอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย” พึมพำ

แสงสว่างค่อยๆ มืดลง ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้ากำลังถูกยอมให้กลายเป็นสีดำ

ฉันกำลังหลงทาง

คิดเป็นอย่างอื่นอีกไม่ได้แล้วนอกจากหลงทาง เผลอช่วยเด็กคนนั้นตามหาพ่อแม่จนเวลาผ่านไปนานขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ป่านนี้เนเน่คงกำลังหัวหมุนอยู่แน่เลยที่ฉันหายตัวไป

“ยังเป็นคนที่ใจดีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยสินะ”

“....”

คนที่มาปรากฏตัวตรงหน้าฉันเป็นผู้ชายอายุน่าจะใกล้เคียงกับฉัน

เขาพูดจาเหมือนเรารู้จักกัน

ฉันพึ่งมาถึงเมื่อนี้ยังไม่ทันได้คุยกับใครเลยนะ อันที่จริงคนที่ได้เจอและคุยด้วยก็มีแค่ไคล์กับคุณพ่อละคุณแม่ของไคล์เท่านั้น

หลังจากที่ทักทาย และล่ำลากันก็ยังไม่ได้พบใครอีกเลย

“ตามมาสิ จะนำทางไปหาเนเน่ให้”

ฉันไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่พยักหน้าให้เท่านั้น

ฉันเดินตามเขาโดยทิ้งระยะห่างไว้พอประมาณ เผื่อในกรณีที่เลวร้ายที่สุดก็จะได้วิ่งหนีเขาได้

แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่ได้สนใจอะไรฉันเลยสักนิด แล้วเส้นทางที่เขานำทางฉันก็เป็นเส้นทางที่มีผู้คนสัญจรไปมาตลอดทาง

“โอ้ย”

เพราะเส้นทางที่เขาเลือกมีผู้คนสัญจรตลอดทางเลยทำให้มีผู้คนเยอะ ฉันที่เดินสะเปะสะปะก็เลยชนเข้าผู้คนที่มาเดินในตลาดนัดยามค่ำคืน

เป็นเขาที่ยื่นมือมาจับฉันให้เดินตามไป

ความรู้สึกรู้สึกนี้มันอะไรกัน เป็นความรู้สึกที่แสนจะคุ้นเคยเมื่อนานมาแล้ว

เหมือนเมื่อก่อนจะเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้กับฉันตอนที่พึ่งมาเมืองท่าแห่งนี้ครั้งแรก

ฉันถูกเขาพามาจนถึงที่ที่หนึ่ง คล้ายกับคฤหาสน์แต่เล็กกว่า

“คุณหนู”

เนเน่รีบวิ่งเข้ามาหาฉันทันทีที่ฉันมาถึง

เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาปล่อยมือฉัน

“คุณหนูหายไปไหนมาคะ หลังจากที่ดิฉันกลับออกมาก็ไม่เจอคุณหนูแล้ว ดิฉันตกใจมากเลยนะ”

“ขอโทษนะเนเน่ พอดีฉันไปช่วยเด็กหลงทางเอาไว้น่ะ”

“สมกับเป็นคุณหนู”

“ต้องขอบคุณเขา....”

“หายไปไหนมาคลาวด์ พ่อใช้ให้แกไปทำงานแต่กลับไม่เห็นหัว เล่นหายไปตั้งแต่บ่ายยันค่ำ”

คลาวด์? คลาวด์อย่างงั้นหรอ

“นิดหน่อยพ่อ พอดีไปช่วยเด็กหลงไว้คนหนึ่ง”

เด็กหลง? หมายถึงฉันหรอที่พูดน่ะ?

หลังจากนั้นคลาวด์ก็โดนคุณพ่อดุเสียยกใหญ่

เหตุการณ์แบบนี้มันทำให้นึกถึงช่วงเวลาสมัยเด็กจริงๆ ทุกครั้งที่คลาวด์แอบหนีคุณพ่อมาหาฉันและทุกครั้งที่ถูกจับได้ก็จะโดนดุยกใหญ่

“ยินดีต้อนรับครับคุณหนูแองเจล่า พอดีพึ่งได้รับแจ้งว่าคุณหนูจะมาพักผ่อนที่เมืองท่าของเรา ทางนี้เลยไม่ได้เตรียมการต้อนรับอย่างสมเกียรติ ต้องขออภัยจริงๆ ครับ”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเองที่ผิด มาโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า”

“ไม่หรอก ยังไงทางเราเองก็ควรเตรียมพร้อมไว้ตลอดเช่นกัน ยังไงวันนี้เชิญคุณพักที่บ้านของผมก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าทางผมจะช่วยขนของไปยังบ้านพักให้”

“อื้ม รบกวนด้วยนะ”

ฉันและเนเน่ถูกคุณพ่อของคลาวด์เชิญให้มารับประทานอาหารร่วมกัน

ในระหว่างทานอาหารฉันพยายามให้เนเน่มานั่งทานด้วยกันกับฉัน ไม่ต้องรอให้ฉันทานเสร็จก่อนตามปกติ

เพราะวันนี้เนเน่ใช้พลังงานกับการตามหาฉันไปเยอะมาก

แต่ก็ไม่เป็นผล

ฉันได้แต่ทำใจยอมแพ้ ในเมื่อเนเน่ยืนกรานว่าจะรอให้ฉันทานเสร็จก่อน ฉันเลยรีบทานแต่ยังคงไว้ซึ่งมารยาทของคุณหนูผู้สูงศักดิ์

แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง ซะที่ไหน

ตกดึกฉันนอนปวดท้องเกือบทั้งคืนเพราะรีบทานมากเกินไปจนกระเพาะย่อยไม่ทัน

ฉันที่นอนไม่หลับเลยเดินออกจากห้องมาเดินเล่นรับลม

ที่เมืองท่าแห่งนี้ในตอนกลางคืนนั้นแทบจะไม่มืดเลยเพราะกลุ่มดาวที่เรียงตัวกันบนท้องฟ้ามากมายนั้นกำลังส่องแสงลงมา

“อิจฉาเมืองนี้นิดๆ เหมือนกันนะ ที่มีวิวสวยๆ กับบรรยากาศดีๆ แบบนี้”

ตอนกลางคืนก็ไม่ได้มืดสนิทจนมองไม่เห็นกลับกันบรรยากาศในตอนกลางคืนกลับต่างจากตอนกลางวันลิบลับ

“คุณหนูคะ ออกมาเดินในสภาพแบบนั้นเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกค่ะ”

“เอ๊ะ เนเน่ ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ”

“ดิฉันเห็นคุณหนูรีบทานอาหารเมื่อตอนเย็นคิดว่าน่าจะมีการปวดท้องบ้าง เลยชงชาสมุนไพรมาให้ค่ะ”

“ขอบใจนะ”

ฉันกล่าวและรับถ้วยที่ใส่ชามาดื่ม

ชาของเนเน่นี่ไร้ที่ติจริงๆ เป็นชาที่หอมและมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์จนน่าจะไปเปิดร้านน้ำชาได้เลยล่ะ

“วันนี้ทั้งวันต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้เดือดร้อน”

“ไม่หรอกค่ะ สมแล้วล่ะค่ะที่เป็นคุณหนูที่ดิฉันรับใช้”

“พูดแบบนั้นเดี๋ยวฉันก็เสียคนพอดี”

“ใช่”

เสียงของคลาวด์ดังแทรกขึ้นมาระหว่างการสนทนาของฉันและเนเน่

“นายพูดอะไรน่ะ คลาวด์”

เนเน่รีบพูดตอบทันที

“ไม่จริงหรือไง ถ้าเกิดแองเจล่าไม่ได้ฉันช่วยเอาไว้ป่านนี้อาจจะหาทางกลับไม่ได้แล้วก็ได้”

“พูดจากับคุณหนูเติมคำว่า”ท่าน“เขาไปด้วยสิ แล้วก็นะ ไม่ใช่นายหรือไงที่คอยตามดูคุณหนูอยู่ตลอดทั้งวันน่ะ”

“นี่ ไหนสัญญาว่าจะไม่พูดไงล่ะเนเน่”

คลาวด์ที่เดิมทีเดินเข้ามาด้วยท่าทางจริงจังถูกเนเน่แฉความจริงออกมา

อารมณ์คล้ายกับเพื่อนที่กำลังจะแกล้งเพื่อนแต่ถูกเพื่อนอีกคนสกัดไว้ทัน

ทำให้นึกถึงสมัยก่อนขึ้นมาอีกแล้วสิ

ทุกครั้งที่คลาวด์ทำท่าจะแกล้งฉัน ก็จะมีเนเน่คอยอกโรงปกป้องตลอดทุกครั้ง แม้คลาวด์จะไม่ได้มีเจตนาร้ายก็ตามที

“ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ ฉันจะมาปรึกษาเรื่องเบตน่ะ”

“เบต? เบตทำไมหรอ”

“ตอนนี้เบตกำลังจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นซิสเตอร์แล้ว”

“งั้นหรอ น่าดีใจแทนเบตนะ เบตเองก็อยากเป็นซิสเตอร์ด้วยสิ”

“ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่ามีข่าวว่ามีขุนนางใช้เงินซื้อตัวพวกซิสเตอร์ไปน่ะสิ”

“ซื้อตัว? งั้นการแต่งตั้งของเบตก็....”

“อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันก็ได้”

ดูเหมือนแผนการที่จะใช้เวลาช่วงนี้ในการพักผ่อนจะต้องเป็นอันพับเก็บไปก่อน

เพราะตรงหน้าฉันกำลังมีปัญหาที่กำลังเข้ามาอยู่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด