ตอนที่แล้วChapter I Scene 03
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter I Scene 05

Chapter I Scene 04


Chapter I Scene 04

จิตใจของโจลี่ คายาเกิดสับสน ในตอนแรกเธอคิดว่าเขาจะหายไปในไม่กี่นาที แต่ใครจะรู้ว่าริชาร์ท เซริกจะไม่ไปไหน

ชายที่เธอกลัวและเกลียดที่สุดในโลกนี้ ได้มาขอพบเธอในตอนเช้า เขาเรียกเธอด้วยความสนิทสนม ทำให้โจลี่เผลอปาแก้วใส่หน้าริชาร์ทไป จนคิ้วแตก ตอนแรกเธอคิดว่าเขาจะโกรธเธอแน่ๆ แต่ไม่ เขาไม่แสดงความโกรธเลย กลับกันเขาลดตัวก้มกราบขอโทษกับเธอ

เป็นที่หน้าตกใจที่ริชาร์ท ลูกชายคนเดียว เป็นถึงว่าที่ผู้นำ กลับมาก้มกราบหัวติดดินเพื่อจะให้เธออภัยเขา โจลี่ตื่นตระหนกพร้อมวิ่งหนีเข้าบ้าน พร้อมปลอบตัวเองว่า ‘เดี๋ยวเขาก็ไป’

ตั้งแต่เช้า จนในตอนนี้ท้องฟ้าก็ได้เปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว ริชาร์ทก็ยังไม่ได้ขยับตัวไปไหนเมื่อเธอลงมากินอาหารเย็นกับครอบครัว เขายังอยู่หน้าบ้านเธอ และดูเหมือนเขาจะไม่ยอมไปง่ายๆด้วย

นั้นยิ่งทำให้โจลี่สับสนขึ้นไปอีกระดับ

“คะ-คุณพ่อคะ? หรือว่าเขาจะตั้งใจมาขอโทษหนูจริงๆ?” โจลี่ถามออกมาอย่างไม่แน่ใจ

เพราะบุคลิกนิสัยของโจลี่นั้น เดิมทีก็เป็นคนอ่อนโยนอยู่แล้ว เพราะงั้นมันเริ่มทำให้เธออ่อนไหวต่อกระทำของริชาร์ท

“พ่อเองก็ตัดสินใจไม่ได้ เพราะงั้นหนูต้องตัดสินใจเอง” บารอนคายาก็ได้พูดออกมา โดยส่วนตัวแล้ว เขารู้ว่าริชาร์ทนั้นต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่ แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ที่สามารถทำให้เขาทำแบบนี้ได้

“ใช่แล้วจ้ะ ลูกต้องคิดให้ดีๆ” คุณนายคายาก็ปลอบลูกสาวตัวเอง

“เจ้าเด็กนั้นคงไปในพรุ่งนี้ก็ได้” บารอนคายาพูดขึ้น

(ชะ-ใช่แล้ว เขาต้องไปแน่ๆ เขาคงไม่อยู่นานแน่)

และวันต่อมา

“ไม่จริงใช่มั้ย!?”

เมื่อยามเช้ามาถึง โจลี่เดินออกมาจากห้องนอนตั้งแต่เช้า เมื่อได้มาใกล้ๆหน้าประตู ก็พบกับริชาร์ทในท่าเดิมที่เดิม

ยิ่งทำให้เธอสับสนเข้าไปใหญ่

“ทำไมไม่ไป ออกไปจากบ้านฉันนะ! อยากตายเหรอ!!” โจลี่ตะโกนใส่ริชาร์ท สีหน้าของเธอเริ่มที่จะบิดเบี้ยว

“งั้นยกโทษให้ฉันสิ” ริชาร์ทตอบออกมาด้วยเสียงที่อ่อนแรงมากกว่าเมื่อวาน

“ไม่มีทาง!” โจลี่กำชับคำพูดตัวเองก่อนเดินหายไปในบ้าน

“นายน้อยครับ โปรดทานอาหารด้วยครับนายน้อยยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เย็นวานแล้วนะครับ” คราวนี้บาสเตียนเป็นคนเดินเข้ามาหาริชาร์ทพร้อมถาดอาหาร

เมื่อเห็นนายตัวเองไม่ตอบมาอยู่หลายนาที บาสเตียนจึงทำใจเดินออกมาด้วยสีหน้าย่ำแย่

โจลี่นั้นเลือกที่จะไม่สนใจริชาร์ทอีกต่อไป เธอยังเชื่อมั่นว่าเขาต้องจากไปเร็วๆนี้เป็นแน่

วันต่อมา…

ริชาร์ทจะคงอยู่ท่าเดิมและที่เดิมไม่ได้ขยับไปไหน เขาไม่กินหรือดื่มสิ่งที่บาสเตียนนำมาให้ และวันนี้โจลี่ก็ได้ตัดสินใจไปเรียน เธอไม่คิดจะสนใจ เธอยังคงเชื่อว่าคนหยิ่งทะนงอย่างริชาร์ทต้องจากไปในเร็ววัน

“ฉันจะไปโรงเรียน ไปมีความสุขกับเพื่อนๆของฉัน” โจลี่พูดออกมาก่อนจะเดินผ่านริชาร์ทไป

ที่โรงเรียนขุนนาง…ของช่วงพักเที่ยง

“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมโจลี่” ชายผมทอง หล่อเหลา เทรย์เวอร์นั้นเอง เขาถามโจลี่ด้วยความเป็นห่วง

ถึงแม้ว่านี้จะเป็นการถามที่แสนแล้วก็ตาม แต่โจลี่ก็มีความสุขที่ทุกคนไม่ได้ตีออกห่างจากเธอ เธอก็ยังคงตอบด้วยรอยยิ้มที่สดใสว่า

“ไม่เป็นๆ”

“จะว่าไปริชาร์ทเจ้าบ้านั้นทำไมถึงยังไม่โผล่หัวมากัน ฉันจะได้ชกหน้ามันสักครั้ง!” ผู้หญิงที่มีผมสีทองพูดขึ้น เธอเป็นน้องสาวของเทรย์เวอร์ ชื่อว่า โอเรียนน่า เธอพูดด้วยอารมณ์ที่เดือดสุดๆ พร้อมทำท่าชกไปด้านหน้า ก่อนจะหันไปถามดาร์เลเน่ “เธอไม่เห็นเจ้าบ้านั้นเลยเหรอ?”

“ค่ะ ฉันไม่เห็นเขาตั้งแต่เย็นสองวันก่อนแล้ว เห็นพ่อบ้านชื่อบาสเตียนบอกว่าเขาไปทำธุระสำคัญอย่าได้ให้ความสำคัญและให้มาเรียนปกติ” ดาร์เลเน่ตอบออกมาด้วยเสียงเรียบๆแต่กลับมีความสุขในน้ำเสียง

“คงหนีไม่พ้นทำเรื่องชั่วๆอยู่ดีแหละ” โอเรียนน่าออกความเห็นด้วยใบน่าที่รังเกียจ

เมื่อเริ่มพูดเรื่องริชาร์ท โจลี่ก็มีสีหน้าลำบากใจออกมาในทันที และคนที่เห็นเป็นคนแรกก็แน่นอน เทรย์เวอร์

“เป็นอะไรเหรอ หรือมันให้เธอรู้สึกแย่?” เทรย์เวอร์ก็พูดเป็นห่วงอีกครั้ง

“เออคือว่า จริงๆแล้ว”

หิว นี้คือความรู้สึกผมในตอนนี้ ทรมานสุดๆ ถึงแม้ว่าตอนเป็นเดชจะเคยอดข้าวมามากแล้ว แต่สำหรับริชาร์ทที่ได้กินเป็นอย่างดี ร่างกายเขาก็เริ่มประท้วงกัน ท้องของผมมันคำรามไม่หยุดหย่อน

แดดร้อนๆแบบนี้ ผมว่ามันคงเที่ยงแล้วสินะ แปลว่าผมอดข้าวมาสามมื้อแล้วสินะ สมองผมเริ่มคิดเรื่องต่างๆน้อยลง คงเพราะอยากประหยัดพลังงานไว้

“นายน้อยโปรดกินเถอะครับ แบบนี้ร่างกายของนายน้อยคงรับไม่ไหวแน่”

นั้นเป็นบาสเตียน โดยที่พยายามพูดให้ผมกินสิ่งต่างๆ แต่ผมปฏิเสธทุกครั้ง ต้องแสดงความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง ถ้าโจลี่ไม่ให้อภัยผม ผมก็จะขอตายตรงนี้แหละ

“หว่า~ อยู่จริงๆด้วย”

เสียงนี้มัน? อย่างบอกนะ

ถึงแม้ผมสงสัยมากแค่ไหน ผมก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา

“คุณบาสเตียนคะ?”

ผมจำเสียงนั้นได้ คงเป็นดาร์เลเน่ จริงๆสินะ เสียงผู้หญิงตอนแรกคงเป็นน้อยสาวเทรย์เวอร์สินะ แปลว่าเจ้านั้นก็ต้องมา ให้ตายสิ ต้องมาให้ศัตรูมาเห็นในสภาพแบบนี้ได้!

“คุณดาร์เลเน่ ช่วยพูดกับนายน้อยทานอาหารด้วยครับ แค่น้ำก็ได้!”

ผมได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาใกล้ๆ

“ไอ้ที่ว่ามีธุระ คือการมาก้มหน้าก้มตานับมด? แล้วทำไมคุณไม่กินข้าวซักหน่อยล่ะ คุณคิดว่าเมื่อกลับบ้านไปคุณจะมีแรงงั้นเหรอ?” เป็นดาร์เลเน่นั้นเองที่มาใกล้ๆผม

หึ เธอดูถูกความมุ่งมั่นฉันไปแล้วดาร์เลเน่ จิตใจฉันน่ะต่อให้พระเจ้าลงมาขอร้องเอง ฉันก็ไม่เปลี่ยนใจหรอกนะ

“นี้ ไม่ใช่เรื่องของเธอดาร์เลเน่ กลับไปเรียนซะ เธอคิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะหรือไง?” ผมตอบและไล่เธอด้วยเสียงที่อ่อนแรงสุดๆ

“พูดมากแบบนี้ คงไม่จำเป็นต้องห่วงสินะคะ?”

ผมเลือกที่จะเงียบต่อไป

“นายคิดจะทำอะไร มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ริชาร์ท?” เสียงที่อบอุ่นของผู้ชาย ผมขอเดาว่าเป็นเจ้าเทรย์เวอร์พูดถามผม

“เหตุผลก็มีแค่มาขอโทษคุณหนูคายา ถ้าเธอคิดไม่ให้อภัยฉัน งั้นคงได้ไปงานศพตามความต้องการของพวกนาย”

และเหมือนพวกเขาจะพูดคุยอะไรบางอย่างก่อนจะตัดสินใจทิ้งผมและเข้าบ้านคายาไป ที่ผมไม่เรียกโจลี่ว่าคุณหนูคายา เพราะเธอไม่อยากให้ผมพูด ผมเลยจะไม่พูดออกมา

“ขอร้องเถอะครับคุณหนูคายา ได้โปรดให้อภัยกับนายน้อยด้วยเถอะครับ!” บาสเตียนพูดออกมา

เมื่อพวกดาร์เลเน่เข้ามาในบ้านโจลี่ บาสเตียนที่ตามมาด้วย ก็ได้ก้มหัวร้องขอต่อโจลี่

นั้นทำให้โจลี่ลำบากใจเป็นอย่างมา เพราะเธอไม่คิดว่าริชาร์ทจะทำถึงขนาดนี้

“นั้นอาจจะแกล้งทำเป็นรู้สึกผิดก็ได้ เจ้าบ้านั้นคงมีแผนชั่วอยู่ในหัวแน่!?” โอเรียนน่าค้านออกมาและออกความเห็นของตัวเอง เพราะเธอไม่ไว้ใจต่อริชาร์ท

“อาจใช่ แต่ฉันรู้จักริชาร์ทดี เจ้านั้นถือตัวเป็นอย่างมาก ฉันพึ่งเคยเห็นเขาทำแบบนี้เลย” เทรย์เวอร์ออกความเห็นเช่นกัน

“ผมว่าเขาคงตัดใจไปเองนั่นแหละ” เทรย์เวอร์พูดเสริม

ก่อนที่ทุกคนหันไปมองริชาร์ท

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด