ตอนที่แล้วGOI ตอนที่ 107 ข้าจะให้เจ้ารู้ว่าเจ้าทำอะไรลงไป!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGOI ตอนที่ 109 ลาก่อน รองเจ้าสถาบันลั่ว

GOI ตอนที่ 108 เมื่อมีสตรีเช่นนาง ยังจะร้องขอสิ่งใดได้อีก?


ท่วงทำนองแห่งบทเพลงรักบรรเลงตลอดทั้งคืน...

ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นเหนือนภา แสงแรกแห่งรุ่งอรุณสาดส่องผ่านรอยร้าวแห่งพฤกษาแมกไม้ ขณะที่ชายหนุ่มโอบกอกดเรือนร่างที่ทั้งเปราะบาง อบอุ่นและอ่อนนุ่ม ป๋ายเสี่ยวเฟยหันศีรษะไปมองหูเซียนเอ๋อร์ผู้กำลังนอนขดตัวอยู่ข้างกายด้วยสีหน้าอิ่มเอมใจ

นางมีเรือนกายงดงามประณีตราวกับทำมาจากหยกพร้อมรอยยิ้มอ่อนจางบนใบหน้า ลมหายใจยาวกระทบแผงอกของป๋ายเสี่ยวเฟยด้วยระยะเวลาคงที่ หูเซียนเอ๋อร์ดูราวกับเป็นแมวน้อยแสนเชื่อฟัง แตกต่างจากโฉมสะคราญสายแปลงกายในใจของป๋ายเสี่ยวเฟยอยู่มากโข

ความแตกต่างนี้ทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่อาจยับยั้งตนเองได้...

เป็นดั่งที่หูเซียนเอ๋อร์พูด นางได้ให้ป๋ายเสี่ยวเฟยรับรู้ว่าเขาทำสิ่งใดกับนางไปบ้าง แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไปสำหรับป๋ายเสี่ยวเฟย

รวดเร็วจนเขาตั้งตัวไม่ทัน

ขณะที่เขาดึงผ้าห่มมาปกปิดเรือนร่างของทั้งสอง ป๋ายเสี่ยวเฟยจูบเบาๆ ที่แก้มของหูเซียนเอ๋อร์

‘ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าจะปกป้องเจ้า!’

ป๋ายเสี่ยวเฟยคิดในใจพลางกอดนางแน่นขึ้น ความรู้สึกที่ส่งผ่านมากดดันให้เขาใจลอยอย่างช่วยไม่ได้

“พอเถอะ ไม่เอาแล้ว...”

เมื่อนางได้รับสัมผัสที่ผิดแปลกไปจากเดิม หูเซียนเอ๋อร์ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย นัยน์ตาน่าหลงใหลมองป๋ายเสี่ยวเฟยอย่างอ้อนวอน

เดิมทีนางต้องการจะสั่งสอนป๋ายเสี่ยวเฟยสักครา แต่หลังจากเริ่มได้ไม่นาน ผู้ที่ถูกสั่งสอนกลับเป็นนางเสียเอง เป็นเพราะป๋ายเสี่ยวเฟยที่ครอบครองหยวนตันเม็ดนั้นไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะเทียบเคียงได้...

อย่างน้อยนางที่เป็นสัตว์อสูรก็มิอาจทนต่อ ‘การสำรวจไร้จุดจบ’ ของป๋ายเสี่ยวเฟย...

“ข้าไม่ได้มีใจคิดเป็นอื่น มันเป็นเพียงปฏิกิริยาปกติ...”

เสียงของป๋ายเสี่ยวเฟยแฝงความอับอายขณะที่เขาขยับตัวเล็กน้อย หูเซียนเอ๋อร์แย้มยิ้มอย่างมีความสุขพลางกอดรัดลำคอของป๋ายเสี่ยวเฟยแน่นกว่าเดิม

“ข้าจะทำให้เจ้าพึงพอใจหลังจากเก่งกว่านี้”

หูเซียนเอ๋อร์ที่นอนอยู่ข้างกายกระซิบข้างหูเขา ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้สึกรุ่มร้อนทั่วร่างอีกครา

หูเซียนเอ๋อร์ดูราวกับพึงพอใจการตอบสนองของป๋ายเสี่ยวเฟยอย่างมาก รอยยิ้มบนใบหน้าฉีกกว้างกว่าเดิมอย่างช่วยไม่ได้

ใครจะไปคาดคิดว่าคู่รักแสนอบอุ่นตรงหน้าจะเป็นราวกับคนแปลกหน้าในคืนก่อน?

คำพูดจากตำนานเป็นจริง ไม่มีสิ่งใดที่ดีไปกว่า...

ป๋ายเสี่ยวเฟยเริ่มนึกถึงภาพต่างๆ ที่พวกเขาพานพบกัน เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อนึกถึงบางสิ่ง

“เจ้าขำอะไร?”

หูเซียนเอ๋อร์ขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อยพลางคลานขึ้นมาจากอ้อมกอดของป๋ายเสี่ยวเฟยเพราะนางรับรู้ได้ว่าป๋ายเสี่ยวเฟยกำลังหัวเราะเยาะนางอยู่

“เพราะข้าเข้าใจบางเรื่องขึ้นมาได้ และข้ารู้สึกว่าตัวเองโง่มาก เลยขำออกมา”

คำพูดของป๋ายเสี่ยวเฟยไม่ได้โกหก แต่หูเซียนเอ๋อร์ไม่มีความคิดจะปล่อยให้ป๋ายเสี่ยวเฟยหลีกเลี่ยง

“พูด! เรื่องอะไร!”

“ปฏิกิริยาตอนเจ้าพบเจอกับข้าในอดีต ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเหตุใดเจ้าทำตัวเช่นนั้น แต่เมื่อคิดดูแล้ว เจ้าแค่หึง...”

หูเซียนเอ๋อร์แค่นเสียงเย็นชาใส่ป๋ายเสี่ยวเฟยที่หัวเราะลั่น

“อะไร? ไม่ได้หรือ? หรือว่าเจ้าจะไม่หึงหากเป็นข้า? ไม่เพียงเจ้าจำสิ่งที่ทำลงไปไม่ได้ เจ้ายังมีดรุณีน้อยมากมายเคียงกาย!”

หูเซียนเอ๋อร์จ้องหน้าป๋ายเสี่ยวเฟยเขม็ง มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย นางถามคำถามที่แทบทำให้เขากระอักโลหิต

“แล้วเจ้าตั้งใจจะทำอย่างไรกับผู้ติดตามน้อยและอาจารย์งดงามของเจ้า?”

‘ประสาทรับกลิ่น’ ของหูเซียนเอ๋อร์เฉียบคมเหลือคณา นางค้นพบจุดอ่อนสองที่ของป๋ายเสี่ยวเฟยได้อย่างรวดเร็วทันใจนัก

หลินหลียังดี ที่นางเกาะติดป๋ายเสี่ยวเฟยเนื่องเพราะนิสัยเรียบง่าย และป๋ายเสี่ยวเฟยสามารถชักจูงนางไปสู่หนทางที่ถูกต้องได้หากเขาพยายามหนัก

แต่ความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากกับเสวี่ยอิ่งนั้น...

“อะไร? เจ้าไม่อาจแยกทางกับพวกนาง? เจ้าอยากได้โฉมสะคราญรายล้อมซ้ายขวาหน้าหลัง?”

น้ำเสียงของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชา ความเห็นแก่ตัวเป็นนิสัยที่หญิงสาวทั้งปวงล้วนมี ไม่เว้นแม้แต่สัตว์อสูร

“ไม่! ไม่ใช่! ไม่ใช่! ข้าไม่มีความคิดเช่นนั้น! แต่...”

ปกติแล้วป๋ายเสี่ยวเฟยจะเป็นฝ่ายหลอกลวงผู้อื่น แต่จู่ๆ สมองของเขาก็เกิดวงจรติดขัดขึ้นมา หรือคงเป็นเพราะเขาไม่อาจทนเห็นตัวเองโกหกหูเซียนเอ๋อร์

“แต่อะไร?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยถอนหายใจยาวเหยียด ตัดสินใจที่จะบอกไปตามตรง

“หลินหลีแค่ติดข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของชายหญิง แต่ในระหว่างที่ข้าไม่รู้เรื่องราวระหว่างพวกเราสองคน เกิดบางอย่างขึ้นกับข้าและพี่หญิงเสวี่ย...”

เสียงของป๋ายเสี่ยวเฟยแฝงความลังเลพลางเอ่ยช้าๆ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและเสวี่ยอิ่งโดยไม่ปกปิดแม้แต่เรื่องเดียว

ป๋ายเสี่ยวเฟยเตรียมตัวที่จะถูกประหารชีวิต แต่เขากลับได้รับคำถามแทน

“เจ้ารู้ตัวตนที่แท้จริงของข้าหรือไม่?”

นางไม่ได้ทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยลำบากใจ แต่กลับถามคำถามที่ป๋ายเสี่ยวเฟยต้องตะลึงเล็กน้อยออกมา

“ข้ารู้ว่าสิ่งที่เจ้าต้องการจะพูดคืออะไร แต่ข้าไม่สนใจจริงๆ”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยออกมาอย่างจริงใจ ส่วนหูเซียนเอ๋อร์แย้มยิ้มแจ่มใส

“ข้ายังอยากบอกเจ้าอยู่ดี”

สีหน้าของหูเซียนเอ๋อร์แฝงความดื้อรั้น นางเอื้อมมือไปจับหน้าป๋ายเสี่ยวเฟยให้มาสบตากับนาง

“ข้าไม่ใช่มนุษย์ ข้าเป็นสัตว์อสูร เคยได้ยินชื่อจิ้งจอกเงาอสุรีหรือไม่?”

ถึงแม้ป๋ายเสี่ยวเฟยจะเตรียมใจพร้อมแล้ว แต่เขายังคงตกตะลึงเมื่อได้ยินนางเอ่ย

‘ภรรยาข้าเป็นปีศาจจิ้งจอก!’

“ไม่เคย แต่รู้แค่ว่าเจ้าเป็นของข้า”

ป๋ายเสี่ยวเฟยกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะรีบยอมรับข้อเท็จจริง ทักษะจีบสาวยกระดับขึ้นอย่างก้าวกระโดด

“หืม ตอบได้ไม่เลว ข้าพึงพอใจมาก แต่ข้าไม่ได้จะทำให้เจ้ากลัว ข้าพูดความจริงเพราะไม่อยากโกหก”

หูเซียนเอ๋อร์หัวเราะในลำคออย่างสนุกสนานซุกซน

“แต่พลังของเจ้า...”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยความสับสนในใจเพราะสัตว์อสูรที่สามารถครอบครองร่างมนุษย์มีความแข็งแกร่งเทียบเท่านักเชิดหุ่นระดับไร้กาล แต่หูเซียนเอ๋อร์อยู่เพียงระดับสูง...

“เคล็ดวิชาจากตระกูลจิ้งจอกช่วยให้ข้ามีร่างมนุษย์ล่วงหน้า ร่างมนุษย์เจริญเติบโตไวกว่ามาก และเพื่อย่นเวลาที่พวกข้าจะมีที่ยืนในเทือกเขาไร้ขอบเขต น้องสาวและข้าเลือกหนทางนี้”

หูเซียนเอ๋อร์เอ่ยจริงจัง นางไม่คิดจะปิดบังสิ่งใดต่อป๋ายเสี่ยวเฟย

บางครา สัตว์อสูรก็เรียบง่ายกว่ามนุษย์มาก หากได้ตัดสินผู้คนไปแล้ว พวกเขาจะไม่ปิดบังแม้จะเป็นความลับที่อาจทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย

“กำไรแล้วสิข้า นี่มิเท่ากับได้ผู้สนับสนุนรายใหญ่ในเทือกเขาไร้ขอบเขตหรอกหรือ?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเปลี่ยนไปพูดเรื่องไร้สาระ

“อย่ามาล้อเล่น”

หูเซียนเอ๋อร์พูดในใจ สายตาจับจ้องป๋ายเสี่ยวเฟยเขม็ง

“ข้าเล่าเรื่องพวกนี้ให้เจ้าจังเพราะอยากจะบอกว่าข้าไม่มีเวลาอยู่เคียงข้างเจ้ามากนัก มนุษย์ไม่ยอมรับสัตว์อสูรเช่นข้า และเทือกเขาไร้ขอบเขตจะไม่รับมนุษย์เช่นเจ้า แต่ข้าไม่เสียใจ ถึงแม้ข้าจะไม่ยินยอม แต่ข้าไม่ว่าอะไรหากเจ้าจะคบค้าสมาคมกับมนุษย์คนอื่น”

ป๋ายเสี่ยวเฟยกระโดดเหยง แววตามีความมุ่งมั่น

“ข้าป๋ายเสี่ยวเฟย สาบานว่าสถานการณ์ที่เจ้าเอ่ยจะไม่เกิดขึ้น หากมนุษย์ไม่ยอมรับเจ้า ข้าจะสังหารพวกมันทุกคนที่ต่อต้าน หากสัตว์อสูรไม่ยอมรับข้า เช่นนั้นข้าขอพิชิตเทือกเขาไร้ขอบเขตไปพร้อมกับเจ้า!”

หูเซียนเอ๋อร์แย้มยิ้มอีกคราขณะที่นางมองป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยสัตย์สาบานจริงจัง

“ข้าเชื่อที่เจ้าพูด แต่นั่นต้องการเวลา และข้าไม่อยากให้เจ้าอยู่คนเดียวนานเกินไป...”

หูเซียนเอ๋อร์เอ่ยเสียงค่อย ในเวลานี้ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้สึกราวกับเขาถูกกำราบจนหมดสิ้น...

เมื่อมีสตรีเช่นนาง ยังจะร้องขอสิ่งใดได้อีก?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด