ตอนที่แล้วChapter II Scene 12
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter II Scene 14

Chapter II Scene 13


Chapter II Scene 13

“อะ-อะไรกัน!?” เสียงสั่นคลอนของเทรย์เวอร์ดังขึ้น หลังจากถูกคลื่นสีดำซัดกระเด็นเป็นใบปลิวไป

โดยที่ดาร์เลเน่กับโอเรียนน่านั้น ทั้งคู่ได้สลบเหมือดไปแล้ว การโจมตีมันรุนแรงมาก แต่ผลของมันก็ลดลงจากโล่แสงของโอเรียนน่า ทำให้ไม่ถึงตาย

อัศวินโครงกระดูกที่มีความเสียหายและสูญเสียหมวกไปจากการโจมตีทางเวทของดาร์เลเน่ไป แต่มันก็ไม่ได้ทำความเสียหายอะไรแก่มัน แม้แต่น้อย มันไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าบาดเจ็บเลย

ดวงไฟสีแดงที่ลุกโชนในเบ้าตาของมันนั้น ขยับไปทางดาร์เลเน่กับโอเรียนน่าที่นอนไม่ได้สติใกล้เคียงกัน มันสัมผัสได้ถึงชีวิตที่โชนภายในตัวทั้งสอง

“ฆ่า~ ตาย~ซะ~”

ราวกับได้ยินคำโกรธแค้นดังก้องออกมาจากตัวมัน มีออร่าสีดำมืดมนละเหยออกมาจากตัวของมัน ยกเท้าขึ้นค่อยๆเดินไปทางดาร์เลเน่กับโอเรียนน่า

เห็นแบบนั้น เทรย์เวอร์ก็ร้อนใจขึ้น เขาพยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นมาให้ได้ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดคิดจะลุกก็ลุกขึ้นได้ทันท่วงที จนเป็นเพียงการคลานเท่านั้น

“ไม่! หยุดนะ!” เทรย์เวอร์ร้องตะโกนขึ้น พร้อมปาหินใส่เกราะของมัน เพื่อให้มันหันมาสนใจเขาแทนพวกเธอ

แต่มันไม่ได้ผล มันไม่สนใจเทรย์เวอร์และยังคงเดินไปทางดาร์เลเน่กับโอเรียนน่าเช่นเคย ราวกับว่าทั้งสองคนเป็นตัวดึงดูดมันเข้าไปหา

‘ไม่นะ ถ้าเป็นแบบนี้! ตัวฉันมันอ่อนแอ ถ้า ถ้า!’

‘ถ้านายอ่อนแอทำไมไม่แข็งแกร่งขึ้นล่ะ?’

ในห้วงแห่งความคิดอันสิ้นหวังของเทรย์เวอร์นั้นเอง จู่ๆรอบตัวเขานั้น ก็ราวถูกหยุดเวลาเอาไว้ ทุกอย่างทุกหยุดนิ่ง

เทรย์เวอร์ตกใจกับสิ่งนี้เป็นอย่างมาก และหันไปรอบๆเพื่อหาตัวตนที่ตอบโต้เขา

‘ถ้าเจ้ารู้ว่าอ่อนแอ งั้นทำให้เจ้าถึงไม่แข็งแกร่งขึ้นซะล่ะ? นั้นสินะ งั้นข้าจะช่วยเจ้าเอง’

จู่ๆก็มีเงาร่างของสิ่งมีชีวิตสีทองสว่างไสวด้านหน้าเทรย์เวอร์

เธอ

ยื่นมือมาทางเทรย์เวอร์

เทรย์เวอร์นั้นไม่รู้จักถึงตัวตนที่ปรากฏด้านหน้าเขา แต่เธอนั้นทำให้เขารู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยและรู้สึกว่าเธอจะสามารถช่วยเขาได้ ความรู้สึกนั้นเองที่ทำให้เทรย์เวอร์ยื่นมือไปจับมือของเธอ

ความรู้อันอบอุ่นได้ไหลเข้ามาสู่ร่างกายของเทรย์เวอร์ ก่อนจะมีตราประทับรูปดาบและปีกปรากฏขึ้นหลังมือขวาเขา

‘จงตามหาข้า และมารับข้า ข้านั้นได้เลือกเจ้าแล้วมนุษย์หนุ่ม อย่าได้ทำให้ข้า…ผิดหวังเช่นเดียวกับอดีตของเผ่าพันธ์เจ้า’

เวลาได้กลับมาเดินอีกครั้ง อัศวินโครงกระดูกได้เดินเข้ามาใกล้เป้าหมายของมันแล้ว แต่ก่อนที่มันจะได้ทำอะไรพวกเธอ จู่ๆก็มีเปลวเพลิงสีทองลุกไหม้ดาร์เลเน่กับโอเรียนน่เสียก่อน ทำให้อัศวินโครงกระดูกรีบถอยหลังออกไป

แขนซ้ายของมันกำลังถูกเพลิงสีทองลุกไหม้ มันสามารถรับรู้ถึงอันตรายจากเปลวเพลิงสีทองนี้ได้ ไร้ความลังเลที่จะตัดแขนซ้ายทิ้งไป

ถึงแม้ว่าเปลวเพลิงสีทองนี้จะแผดเผาอัศวิน แต่มันกลับไม่ทำร้ายร่างกายดาร์เลเน่กับโอเรียนน่า แถมมันยังรักษาบาดแผลและอาการบาดเจ็บให้ด้วย เป็นดั่งกำแพงที่ไม่อาจทำลายได้

อัศวินโครงกระดูกหันไปหาต้นตอของเปลวเพลิงสีทอง และนั้นก็คือเทรย์เวอร์ที่ลุกขึ้นยืนมาพร้อมเพลิงสีทองที่ลุกท่วมตัวเขา บาดแผลของเขาถูกรักษาในอัตราความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ เพียงไม่กี่วิ อาการบาดเจ็บของเทรย์เวอร์ก็หายสนิทราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้น

“สิ่งชั่วร้ายนิรันดร์ จงคุกเข่าต่อหน้าเปลวเพลิงนี้! เพื่อรับคำตัดสินของความยุติธรรม!” จบคำร่ายนั้น เปลวเพลิงบนร่างกายเขาก็ถูกรวบรวมไปที่ดาบสีเงินของเทรย์เวอร์

ถ้าเปลวเพลิงสีดำของริชาร์ดสามารถแผดเผาได้ทุกสิ่ง บนโลกนี้ งั้นเปลวเพลิงสีทองของเทรย์เวอร์ก็จะแผดเผาเพียงสิ่งที่ชั่วร้ายของโลกใบนี้เท่านั้น

อัศวินโครงกระดูกไม่มีความลังเลที่จะพุ่งเข้าหาเทรย์เวอร์

“จงรับโทษขอตน ด้วยเปลวเพลิงสวรรค์!” เทรย์เวอร์ตะโกนออกมา ก่อนที่จะเหวี่ยงดาบลง

เปลวเพลิงสีทองก็พุ่งเข้าหาอัศวินโครงกระดูกในทันที มันถูกแผดเผาไปทั้งตัว เกราะของอัศวินโครงกระดูกนั้นถูกหลอมละลายเป็นของเหลว ทำให้มันเดินช้าลง น่าแปลกที่เปลวเพลิงสีทองนั้นมีความร้อนที่สามารถหลอมละลายโลหะได้ แต่มันกลับไม่ได้เผาสิ่งอื่นนอกจากอัศวินโครงกระดูกเลย

ในที่สุด ชุดเกราะของมันก็ถูกหลอมละลายจนหมดสิ้นรวมทั้งดาบใหญ่มันด้วย ตอนนี้มันมีแค่โครงกระดูกที่กำลังถูกแผดเผาต่อไปพร้อมค่อยๆเดินมาทางเทรย์เวอร์อย่างช้าๆ

ร่างกายและจิตใจของมันถูกแผดเผา ถูกชำระ และมันก็สามารถเดินมาหาเทรย์เวอร์จนได้ พร้อมวางมือขวาที่เหลือของมันไว้ที่ไหล่ขวาเทรย์เวอร์

เทรย์เวอร์ไม่มีความคิดที่จะโจมตีอีกครั้ง เพราะเขารู้ว่าอัศวินโครงกระดูกไม่ได้มีความคิดที่จะโจมตีอีกแล้ว

เทรย์เวอร์นั้นไม่ได้เห็นอัศวินโครงกระดูกเป็นเพียงกระดูกต่อไป แต่เขาเห็นเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากการออกกำลังกายอย่างดี

“ช่วย… โปรดช่วย ท่านผู้นั้นด้วย ปลดปล่อยเขา ออกจากคำสาปแช่งนั้นที…” ชายวัยกลางคนพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เหมือนกับว่ากำลังแบกรับบาปอะไรบางอย่างอยู่

“ผมสัญญา ถ้าผมเจอผมจะปลดปล่อยเขาให้” เทรย์เวอร์รับปากด้วยเสียงที่มุ่งมั่นตั้งใจ

ชายวัยกลางคนได้ยิ้มออก เขาหลับตาลงและพูดขอบคุณเทรย์เวอร์ซ้ำไปซ้ำมา ก่อนที่ร่างกายที่กลับมาเป็นโครงกระดูกจะค่อยๆเป็นฝุ่นธุลีไป

ขอบคุณ… ขอบคุณ…

เมื่อทุกอย่างจบลง เทรย์เวอร์ก็ล้มลงไปพร้อมกับอาการหายใจรุนแรง มีเหงื่อท่วมตัวเขา ตอนนี้เขานั้นเหนื่อยมากทั้งกายและใจ แต่เขาไม่สามารถสลบหรือหลับได้ เพราะเขานั้นยังต้องดูแล และระวังภัยด้วย

เปลวเพลิงสีทองที่เคยลุกโชน ก็ได้ดับหายไปแล้ว

5 นาทีต่อมา ดาร์เลเน่กับโอเรียนน่านั้นก็ได้สติขึ้นมา พวกเธอรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย

“ไง ตื่นกันแล้วเหรอ” เทรย์เวอร์ถามขึ้น โดยที่เขานั้นมีสีหน้าที่ดีขึ้น เขานั่งบนโขดหินอยู่

“…แล้ว เจ้าชุดเกราะ?” ดาร์เลเน่หันไปรอบๆ

“…ไปแล้วล่ะ”

“ทำได้ไง?”

เทรย์เวอร์ตอบข้อสงสัยของดาร์เลเน่ด้วยเปลวเพลิงสีทองที่ลุกโชนขึ้นบนมือขวาเขาเอง

“ไฟสีทอง เมื่อตอนนั้น?” ดาร์เลเน่กับโอเรียนน่าจำเพลิงสีทองนี้ได้ ก็มันเป็นสาเหตุที่ริชาร์ดแขนขาดนี่

เทรย์เวอร์เดินเข้าไปใกล้พวกเธอทั้งสอง ก่อนยื่นไฟสีทองไปทางดาร์เลเน่และโอเรียนน่า โดยที่ดาร์เลเน่กับโอเรียนน่ามีท่าทีที่กลัวเล็กน้อย

“มันจะไม่ทำร้ายคนสำคัญกับพวกพ้องฉันหรอกนะ” เทรย์เวอร์พูดออกมา

“จริงด้วย ไม่ร้อย แค่อุ่นๆเอง” ดาร์เลเน่พึมพำออกมาเหมือนยื่นมือไปสัมผัส ก่อนที่โอเรียนน่าจะทำตาม

“…แต่มัน เผาริชาร์ด?” และโอเรียนน่าก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมา

ก่อนที่ทุกคนจะเงียบ และเทรย์เวอร์ก็ได้พูดขึ้น

“…ก็เพราะจริงๆแล้ว พี่ไม่เคยคิดว่าริชาร์ดเป็นพวกพ้องนะสิ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด