ตอนที่แล้วบทที่ 19 : รอให้แม่ของข้ามาถามท่านเอง (1/2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 21 ซื้อกระเบื้อง

บทที่ 20 : รอให้แม่ของข้ามาถามท่านเอง (2/2)


บทที่  20 :  รอให้แม่ของข้ามาถามท่านเอง  (2/2)

 

“พี่ใหญ่”   เมื่อเดินออกมาจากบ้านของลุงกับป้าได้สักพักเหลียนเซ่อก็พูดกับเหลียนฟางโจว  ด้วยน้ำเสียงโมโหเจือผิดหวังว่า  “ข้าไม่คิดเลยว่าท่านลุงกับท่านป้าจะกล้าพูดแบบนี้ออกมา!!  ตอนที่ท่านพ่อท่านแม่ของพวกเรายังอยู่  พวกเขาก็มักจะมาหยิบฉวยเอาของที่บ้านของเราไปฟรีๆ เป็นประจำ!!  แล้วพวกเขายังกล้าพูดคำเหล่านี้กับเราอีกหรือ?  นี่พวกเขายังเป็นลุงกับป้าของพวกเราอยู่ไหม?”

เหลียนฝางโจวหัวเราะน้อยๆ  ก่อนจะพูดว่า   “เจ้าก็เห็นแล้วนิ  ว่าพวกเขามันโง่แล้วก็เห็นแก่ตัวแค่ไหน  เพราะฉะนั้นเจ้าอย่าไปให้ค่าคนพรรคนั้นเลย”

“ว่าแต่  ท่านแม่มาเข้าฝันพี่ใหญ่จริงหรือ?”  เหลียนเซ่อสงสัยจนอดที่จะถามออกไปไม่ได้  ก่อนเขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  และพูดต่อว่า  “ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความจริงแล้วยังไงล่ะ?  ก็อย่างที่ข้าเคยบอกท่านนั้นแหล่ะ  ยังไงท่านลุงกับท่านป้าก็คงไม่มีทางคืนข้าวให้พวกเราแน่!!  แต่ไม่เป็นไร  พี่ใหญ่อย่ากังวลใจไปเลยยังไงพวกเราก็ไม่อดตายแน่  ขอเพียงแค่ผ่านฤดูหนาวนี้ไปให้ได้ก่อนเท่านั้น  และเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวอีกครั้ง  ข้าจะเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด  แล้วก็จะไม่ยอมให้พวกเขาเข้ามาวุ่นวายกับข้าวของเราได้อีก!!”

“เหลือเวลาอีกตั้งหนึ่งปี  กว่าจะถึงฤดูการเก็บเกี่ยวรอบหน้า”  เหลียนฟางโจวเหลือบตามองสีหน้าที่เศร้าสร้อย  ของเหลียนเซ่อ  ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนละมุนว่า   “เอาล่ะ  เจ้าทำใจให้สบายๆ เข้าไว้  ข้าว 1,000  ชั่ง  ยังไงพวกเราก็ต้องได้กลับคืนมาแน่  แต่ตอนนี้เจ้าต้องทำตามที่พี่บอกก่อน!!”

เหลียนเซ่อมองเธอด้วยความสงสัยในขณะที่เธอก็ส่งยิ้มหวานตอบเขา  ตอนนี้ในหัวของเธอมีแผนเด็ดๆ รอไว้อยู่แล้ว

............................................

เช้าตรู่ของวันถัดมาหลี่ดามู่ก็ขี่วัวเทียมเกวียนมาจอดที่หน้าบ้านครอบครัวเหลียน  เพื่อมารับเหลียนเซ่อไปหาซื้ออิฐและกระเบื้องที่ร้านเครื่องปั้นดินเผาตามที่คุยกันเอาไว้

เนื่องด้วยว่าเช้ามากธนาคารก็เลยยังไม่เปิด  ทำให้เงินที่ได้มาก็ยังไม่ทันได้ไปแลกดังนั้นเหลียนฟางโจวจึงคว้าเอากระเป๋าที่มีเงินเหรียญอยู่ประมาณ  200 - 300  อีแปะขึ้นมา  หมายว่าจะเอาไปจ่ายเป็นค่ามัดจำไว้ก่อน

เหลียนฟางโจวเองก็ขอไปกับพวกเขาด้วย  ก็ไหนๆชื่อเสียงของเธอก็ด่างพร้อยไปขนาดนี้แล้ว  สู้เธอใช้โอกาสนี้ออกไปสำรวจภูมิทัศน์โดยรอบ  ไม่ว่าจะเป็นดิน  หรือพวกพืชพรรณต่างๆของที่นี่  ไม่ดีกว่าหรือ

เมื่อเธอไปแจ้งความประสงค์กับหลี่ดามู่  เขาก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย

เหลียนฟางชิงเองเมื่อเห็นว่าพี่ชายกับพี่สาวจะออกไปข้างนอก  นางก็คิดว่าพวกเขาจะพากันไปเที่ยว  นางจึงรีบเตรียมตัวหวังว่าจะได้ตามออกไปด้วยอีกคน  แต่เหลียนฟางโจวก็ไม่ได้อนุญาต  เธอหันไปสั่งความเหลียนฟางชิงและเหลียนซีให้อยู่เฝ้าบ้าน  และเมื่อเหลียนฟางชิงได้ยินแบบนั้น  นางก็หน้าบึ้งพร้อมทั้งเบ้ปากเหมือนจะร้องไห้ทันที

เหลียนฟางโจวเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยทำท่าจะร้องไห้ก็อดที่จะสงสารไม่ได้  เธอก้มตัวลงจากนั้นก็ดึงเหลียนฟางชิงเข้ามากอดและกระซิบที่ข้างหูเบาๆว่า  “อยู่บ้านกับพี่สามแล้วเป็นเด็กดีนะ  พอตอนค่ำๆ พี่ใหญ่กลับมา  จะทอดไข่ดาวให้เจ้ากินดีไหม?”

เหลียนฟางชิงถึงกับตาโตและเลียริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว  ก่อนที่เด็กน้อยจะส่ายหัวรัวๆและพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า  “ไม่ได้นะ!  ไข่พวกนั้นเราต้องเก็บเอาไว้ขายขายแล้วเราถึงจะมีเงินซื้อข้าว”

เหลียนฟางโจวรู้สึกชาวาบไปทั้งหัวใจเมื่อได้ยินคำพูดของเด็กน้อย  ก่อนเธอจะพูดกับเหลียนฟางชิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า   “พี่ใหญ่จะเป็นคนหาเงินมาเอง  ไข่พวกนั้นเราไม่ต้องขายแล้ว  จากนี้ไปเราจะเก็บไข่พวกนั้นไว้ให้ชิงเออร์กับซีเออร์กินบำรุงร่างกายนะ”

“จริงๆนะ”  เหลียนฟางชิงยิ้มอย่างมีความสุข  ก่อนที่นางจะพูดต่อว่า  “แต่พี่ใหญ่กับพี่รองก็ต้องกินด้วยนะ”

“ได้สิพวกเราทุกคนจะกินมันด้วยกัน”   เหลียนฟางโจวพูดด้วยรอยยิ้ม

เหลียนฟางโจวกับเหลียนเซ่อนั้นนั่งอยู่ในเกวียน  ในขณะที่หลี่ดามู่เป็นคนเทียมวัว  ทั้งสามคนค่อยๆเดินทางไปที่ร้านเครื่องปั้นดินเผา

เมื่อออกมาพ้นหมู่บ้านต้าฟาง  เหลียนฟางโจวก็เริ่มสังเกตเห็นวิวทิวทัศน์ชัดเจนขึ้น  ทั้งสองฝากฝั่งของถนนส่วนใหญ่จะเป็นเนินเขาเตี้ยๆ  ส่วนพื้นราบใกล้ๆเนินเขานั้นก็ปกคลุมด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่ม  จากที่เธอมองดูคร่าวๆ พบว่าพืชพรรณส่วนใหญ่จะเป็นพวกซีดาร์, เฟอร์, ต้นสน, ต้นโอ๊ค,  ต้นเมเปิล,  ต้นการบูร  และต้นไม้ชนิดอื่นๆที่พบเห็นได้ทั่วไปในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

ตรงส่วนที่เป็นพื้นที่ราบก็มักจะมีไร่นาของชาวบ้านอยู่ด้วย  แต่ดินบนแปลงนาเหล่านั้นล้วนแต่แห้งแตกระแหงขาดความชุ่มชื้น  ในขณะที่บางแปลงก็มีแต่ต้นกล้าของมันเทศแล้วก็เผือกที่ได้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเหมือนพร้อมที่จะยืนต้นตายเรียบร้อยแล้ว

ที่แปลงไหนที่อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำหน่อยก็จะถูกใช้เป็นนาข้าว  ซึ่งตอนนี้ได้ถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว  เหลือไว้ก็แต่ตอซังข้าวสีเหลืองอร่ามปกคลุมไปทั่วท้องทุ่งเท่านั้น

เหลียนฟางโจวไม่จำเป็นต้องเอ่ยถามเหลียนเซ่อ  เพราะเห็นเพียงเท่านี้เธอก็สามารถเข้าใจได้เองทั้งหมดแล้ว

ติดตามข่าวสาร นิยายเรื่องนี้ได้ที่ทางเพจด้านล่างนี้นะคะ

https://www.facebook.com/Translator.Karin.G/

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด