ตอนที่แล้วEP.3 วันเกิดครั้งแรกของผม (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP.5 กลายเป็นนักฟันดาบ (อ่านฟรี)

EP.4 กลายเป็นจอมเวทย์ (อ่านฟรี)


วันเกิดครั้งที่สองของผมได้มาถึงแล้วและผมก็รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าครั้งที่แล้ว ทำไมหน่ะหรอ?

ก็เพราะเมื่ออายุครบสองขวบ ผมจะมีสิทธิได้เข้ารับการคัดเลือกว่าผมมีความสามารถที่จะ

ใช้เวทมนตร์รึเปล่า

แม่ได้พาผมไปยังใจกลางเมืองของ Alure Kingdom ซึ่งเป็นเมืองที่ห่างจากบ้านเราแค่ไม่กี่ไมล์

เราเลยต้องใช้การเดินทางโดยรถม้าและถึงแม้ว่ามันต้องใช้เวลาสักหน่อย  เมืองของเราเป็นเมืองขนาดเล็ก

จึงไม่ค่อยมีเครื่องมือมากนักที่จะใช้ตรวจว่าคุณจะมีความสามารถพิเศษในการใช้เวทมนตร์หรือไม่

เพราะแบบนั้นแม่ผมจึงตัดสืนใจพามาที่เมืองที่ใกล้ที่สุด

ถ้าพ่อแม่ของคุณเป็นนักจอมเวทย์  อาจจะเป็นไปได้ที่คุณก็มีโอกาสมากกว่าคนอื่นที่จะได้เป็นด้วยเหมือนกัน

แต่มันไม่ได้เป็น 100 เปอร์เซ็นต์เสมอไป แต่โอกาสของผมก็มีมากกว่าคนอื่นแน่ๆ

แม่ก็คาดหวังในตัวผมไว้มากเช่นกัน และนั่นก็ทำให้ผมมั่นใจว่าผมต้องได้เป็นนักจอมเวทย์

อย่างแน่นอน หลังจากนั้นมังกรจะเป็นผู้ควบคุมเวทมนตร์ เราจะมีพลังมากกว่าเมื่อเรารู้ว่า

เราจะจัดการกับมันอย่างไร

ในที่สุดเราได้เดินทางมาถึงใจกลางเมือง ผมสังเกตุว่ามีหลายสิ่งที่แปลกตาเมื่อเปรียบเทียบกับ

เมื่อที่ผมมา ดูเหมือนว่าในเมืองนี้จะมีเหล่านักสู้ และจอมเวทมนตร์มากกว่าที่อื่น

เพียงแค่เดินไปรอบๆ ก็เห็นผู้คนมากมายถืออาวุธและอุปกรณ์เวทมนตร์ได้อย่างเปิดเผย

อีกหนึ่งสิ่งที่สะดุดตาผมเป็นอย่างมากนั่นก็คือพวกขอทาน ที่แสดงให้เห็นถึงช่องว่าง

ระหว่าง คนรวยกับคนจน มันทำให้ผมรู้สึกเศร้าว่าทำไมมนุษย์ถึงไม่ช่วยคนที่อ่อนแอกว่า

ในอดีต ตัวผมมีหน้าที่ที่คอยปกป้องคนที่อ่อนแอกว่าและก็พยายามอย่างสุดความสามารถ

แต่สุดท้ายก็ยังล้มเหลว

เราสองเดินจับมือกันไปรอบๆเมืองและสุดท้ายก็เดินมาถึงที่จุดหมาย ผมรู้สึกเหนื่อยจากการเดินเพราะร่างเล็กๆ

ของผมทำอะไรได้ไม่มาก ผ่านไปสักพักตาของผมก็ได้ไปสะดุดกับมหาวิหารขนาดใหญ่ ขนาดน่าจะใหญ่เท่ากับ

มังกรรวมกันสี่ตัว แม่บอกว่า นี่คือ Roland Academy และโรงเรียนมีข้อจำกัดที่เข้มงวดว่าจะรับ

แค่คนที่มีเวทมนตร์เท่านั้น แม่เข้าโรงเรียนนี้มาตั้งแต่เธอยังเด็ก และหวังว่าผมจะได้เข้าร่วมด้วย

เราเดินสำรวจตึกข้างๆที่ถัดออกไปจากตึกใหญ่ แต่ผมก็รู้สึกไม่ค่อยประทับใจเท่ากับมหาวิหารอันแรก

แต่ผมมั่นใจได้เลยว่าสิ่งที่สร้างมาก็ไม่ได้มีอันไหนราคาถูกไปกว่ากัน ภายในของอาตาร ทำให้ผมประหลาดใจไม่น้อย

เพราะจำนวนผู้คนที่นี่เยอะจนแทบจะไม่มีที่ว่างสำหรับคนที่มา ส่วนใหญ่แล้วก็จะมาทั้งครอบครัวพ่อแม่และลูก

ผมนั่งลงและรออย่างอดทนในห้องรับรอง บ่อยครั้งจะมี เจ้าหน้าที่เดินออกมาพร้อมกับถือใบรายชื่อไว้ในมือ

เตรียมพร้อมที่จะเรียกชื่อตามลำดับ เมื่อถึงคิวก็จะมีเจ้าหน้าทีนำตัวไปห้องส่วนตัวที่ไม่มีใครเห็น หลังจากห้านาที

เด็กเหล่านั้นก็จะออกมา พร้อมกับร้องไห้ไปด้วย

เจ้าหน้าที่ออกมาพร้อมใบรายชื่ออีกครั้ง

“เรย์ ทาเลน ได้เวลาทดสอบแล้วค่ะ” เธอเรียกชื่อผมพร้อมมองไปที่หน้าห้องด้วย

ผมยิ้มให้เธอและรีบกระโดดออกจากเก้าอี้ทันที

ผมเดินตามแม่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนั้น เราเห็นเด็กร้องได้อย่างน่าสงสารตลอดทางที่เราเดิน

ผมขอเดาว่าพวกเขาต้องไม่มีพลังวิเศษแน่ๆ

เราได้เดินตามผู้หญิงคนนี้มาในห้อง ห้องที่ผมเห็นในตอนแรก ภายในห้อง มีโต๊ะหนึ่งตัวพร้อมกับเก้าอี้ถูกวางไว้คนละฝั่ง

บนกลางโต๊ะมีลูกแก้วกลมๆตั้งอยู่ ส่วนอีกด้านหนึ่งของโต๊ะมีรูปภาพเก่าๆ พร้อมมีชายชราสวมเสื้อคลุมสีขาวนั่งอยู่

เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ส่วนแม่ของผมนั้นนั่งลงบนที่ว่างข้างๆ พร้อมกับพาผมไปนั่งโต๊ะที่มีลูกแก้วบนกลางโต๊ะ

ใบหน้าของผมเริ่มเป็นสีแดงเกิดจากความลำบากใจที่ได้รับความช่วยเหลือในการนั่งให้ถูกที่

ชายชราเริ่มพูดด้วยเสียงนุ่มนวลอย่างชาญฉลาด

“ให้ลูกชายของคุณวางมือทั้งสองไว้บนลูกแก้ว ด้านหน้าคุณ ลูกแก้วจะเปล่งแสงออกมา ถ้าเขามีความพิเศษทางเวทมนตร์

สีที่จะเปร่งประกรายออกมาจากลูกแก้วจะแสดงถึงความสามารถที่โดดเด่นที่สุดของเขา"

ผมไม่รีรอให้ชายชราพูดมันเป็นครั้งที่สอง ผมรีบยกมือทั้งสองข้างวางไว้บนลูกแก้ว

“ถึงเวลาแล้วที่จะแสดงให้ทุกคนรู้ว่าผมมีพลังมากแค่ไหน !” ผมพูดในระหว่างที่จับลูกไว้แน่นเท่าที่จะทำได้

“ฮา ฮา ฮา” ผมหัวเราะออกมาดัง ๆ พร้อมปิดตาเพื่อลุ้นผลลัพธ์

หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้ ผมจำเสียงนั้นได้ดี นั่นมันแม่ผมนี่ เธอจะร้องไห้ดีใจเพราะผมกลายเป็น

นักเวทมนตร์แน่ๆ ธาตุไฟในตัวผมอาจจะถูกปลุกขึ้นมาเช่นเดียวกับของแม่ ผมลืมตาขึ้นเพื่อดูว่าลูกแก้ว

แต่ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการตอบสนอง ไม่มีแสงไฟประกายออกมา ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่มันอะไรกันแน่?

“ผมขอโทษจริงๆที่ต้องพูดว่าลูกชายของคุณไม่มีพลังพิเศษด้านเวทมนตร์”

ชายชราพูดพร้อมกับลูบเครายาวของเขาไปด้วย

ผมไม่มีทางเชื่อ จะเป็นไปได้ไงที่มังกรจะไม่มีเวทมนตร์ มันจะต้องมีความผิดพลาดเกิดขึ้น

ผมลุกยืนขึ้นและเดินอย่างช้า ๆ มุ่งตรงไปยังชายชราคนนั้น

“คุณโกหก ผมมีพลังพิเศษ” ผมด้วยอารมณ์โมโหและชี้นิ้วไปที่หน้าของเขา

“ขอโทษด้วยนะหนุ่มน้อย ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้จริงๆ”

เมื่อชายชราคนนั้นเข้ามาใกล้เพื่อขอโทษนั้น ผมตัดสินใจที่จะดึงเคราของเขาลงมา เพราะผมหงุดหงิดมาก

เขาอาจจะต้องโกหกเพื่อที่จะพยายามซ่อนพลังอันยิ่งใหญ่ของผมเอาไว้เป็นแน่ ยิ่งงโกรธและโมโหมากเท่าไหร่

ผมก็จะยิ่งดึงเคราของเขาต่ำลงมากเท่านั้น

ทันใดที่แม่เห็นเหตุการณ์เธอก็รีบกระโดดข้ามโต๊ะและดึงฉันออกมาจากชายชราคนนั้น แต่ผมก็ไม่อยากออกไปง่ายๆ

ผมตัดสินใจคว้าขนสีเทาเล็กจำนวนหนึ่งออกมาจากเคราเขาของเขาติดไว้ในมือผมด้วย

ผมรู้สึกมีความสุขจนเริ่มหัวเราะเสียงดังออกมา

“ฮา ฮา ฮา”

ชายคนนั้นยืนขึ้นและตะโกนว่า

“รีบเอาสองแม่ลูกไปให้ไกลจากตาฉัน”

ผมอยู่อย่างเงียบๆตลอดทางที่จะกลับบ้าน การเดินทางช่างยาวนานเหลือเกินและแม่ก็ยังโกรธที่ผมไปทำแบบนั้นใส่เขา

ในที่สุดเธอก็หลับไปในด้านหลังของรถม้า

ผมไม่สามารถที่จะหลับได้ลง ผมกำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือนี่จะเป็นบทลงโทษจากข้างบนที่ผมเคยฆ่ามนุษย์ไว้?

ไม่จริง ต้องไม่ใช่แน่ๆ ไม่งั้นผมจะได้รับโอกาสที่สองได้ยังไง ผมเข้าใจละ โลกใบนี้อาจจะแค่กำลังทดสอบผมอยู่แน่

ถึงไม่มีพลังวิเศษ แต่มันจะต้องมีทางอื่นที่จะทำให้ผมแก้แค้นได้ อย่างพ่อผมที่ไม่ได้มีพลังวิเศษแต่ก็ยังเป็นนักสู้อยู่ดี

เมื่อเราเดินทางมาถึงบ้าน แม่ก็รีบบอกข่าวร้ายให้พ่อรู้ พ่อก็เสียใจอยุ่บ้างแต่คงไม่เท่ากับที่แม่เสียใจ

เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเรานั่งทานข้าวบนโต๊ะอาหารกันตามปกติ แต่ที่แปลกไปคือผมสามารถควบคุมมือให้ใช้อุปกรณ์

ที่พวกเขาให้ผมใช้ได้แล้ว มันทำให้การรับประทานอาหารง่ายขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดมือในภายหลัง

หลังจากที่เราได้ทานอาหารเสร็จ ผมมีบางอย่างที่อยากถามพ่อ

ผมวางช้อนและส้อมลงพร้อมกับมองไปที่พ่อ

“พ่อ พ่อช่วยสอนผมต่อสู้หน่อยได้ไหมครับ?”

พ่อผมตาเริ่มเป็นประกายลุกวาว ราวกับว่าความฝันที่ฝันมาตลอดของเขาเป็นจริง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด