ตอนที่แล้วตอนที่ 7 : ดูดซับแก่นแท้ชีวิตของเขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 : นองเลือด

ตอนที่ 8 : เล่ห์เหลี่ยมของการเอาตัวรอด


ไป๋ชิงเย่วให้รู้สึกตลก

นี่อาจเป็นการทดลองที่แท้จริงสำหรับการขึ้นสวรรค์ เพียงหนึ่งวันผ่านไปและเขาก็ประสบกับความยากลำบากที่เลวร้ายยิ่งกว่าสิ่งใดที่เขาเจอมานับพันปี มันเป็นด่านเคราะห์จริงๆ

ดวงตาเหมือนกวางของเขาจ้องมองอุ้งเท้าหิมะคู่หน้าของเขา กำไลหยกคู่หนึ่งสวมอยู่ในแต่ละขา ผนึกพลังของเขาไว้ กำไลพวกนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเขาในรูปร่างที่แท้จริงของเขา แต่ด้วยร่างนี้ การตกอยู่ในห่วงกำไลทำให้เขาอ่อนแอลงอย่างมาก

ดูเหมือนว่าไม่มีทางอื่นนอกจากจะหลอกให้เขาได้ออกจากความเจ็บปวดนี้ เขาลุกขึ้นยืนทั้งสี่ขาและเปล่งประกายอย่างอันตรายไปที่พระสงฆ์ที่ล้อมรอบเขา

“เจ้ากล้าคิดที่จะดูดซับแก่นแท้ในชีวิตของข้าหรือ?! ไป๋ชิงเย่วคำราม ทุบมาที่กลางอกของเขาด้วยอุ้งเท้าสีขาว

เจ้าอาวาสรีบไปที่กรง เดินโซเซด้วยการพยุงของนักบวชคนอื่นที่ช่วยให้เดินตรง เขาหยุดห่างจากมันหนึ่งนิ้ว พบแสงจ้าของสัตว์ประหลาดด้วยสายตาที่สงสัย พลังนี้คือ..

“เจ้าพูดได้แล้วรึ อาตมารู้ นี่หมายความว่าเจ้าเบื่อที่จะแสร้งทำเป็นตายไปแล้วหรือ? อย่าคิดว่าอาตมาจะไม่กล้ากำจัดเจ้า อาตมารู้สึกถึงรัศมีของเจ้าและรู้ว่าเจ้าอ่อนแอ เจ้าบอกอาตมาเป็นดีที่สุดว่าเจ้ามาจากไหน เป็นใครและอะไรที่เจ้าอยากจะทำ จากนั้น บางทีอาตมาอาจพิจารณาการตัดสินใจของพวกเราอีกครั้ง” หัวหน้าเจ้าอาวาสข่มขู่

เจ้าอาวาสรู้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนใจเด็ดขาด นักเล่นกลคนนี้อันตรายเกินไปที่จะให้มีชีวิตอยู่ แต่ความอยากรู้อยากเห็นทำงานได้ดีกว่า แค่ต้องรู้ว่าสุนัขจิ้งจอกแปลก ๆ นี้เกิดมาจากอะไร?

สุนัขจิ้งจอกเบี่ยงดวงตาของเขาขณะที่มุมปากเงยขึ้นเป็นรอยยิ้ม "เจ้าสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ข้ายินดีที่จะแสดงให้เจ้าได้เห็น ชายชรา อย่ายกการต่อสู้กับใครบางคนกับกลุ่มของเจ้าว่าเขาจะเป็นผู้แพ้ เจ้าควรปล่อยข้าโดยเร็ว ก่อนที่ความเมตตากรุณาของข้าจะหมดไปและข้าจะฆ่าเจ้าเช่นเดียวกับสาวกของเจ้าทุกคน ที่นี่และเดี๋ยวนี้ " ในความเป็นจริงพวกเขาพูดถูก ไป๋ชิงเย่วไม่สามารถทำอะไรได้มากในขณะอยู่ในร่างนั้น อย่างไรก็ตามความลังเลใจของพวกพระคือสิ่งที่จิ้งจอกอย่างเขาต้องการจริงๆ

เจ้าอาวาสขมวดคิ้ว ความรู้สึกสับสนปนเป ไม่แน่ใจว่าใครในพวกเขา ที่ตัดสินเลื่อนการฆ่าจิ้งจอกนั้นออกไป สำหรับตอนนี้เมื่อเห็นว่าการทำผิดพลาดแค่ครั้งเดียวเป็นตัวจุดชนวนความโกรธของสุนัขจิ้งจอกที่อาจเป็นอันตรายและปลดปล่อยความโกรธแค้นของมันออกมา

เขาจ้องคอยสังเกตจิ้งจอกตัวนี้อยู่ซักพักเขาไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ มันจะปลอดภัยที่จะทำอย่างไรกับจิ้งจอกตัวนี้ตามที่เขาพอใจ เจ้าอาวาสสรุป เปลี่ยนพฤติกรรมของเขากลายเป็นชายชราผู้ผูกมิตร ด้วยเสียงแหบแห้งและพยายามอย่างเต็มที่ในรอยยิ้มแบบผู้ชนะ เจ้าอาวาสกล่าวกับสุนัขจิ้งจอกอีกครั้ง

“จิ้งจอกปีศาจเราต้องขออภัยอย่างแท้จริงสำหรับความประพฤติของเรา จนถึงตอนนี้ เราเป็นอารามที่อ่อนน้อมถ่อมตน เราจัดการกับปีศาจเพื่อปกป้องสังคมจากสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตราย ดูแลเฉพาะการจับขังผู้ที่ได้ทำอันตรายกับคนรอบข้าง

แต่ชัดเจนว่าเจ้ามาจากภูมิหลังที่ดูโดดเด่น ดังนั้นเราจึงไม่วิวาทกับเจ้าเป็นการส่วนตัว....และถ้าเจ้าอยากบอกอาตมาว่าเจ้ามาจากที่ใด อาตมาอาจจะสามารถนำเจ้ากลับไปยังจุดกำเนิดของเจ้าได้....” เจ้าอาวาสชี้ชวน ลองพยามยามใช้คำพูดให้เป็นประโยชน์

“สิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตราย”? ปีศาจตัวเล็กๆ ในกรงที่อยู่รอบตัวเขาถูกมองว่าเป็น “อันตราย” ด้วยหรือไม่? ไป๋ชิงเย่วเกือบหัวเราะออกมา การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างฉับพลันนี้แน่นอนว่าน่าสนใจและคำโกหกโง่ๆของชายชราผู้นี้และความพยายามที่จะได้รับข้อมูลเพิ่มจากเขานั้นเป็นเพียงเรื่องแอบซ่อน แต่ไม่เป็นไรเขาคิดว่าเขาจะเล่นไปตามเกมส์ก่อนในตอนนี้

ไป๋ชิงเย่วส่ายหางทั้งแปดไปมา บางครั้งเพื่อให้เป็นการกระตุ้นก็ตีเข้ากับกรงไม้ของเขา เขาดูน่ารักทีเดียวเมื่อเขาหัวเราะจนจมูกเหี่ยวย่นต่อการเยาะเย้ยพร้อมทั้งประณามเจ้าอาวาส

“ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วยว่าข้ามาจากไหน ข้าถูกขังอยู่ในกรงนี้ พลังของข้าถูกยึดไว้ด้วยกุญแจมือเหล่านี้แล้วจับข้ามาไว้ในกรง และตอนนี้เจ้าทำตัวเหมือนเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน....เจ้าพยายามหลอกข้าใช่หรือไม่?” เขาเหลือบตาสีทองของเขาไปที่เจ้าอาวาส

นักบวชที่อยู่รอบๆ ดูอย่างสงสัยขณะที่ทั้งสองมีปฏิสัมพันธ์กัน พวกเขาไม่เคยเห็นหัวหน้าเจ้าอาวาสพูดคุยกับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์มาก่อน ไม่มากก็น้อยมันต้องดีกับพวกเขา สุนัขจิ้งจอกตัวนี้เป็นอะไรที่น่ากลัวจริงหรือ?

“ไม่ ไม่ ไม่ อาตมาจะทำเยี่ยงไรดี? พระปฏิญาณที่จะไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์และต่อสู้เพื่อความชอบธรรมเสมอมา” เจ้าอาวาสยกมือโบกปฏิเสธ

ตามธรรมชาติแล้ว สิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์-ไม่ได้ถูกกำหนดรวมเข้าไว้ในคำว่า ‘ผู้บริสุทธิ์’ ในประเพณีของพวกเขา เขาจะกำจัดภัยคุกคามนี้ให้เสร็จเร็วที่สุด

ไป๋ชิงเย่วยกกรงเล็บชี้ไปที่เจ้าอาวาส “ฟังสิ่งที่เจ้าพูดมาดูไม่จริงใจสำหรับข้า วิธีที่เจ้าจะแสดงให้ข้าเห็นการกระทำที่สุจริต เช่น ปล่อยข้าออกจากคุกที่น่ากลัวนี้ จากนั้นข้าจะพิจารณาการกระทำของข้าอีกครั้ง? ข้าอาจบอกให้เจ้าทราบได้ว่ามาจากไหน.....” เขาชี้ชวนให้  ยกคิ้วขึ้นพร้อมคำพูดสุดท้ายของเขา การรับรู้ว่านี่เป็นข้อมูลที่เจ้าอาวาสสงสัยมากที่สุด เอามาล่อ

“........” เจ้าอาวาสนิ่ง

สุนัขจิ้งจอกตัวนี้คาดหวังให้เขาปลดล็อคกรง เปิดเผยพลังของมันและปล่อยให้มันเป็นอิสระ เพื่อการแสดงความสุจริตใจหรือ?

ปวดหัวอะไรอย่างนี้!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด