ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 2 การเปลี่ยนแปลงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

chapter 1 โชคร้ายกว่านี้มีอีกมั้ย...!!??


เมื่อเฉิงเจียวหยางได้เห็นแม่คนใหม่ของเธอยืนอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน เธอรู้สึกราวกับหัวใจของเธอได้แตกสลายไปแล้ว

ประตูสีเทาได้ถูกเปิดออก ภายในตัวบ้านนั้นดูเรียบๆ ธรรมดาทั่วไปและสกปรกมากเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการได้ เมื่อเธอมองไปที่มุมห้องก็เห็นเตียงที่ยาวเพียงแค่ 1.5 ฟุตเท่านั้น พร้อมกับตู้เสื้อผ้าที่ดูสภาพโทรมๆข้างหัวเตียง ส่วนมุมตรงข้ามมีโต๊ะไม้และเก้าอี้พลาสติกเก่าๆสองตัววางอยู่ นอกจากนี้ด้านในยังมีโถงแคบๆ  เป็นทางเดินเข้าไปสู่ห้องครัวและห้องน้ำ

เธอต้องยอมรับความจริงที่ว่าเธอได้เปลี่ยนเป็นอีกคนนึงไปแล้ว และเธอต้องสลัดความทะนงตนของตัวเองออกไปให้หมด เพื่อเรียนรู้ตัวตนใหม่ของเธอให้ได้

ในฐานะเสาหลักของครอบครัว สวีชิงจะต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดภายในบ้าน ซึ่งเงินค่าจ้างที่สวีชิงได้รับก็ไม่ค่อยเพียงพอมากนัก

สวีชิงเป็นแม่ใหม่ของเธอ และชื่อของเธอในตอนนี้คือ สวีเจี่ยวเจียว

ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าครอบครัวนี้ของเธอมีฐานะที่ยากจน แต่เมื่อเธอได้มาเห็นครอบครัวเป็นครั้งแรกมันก็ทำให้เธอตระหนักได้ว่าครอบครัวนี้โชคร้ายมากกว่าที่เธอคิดซะอีก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เธอยากที่จะยอมรับมันได้...!!!

เธอตกอยู่ในภวังค์ของความคิดเป็นเวลานาน จนกระทั่งเธอได้ยินเสียงปิดประตูลง มันสามารถเรียกสติของเธอออกมาจากภวังค์ความคิดได้ทันที และเธอกลับพบว่าตอนนี้มีเธอพียงคนเดียวที่อยู่ในห้องแล้ว

ในขณะที่เธอนั่งคิดวนไปวนมาอย่างสงสัยอยู่นั้น แม่คนใหม่ของเธอก็ได้ทำงานบ้านต่างๆ เช่น ทำอาหาร ซักผ้า และถูพื้น แถมเธอยังเตรียมชามที่ยังไม่ได้ใช้มาสองใบและตะเกียบอีกหนึ่งคู่มาวางไว้บนโต๊ะ และเป็นเวลาที่สวีชิงกำลังจะออกไปทำงานแล้ว

“เจี่ยวเจียว แม่ออกไปทำงานก่อนนะ กินข้าวเสร็จแล้วก็รีบเข้านอนนะจ๊ะ” เธอจำได้รางๆว่าเป็นคำพูดทิ้งท้ายของสวีชิงก่อนที่เธอจะออกไปทำงาน

เฉิงเจียวหยางได้นั่งเอามือเท้าคางและชายตามองอาหารในชามอย่างขมขื่นพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ

วันที่เธอตายสาเหตุจะต้องมาจากการอดตายแน่นอน...!!

เฉิงเจียวหยางวางตะเกียบลงบนโต๊ะและเดินไปที่เตียงนอน เธอหยิบกระเป๋าเป้สะพายหลังที่เธอนำกลับมาจากโรงพยาบาลเธอพลิกกระเป๋าพร้อมกับเทสิ่งของภายในออกมาจากกระเป๋า มีทั้งโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน กุญแจ และสิ่งของเบ็ดเตล็ดจำนวนหนึ่ง

เธอหยิบโทรศัพท์ กระเป๋าเงิน และกุญแจขึ้นมา แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป

เธอต้องหาที่ทำการไปรษณีย์ก่อน เพื่อเติมเงินโทรศัพท์ของเธอ หลังจากที่เธอค้นพบว่าเธอกลายเป็นคนอื่น เธอได้พยายามติดต่อกับญาติที่เธอไว้ใจมากที่สุด นั่นก็คือปู่ของเธอ โชคไม่ดีหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในเย็นวันนั้นปู่ของเธอพาตัวเธอไปต่างประเทศเพื่อรับการรักษา ถ้าเธอต้องการที่จะติดต่อคุณปู่ของเธอ เธอต้องผ่านผู้ช่วยส่วนตัวของปู่นั่นก็คือลุงเจิง แต่โชคยังดีหน่อยที่เธอมักจะโทรหาลุงเจิงบ่อยๆ ดังนั้นเธอจึงจำเบอร์โทรของลุงเจิงได้แม่น แต่เมื่อเธอโทรหาลุงเจิง ไม่เพียงแต่เขาปฏิเสธเธอ และแทนที่จะส่งต่อโทรศัพท์ให้คุณปู่ของเธอ เขายังวางสายใส่เธออีกด้วย!! หลังจากนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอดูเหมือนว่าเงินหมดและไม่สามารถโทรออกได้อีก ดังนั้นก่อนที่เธอจะทำสิ่งใดเธอต้องมีโทรศัพท์ที่สามารถใช้งานได้ก่อนเป็นอย่างแรก

เฉิงเจียวหยางเดินไปตามถนนและเก็บขยะเพื่อนำไปขาย เธอรู้สึกเหมือนเธออยู่ในฝันร้าย ไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอยังคงขับรถสปอร์ตอย่างกระตือรือร้น เพื่อติดตามน้องสาวของเธออยู่เลย แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นเด็กยากจนที่อาศัยอยู่ในบ้านเช่าเก่าๆโทรมๆ เธอจึงต้องไปที่ทำการไปรษณีย์เป็นเพื่อเติมเงินโทรศัพท์ของเธอ!!

โลกของธุรกิจไม่มีความแน่นอน!!

ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเธอพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป น่าเสียดายแม้ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขมาเป็นเวลานาน แต่เธอก็ไม่เคยเดาได้เลยว่าหลังจากที่เธอเหยียบเบรก จนเธอมีอาการหัวใจวายเฉียบพลัน และไม่ได้มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าใดๆ เลย

และสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงมากที่สุดคือ เธอได้ตื่นขึ้นมาในร่างของคนอื่น!!

เฉิงเจียวหยางไม่ทันสังเกตว่ามาถึงหน้าอาคารที่ที่ทำการไปรษณีย์ตั้งอยู่ ตอนเธอกลับบ้านพร้อมกับสวีชิง เธอสังเกตเห็นว่ามีที่ทำการไปรษณีย์อยู่ใกล้กับสถานีรถบัส โชคดีบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้น เดินไปตามถนนเพียงห้านาทีจากสถานีรถบัสก็ถึงแล้ว

ในตอนบ่าย เนื่องจากอากาศร้อนมากจึงไม่มีใครออกมาเดินไปเดินมาบนทางเท้ามากนัก และมีพนักงานหญิงเพียงคนเดียวในที่ทำการไปรษณีย์ ซึ่งกินอาหารกลางวันของเธออยู่

“สวัสดีค่ะ! พอดีฉันอยากเติมเงินโทรศัพท์ ต้องทำยังไงบ้างคะ?” เฉิงเจียวหยางเดินเข้าไปถาม

พนักงานหญิงมองขึ้นมาและตอบว่า “คุณต้องการเติมเงินเท่าไรคะ? โปโมชั่นตอนนี้ ถ้าคุณเติมเงินหนึ่งร้อยเหรียญ คุณจะได้รับของกำนัลฟรีค่ะ”

เฉิงเจียวหยางเปิดดูเงินในกระเป๋าและเดินถอยกลับมาอย่างเงียบๆ …สิบดอลลาร์

“...” ดวงตาของพนักงานจ้องมองไปมาระหว่างโทรศัพท์ที่เฉิงเจียวหยางถืออยู่ในมือซ้ายแลธนบัตรที่อยู่ในมือขวา

เฉิงเจียวหยางก้มศีรษะของเธอขณะที่มองโทรศัพท์ จริงๆ แล้วเธอก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก พวกเขายากจนอย่างมาก แต่สวีเจี่ยวเจียวสามารถใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นที่มีมูลค่าหลายร้อยดอลลาร์ได้

เวลาผ่านไปไม่นาน เฉิงเจียวหยางเดินออกจากที่ทำการไปรษณีย์ และก็ได้รับสายตาแปลกๆจากพนักงานหญิงคนนั้น

แม้แสงแดดข้างนอกจะเปล่งแสงสว่างจ้า แต่ข้างในหัวใจของเธอช่างมืดมนยิ่งนัก

เธอสังเกตเห็นเพียงไม่กี่นาทีที่ผ่านมาว่าเงินที่เหลืออยู่ในกระเป๋าเงินเล็กๆ ของเธอสามารถนับได้อย่างง่ายดาย ธนบัตรที่ใหญ่ที่สุดที่เธอเคยใช้เติมเงินโทรศัพท์คือสิบดอลลาร์ แต่ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่ดอลลาร์เท่านั้น

ตอนนี้ทั้งหมดเหลือไม่กี่ดอลลาร์แล้ว...!!

มันมีสิ่งที่สามารถซื้อด้วยเงินไม่กี่ดอลลาร์ด้วยเหรอ..!?

เธอที่เคยร่ำรวยและมีเงินใช้มากมาย ซึ่งไม่เคยขาดเงินมาก่อน ตอนนี้ได้แต่เดินไปตามท้องถนนอย่างไร้จุดหมายรู้สึกกระอักกระอ่วนใจและอับอายตัวตนใหม่ของเธออย่างบอกไม่ถูก

ก่อนหน้านี้ เมื่อใดก็ตามที่เธอจะออกไปข้างนอกก็จะมีคนคอยติดตามเธอไปทุกที่และคอยดูแลเธอไม่ว่าเธอจะต้องการอะไรก็ตามเธอก็จะได้มาอย่างง่ายๆ

ก่อนหน้านี้ เธอใช้เครื่องมือที่ดีที่สุดในการวาดภาพและเรียนรู้จากอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

ก่อนหน้านี้ ชุดของเธอน่าจะหรูและแพงที่สุดก็ว่าได้ รถของเธอมีกลิ่นหอมด้วยน้ำหอมราคาแพง ได้ดื่มไวน์ที่ดีที่สุด และมีอาหารมากมายที่เป็นแต่อาหารดีๆ ทั้งนั้นที่ปรากฏต่อหน้าเธอ

ก่อนหน้านี้ เธอสามารถทำอะไรก็ได้โดยที่เธอไม่ต้องสนใจใครในโลกใบนี้ ...

และตอนนี้ เธอถูกทิ้งไว้กับเงินอีกไม่กี่ดอลลาร์เท่านั้น ขณะที่ยืนอยู่ที่สี่แยกเธอตระหนักว่า ถ้าไม่มีตัวตนเฉิงเจียวหยางตัวตนของสวีเจี่ยวเจียวคงไม่สามารถทำอะไรได้เลยสินะ

ทันใดนั้น ก็มีสายเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น

เฉิงเจียวหยางยืนครุ่นคิดและจ้องมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอ เธอสังเกตเห็นว่าหน้าจอกำลังแสดงเบอร์โทรที่ไม่ได้บันทึกไว้ เธอลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะตัดสินใจรับสายโทรศัพท์ในที่สุด

“สวัสดีค่ะ?”

“เจี่ยวเจียว ใบตอบรับการเข้ามหาวิทยาลัยของคุณมาถึงโรงเรียนเมื่อวานนี้ แต่ฉันติดต่อคุณไม่ได้เลยในช่วงสองวันที่ผ่านมา!! ยังไงคุณก็อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าโทรศัพท์มือถือของใช้ได้อีกหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะพลาดข้อมูลสำคัญเอาได้นะ ยังไงคุณก็เข้ามาเอาเอกสารที่โรงเรียนได้เลยนะ ฉันอยู่ที่ออฟฟิศมาสองสามวันแล้ว”

"อ๋อ…โอเคค่ะ"

หลังจากที่เฉิงเจียวหยางวางสายโทรศัพท์ไปแล้ว จู่ๆก็ต้องปวดหัวอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า เธอไม่รู้เลยว่าสวีเจี่ยวเจียวจบมากจากที่ไหน!!

เธอจึงตัดสินใจกลับไปยังบ้านที่เธออาศัยอยู่ในขณะนั้น เพื่อดูว่ามีข้อมูลอะไรที่พอจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง

หลังจากที่เฉิงเจียวหยางค้นห้องนอนเล็กๆ ของเธอจนทั่ว เธอกลับต้องแปลกใจที่ไม่สามารถหาข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนได้เลย ไม่ต้องพูดถึงไดอารี่ ไม่มีแม้แต่คำใบ้ที่เกี่ยวข้องกับหนังสือเรียนหรือสมุดจดการบ้านด้วยซ้ำ

ห้องนี้มีขนาดเล็กเกินไปจริง ๆ !!

หลังจากที่หาอยู่นานจนตอนนี้เนื้อตัวของเฉิงเจียวหยางเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่ก็ยังคงไม่เจอข้อมูลที่เธอต้องการเลย เธอเริ่มรู้สึกหมดหวัง และเริ่มคิดย้อนไปถึงเรื่องการสร้างอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นมาใหม่เพื่อดูว่าเธอจะกลับสามารถไปสู่ร่างเดิมได้หรือไม่ นี่เป็นเพียงความคิดชั่ววูบเท่านั้น เนื่องจากเธอกลัวเกินกว่าที่จะเสี่ยงโชคกับเดิมพันสูงขนาดนี้

เฉิงเจียวหยางเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเยาะเย้ยรสนิยมการแต่งตัวของอดีตเจ้าของร่างของเธอสักหน่อย เธอเลือกเสื้อยืดสีขาวแบบสุ่มๆ มาและเลือกกางเกงยีนส์ยาวถึงเข่าแทนกางเกงลำลองแบบหลวมๆ

จากนั้นเธอจึงใช้กรรไกรคู่หนึ่งค่อยๆ ตัดเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ เพื่อเปลี่ยนรูปร่างของเสื้อผ้า

จากเสื้อยืดคอสูงถูกตัดให้กลายเป็นคอลึก ในขณะที่ชายเสื้อด้านล่างสั้นลงด้วยการตัดแนวขวางยาวครึ่งนิ้วแยกออกจากกัน และกางเกงยีนส์ที่มีความยาวถึงเข่าเธอได้ตัดมันให้เป็นกางเกงยีนส์ขาสั้นไปแล้วตอนนี้

สำหรับชุดชั้นใน เธอขอให้สวีชิงซื้อชุดใหม่ให้ไม่กี่ชุดตอนที่เธอยังอยู่ในโรงพยาบาล แม้ว่ามันจะเป็นเสื้อผ้าของเจ้าของคนเก่า แต่เธอก็ไม่อยากที่จะสวมใส่เสื้อผ้าส่วนตัวของคนอื่นอยู่ดี

เมื่อเธอเข้าไปในห้องน้ำ เธอก็ค้นพบอีกว่าเป็นห้องน้ำที่ดูธรรมดาเรียบๆและไม่มีแม้แต่เครื่องทำน้ำอุ่นด้วยซ้ำ!!

เฉิงเจียวหยางได้รู้สึกอยากจะบ้าตายกับสภาพแวดล้อมในตอนนี้มาก มันทุกอย่างมันกำลังทดสอบความอดทนของเธออยู่สินะ ทุกครั้งที่เธอคิดว่า มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในตอนนี้แล้ว แต่มันจะมีบางอย่างที่แย่กว่านั้นมาให้เธอได้เจออยู่เรื่อยๆนะ

บนผนังสีเทา มีกระจกสูงครึ่งเมตรแขวนอยู่และมันยังสะท้อนให้เห็นถึงความตกต่ำที่ตัวของเฉิงเจียวหยางกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เห็นว่าหน้าตาของเธอก็ดูไม่แย่มาก มีขนตายาวรอบดวงตาที่กลมโต มีจมูกที่ตรงเป็นสัน และมีริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างใบหน้าเล็กๆ ของเธอคล้ายกับของสวีชิง แต่คางกับแก้มของเฉิงเจียวหยางไม่เหมือนกับสวีชิงตรงที่มีผิวราวกับเด็กทารก

เฉิงเจียวหยางต้องพยายามหรี่ตาของเธอ ในขณะที่ดูรูปร่างหน้าตาของเธอในกระจก ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเธอจะไม่แย่มาก แต่ผมทรงนี้ทำลายเสน่ห์ของเธอไปเยอะเลย นอกจากนี้เธอยังมีดวงตาที่สวย และเจ้าของร่างคนเก่าคงต้องทนทุกข์ทรมานจากสายตาสั้นจนเธอต้องหยีตาเพื่อมองดูสิ่งต่างๆ

โดยรวมแล้วสิ่งเดียวที่ทำให้เธอพอใจกับร่างใหม่ของเธอ คือสุขภาพดีและสูง สำหรับเธอคุณสมบัติทั้งสองนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่เธอต้องการเสมอเพราะถ้าเธอมีความสูงของสวีเจี่ยวเจียว เธอคงไม่ต้องเกลียดสวรรค์ ร่างกายของเธอสูงเพียง 1.6 เมตร และเธอมักถูกล้อมรอบด้วยหญิงชาวต่างชาติที่สูงตลอด เธอมักโดนกลุ่มเด็กนักเรียนพวกนั้นดูถูกเรื่องความสูงของเธออยู่บ่อยครั้ง

เฉิงเจียวหยางได้นึกถึงคำพูดที่เธอเคยโดนดูถูก มันมากมายจนจุดประกายความโกรธของเธอได้เลยเชียวล่ะ แน่นอนว่าถ้ายังปล่อยให้ตัวเธอเองรู้สึกโกรธอยู่แบบนี้มันคงไม่ส่งผลดีแน่ ดังนั้นเมื่อเธอไม่สามารถเพิ่มความสูงของเธอได้เธอจึงมุ่งความสนใจไปที่ด้านอื่นๆ เช่น นักวิชาการ และอื่นๆ รวมถึงการปรับแต่งรสนิยมของเธอในสิ่งต่างๆ เช่น ดนตรีวรรณกรรม แฟชั่น และอาหาร เธอเรียนอย่างหนักเพื่อทำให้คนที่เคยดูถูกเธอทุกคนต้องอิจฉาเธอ

“ดูเหมือนว่าแม้ในสถานการณ์ที่โชคร้ายที่สุด มันก็ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เลวร้ายล่ะนะ”

เฉิงเจียวหยางพึมพำกับตัวเองในขณะที่เธอก้มหัวมองขายาวๆของเธอ และนั่นก็ทำให้เธอเผยรอยยิ้มอันน่ายินดีออกมา

สายตาของเธอจ้องมองที่เสื้อผ้าในมือของเธอ และสีหน้าของเธอก็บ่งบอกได้ว่าเธอกำลังรู้สึกเซ็งกับสิ่งที่อยู่ในมือของเธอ

น้ำร้อน...!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด