ตอนที่แล้วGOI ตอนที่ 106 ในที่สุดก็ได้เจอหูเซียนเอ๋อร์!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGOI ตอนที่ 108 เมื่อมีสตรีเช่นนาง ยังจะร้องขอสิ่งใดได้อีก?

GOI ตอนที่ 107 ข้าจะให้เจ้ารู้ว่าเจ้าทำอะไรลงไป!


“เจ้ามาแล้ว...”

“เจ้ามาทำอะไร?”

เมื่อทั้งคู่พบหน้า หนึ่งชายหนึ่งหญิงเอ่ยปากพูดเป็นเวลาเดียวกัน

ณ ปัจจุบัน ศิษย์หญิงรอบกายกลั้นลมหายใจเพราะนอกจากสอดรู้สอดเห็นแล้ว พวกนางยังอยากดูละครของไอดอลทั้งสอง...

“ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า...”

ป๋ายเสี่ยวเฟยหยุดชั่วครู่ ดวงตาจ้องนิ่งที่หูเซียนเอ๋อร์

“อะไรที่เจ้าไม่อาจรอถึงพรุ่งนี้? ต้องบุกรุกเข้ามาในหอพักหญิงเลยหรือ?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่อาจมองออกว่านางยินดีหรือเสียใจจากสีหน้าเพราะทักษะรับรู้อันเฉียบแหลมของเขาล้วนไร้ค่าต่อหน้าหูเซียนเอ๋อร์

“ข้ารอไม่ได้ จึงมาหา”

คำพูดของป๋ายเสี่ยวเฟยเพียงพอให้มีดาวเดือนเปล่งประกายในดวงตาของศิษย์หญิงรอบด้านเพราะละครที่พวกนางฝันถึงปรากฎให้เห็นตรงหน้า!

“เช่นนั้นก็ถามมา”

หูเซียนเอ๋อร์ดูเหมือนสงบนิ่งเยือกเย็น สีหน้าไม่แปรเปลี่ยนแม้น้อยนิด ส่วนสถานการณ์ในจิตใจ มีเพียงนางที่รับรู้...

“มีคนเยอะเกินไปที่นี่ ข้าไม่อาจถามเจ้าได้”

คำพูดพวกนี้เขาไม่ได้โกหกเพราะหากป๋ายเสี่ยวเฟยกล้าถามต่อหน้าคนมากมาย เขาคงต้องตกตายเป็นแน่แท้

ภายใต้กรงเล็บของหูเซียนเอ๋อร์...

“ลืมเถอะ หากไม่อาจถาม ข้าก็ไม่อยากได้ยิน”

หูเซียนเอ๋อร์เอ่ยแช่มช้าก่อนจะทำท่าจะจากไป

“เช่นนั้นคงต้องขออภัย!”

เสียงยังไม่จางหายไปจากอากาศธาตุ ป๋ายเสี่ยวเฟยก้าวขายาวพุ่งใส่หูเซียนเอ๋อร์ เขาไม่ได้พูดสักคำก่อนจะอุ้มนางขึ้นจากพื้น

ชั่วครู่หนึ่ง ศิษย์หญิงทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหล เสียงร้องกรี๊ดกร๊าดดังไปทั่วอาณาบริเวณหอพัก

“ปล่อยข้า!”

หูเซียนเอ๋อร์ตะโกนดังด้วยโทสะ แต่นางไม่ได้ขัดขืน เพียงทำแค่จ้องมองที่ตาป๋ายเสี่ยวเฟย ตามจริงแล้วหากนางต่อต้าน ป๋ายเสี่ยวเฟยสิบคนก็ไม่อาจต่อกรได้...

“สักพักข้าจะปล่อยเอง!”

เมื่อเขาเอ่ยจบ ป๋ายเสี่ยวเฟยราวกับถูกสารกระตุ้น เขาวิ่งอย่างบ้าคลั่งพลางอุ้มหูเซียนเอ๋อร์ในอ้อมแขน ในชั่วพริบตา พวกเขาหายไปจากสายตาของทุกคน ทั้งกระบวนการได้รับเสียงกรีดร้องแหลมบาดหูไม่รู้จบจากศิษย์หญิง...

“ที่นี่ไม่มีใคร ปล่อยข้าลงได้แล้วกระมัง?”

น้ำเสียงของหูเซียนเอ๋อร์ลดทอนความเย็นชาจากเมื่อครู่ไปหลายส่วน ป๋ายเสี่ยวเฟยกระทั่งสัมผัสได้ถึงความเขินอายเล็กน้อยในนั้น

เขาวิ่งออกจากสถาบันชิงหลัวเข้ามาในเทือกเขาไร้ขอบเขตจากเส้นทางที่พวกป๋ายเสี่ยวเฟยออกจากสถาบันเป็นประจำ

เป็นความเขินอายนี้เองที่ยิ่งทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้สึกกังวลมากกว่าเดิม...

มันช่วยไม่ได้!

เพราะดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาคาดเดาไว้จะเป็นเรื่องจริง!

ป๋ายเสี่ยวเฟยที่มีจังหวะการเต้นของหัวใจมากกว่าร้อยครั้งต่อนาทีวางหูเซียนเอ๋อร์ลงด้วยใบหน้าแดงซ่าน เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่จากไออุ่นและความนุ่มที่ส่งผ่านมาทางแขนของเขา

“นี่ไม่เหมือนเจ้า เหตุใดไม่หลบซ่อนมาหาข้า? ทำไมถึงได้บ้าบิ่นนัก?”

น้ำเสียงของหูเซียนเอ๋อร์แฝงความขุ่นเคืองที่ลึกล้ำเพราะหลังจากการเผชิญหน้ากับพวกศิษย์พี่ในวันนั้น ป๋ายเสี่ยวเฟยได้แอบลอบมาหานางอยู่บ่อยครั้ง นางรู้ว่าป๋ายเสี่ยวเฟยอยากจะเข้าใจในตัวนางให้มากขึ้น แต่วิธีที่เขาใช้ทำเอานางไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง

‘ข้าควรเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเขาที่สุด!!!’

“นั่น... ข้า...”

ขณะที่นางมองไปยังป๋ายเสี่ยวเฟยที่มีท่าทีลังเล หูเซียนเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะดูถูกเขา ความเขินอายในใจอันตรธานหายไป

“เมื่อรู่เห็นเจ้าบอกว่ามีเรื่องจะถามมิใช่หรือ? ความกล้าของเจ้าหายไปไหนหมด?”

หูเซียนเอ๋อร์หันไปมองป๋ายเสี่ยวเฟยด้วยสีหน้าเหลืออด หากป๋ายเสี่ยวเฟยยังไม่พูด นางจะเดินจากไปทันที

แต่นางไม่รู้ว่าพายุที่โหมกระหน่ำในจิตใจของป๋ายเสี่ยวเฟยรุนแรงเพียงใด

‘ถาม!?’

‘ข้าจะถามเช่นไร!?’

‘ข้าจะถูกอัดหรือไม่หากข้าเดาผิด!?’

‘แค่ถูกอัดยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้านางเกลียดข้าล่ะ!?’

‘บัดซบ! ข้าควรถามดีหรือไม่!?’

‘หากข้าเดาถูกล่ะ!?’

‘นางจะตอบอย่างไร!?’

‘ข้าควรทำเช่นไร!?’

ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้สึกว่าสมองเขาแทบจะระเบิด หูเซียนเอ๋อร์แค่นเสียงเย็นชาก่อนจะเตรียมตัวจากไป

“ข้าจะพูด!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยที่กระวนกระวายอยู่ในใจดึงแขนหูเซียนเอ๋อร์เพื่อหยุดนางไว้

ขณะที่หูเซียนเอ๋อร์หันกลับมามองป๋ายเสี่ยวเฟยอีกครา คิ้วเรียวงามของนาวขมวดมุ่น แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยกลับมองเห็นใบหน้าไร้ที่ติอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะหาคำมาบรรยาย

นางสมบูรณ์แบบเกินไป สมบูรณ์แบบถึงกับเพียงสีหน้าที่เผยก็พอให้ชายทุกคนต้องสยบแทบเท้า

ป๋ายเสี่ยวเฟยกลืนน้ำลายอึกใหญ่อีกครา ในที่สุดเขาก็นึกได้ถึงวิธีที่ ‘เหมาะสม’ ในการถาม เขากล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับว่าเกรงกลัวจะทำให้สัตว์น้อยตื่นตกใจ

“พวกเรา... เคยเจอกันก่อนจะมาถึงสถาบันชิงหลัวหรือไม่?”

เมื่อหูเซียนเอ๋อร์ได้ยินที่ป๋ายเสี่ยวเฟยถาม หูเซียนเอ๋อร์เบิกตากว้างตกตะลึง ความรู้สึกต่างๆ นานาพรั่งพรูเข้ามาในใจ ใบหน้าเย็นชาเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นความโกรธแค้น

‘ข้ารอมานานเพียงใด?’

‘และข้าอาจต้องรอมากกว่านี้?’

‘ไอ้สารเลว! ในที่สุดเจ้าก็รู้!?’

ขณะที่นางเค้นสมองสรรหาทุกคำมาด่าป๋ายเสี่ยวเฟยในใจ หูเซียนเอ๋อร์ชำเลืองมองป๋ายเสี่ยวเฟย

“ใช่”

คำพูดสั้นๆ เบาๆ บรรจุทุกความอยุติธรรมที่นางต้องประสบ ป๋ายเสี่ยวเฟยยืนเหม่อมีสีหน้าเลื่อนลอย

ไม่ว่าจะเป็นคำตอบหรือปฏิกิริยาตอบสนองล้วนต่างแฝงข้อมูลที่มากมายเกินไป ป๋ายเสี่ยวเฟยถึงกับไม่กล้าคิดต่อ

เมื่อครู่ ป๋ายเสี่ยวเฟยรีบร้อนอยากล่วงรู้คำตอบ แต่เมื่อเขาได้รับมันแล้ว เขากลับกลัวขึ้นมา

“เช่นนั้น...”

“หากมีสิ่งใดจะถามก็ถามออกมาตรงๆ จะกลัวอะไรนักในเมื่อข้ายังกล้าตอบเจ้า? ยังเป็นผู้ชายอยู่หรือไม่?”

หูเซียนเอ๋อร์ตะโกนเสียงดังขัดป๋ายเสี่ยวเฟยที่ยังลังเล สายตาจับจ้องแน่วแน่ที่เขาด้วยสีหน้าขึงขังพร้อมใบหน้าที่แดงซ่าน

‘ข้าไม่อาจรอได้อีกต่อไป!’

‘หากเจ้ายังกล้าบ่ายเบี่ยงในวันนี้อีก ข้าจะให้เจ้าตายที่นี่!’

“ข้าอยากถามว่าในอดีตข้าได้ล่วงเกินเจ้าไปหรือไม่!? ข้าเอาสิ่งใดจากเจ้าไปหรือไม่!?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยตะโกนออกมาด้วยเช่นกัน สำหรับเขาแล้ว วิธีที่เขาเอ่ยถามออกมาอ้อมค้อมเป็นอย่างมาก แต่ยังอยู่ในขอบเขตที่หูเซียนเอ๋อร์ยอมรับได้

“ใช่! เจ้าล่วงเกินข้าไปมาก! เจ้าเอาสิ่งที่สำคัญที่สุดของข้าไป!”

หูเซียนเอ๋อร์ตะโกนกราดเกรี้ยวอีกครา ลำธารแห่งน้ำตาสองสายไหลรินอาบแก้ม

นางไม่ได้ร้องไห้เมื่อถูกย่ำยีโดยป๋ายเสี่ยวเฟย นางไม่ได้ร้องไห้เมื่อสังเกตว่ามีดรุณีมากหน้าติดตามข้างกายป๋ายเสี่ยวเฟย และนางไม่ได้ร้องไห้เมื่อรู้ว่าป๋ายเสี่ยวเฟยลืมเลือนทุกอย่าง แต่นางกลับร้องออกมาเมื่อความจริงถูกเปิดเผย...

หูเซียนเอ๋อร์ไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงร้องไห้ นางมิอาจควบคุมไม่ให้มันไหลออกมาได้

หลุมแห่งความเศร้าโศกที่ไร้ก้นบึ้งในหัวใจนางราวกับระเบิดออกมา ความรู้สึกที่เก็บกดไว้ข้างในปะทุประดุจภูเขาไฟ

ป๋ายเสี่ยวเฟยมองไปยังหูเซียนเอ๋อร์ที่ร้องห่มร้องไห้ไม่รู้จบพลางรู้สึกว่าหัวใจของเขาแตกสลายโดยไร้สาเหตุ

มือทั้งสองสั่นเทิ้มเอื้อมไปหาหูเซียนเอ๋อร์ดึงนางเข้ามากอด วินาทีที่ร่างกายของทั้งคู่สัมผัส เส้นใยเปลวเพลิงในร่างของพวกเขาลุกโชนขึ้นมาพร้อมกัน

หูเซียนเอ๋อร์ผลักป๋ายเสี่ยวเฟยออกไปก่อนจะตะโกนอย่าง ‘ดุดัน’

“ข้าจะให้เจ้ารู้ว่าเจ้าทำสิ่งใดกับข้า!!!”

สมองของป๋ายเสี่ยวเฟยยังคงว่างเปล่ามิอาจประมวลผลได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นเมื่อเขาได้ยินเสียงเสื้อผ้าถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ จากนั้นสายลมเย็นเยียบพัดผ่านร่างของเขาไป ป๋ายเสี่ยวเฟยตัวสั่นเทิ้มเล็กน้อย

ในวินาทีต่อมา มีเรือนร่างร้อนรุ่มด้วยไฟกดเขาลงไป...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด