ตอนที่แล้วGE462 วิชายกระดับโอสถ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE464 ได้ในสิ่งที่ไม่สมควร [ฟรี]

GE463 ปรุงดวงจิตเป็นโอสถ [ฟรี]


โม่ฉุยไม่ยอมรับชะตากรรมแบบนี้

วิชายกระดับโอสถของมันเป็นไพ่ตายที่จะเอาไว้เอาชนะหนิงฝาน แต่หนิงฝานกลับใช้วิชาเดียวกับมันได้ ที่สำคัญ ยังเปล่งอานุภาพของวิชาได้เหนือกว่า

ปราณสมุนไพรของมันถูกหนิงฝานดูดซับออกไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้โอสถเล่ยเฉิงของมันระดับลงอย่างรวดเร็ว

หวางถิงสื่อและยี่หยุนสื่อตกตะลึง เพราะวิชายกระดับที่หนิงฝานใช้ เลือกดูดซับแต่เพียงปราณสมุนไพรของโม่ฉุย โดยที่ไม่ได้ดูดซับปราณสมุนไพรของพวกมันแม้แต่น้อย

ดังนั้นยามนี้ ยี่หยุนสื่อ และหวางถิงยี่ก็ยังสามารถบีบอัดปราณสมุนไพรให้เป็นโอสถได้อยู่

นับเป็นบุญคุณที่หนิงฝานช่วยเหลือพวกมัน ผู้ที่เฝ้ามองเหตุการณ์ล้วนคาดไม่ถึงว่าสถานะการณ์จะพลิกผัน

โม่ฉุยที่หวังช่วงชิงปราณสมุนไพรของคนอื่น กลับเป็นฝ่ายที่ถูกช่วงชิงเสียเอง

“เจ้าแพ้แล้ว!” หนิงฝานกล่าวเย้ยหยัน แม้จะไม่ได้กล่าวเสียงดังนัก แต่มันกลับดังราวกับอัสนีฟาดผ่าใส่โม่ฉุย

มันแพ้? ทักษะการปรุงโอสถของมันด้อยกว่าหนิงฝาน? เป็นไปไม่ได้?

แต่ยังไงมันก็ต้องยอมรับ เพราะหากยังฝืนต่อไป ปราณสมุนไพรของมันจะถูกดูดซับไปจนหมด แต่ถึงอย่างนั้น จิตใจที่ต่อต้านความพ่ายแพ้ของมันก็อยู่เหนือเหตุผล

มันจ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาที่เผยถึงเจตนาสังหาร

“เจ้าไม่มีวันชนะข้าได้! การแข่งขันรอบที่สองเจ้าช่วงชิงเพลิงของข้า ทำให้ข้าบาดเจ็บ วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้า! ฝ่ามือดวงจิต!”

โม่ฉุยและหนิงฝานปรุงโอสถมาจนถึงจุดวิกฤติที่ไม่อาจสละปราณหรือสัมผัสเทพมาต่อสู้ได้ ดังนั้นจึงต้องใช้จิตวิญญาณสมุนไพรต่อสู้

โม่ฉุยรีดเค้นเอาพลังจากจิตวิญญาณสมุนไพรออกมา ส่งเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์เข้าใส่หนิงฝาน

วิชานี้โม่ฉุยลักลอบแอบฝึกจากที่ได้เห็นกษัตริย์โอสถใช้ แม้ว่ามันจะสำเร็จเพียงขั้น 1 แต่อานุภาพก็ไม่ธรรมดา

มันจึงใช้โอกาสนี้ ลอบจู่โจมหนิงฝานเพื่อทำให้การปรุงโอสถล้มเหลว ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส แต่มันก็ไม่กล้าสังหารหนิงฝานจริงๆ

“ฝ่ามือดวงต่อสู้...”

แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา ผู้คนมากมายเห็นโม่ฉุยฉวยโอกาสจู่โจมหนิงฝาน นับว่าน่ารังเกียจอย่างแท้จริง และนั่นยังทำให้เหล่านักปรุงโอสถโกรธแค้น

หลิงคงและฉุ่ยหลิงพยายามจะเข้าช่วยหนิงฝาน แต่พวกนางช้าเกินไป

แววตาของฉุ่ยหลิงในยามนี้เผยเจตนาสังหารอย่างชัดเจน หลิงคงเองก็แทบจะคลั่ง ต่อให้นางสู้โม่ฉุยไม่ได้ นางก็ได้แก้แค้นให้หนิงฝาน

เฟินซื่อเองก็โกรธไม่แพ้กัน แม้ว่าหนิงฝานจะยังไม่ใช่บุรุษของนาง แต่เขาก็เป็นผู้มีพระคุณของนาง

*เปรี้ยง!*

ในชั่วพริบตาที่ทุกคนไม่อาจเคลื่อนไหวได้ทัน เสียงระเบิดดังสนั่นสะท้อนไปทั่ว

ทั่วร่างหนิงฝานเปล่งแสงสีดำ ฝ่ามือขนาดยักษ์ก่อตัวขึ้น แล้วเข้าปะทะกับฝ่ามือของโม่ฉุย

กษัตริย์โอสถชี้แนะวิชาดวงจิตต่อสู้กับหนิงฝานด้วยตนเอง ทำให้เขาได้วิชาที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ เขาก็บรรลุวิชาขั้นสูงกว่า จิตวิญญาณสมุนไพรทรงพลังกว่า โม่ฉุยย่อมไม่อาจสู้ได้

สีหน้าโม่ฉุยแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง ฝ่ามือของมันถูกทำลาย ก่อนที่ฝ่ามือของหนิงฝานจะเข้าปะทะร่างของมันอย่างรุนแรง จนทำให้มันบาดเจ็บสาหัส

จิตวิญญาณสมุนไพรของมันได้รับบาดเจ็บ ปราณภายในร่างปั่นป่วนจนไม่อาจปรุงโอสถได้ต่อ

*อ็อค*

มันกระอักโลหิตคำโต มือผละออกจากกระถางโอสถ ทำให้กระถางเสียการควบคุม เสียงระเบิดดังสนั่น ปราณสมุนไพรภายในกระจายไปในอากาศ

สุดท้ายมันก็ปรุงโอสถล้มเหลว ความผิดพลาดของมันทำให้สมุนไพรของมันต้องสูญเปล่า

ที่สำคัญ การที่ปรุงโอสถล้มเหลวจากการรบกวนจากภายนอก ทำให้มันได้รับบาดเจ็บจากการย้อนกลับของปราณ อาการบาดเจ็บที่ได้รับอยู่ก่อนก็ทวีความรุนแรงขึ้น จนยามนี้ ระดับพลังของมันลดลงเหลือเพียงขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น

นี่ผลข้างเคียงร้ายแรงจากการปรุงโอสถล้มเหลว และเป็นเหตุผลที่กษัตริย์โอสถได้สอนวิชาดวงจิตต่อสู้ให้หนิงฝาน

หากโม่ฉุยไม่เก็บตัวและฝึกฝนอย่างหนักอย่างน้อย 10 ปี ระดับพลังของมันจะไม่ฟื้นคืน

ความโกรธเข้าครอบงำมันจนลืมซึ่งเหตุผล ทำให้จ้าววังอย่างมันต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างใหญ่หลวง

“ซัวหมิง! เจ้ารนหาที่ตาย!”

“คนที่รนหาที่ตายคือเจ้า!”

หนิงฝานกระตุ้นกระถางปรุงโอสถ ปราณสมุนไพรที่อยู่ภายในก่อตัวเป็นโอสถในชั่วพริบตา!

จริงๆแล้วหนิงฝานปรุงโอสถเสร็จตั้งแต่วันที่ 10 ของการแข่งขันแล้ว แต่การที่เขายังไม่ทำให้เป็นโอสถเพราะกำลังรอเหตุการณ์นี้

เขาคาดการไว้ว่ามันต้องช่วงชิงปราณสมุนไพร และเมื่อมันทำจริงๆ มันก็เดินเข้าแผนของเขาเรียบร้อย!

“กลืนกิน!”

อัสนีที่รุนแรงจากการปรากฏของโอสถผันแปรที่ 5 ของคน 4 คน ถูกหนิงฝานดูดกลืนเข้าไปจนหมด เขามีแผนภาพอัสนีไท่ซู อัสนีแค่นี้ไม่นับเป็นอันใด!

หนิงฝานปรากฏกายเบื้องหน้าโม่ฉุย พร้อมกับชกหมัดที่ทรงพลังเข้าใส่จนมันไม่อาจตั้งตัวได้ทัน

สีหน้าโม่ฉุยแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง หมัดของหนิงฝานกระแทกเข้าที่ใบหน้าของมันจนกระดูกแตก

*ตูม*

เสียงระเบิดดังสนั่น ใบหน้าของโม่ฉุยยุบ โลหิตไหลริน ร่างถูกซัดปลิวไปไกล

แม้ระดับพลังของมันจะสูงกว่าหนิงฝาน แต่ยามนี้มันได้รับบาดเจ็บสาหัส ระดับพลังลดลง ร่างกายของมันยิ่งไม่อาจเทียบชั้นหนิงฝานได้ จึงต้องรับหมัดของหนิงฝานโดยไม่อาจต้านทาน

มันเริ่มเสียใจ หากรู้ว่าจะใช้วิชายกระดับโอสถได้เหมือนมัน และมีวิชาดวงจิตต่อสู้ที่เหนือชั้นกว่า มันจะไม่ทำแบบนี้

มันเป็นฝ่ายลงมือกับหนิงฝานก่อน ต่อให้เขาสังหารมันก็ไม่ผิด

ยิ่งวันนี้ไม่มีราชาสุสานบุบผาอยู่ อาการบาดเจ็บที่มันได้รับก็รุนแรงกว่าครั้งก่อน มันย่อมสู้หนิงฝานไม่ได้!

แม้จะเสียท่าร้ายแรง แต่มันก็พยายามสงบใจ มันรู้ว่ามันไม่อาจสู้หนิงฝานได้ ฉะนั้นมันต้องหนี แล้วค่อยกลับมาแก้แค้นในภายหลัง

“พอได้แล้ว! เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างสมน้ำสมเนื้อ พวกเราต่างก็เป็นคนของวิหารพิรุณ ไม่ควรเข่นฆ่ากันเอง!”

“น่ารำคาญ! เจ้าลืมที่เดิมพันกับข้าแล้วเหรอ?!” หนิงฝานทวนความทรงจำให้มัน

มันเดิมพันว่า หากหนิงฝานชนะก็เอาชีวิตมันไปได้เลย

“เจ้าอยากได้อะไรข้าให้ทุกอย่าง!” โม่ฉุยกล่าวด้วยความหวาดกลัว

“ข้าต้องการชีวิตเจ้า!”

หนิงฝานชกหมัดคู่ มังกรทมิฬขนาดยักษ์พุ่งทะยาน หิมะที่โปรยปรายถูกแหวกเป็นสองฟากฝั่ง

มังกรทมิฬเข้าขย้ำแขนของโม่ฉุยทั้งสองข้าโดยที่มันไม่อาจตอบสนองได้ทัน

หนิงฝานเตะซ้ำเข้าที่บริเวณตันเถียน จนทำให้ดวงจิตของมันแทบแหลกสลาย

สามนิ้วเรียงชิดติดกัน ดรรชนีกระบี่ทะลายสวรรค์ทะลายที่ 3 เปล่งอานุภาพ ชักนำให้เกิดปราณกระบี่จำนวนมหาศาล ทะลวงร่างของโม่ฉุยจนพรุน

ผูชมตกตะลึง! โม่ฉุยที่บาดเจ็บสาหัสจนระดับพลังลดลงนั้น อ่อนด้อยว่าผู้ครองแคว้นฉือคุณมาก จึงไม่ใช่คู่มือของหนิงฝาน

หรือต่อให้โม่ฉุยแข็งแกร่งเทียบเท่าราชามังกรในหอคอยอัสนี หนิงฝานก็สังหารมันได้

*ตูม ตูม ตูม*

โม่ฉุยถูกจู่โจมอย่างต่อเนื่องโดยไม่อาจใช้ปราณตอบโต้ มันจึงกลายเป็นเพียงกระสอบทรายให้หนิงฝานอัดจนเละเท่านั้น

โม่ฉุยหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างกายของหนิงฝานทรงพลังกว่ามันมาก จนทำให้คิดร้องขอความเมตตา

หากมันถูกหนิงฝานจู่โจมอยู่แบบนี้ มันต้องตายอย่างแน่นอน

“เจ้าจะสังหารข้าไม่ได้ ข้าเป็นผู้รับใช้ขององค์ชายเจ็ด”

“ข้าจะฆ่าเจ้า… และเอาดวงจิตของเจ้ามายกระดับให้โอสถผันปีศาจของข้า!”

โม่ฉุยตกตะลึง ดวงจิตของมันจะถูกนำไปยกระดับโอสถ! แม้ว่าการช่วงชิงปราณสมุนไพรของผู้อื่นเพื่อยกระดับโอสถตน จะทำให้โอสถยกระดับไปมาก แต่การยกระดับโอสถด้วยดวงจิตของผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลัง จะให้ผลที่ดีกว่า

มันคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานคิดจะทำแบบนั้นกับมันจริงๆ เพราะนั่นคือเรื่องที่โหดร้ายและน่าสะพรึงกลัวมาก

มันไม่รู้ว่าที่หนิงฝานปรุงโอสถผันปีศาจ ก็เพราะจะใช้ดวงจิตของมันยกระดับให้โอสถของตน

หากมีผู้ใดมาหาเรื่อง หนิงฝานไม่เคยปราณีพวกมัน จุดจบของพวกมันทุกคนคือความตาย!

*โผล๊ะ!*

หนิงฝานเหยียบร่างของโฒ่ฉุยจนระเบิด มือคว้าดวงจิตที่เหลืออยู่ นำกลับไปยังเตาปรุงโอสถของตน

ปราณสังหารของหนิงฝานปกคลุมท้องนภา เมื่อรวมกับวิธีการสังหารของเขาแล้ว ยิ่งทำให้ผู้ชมทุกคนหวาดกลัว… หนิงฝานสังหารผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงไปแล้ว 2 คน ในเผ่าปีศาจยักษ์แห่งนี้

ผู้ที่หวาดกลัวที่สุดคือโม่ฉุย มันทรงพลังกว่าหนิงฝาน ทรงพลังยิ่งกว่าฉือคุณ แต่สุดท้ายก็ถูกหนิงฝานจบชีวิตด้วยวิธีที่เลือดเย็น

สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่ดวงจิตของโม่ฉุยที่อยู่ในมือหนิงฝาน พวกมันพยายามคาดเดาว่าหนิงฝานจะทำยังไง?

และแล้วการกระทำของเขาก็ทำให้ทุกคนตกตะลึง

โอสถผันปีศาจที่กลายเป็นเม็ดแล้วลอยออกมาจากกระถางโอสถ หนิงฝานโยนดวงจิตของโม่ฉุยเข้าไปแทน จากนั้นจุดเพลิงทมิฬแผดเผาจนมันไม่มีโอกาสได้เปล่งเสียงร้อง

“นั่นมัน! นี่เขาเอาดวงจิตของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลางไปปรุงโอสถจริงๆ นี่มันปีศาจชัดๆ!”

“หุบปาก! ถ้าเจ้ายังปากดีอยู่แบบนี้ ระวังท่านหมิงจะเอาดวงจิตเจ้าไปปรุงโอสถด้วย!”

ความกลัวปกคลุมจิตใจ บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด ผู้คนทั้งหมดได้แต่เฝ้ามองหนิงฝานโดยไม่กล้าปริปาก

หนิงฝานเผาดวงจิตของโม่ฉุยอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะผสานมันเข้าไปกับโอสถผันปีศาจ จนทำให้โอสถของเขาทะลวงจากขั้นสูงไปยังขั้นสูงสุด

การกระทำของหนิงฝาน แสดงให้เห็นว่าทุกสิ่งอยู่ในการคาดการณ์ของเขา ซึ่งการยกระดับโอสถเป็นหลักฐานว่าเขาคือนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุดจริงๆ

“สังหาร...แล้วนำดวงจิตไปปรุงเป็นโอสถ นี่มันวิชาโบราณที่หายสาบสูญ” ชายชราคนหนึ่งกล่าวขึ้น

“ท่านหมิงเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ขั้นสูงสุด จริงๆ!” ชายชราอีกคนกล่าวด้วยความตกใจ

ในขณะเดียวกันที่วิหารพิรุณในแคว้นกลางก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมป้ายชีวิตจ้าววังสวรรค์แดงถึงแตก!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งของวิหารพิรุณกล่าวด้วยโทสะ

“ไปเร็ว เราจะทำให้คนของวังสวรรค์แดงเราตายอย่างสูญเปล่าไม่ได้!” ผู้อาวุโสอีกคนกล่าว

กษัตริย์พิรุณเองก็โกรธ เพราะมีคนกล้าสังหารคนของมัน เท่ากับเป็นการหยามหน้าอย่างรุนแรง

ภายในโถงหลังของวิหารพิรุณ ชายชราผู้เป็นนักทำนาย เมื่อสูญเสียเนตรสวรรค์เพราะหนิงฝานไปแล้ว ก็ยากที่จะทำนายว่าผู้ใดเป็นสังหารโม่ฉุย

แต่เมื่อจัดการกับป้ายชีวิตของโม่ฉุยแล้ว ข่าวที่น่าตื่นตะลึงก็กระจายมาถึงแคว้นกลาง ทำให้ผู้คนรู้ว่าทำไมโม่ฉุยถึงถูกสังหาร

ข่าวแพร่มาว่าหนิงฝานเป็นผู้สังหารโม่ฉุย แต่สาเหตุที่สังหารนั้น เป็นเพราะโม่ฉุยยั่วยุหนิงฝานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งหมายจะเอาชีวิต

“โม่ฉุย! มันกล้าขัดคำสั่งข้า สมควรแล้วที่มันตาย!” กษัตริย์พิรุณกล่าวด้วยโทสะ

หากเป็นผู้อื่นสังหารโม่ฉุย กษัตริย์พิรุณจะสั่งให้คนออกตามล่า แต่หนิงฝานสำคัญกับกษัตริย์พิรุณมาก จึงไม่ยอมให้ใครได้ล่วงเกิน

“ท่านพ่อ! โม่ฉุยเป็นคนของข้า ข้าจะปล่อยให้มันตายไปแบบนั้นไม่ได้!” แววตาหยุนจิงหงเผยเจตนาสังหาร ราวกับอยากจะฉีกหนิงฝานเป็นชิ้นๆ

“มันไม่ได้ตายอย่างสูญเปล่าหรอก… ความตายของมันจะเป็นบทเรียนให้ผู้อาวุโสคนอื่นๆเป็นอย่างดี ว่าอย่าได้ขัดคำสั่งข้า และเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าหากคิดร้ายกับซัวหมิงแล้วผลลัพธ์จะเป็นยังไง! ตอนนี้เจ้ายังอยากฆ่ามันอยู่หรือเปล่า? มันเป็นศิษย์ของลี่ฉางเทียนแล้ว!”

หยุนจิงหงคือบุตรชายของกษัตริย์พิรุณ มันสมควรรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร การที่ข้ารับใช้ของมันขัดคำสั่ง ผลที่ตามมาย่อมเป็นเช่นนั้น

“ลี่ฉางเทียน...” ด้วยชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ของกษัตริย์โอสถ ต่อให้เป็นหยุนจิงหงที่โกรธแค้นยังต้องระงับความโกรธไว้

การที่มีกษัตริย์โอสถและกษัตริย์พิรุณคุ้มภัย ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าลงมือกับหนิงฝาน

“แต่ว่าเราจะปล่อยซัวหมิงไว้เฉยๆไม่ได้เช่นกัน… อายุกระดูกเพียง 500 ปี แต่กลับสังหารฉือคุณและโม่ฉุยได้… จะว่าไป เจ้ารู้หรือเปล่าว่าราชาสุสานบุบผาทำอะไรอยู่?” กษัตริย์พิรุณกล่าวถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ตอนนี้ร่างจริงของราชาสุสานบุบผากำลังเก็บตัวฝึกฝน ส่วนดวงจิตที่ 2 อยู่ในทะเลไร้สิ้นสุด กำลังตามหาอนุสรณ์ปีศาจของเผ่าปีศาจทั้ง 4” หยุนจิงหงกล่าวตอบ

“อืม… ถ้าอย่างนั้น ให้มันไปสั่งสอนซัวหมิงบ้าง แต่อย่าให้ถึงชีวิต มันเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ แต่กลับเย่อหยิ่งถือดี หากวันหนึ่งมันทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงหรือขอบเขตไร้แบ่งแยก มันคงกลายเป็นเหมือนหยุนเทียนเฉวอีกคน!”

หนิงฝานสังหารทั้งฉือคุณและโม่ฉุย ทำให้กษัตริย์พิรุณเริ่มเพ่งเล็งในตัวเขา อีกอย่าง หนิงฝานยังให้ความรู้สึกที่ไม่สบายใจอย่างที่สุดกับกษัตริย์พิรุณ ราวกับหนิงฝานเป็นเด็กในคำทำนาย ที่เกิดมาเพื่อเอาโค่นล้มมัน

“ซัวหมิง...” กษัตริย์พิรุณพึมพัมพลางขมวดคิ้วแน่น

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด มันถึงได้หวั่นเกรงหนิงฝานมากขนาดนั้น...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด