ตอนที่แล้วระบบใช้จ่ายตอนที่ 31
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบใช้จ่ายตอนที่ 33

ระบบใช้จ่ายตอนที่ 32


ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:การเกิดใหม่กับระบบใช้จ่าย (facebook.com)

บทที่ 32: ความรักของพ่อแม่

ในเวลาเดียวกันในบ้านพักหงวู

หงเหว่ยกูยืนอยู่หน้าแผนที่เมืองเทียนจิง วิเคราะห์สภาพแวดล้อมของภูเขาที่หงต้าหลี่ตั้งใจจะซื้อ

หลานรุยชีภรรยาของหงเหว่ยกู ที่นั่งอยู่บนโซฟา เธอยิ้มแล้วถามว่า " ทำไมต้าหลี่ถึงอยากซื้อเนินเขานั้น? แม้ว่าสภาพแวดล้อมดี แต่สถานที่นั้นมีศักยภาพไม่มากนัก มันจะดีหรือ? "

" ก็จริงที่เนินเขานั้นมันแตกต่างจากเย่ไหลเซียง มันไม่คุ้มค่าเลยที่จะไปพัฒนา " หงเหว่ยกูดูแผนที่อย่างระมัดระวังอีกครั้ง " เย่ไหลเซียงรายล้อมไปด้วยย่านใจกลางเมืองที่อยู่อาศัย ที่ดินมีค่ามาก แต่ภูเขานี้เป็นสถานที่ที่แตกต่าง ภายในรัศมีสี่ไมล์ มีเพียงภูเขาหัวโล้น ๆ เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบเฟิงหยวน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4,000 ตารางเมตร มันแทบจะไม่เพียงพอที่จะสร้างสวนสาธารณะขนาดเล็กซะด้วยซ้ำ "

" อืม ปัญหาหลักคือไม่มีพื้นที่มากพอที่จะพัฒนาและขยาย แม้ว่าเราจะต้องการพัฒนาก็ตาม มันเล็กเกินไปสำหรับการสร้างสวนสาธารณะ อีกทั้งยังยากที่จะได้รับกำไรคืนกับเงินที่ลงทุนซื้อที่ดินภูเขานี้อีก " หลานรุยชีได้กล่าว " นั่นเป็นสาเหตุที่รัฐบาลไม่มีมาตรการที่จะพัฒนาสถานที่นี้ แม้ว่าจะมีเอกสารอย่างเป็นทางการในการพัฒนาสี่แยกให้เป็นย่านธุรกิจก็เถอะ แต่มันก็ยังไม่มีการตัดสินใจอยู่ดี และแม้ว่าจะได้รับการตัดสินแล้ว ใครจะรู้กันว่ามันต้องใช้เวลานานเท่าใดกว่าจะมาตรการจะเริ่มดำเนินการ "

หงเหว่ยกูตรวจสอบแผนที่อีกครั้งและพูดว่า " ถ้าให้พูดถึงสถานที่นี้ มันก็ไม่ได้เลวร้ายนะ ดูยอดเขานี้สิ มันอยู่ทางเหนือของสี่แยกทิศตะวันตกเล็กน้อย มันเชื่อมต่อกับทางออกสี่แยกของทางหลวงจองฉี ซึ่งเป็นมุมที่ห่างไกลที่สุดของสี่แยกทิศตะวันตก และประมาณสองกิโลเมตรไปทางทิศตะวันตก คือ ภูเขาเทียนจิง ซึ่งเชื่อมต่อกับภูเขาหงวู เนื่องจากมีพื้นที่ขรุขระจึงยากที่จะสร้างอาคารขนาดใหญ่ มันเป็นการลงทุนที่ใหญ่และได้ผลตอบแทนน้อย แน่นอนว่านักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามปกติแล้วคงไม่ชอบที่ดินผืนนี้นัก "

" เพราะฉะนั้นที่ดินโดยรอบจึงมีราคาถูกหรอ? " หลานรุยชีให้เหตุผล

" ที่ดินราคาถูกและยากที่จะพัฒนา " หงเหว่ยกูยิ้มอย่างขมขื่น " พื้นที่พวกนี้มันเหมือนกับซี่โครงไก่รสชาติจืด ๆ ที่ไม่อร่อย กินไม่หมดแล้วต้องทิ้งมันไป "

" แต่มันเป็นซี่โครงไก่นะ ต้าหลี่ชอบมัน " หลานรุยชีเดินไปหาหงเหว่ยกูอย่างช้า ๆ แล้วโอบแขนเขา " อย่างไรก็ตาม ที่ดินไม่แพงมาก ให้เขาซื้อเถอะ ถ้าเขาชอบมัน ในอนาคต หากสถานที่แห่งนี้เปิดให้มีการพัฒนา อย่างน้อยก็น่าจะมีประโยชน์บ้างละ "

หงเหว่ยกูหัวเราะและพูดว่า " ฮ่าฮ่า ในเมื่อคุณพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็คงต้องซื้อ ฉันจะให้คนไปตรวจสอบราคาที่สำนักงานที่ดินและทรัพยากรในวันพรุ่งนี้ พี่เจียงก็ได้พูดถึงมันเช่นกัน สถานที่มันไม่น่าจะเลวร้ายเท่าไหร่นัก ถ้าต้าหลี่จะทำอะไรบ้า ๆ ก็ปล่อยเขาทำไป เพราะเมื่อเราสร้างรีสอร์ทฤดูร้อนเสร็จ มันจะต้องเป็นสถานที่ที่ดีที่จะได้พักผ่อนที่นั่นอย่างแน่นอน "

แน่นอนว่าหงต้าหลี่ไม่ได้คิดจะคุยเรื่องการซื้อเนินเขาเลย เขาในตอนนี้อยู่กับผู้ติดตามทั้งเก้าของเขา คนขับรถวังหมิงยูและถังมู่ซิน พวกเขาเดินไปบนยอดเขาที่จะเป็นของหงต้าหลี่ในไม่ช้า จากนั้นพวกเขาเดินไปที่ด้านข้างของทะเลสาบเฟิงหยวน หงต้าหลี่ได้พยักหน้าและพูดว่า " อืม นี่เป็นสถานที่ที่ดีจริง ๆ เราจะสร้างบึงน้ำขนาดเล็กในภูเขาเจียงนี้ ฉันจะกลายเป็นราชาแห่งขุนเขา ซินซิน เธอเองก็จะได้กลายเป็นภรรยาของราชาแห่งขุนเขาด้วยนะ! "

ในตอนนี้เอง ถังมู่ซินก็ใบหน้าแดงโดยพลัน เธอถือเสี่ยวเสี่ยวไบ ซึ่งเป็นหมาพันธุ์เชาเชาตัวสีขาวตัวเล็ก ๆ ที่คล้ายหมีแพนด้าในอ้อมแขนของเธอและพูดว่า " ค..ใครกันจะอยากเป็นภรรยาของนายกัน! พอแล้ว นายมันบ้า อย่าลากฉันไปเอี่ยวนะ! นายจะซื้อที่ดินผืนใหญ่แบบนี้ เพื่อที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นราชาแห่งขุนเขาอย่างนั้นเหรอ? "

หงต้าหลี่ตอบถังมู่ซินที่ดูไร้เดียงสาว่า " ใช่แล้ว! "

เขาคิดและยอมรับอย่างไร้ยางอาย! ถังมู่ซินรู้หมดคำจะพูด " ฉันควรจะทำยังไงกับนายดี? "

" ลืมไปเถอะ นายอยากทำอะไรก็ทำเลย " ถังมู่ซินไม่มีวิธีจัดการกับความไร้ยางอายของหงต้าหลี่เลยสักนิดเดียว

หงต้าหลี่ลูบคางของเขา " อ่า..ฉันหิวแล้ว ไป กลับกันเถอะ! " พร้อมกันนั้นก็มีสุนัขที่กำลังเดินตามเขาไปเป็นพรวน " ไปกินข้าวกัน "

เขาเดินนำไปโดยทิ้งวังหมิงยูไว้ข้างหลัง วังหมิงยูก็ได้หยุดก้าวเดินและมองไปที่แผ่นหลังของหงต้าหลี่ เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโทรออก

สายเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วและวังหมิงยูพูดด้วยความกังวล " ท่านผู้ชายครับ ผมรู้อะไรบางอย่าง บางอย่างที่น่าตื่นตะลึง! มันเกี่ยวกับท่านนายน้อยด้วยครับ! "

หงเหว่ยกูตกใจ เมื่อได้ยินเรื่องนี้จากปลายสาย เขาถามอย่างเป็นห่วงว่า " เกิดอะไรขึ้นกับต้าหลี่? ใจเย็น ๆ และบอกฉันช้า ๆ ฉันควรจะไปกับรุยชีไหม? "

วังหมิงยูมองดูที่หงต้าหลี่อีกครั้ง เขาพูดอย่างมั่นใจว่า " หลังเลิกเรียนวันนี้ ท่านนายน้อยกล่าวว่าเขาต้องการเดินเล่นกับสุนัข ดังนั้นพวกเราจึงออกมา พวกเราเดินไปรอบ ๆ ทะเลสาบเฟิงหยวนและท่านนายน้อยก็ไม่เหนื่อยเลย และเขายังอยากจะไปทานอาหารเย็นในตอนนี้! ท่านผู้ชาย ท่านก็รู้ว่าท่านนายน้อยร่างกายอ่อนแออยู่เสมอ แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาดูมีสุขภาพที่ดีขึ้นมาก นี่เป็นข่าวดีอย่างแน่นอนครับ! "

" จ …จริงหรอ?! " หงเหว่ยกูรู้สึกตื่นเต้นดีใจและตัวสั่น

หลานรุยชีภรรยาของเขา ได้ยินเช่นนั่นก็ได้ตะโกน: ต้าหลี่เดินไปไกลมากและไม่เหนื่อยเลยหรอ? หมิงยู คุณกำลังพูดแบบนี้เพียงเพื่อทำให้เรามีความสุขใช่ไหม? "

" มันเป็นเรื่องจริงครับ ท่านผู้หญิง! " วังหมิงยูพูดติด ๆ ขัด ๆ ด้วยความตื่นเต้น " ระยะทางที่เดินจูงสุนัขมาเนินเขานี้ มันอยู่ห่างจากโรงแรมเทียนหยวน ประมาณ 700 เมตรครับ ซึ่งนายน้อยต้าหลี่เดินจูงสุนัขมาอยู่บนยอดเขานี่ เจ็ดร้อยเมตร! ห่างจากทะเลสาบเฟิงหยวนไปอีก 200 เมตรและเราก็เดินไปรอบ ๆ ทะเลสาบ นั่นน่าจะประมาณหนึ่งกิโลเมตรเกือบสองกิโลเมตรเลย! เต็มทีก็สองกิโลเมตร! ตอนนี้ผมกำลังดูนายน้อยอยู่ เขาไม่ได้หอบ…โอ้ ไม่ ไม่ ผมจำได้ว่า…เขาหอบ แต่เขาไม่เหนื่อยเลย เขายังเดินอยู่ตรงหน้าและเดินนำทุกคนกลับไปที่โรงแรมเทียนหยวนอยู่ครับ! "

" โอ้พระเจ้า ... พระเจ้า ... "

หงเหว่ยกูและหลานรุยชียังคงตะลึงอยู่อีกด้านหนึ่งของสายโทรศัพท์ พวกเขารู้ดีว่าสุขภาพของหงต้าหลี่ทั้งภายในและภายนอกไม่แข็งแรง แม้ว่าเขาจะถูกเรียกว่า 'ต้าหลี่หนึ่งเปอร์เซ็นต์' แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิด โดยปกติแล้วหงต้าหลี่จะหอบ แค่เขาเดินเพียง 800 ถึง 900 เมตร ก็หอบแล้ว ไม่ต้องพูดถึงสองกิโลเมตร นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเล็งเห็นว่าหงต้าหลี่มีสุขภาพที่ดีขึ้น พวกเขานั้นกลัวว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับหงต้าหลี่ของพวกเขา พวกเขาคงไม่ได้เจอหงต้าหลี่อีก

แต่ตอนนี้พวกเขาได้ยินว่าหงต้าหลี่ไม่เหนื่อยแม้แต่น้อย หลังจากเดินสองกิโลเมตร นี่ทำให้พวกเขามีความสุขมากกว่าสิ่งอื่นใด ยิ่งไปกว่าการได้ยินนายกเทศมนตรีเจียงพูดถึงการพัฒนาสี่แยกนั้นเสียอีก

ไม่ว่าหงต้าหลี่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อยมากเพียงใดและถูกหลอกมามากมายแค่ไหน เขาก็เป็นลูกชายของพวกเขา เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวและเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวเท่านั้น ในไม่ช้า น้ำตาของหงเหว่ยกูก็รินไหลด้วยความดีใจ หลานรุยชีปิดปากของเธอด้วยความไม่เชื่อ น้ำตาแห่งความสุขไหลลงมาที่แก้มของเธอ

สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความรักของพ่อแม่ ไม่ว่าลูกของพวกเขาจะเป็นอย่างไร เขาก็ยังคงเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดของพ่อแม่เสมอ

ไม่มีอะไรสามารถแทนที่ได้

หงเหว่ยกูพูดย้ำในโทรศัพท์แล้วตะโกนไปว่า : " เฝ้าดูเขาและรายงานกับฉันด้วย หากมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น! " หลังจากที่เขาวางหูโทรศัพท์ หงเหว่ยกูรวบรวมพลังทั้งหมดของเขาและตะโกน: " แม่บ้าน! รวบรวมทุกคนในบ้านพัก! รวมตัวกันมาที่นี่ภายในสองนาที หากใครไม่มาที่นี่ภายในสองนาที เตรียมแพ็คของและออกจากบ้านหลังนี้ไปซะ! "

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:การเกิดใหม่กับระบบใช้จ่าย (facebook.com)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด