ตอนที่แล้วบทที่ 11 ปกรณัมแห่งความหลอน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 13 ปกรณัมแห่งความทรมาน

บทที่ 12 ปกรณัมของเราสองคน


  

บทที่ 12 ปกรณัมของเราสองคน

 

ชิซึกุเดินไปห้องริวตะก่อนจะผลักประตูเข้าไป ริวตะเองก็ยังไม่นอนแสงจันทร์สาดส่องมาภายในห้อง

“ชิซึกุ!?”

ริวตะลุกขึ้นและเดินมาหาทันที ชิซึกุยิ้มออกมาเมื่ออยู่ต่อหน้าริวตะเธอแทบเป็นคนละคน ดวงตาสดใสเหมือนชิซึกุที่เคยเป็น

“ไงริวตะ ขอโทษทีนะที่สองสามวันที่ผ่านมาชั้นไม่เข้าหา ชั้นมันโง่เองที่ทำแบบนั้น”

“ไม่ๆ เธอทำแบบนั้นถูกแล้ว ถ้ามาเป็นเพื่อนกับคนแบบชั้นเดียวก็ไม่มีเพื่อนหรอก!”

ริวตะส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมพูดออกมา มันเป็นความจริงแม้เขาจะเหงาอยู่บ้างแต่เพื่อที่ชิซึกุจะไม่เป็นเหมือนตัวเองเขาจึงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ถูก

หากแต่ชิซึกุยิ้มออกมาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่แทบจะกระซิบ

“ชั้นไม่ต้องการใครนอกจากริวตะ…”

“…?”

แต่เหมือนริวตะจะไม่ได้ยินเสียงที่ชิซึกุพูด ทำให้เขาแสดงสีหน้าสงสัย ชิซึกุจึงเปลี่ยนเรื่องทันที

“ว่าแต่ทำไมริวตะยังไม่นอน?”

“คือเรื่องมันเป็นแบบนี้…”

ริวตะก็เล่าเรื่องที่หลายวันที่ผ่านมาเขาตื่นมาเจอเรื่องประหลาดแต่ไม่กล้าบอกใคร ทว่าชิซึกุเขาก็บอกได้ตามปกติ

ชิซึกุขมวดคิ้วก่อนจะมองไปรอบๆ ห้อง…

“ริวตะ… ชั้นขอโทษ..”

“เอ๊ะ.. พูดอะไรของเธอ..?”

ชิซึกุจับไหล่ของริวตะแล้วพูดออกมา ก่อนที่เธอจะกอดริวตะและขอโทษซ้ำไปซ้ำมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด

ริวตะคิ้วกระจุกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “ถึงจะไม่รู้ว่าอะไรก็เถอะ แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ เธอไม่ต้องกังวลเรื่องของชั้นขนาดนั้นก็ได้.. แค่นี้เองชั้นสบายมาก!”

ริวตะปลอบชิซึกุพร้อมทั้งลูบหลังเธอ ไม่รู้เพราะอะไรชิซึกุยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม ทำเอาริวตะเหงื่อตก

“เอ่อ.. นี่ชั้นพูดอะไรผิดหรือเปล่าเนี่ย..?”

“ไม่หรอก.. ขอโทษทีนะ”

ชิซึกุส่ายหน้าพร้อมกับห้ามน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด ริวตะเลยเช็ดน้ำตาให้ชิซึกุด้วยรอยยิ้ม

“ให้ตายสิ.. เล่นจู่ๆ ก็ร้องไห้ทำเอาชั้นหัวใจจะวายแน่ะ!”

“อะฮะๆ …”

ชิซึกุยิ้มแห้งและเกาแก้มเบาๆ ด้วยความเขินอายก่อนที่เธอจะนึกขึ้นได้ว่ามีบางอย่างจะให้ริวตะ

“จริงสิ.. ริวตะชั้นมีบางอย่างจะให้นาย”

“หืม อะไรเหรอ?”

ริวตะถามออกมาด้วยความสงสัยและสนอกสนใจ ชิซึกุดึงเอากล่องสีแดงออกมามองยังไงก็เป็นกล่องเก็บแหวน

เธอเปิดกล่องเล็กๆ ดังกล่าวก็มีแหวนเงินที่ไม่มีอะไรเป็นพิเศษวงหนึ่งอยู่ในนั้นก่อนจะเอามันออกมา

“นี่คือแหวนที่ชั้นเคยได้รับมาจากใครสักคน เขาบอกกับชั้นว่าหากเจอคนที่ทำให้ชั้นไม่สนหลักเหตุผลใดๆ เพื่อคนคนนั้นได้ ก็มอบมันให้คนคนนั้น”

“เอ๊ะ..?”

ริวตะตกใจแต่ทว่าชิซึกุก็จับมือซ้ายของริวตะขึ้นและสวมมันไว้ที่นิ้วนางของเขา.. ซึ่งมันดูเหมือนการขอแต่งงานไม่มีผิดเพี้ยน

สมองของริวตะตกอยู่ในสภาวะหยุดทำงานไปชั่วขณะ ก่อนจะติดสถานะมึนงงไปอีกครู่ และติดสถานะสงสัยไปอีกพัก

“เอ๊ะ … เอ่อ..ห๊ะ.. อ๊าาาาา”

เหมือนพึ่งจะเข้าใจริวตะก็ร้องออกมาพร้อมกับหน้าแดงจนถึงใบหู ชักสงสัยแล้วว่าจริงๆ ข้างในใครกันแน่ที่เป็นผู้ชาย

ริวตะกัดฟันพยายามรวบรวมสติแล้วพูดสิ่งที่ไม่เคยคิดจะพูดออกมา

“เอ่อ.. ชั้นก็มีของจะให้เธอเหมือนกัน..”

“หืม.. อะไรเหรอ…?”

ชิซึกุแสดงสีหน้าสงสัยออกมาก่อนที่ริวตะจะเอากล่องสีแดงออกมา เหมือนกล่องของชิซึกุไม่มีผิดเพี้ยน

“นี่เป็นแหวนที่ชั้นได้รับมาจากคนๆ หนึ่ง.. เขาเคยบอกกับชั้นว่าหากมีใครสักคนที่ช่วยเหลือชั้นจากการรังแกและมอบความสุขให้จงมอบให้แก่คนคนนั้น”

แม้จะเขินอายริวตะก็สวมใส่ให้ชิซึกุด้วยความเขินอายหน่อยๆ แหวนนี้เขาพกติดตัวตลอดเวลาตั้งแต่เด็กๆ แน่นอนว่าชิซึกุเช่นกัน

ชิซึกุยกมือซ้ายขึ้นแล้วมองโดยหันมือไปทางแสงจันทร์… เธอยิ้มออกมา “ขอบคุณนะ.. จะรักษามันไว้มากกว่าชีวิตเลยล่ะ!”

“เดี๋ยวสิ เฮ้ย ชีวิตต้องมาก่อนสิ!”

“นั่นสินะ.. อะเฮะๆ …”

และในเวลานั้นเอง.. ทั้งสองคนก็หยุดชะงักลง…. ภาพแห่งความทรงจำวัยเด็กปรากฏขึ้นมาเหมือนกับนัดกัน

ในหน้าร้อนอันอบอ้าวเสียงจักจั่นกรีดร้อง ‘วี๊ดๆ’ ไม่หยุดหย่อนบนถนนแถวชนบทมีเด็กสองคนกำลังวิ่งไล่กันด้วยความสนุกสนาน

“ริตคุงรอชั้นด้วยสิ~”

“สึกุนั่นแหละรีบๆ วิ่งตามมาได้แล้ว”

เด็กทั้งสองคนเล่นไล่จับกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งเด็กชายวิ่งไปชนเด็กสองสามคน…

แล้วเด็กที่เป็นผู้เสียหายเลยโกรธพร้อมกับชกหน้าเด็กชายที่เรียกว่าริตคุง แต่ทว่าริตคุงก็ไม่คิดจะตอบโต้กลับแต่อย่างใด

“ชิ อะไรของมันวะ น่าเบื่อเป็นบ้า!”

มันพูดออกมา แต่ในตอนนั้นเองสึกุก็วิ่งมาห้าม

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! อย่าทำร้ายริตคุงนะ!”

“ห๊า.. พูดอะไรของเธอยัยผู้หญิง ไอ้หมอนี่มันชนพวกเราก่อนนะ”

“นั่นมันก็…นั่นมันก็…”

สึกุไม่สามารถตอบโต้ได้จนริตคุงถูกต่อยตีไปจนน่วม สึกุวิ่งมาหาริตคุงแล้วร้องไห้ออกมา

“ริตคุง ชั้นขอโทษ.. ชั้นขอโทษ.. ถ้าชั้นเก่งดกว่านี้ชั้นคงช่วยริตคุงได้แล้วแท้ๆ”

“อย่าโทษตัวเองเลยน่า”

ริตคุงยิ้มออกมาพร้อมกับลูบหัวสึกุที่กำลังร้องไห้ ก่อนที่เขาจะคิดไอเดียอะไรดีขึ้นมาได้

“งั้นเอาแบบนี้เป็นไง นี่เป็นกล่องที่คุณแม่ชั้นเคยให้ไว้ ถ้าหากเธอชนะไอ้ความยึดมั่นในหลักเหตุผลจนซื่อบื้อมากเกินไปของเธอและช่วยใครสักคนโดยไม่สนหลักเหตุผลใดๆ นั้น เธอจงมอบมันให้เขา”

สึกุเช็ดน้ำตาก่อนจะพยักหน้า “ถ้างั้นชั้นก็จะให้เหมือนกันนี่เป็นของคุณพ่อให้ชั้นไว้ ถ้าหากริตคุงโดนรังแกและมีคนช่วยริตคุงไว้ เธอคนนั้นคงจะเหมาะสมกับริตคุงแล้วล่ะ มอบมันให้เธอนะ!”

…….

ภาพความทรงจำพัดผ่านไป.. ริวตะได้สติกับมาก่อนจะถามด้วยความสงสัย..

“เธอคือ… สึกุ..?”

“ริวตะคือ..ริตคุง…?”

โชคชะตาช่างน่าหวาดกลัว ไม่คิดว่าทั้งสองจะเคยเป็นเพื่อนสมันเด็กกันเมื่อนานมาแล้ว

ริวตะกอดชิซึกุในทันทีก่อนที่น้ำตาเขาจะไหลบ้าง..

“สึกุ…สึกุ… สึกุ… รู้ไหมชั้นคิดถึงเธอขนาดไหนสึกุ…”

“อื้อ.. ริตคุง… ชั้นเหมือนกัน..ตามหามาตลอด..ตามคนที่มอบแหวนให้ชั้นมาตลอดเลยล่ะ…”

ทั้งสองคนกอดกันปลดทุกข์ในใจออกมา…

ชิซึกุคิดในใจ

“นี่…ริตคุง… คงทรมานมากสินะ.. เจ็บปวดมาตลอดสินะ.. ชั้นที่เคยคิดจะแข็งแกร่งเพื่อช่วยริตคุง.. เพราะแบบนี้ถึงฝึกเคนโด้ แต่ว่าก็เอาชนะตัวเองไม่ได้.. ทำให้ริตคุงเจ็บปวดทรมาน… ในขณะที่ชั้นลืมเรื่องต่างๆ .. ขอโทษนะ.. ขอโทษ…. ชั้นขอโทษจริงๆ … ใช่แล้ว.. ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะใช้วิธีสันติอีกต่อไป.. ถ้าแบบนั้นชั้นก็จะแกร่งขึ้นเพื่อที่จะทำให้คนอื่นๆ เชื่อฟังชั้น… และ… ฆ่าคนที่ทำให้ริตคุงเป็น ‘บ้า’ แบบนี้”

ชิซึกุมองไปที่ผนังห้อง..ที่เตียงในห้อง.. ในสายตาของเธอนั้นมันแทบจะปกติดีทุกอย่าง… และไม่แม้แต่จะเห็นรอยถูกฟันหรือรอยขีดขวดอะไรเลย……….

………..

[นึกว่าจะสดใสทั้งตอน ตอนท้ายตอน.. อะไรของมึ*วะคนเขียน กันไหมครับ..? แต่เห็นไหมเริ่มสดใสแล้ว! เชื่อใจผมได้ยังคร้าบ! – ผู้เขียน]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด