ตอนที่แล้วGE463 ปรุงดวงจิตเป็นโอสถ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE465 อนุสรณ์ปีศาจชิ้นที่ 2 [ฟรี]

GE464 ได้ในสิ่งที่ไม่สมควร [ฟรี]


ผู้ที่มาร่วมงานปรุงโอสถส่วนใหญ่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ายธรรมะ แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นฝ่ายอธรรม

ทั้งหมดรู้ดีว่าการนำดวงจิตของคนมาปรุงโอสถเป็นสิ่งผิด ยิ่งเป็นการปรุงโอสถด้วยดวงจิตของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงยิ่งเป็นเรื่องไม่สมควร

ในโลกพิรุณมีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงอยู่ไม่มาก นับรวมกันแล้วได้ประมาณร้อยกว่าคน ซึ่งในจำนวนนั้น โม่ฉุยอยู่อันดับ 1 ใน 50… การนำดวงจิตของมันมาปรุงเป็นโอสถจึงนับเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวและโหดเหี้ยม ทำให้ผู้คนหวาดกลัวหนิงฝานมาก

ในขณะที่ผู้คนหวาดกลัว หนิงฝานก็ผสานดวงจิตของโม่ฉุยที่ผ่านการชำระแล้ว เข้าไปในโอสถของเขาได้อย่างสมบูรณ์

หนิงฝานใช้ ‘วิชายกระดับโอสถ’ และ ‘วิชาโอสถชิงวิญญาณ’ เพื่อยกระดับโอสถของตนจากขั้นสูง ไปยังขั้นสูงสุด

ฤทธิ์ของโอสถระดับนี้ สมควรช่วยให้ยกระดับไปยังขอบเขตกายทองคำได้อีกขั้น

อีกเรื่องที่ทำให้ผู้คนตกตะลึง คือหนิงฝานดูดซับอัสนีที่ปรากฏเข้าไปทั้งหมด เพราะเขามีความสามารถในการต้านอัสนีที่ทรงพลังได้

นอกจากหนิงฝานที่ได้ผลประโยชน์แล้ว หวางถิงสื่อและยี่หยุนสื่อก็ได้ผลประโยชน์เช่นเดียวกัน

ทั้งสองนำโอสถไปตรวจสอบระดับ… โอสถของหวางถิงสื่อได้เงาสูง 50,000 จ้าง ส่วนของโอสถของยี่หยวนสื่อ ได้เงาสูงถึง 55,000 จ้าง ซึ่งหมายความว่ามีคุณภาพสูงกว่าของหวางถิงสื่อ

หนิงฝานยังไม่ได้นำโอสถของตนไปทดสอบทันที เขาหันมองกระถางปรุงโอสถของโม่ฉุยที่ยังเหลือปราณสมุนไพรอยู่พลางขบคิด

โอสถเล่ยเฉิงเป็นโอสถที่ช่วยยกระดับจิตวิญญาณสมุนไพรได้ดี แต่สมุนไพรของมันหายาก การที่โม่ฉุยได้สมุนไพรมาปรุงโอสถ นับว่ามันโชคดีเป็นอย่างมาก

แต่น่าเสียดายที่มันคิดร้ายกับหนิงฝาน ทำให้สมุนไพรของมันสูญเปล่า หากมันปรุงโอสถสำเร็จ คงได้โอสถที่ช่วยยกระดับจิตวิญญาณสมุนไพรได้ไม่น้อย

หนิงฝานพับแขนอาภรณ์ โบกมือรวบรวมปราณโอสถที่กระจัดกระจายเก็บเอาไว้

เหล่าผู้ที่เฝ้าขวดเพลิง เห็นการกระทำของหนิงฝานทุกอย่าง พวกมันล้วนสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

“ชะ...เชิญท่านหมิงวัดระดับโอสถ...” ผู้ที่เฝ้ากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่ความกลัวของมันก็ทำให้หนิงฝานไม่พอใจ

“อืม...”

หนิงฝานทำเป็นไม่สนใจพวกมัน การสังหารฉือคุณและโม่ฉุยทำให้เขาถูกผู้เชี่ยวชาญมากมายเพ่งเล็ง ดังนั้นเขาต้องยกระดับร่างกายไปยังขอบเขตกายทองคำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นอีกระดับ

หนิงฝานดีดนิ้ว โอสถผันปีศาจที่ลอยอยู่ มุ่งเข้าสู่ขวดเพลิง

ไม่นาน เงาร่างสีครามขนาดยักษ์ที่สูงกว่า 99,000 จ้างก็ปรากฏกลางท้องนภา

โอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุดจะสร้างเงาได้ที่ 80,000 จ้าง แต่โอสถของหนิงฝานสูงกว่านั้น ซึ่งหมายความว่าคุณภาพโอสถของเขาใกล้เคียงโอสถผันแปรที่ 6

“เกือบจะเทียบเท่าโอสถผันแปรที่ 6!”

นักปรุงโอสถมากมายตกตะลึงและอุทาน และในหมู่พวกมัน ก็มีนักปรุงโอสถคนหนึ่งที่รวบรวมความกล้าเดินออกมาแล้วป้องมือกล่าวถาม

“ข้าขอถามท่านหมิง… โอสถของท่านอยู่ระดับใด ทั้งข้าและสหายเต๋าคนอื่นๆไม่รู้...”

“โอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุด แต่เกือบจะถึงโอสถผันแปรที่ 6” หนิงฝานกล่าวตอบอย่างเรียบเฉย

ในโลกพิรุณมีโอสถผันแปรที่ 6 อยู่เพียง 7 คน การที่หนิงฝานปรุงโอสถได้ระดับนี้ ย่อมหมายความว่า เขาใกล้จะบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 6 แล้ว หากวิชาปรุงโอสถของเขาบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 6 เขาก็จะกลายเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 6 คนที่ 8 ของโลก

นั่นทำให้สถานะของหนิงฝานสูงส่งยิ่งขึ้น

งานโอสถในครั้งนี้ ผู้ที่ได้ชัยชนะคือหนิงฝาน รองลงมาคือยี่หยวนสื่อ และหวางถิงสื่อ

หากโม่ฉุยไม่ตาย มันคงได้อันดับ 2

การที่หนิงฝานสังหารจ้าววังสวรรค์แดงไม่ใช่เรื่องเล็ก ผู้คนเดาว่าวิหารพิรุณคงไม่ยอมอยู่เฉย อาจจะทำบางอย่างเพื่อลงโทษเขา

เมื่องานปรุงโอสถจบลง หนิงฝานกลับไปยังที่พักของตน ในระหว่างที่พักไม่มีนักปรุงโอสถใดกล้าเข้ามาหา เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้สนิทกับหนิงฝานมากนัก

ผ่านไป 10 วันหลังจากงานปรุงโอสถจบ มีข่าวที่น่าตื่นตะลึงแพร่ออกมาจากแคว้นกลาง ว่าตระกูลของโม่ฉุยถูกกษัตริย์พิรุณลงโทษ

กษัตริย์พิรุณประกาศออกมาว่า โม่ฉุยเป็นฝ่ายลงมือกับหนิงฝานก่อน การที่มันถูกสังหารนับว่าสมควร

นอกจากนี้ กษัตริย์พิรุณยังได้ประกาศว่า หากวันใดหนิงฝานบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง จะให้หนิงฝานขึ้นเป็นจ้าววังสวรรค์แดงแทน

ไม่มีใครคาดคิดว่ากษัตริย์พิรุณจะให้ความสำคัญกับหนิงฝานมากขนาดนั้น ที่สำคัญ ยังคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะได้ตำแหน่งแทนโม่ฉุยด้วย

หากในอนาคตหนิงฝานบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง เขาจะกลายเป็นจ้าววังสวรรค์แดงทันที นับเป็นการรับตำแหน่งที่คาดไม่ถึง ไม่ต่างอะไรกับทำผิดแล้วได้รางวัล

ชวี่ฉิงบอกหนิงฝานว่า การปรุงโอสถให้กับฉุ่ยเยวียนจะเริ่มขึ้นในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า แต่ก่อนหน้านั้น หนิงฝานต้องเข้าพบบรรพบุรุษของเผ่าก่อน

เหตุที่ต้องเข้าพบนั้น เป็นเพราะบรรพบุรุษของเผ่าได้ยินว่าเต๋าแห่งโอสถของหนิงฝานสูงส่ง จึงอยากจะขอให้ปรุงโอสถให้ นอกจากนี้พวกมันยังกล่าวด้วยว่า หากหนิงฝานปรุงโอสถให้พวกมันสำเร็จ ไม่ว่าต้องการสิ่งใดก็ย่อมให้ได้

“ไม่ว่าต้องการสิ่งใด...” หนิงฝานรู้ว่าบรรพบุรุษที่ชวี่ฉิงกล่าวถึงคือ 8 บรรพบุรุษพวกนั้น

แม้ว่าการที่พวกมันขอให้เขาปรุงโอสถให้จะนับเป็นเกียรติ แต่เขาก็ไม่ค่อยอยากทำให้พวกมันเท่าใดนัก

แต่อย่างน้อย มันก็ทำให้เขารู้ว่าฉุ่ยเยวียนอยู่กับพวกมันในตอนนี้

แม้พวกมันจะกล่าวว่าหากปรุงโอสถให้ได้ ไม่ว่าต้องการสิ่งใดก็จะให้ หากเขาขออนุสรณ์ปีศาจไปตรงๆ ไม่รู้ว่าพวกมันจะให้หรือเปล่า

อีกอย่าง หากเขาปรุงโอสถให้พิษให้พวกมันกิน ไม่รู้ว่าพวกมันจะตายหรือเปล่า

หนิงฝานเป็นห่วงฉุ่ยเยวียน แต่อย่างน้อยก็ยังมีหลิงคงและฉุ่ยหลิงที่คอยอยู่เป็นเพื่อเขา

ตั้งแต่ได้เฟินซื่อมา หนิงฝานยังไม่เคยแตะต้องนางแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเขาไม่อยากบังคับนาง

หลายวันผ่านไป ก็มาถึงวันที่ชวี่ฉิงบอกว่าจะพาหนิงฝานไปพบบรรพบุรุษ

ชวี่ฉิงพาหนิงฝานไปยังสถานที่ลับ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าบรรพบุรุษ

การที่ได้เข้าไปที่อยู่อาศัยของพวกมัน อาจทำให้เขาพบอนุสรณ์ปีศาจ และหากเกิดอะไรขึ้น เขาสามารถหลบหนีออกมาได้ด้วยดรรชนีหมอกเมฆาม่วง นอกจากนี้ เขายังมีพลังจากอนุสรณ์ตะวันจันทราที่จะสังหารพวกมันได้ในพริบตา

ก่อนหน้านี้ หยุนเนี่ยนซูได้บอกหนิงฝานว่า กษัตริย์พิรุณสั่งให้ราชาสุสานบุบผามาสั่งสอนเขา เรื่องที่เขาสังหารโม่ฉุยไป

แต่หนิงฝานไม่ได้สนใจ เพราะดวงจิตที่สองของมัน สมควรทำอะไรเขาไม่ได้ หากมันกล้ามาสั่งสอนเขาจริงๆ เขาก็จะใช้อนุสรณ์ตะวันจันทราสังหารมัน

อย่างน้อยตอนนี้มันคงไม่มาหาเขา เพราะมันเพิ่งจะบาดเจ็บจาก 8 บรรพบุรุษไป

เมื่อชวี่ฉิงนำหนิงฝานไปถึงสถานที่แห่งหนึ่ง หนิงฝานเคาะประตู เมื่อเปิดประตูเข้าไปภายใน เขาพบฟงฉุ่ยเยวียนที่ใบหน้าซีดขาว สีหน้าดูเป็นกังวล

“น้องเขย เจ้าอย่าไปพบพวกมันเลย พวกมันตั้งใจจะกินเจ้า!” ฉุ่ยเยวียนขยับปากแต่ไร้เสียง

นางเป็นห่วงหนิงฝานมาก จึงได้กล่าวอ้อนวอนเขาไป

“น้องเขยอย่าไปเลยนะ… พวกนั้นเป็นคนชั่ว...”

“เด็กโง่...”

หนิงฝานจ้องมองนางด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความเศร้า พลางยื่นมือลูบศีรษะของนางเบาๆ แต่ในใจของเขากลับอยากจะสังหารพวกมันให้หมด

การที่พวกมันอยากจะกินเขา แสดงว่าพวกมันเบื่อชีวิตแล้ว

ณ สถานที่เปลี่ยวร้างแห่งหนึ่งในทะเลส่วนใน ราชาสุสานบุบผาที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผล สร้างถ้ำและเก็บตัวรักษา

ข้างกายมันมีแผ่นหยกซึ่งเป็นคำขอของหยุนจิงหงให้มันไปสั่งสอนหนิงฝาน เมื่อมันแผ่สัมผัสเทพเข้าอ่าน จึงแค่นเสียงไม่พอใจ

“ฮึ่ม! หยุนจิงหง เจ้ากล้าออกคำสั่งกับข้า!”

“สั่งสอนซัวหมิง? ทำไมต้องให้ข้าสั่งสอนมัน มันไม่คู่ควรให้ข้าลงมือด้วยซ้ำ!”

มันขบคิด มันเคยพบหนิงฝานมาแล้ว 2 ครั้ง หนิงฝานนั้นเหมือนบ่อน้ำลึกที่ไม่อาจหยั่งก้นบ่อ แม้มันจะคิดว่าหนิงฝานอ่อนแอ แต่ก็สังหารฉือคุณและโม่ฉุยได้ แบบนั้นย่อมไม่นับว่าอ่อนแอ จนมันคิดว่ามันอาจดูแคลนหนิงฝานเกินไป

มันหวนนึกถึงตอนที่มันยังเยาว์ เมื่อคราวนั้นมันเป็นเหมือนคู่แข่งของหยุนเทียนเฉว แต่ด้วยที่หยุนเทียนเฉวดูเหมือนจะอ่อนแอ มันจึงล่วงเกินหยุนเทียนเฉวไป 2 ครั้งโดยที่อีกฝ่ายไม่ตอบโต้

แต่เมื่อถึงครั้งที่ 3 หยุนเทียนเฉวกลับชักกระบี่ แล้วเอาชนะมันได้ในพริบตา

นั่นคือเรื่องที่น่าอับอายที่สุดในชีวิตมัน

ดังนั้นมันจึงขบคิด ว่าลักษณะของหนิงฝานยามนี้เหมือนหยุนเทียนเฉวมาก หากมันลงมือกับหนิงฝาน มันอาจเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับในอดีต

“หากข้าล่วงเกินมันเป็นครั้งที่ 3… มันอาจชักกระบี่ออกมาเหมือนหยุนเทียนเฉว”

“ฮึ่ม! ยังไงซะเรื่องรวบรวมอนุสรณ์ปีศาจก็สำคัญกว่า ข้าไม่มีเวลาไปสั่งสอนมันหรอก!”

“ข้าต้องรีบรวบรวมอนุสรณ์ปีศาจให้ครบ ร่างหลักของข้าบาดเจ็บจากการทะลวงขอบเขตล้มเหลว… หากร่างหลักข้าฟื้นฟูเมื่อไหร่ พวกปีศาจเฒ่าอย่างพวกเจ้าไม่รอดแน่!” ราชาสุสานบุบผากล่าวด้วยโทสะ มันต้องเร่งรวบรวมอนุสรณ์ปีศาจให้ได้ เพื่อจะได้กลับไปล้างแค้นเผ่าปีศาจยักษ์...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด