ตอนที่แล้วChapter II Scene 07
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป Chapter II Scene 09

 Chapter II Scene 08


 Chapter II Scene 08

“อ้วก~”

พอมาถึงอาคารหินอ่อนไม่ทันไร โอเรียนน่ากับคุณหนูคายาก็เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนออกมา ดาร์เลเน่เดินเข้าไปดูแลคนทั้งสอง

“…”

ให้ตายเถอะยัยพวกนี้ ไม่รู้หรือไงว่ามาอ้วกแตกต่อหน้าคนอื่นเขา มันจะทำให้คนอื่นอยากอ้วกด้วยน่ะ ไหนบอกว่าเคยเรียนมารยาทกันไง!

ช่างไร้มารยาทโดยแท้

“พวกเธอควรให้เกียรติกับสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากกว่านี้หน่อยนะ” ผมพูดขึ้นมาหน่ายๆ

“กะ-ก็มันน่าขยะแขยงนี้ ที่ต้องมาเดินเหยียบกระดูกพวกนี่!” โอเรียนน่าโวยวายตามปกติของเธอไป

“นั้นสิค่ะ” คุณหนูคายาก็เห็นด้วยกับโอเรียนน่าด้วย

“นี้ๆ” ดาร์เลเน่กระตุกแขนเสื้อผม จนต้องหันไปสนใจเธอ

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่เหรอ?” เธอถามผมงั้น

ผมคิดสักพักกับการหาคำตอบที่ดูฉลาดน้อยและดูโง่ที่สุดอยู่ จะตอบอะไรน่า~ ช่างเถอะ เอาแบบนี้ก็แล้วกัน

“…ความโหดร้ายของสงครามไงล่ะ”

ผมว่างั้น ก่อนจะเลิกสนใจเธอไป ก่อนจะหันหน้าไปที่ประตูหินอ่อน มันมีความเสียหายเล็กน้อยจากการโจมตีหลากหลายรูปแบบ แต่ประตูยักษ์นี้กลับคงอยู่จนถึงทุกวันนี้

ผมวางมือลงบนบานประตูขนาดใหญ่หลายเมตร ใช้พลังกายทั้งหมดจนเกร็งไปทั้งตัวเลยนะ ยังไม่สามารถเปิดประตูหรือทำให้มันขยับได้แม้แต่นิดเดียว! จะทำให้เสียหน้าไม่ได้!

ผมเค้นพลังเวทให้มาเสริมความแข็งแกร่งกับร่างกายตัวเอง จนตอนนี้คุณสามารถมองเห็นว่า ร่างกายของผมกำลังมีอาร่าสีดำระเหยจากร่างกายผม จากนั้น

ครืน~ครืน~!

(เสียงหินเคลื่อนตัว)

เสียงดังเกิดขึ้น เมื่อประตูหิวขนาดมหึมาได้มีการขยับตัวในที่สุด ก่อนที่ผมจะใส่พลังไปทั้งหมดในการผลักประตูออกจนสุดบานเสียงดัง

ตึง!

ผมนี้เหงื่อออกเลย หนักใช่เล่นเลยแฮะ?

และภาพที่ผมหรือทุกคนเห็นภายในครั้งแรก คือซากโครงกระดูกมนุษย์ภูเขาย่อมๆเลยล่ะ กับโครงกระดูกไม่สิ ซากศพของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ในตำนานกว่าพันปี ซากศพของมังกรสีดำนั้นเอง ที่ผิวหนังติดกับกระดูก

“มะ-มะ-มังกร!” และคนแรกที่อุทานออกมานั้นก็คือคุณหนูคายานั้นเอง

ก่อนจะเป็นคนอื่นๆตามมาเป็นหางเลข ทุกคนต่างตื่นตกใจมากกับภาพที่เห็น ผมก็ไม่ต่างมากนัก ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอศพที่สมบูรณ์แบบนี้ด้วย?

“ไม่เหมือนเกมจริงๆด้วย” ผมพึมพำออกมาเบาๆเหมือนกระซิบออกมา

“เมื่อกี้นายพูดอะไรเหรอ?” ดาร์เลเน่ที่อยู่ใกล้ผม ก็ถามผม

“ไม่มีอะไร…” ผมตอบออกไป ก่อนจะเดินไปดูซากมังกร ที่มีดาบและอาวุธต่างๆปักตามร่างกายมังกรดำ

นี้คง…เป็นมังกรระดับสูง คงประมาณองครักษ์ราชวงศ์นี้แหละ การที่จะคงสภาพร่างกายได้ถึงขนาดนี้ แปลว่าต้องมีพลังเวทขนาดไหนกัน และตอนมีชีวิตจะแข็งแกร่งขนาดไหนนะ ใครกันที่ฆ่าตัวตนนี้ได้

ผมแตะที่หัวของมังกร และในตอนนั้นเองที่ผมได้ยินมัน!

ฆ่าเจ้าพวกมนุษย์เน่าเหม็น!! ฆ่ามัน!!

เสียงที่กำลังโกรธเกรี้ยวจากแรงอาฆาตพยาบาทที่รุนแรง มันส่งมาถึงผม! และในตอนนั้นเอง ที่เบ้าตาที่มืดมิดกลับมีแสงสีม่วงลุกโชนขึ้นมา ผมรับรู้ถึงอันตราย!!

ทำให้ผมรีบดีดตัวออกห่างจากซากมังกรในท่วมท้นที

“ออกจากที่นี่!!” ผมตวาดออกไปเสียงดัง

แต่เหมือนว่ามันช้าไปเล็กน้อย เพราะร่างกายที่ไร้ชีวิตของมังกรดำ จู่ๆก็ขยับตัวคำรามกัมปนาทออกมา ทำให้อาคารแห่งนี้ถึงกับสั้นสะเทือนทีเดียว

ไฟสีม่วงที่ลุกโชนในเบ้าตาของมัน มีแต่ความแค้นและอาฆาตพยาบาทในเผ่าพันธ์มนุษย์ ทำไมถึงรู้งั้นเหรอ ก็เพราะผมได้ยินมันไง!

ข้าจะฆ่าพวกมนุษย์โสโครก!! ที่บังอาจมารุกรานดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้!!

ตาย!!!

สิ้นเสียงที่เป็นดังคำตัดสิน มันก็ได้อ้าปากกว้างหันมาหากลุ่มคนในห้องนี้ มีพลังเวทมหาศาลรวมตัวกันตรงปากมังกร ผมรู้มันจะทำอะไร มันกำลังเปิดการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเผ่าพันธุ์ของมัน

ลมหายใจของมังกร

“เฮ้ย! พวกแก หนีสิว่ะ!” ผมตะโกนไปทางกลุ่มเทรย์เวอร์ที่ยืนนิ่งดั่งรูปปั้นดินเหนียว

นั้นคงเป็นผลของการข่มขู่ของพลังที่ต่างชั้นกันมากเกินไป ขนาดผมยังรู้สึกกดดันจนแทบขยับไม่ได้เลย

“ชิ!” ผมก็ไม่สามารถปล่อยให้เหล่าตัวเองตายไปได้ด้วยสิ

ผมชักดาบต้องสาปออกมา ก่อนจะอัดพลังลงไปในใบดาบ จนเกิดการรวมตัวของพลังเวท ผมยังดึงพลังเวทมาจากอากาศด้วย โดยคิดว่าพลังที่ผมรวบรวมมาจะมากพอลบล้างลมหายใจมังกรดำได้

และในตอนนั้นเองลมหายใจมังกรที่ถูกรวบรวมเสร็จ ถูกปล่อยออกมาดั่งเลเซอร์ขนาดใหญ่สีดำ และผมก็ได้ฟันขึ้นเมื่อลมหายใจมังกรมาถึง ผมเกร็งแขนต้านลมหายใจมังกรไว้ จนตัวของผมถึงกับสั่นคลอนในทีเดียว

ก่อนจะใช่พลังทั้งหมดปัดลมหายใจมังกรขึ้นเจาะเพดานจนเป็นรู และพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

ผมไม่ปล่อยโอกาสให้มังกรโจมตีอีก พุ่งตัวออกไป ก่อนจะเหวี่ยงดาบลงคอของมังกรดำ และ

ฉิบ

เกิดเสียงที่ไพเราะขึ้น ก่อนที่หัวของมังกรจะตกลงพื้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ผมพ่นลมออกมาจากทางปากเบาๆเป็นการผ่อนคลาย

ดีนะ พลังเวทส่วนใหญ่ของมังกรได้หายไปตามกาลเวลา ทำให้พลังการโจมตีไม่เป็นอย่างที่เป็น แต่พวกนี้มัน…อ่อนกว่าในเกมอีก คงเพราะมีจิตใต้สำนึก ความกลัว ไม่เหมือนโปรแกรมสินะ และถามผมว่าทำไมไม่กลัวบางล่ะ แน่ล่ะ ผมก็ต้องกลัว แต่…ผมนั้นเห็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดมาแล้ว

ผมกลับศพมังกรที่ตายจริงๆ เข้ามาในกระเป๋ามิติ ดีนะเตรียมมามากพอน่ะ

ผมว่ามันน่าจะใช้ประโยชน์ได้ดี ว่าไหม?

“เป็นไง เริ่มอยากกลับบ้านหรือยังล่ะ?” ผมเดินเหยียบกระดูก เข้าไปถามเทรย์เวอร์กับคนอื่นๆที่หน้าซีดเผือดกันไม่หาย ฟังแล้วผมอาจกำลังพูดเยาะเย้ยตัวเองที่บ้าเอาพวกโง่นี้มาก็ได้

ไม่มีใครตอบผม และไม่มีใครกล้าสบตากับผม โดยเฉพาะเทรย์เวอร์ที่มีความคิดว่ามีพลังเทียบเท่าผม ใช่เขาเคยคิดถูกเมื่อริชาร์ดยังเป็นริชาร์ด แต่ตอนเขาคิดผิดถนัด เพราะริชาร์ดนั้นเป็นอดีตนักฆ่าเสียแล้วสิ นักฆ่าที่กลับมาเลี้ยงหลานยังไงล่ะ

ผมสามารถเห็นสีหน้าเจ็บใจ และหวาดกลัวเทรย์เวอร์ได้ ความคิดสิ้นหวัง ที่มีพลังไม่มากพอ เป็นแค่ตัวไร้ประโยชน์ของตัวไร้ประโยชน์ตัวหนึ่งในหมู่มาก

แต่ด้วยความมุ่งมั่นในการเป็นพระเอกเรื่องราว ทำให้ใจแข็งแกร่งดั่งเดิม

“คราวหน้าจะไม่เป็นแบบนั้นแน่”

“ก็ขอให้เป็นงั้น”

ผมเลิกสนใจตัวไร้ประโยชน์ทั้งหลาย เดี๋ยวนะ ยกเว้นให้ดาร์เลเน่กับไวโอลินแล้วกัน ยังไงพวกเธอก็ยังสามารถนอนกับผมได้

ผมเดินผ่านซากกระดูกมากมายของเผ่าพันธุ์ต่างๆในห้องนี้ ไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่งมีขนาดประตูแตกต่างจากประตูหน้าอย่างมาก เพราะมันเป็นประตูขนาดธรรมดาๆเท่านั้นเอง ถ้าให้เดาหลังประตูนี้คงจะเป็นคลังสมบัติสินะ?

เดี๋ยวนะ เท่าที่ได้เรียนรู้มาเนี่ย มักไม่มีอะไรง่ายสำหรับผมเลยนะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด