ตอนที่แล้วGOI ตอนที่ 92 ศาลาไร้ตัวตน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGOI ตอนที่ 94 ทดสอบ!

GOI ตอนที่ 93 อำนาจ!


หลังจากก้าวขาเข้าไปในศาลาไร้ตัวตนเป็นครั้งแรก ป๋ายเสี่ยวเฟยยืนเหม่อลอยอยู่กับที่

จากภายนอกแล้วศาลาไร้ตัวตนดูใหญ่โต แต่เขาไม่คาดคิดว่าข้างในจะถูกประดับตกแต่งราวพระราชวัง!

ไม่ว่าสายตาจะหันไปมองที่ใดก็มักจะมีประกายแสงแวววาวจากอัญมณีหยกและทองคำ ผนังกำแพงและเสาถูกสลักอย่างประณีตที่แค่มองก็รู้ว่าเป็นฝีมือของปรมาจารย์ อีกทั้งโต๊ะยังสร้างมาจากไม้หนานมู่ลายทองคำ ภายใต้แสงสาดส่องจากโคมไฟหินกำเนิดจากเบื้องบน ไม่มีที่ใดในห้องโถงที่ไม่เจิดจรัส

และไม่ใช่แค่การตกแต่งภายในที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง กระทั่งพนักงานในศาลาไร้ตัวตนยังแต่งกายหรูหรามั่งคั่ง ต่างจากร้านค้าเล็กร้านอื่นๆ ไม่มีพนักงานคนใดเป็นศิษย์นักเรียน และทุกคนล้วนถูกฝึกมาโดยศาลาไร้ตัวตน ไม่ว่าจะเป็นอาภรณ์ วิธีเคลื่อนไหว น้ำเสียง สีหน้า และทุกสิ่งล้วนเหมือนกันราวกับเป็นร่างแยก

มีนักเรียนหลายร้อยคนเดินไปมาในห้องโถงชั้นแรก แต่มองแล้วไม่เหมือนฝูงชนแม้แต่น้อย บ่งบอกความกว้างขวางของศาลาไร้ตัวตนได้เป็นอย่างดี

อย่างไรเสียทุกตารางนิ้วในสถาบินชิงหลัวเป็นดั่งทองคำ แค่ร้านค้าเล็กๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลของฟางเย่ต้องใช้จ่ายไปมาก

ความมั่งคั่งของศาลาไร้ตัวตนไม่ได้มีไว้แค่โอ้อวด

“น่าตะลึงใช่ไหมล่ะ? ข้าก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกันเมื่อมาเป็นครั้งแรก ในบางครั้ง หากเจ้าไม่ออกมาเจอโลกภายนอก เจ้าจะไม่มีทางรู้เลยว่าโลกนี้มหัศจรรย์เพียงใด”

เสียงของเสวี่ยอิ่งดังอยู่ข้างกายป๋ายเสี่ยวเฟย ดึงดูดจิตวิญญาณของเขากลับมา

“ศาลาไร้ตัวตนเป็นของสถาบัน?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงลำคอ สุ้มเสียงแฝงความโหยหา แต่เขาเพียงรู้สึกเช่นนั้นได้ในเวลานี้เพราะนอกจากความสิ้นหวังไร้พลังต่อสิ่งตรงหน้าแล้ว ความมั่งคั่งของเขาในยามนี้ไม่สามารถทำอันใดได้ ถึงแม้จะมีอันดับบุปผาอีกสักพันแห่งทำกำไรให้ ก็ยังไร้ค่าอยู่ดี

“สถาบันก็หวังเช่นนั้น แต่สถาบันไม่มีอำนาจมากพอ และไม่มีทรัพย์สินให้ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายด้วย”

เสวี่ยอิ่งหยุดชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยต่อ

“ศาลาไร้ตัวตนมีร้านสาขาอยู่ทั่วทุกหนแห่งในทวีปตอนเหนือ ศาลาไร้ตัวตนในสถาบันชิงหลัวถือได้ว่ามีขนาดเล็ก และอำนาจที่เจ้าเห็นจากศาลาไร้ตัวตนเป็นเพียงขนเส้นหนึ่งของหลังวัวอ้วนเท่านั้น”

“แต่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเบื้องหลังศาลาไร้ตัวตนคือจักรวรรดิไร้ตัวตนที่มีชื่อเสียงเลื่องชื่อไปทั่วทวีปในเรื่องสร้างหุ่นเชิด หากพวกเขาไม่ใช่เศรษฐี ก็คงไม่มีกล้ากล้าเรียกตัวเองว่าร่ำรวยแล้ว”

เมื่อนางเอ่ยจบ ป๋ายเสี่ยวเฟยเหม่อลอยอย่างอดไม่ได้

เขารู้เกี่ยวกับจักรวรรดิไร้ตัวตน เพราะเขาก็เรียนเรื่องประวัติศาสตร์ของทวีปมาเกือบหนึ่งเดือน ไม่ว่าเขาจะเกียจคร้านเพียงใดก็ยังรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้

เทือกเขาไร้ขอบเขตเป็นเส้นแบ่งทวีปตอนเหนือและตอนใต้ มีเพียงจักรวรรดิสื่อจิง จักรวรรดิไร้ตัวตน จักรวรรดิม่านเมฆา และจักรวรรดิเย่ฮวาที่ใหญ่พอในหมู่อาณาจักรที่สามารถเรียกตนเองว่าจักรวรรดิในดินแดนตอนเหนือได้ ทั้งหมดล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของพวกเขา

เย่ฮวาโดดเด่นในด้านรักษา สื่อจิงมีกำลังวังชาเลิศล้ำ ม่านเมฆาร่ำรวยในเหมืองแร่ ไร้ตัวตนคืออาณาจักรแห่งปรมาจารย์นักสร้างหุ่นเชิด แปดในสิบส่วนของนักสร้างหุ่นเชิดที่มีชื่อเสียงในทวีปล้วนอยู่ในจักรวรรดิไร้ตัวตน

“ไปเถอะ เลิกเหม่อได้แล้ว ยังต้องทำการทดสอบ เพราะบางคนในหมู่พวกเจ้าอาจไม่สามารถควบคุมหุ่นเชิดตัวที่สองได้”

เสวี่ยอิ่งเรียกสติป๋ายเสี่ยวเฟย เดินนำทั้งกลุ่มไปยังมุมหนึ่งในห้องโถง

แม้จะเป็นมุมห้อง แต่ก็เป็นมุมที่เต็มไปด้วยผู้คน

“อาจารย์เสวี่ยอิ่ง! ท่านพาศิษย์มาทดสอบด้วย!?”

เมื่อเดินไปยังบริเวณทดสอบ เสียงประหลาดใจระคนยินดีของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมา ป๋ายเสี่ยวเฟยกวาดตามองไปตามเสียงเห็นชายที่มีสีหน้าอ่อนโยนสวมใส่แว่น

หวงเทียนฮั๋ว อาจารย์ประจำห้องของศิษย์ใหม่เหมือนกับเสวี่ยอิ่ง เขาเป็นนักเชิดหุ่นสายพลังงานที่ตามเกี้ยวพาราสีเสวี่ยอิ่งมาทั้งเดือนอย่างไม่หยุดหย่อน

โชคร้ายที่เสวี่ยอิ่งไม่มีความสนใจในตัวเขา

แต่ถึงแม้นางจะไม่สนใจ นางก็ยังต้องสุภาพต่อเขา

“คารวะอาจารย์หวง ขออภัยแต่พี่หญิงเสวี่ยเจ็บคอตั้งแต่หลายวันก่อน จึงไม่สะดวกนักที่นางจะพูดกับท่าน”

ก่อนที่เสวี่ยอิ่งผู้มีสีหน้าไม่สู้ดีจะทันได้เอ่ยปาก ป๋ายเสี่ยวเฟยย่างก้าวเข้าไปหยุดหวงเทียนฮั๋ว ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้ชัดแจ้งว่าเขามาทำอะไร แน่นอนว่าเขาไม่ยอมให้หวงเทียนฮั๋วเข้าใกล้เสวี่ยอิ่ง

การตอบสนองของป๋ายเสี่ยวเฟยทำให้เสวี่ยอิ่งรู้สึกดีใจ รอยยิ้มที่มองไม่เห็นปรากฎขึ้นตรงมุมปากของนาง

“เสี่ยวเฟย ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามานานแล้ว วิถีวีรบุรุษเริ่มตั้งแต่เยาว์วัยโดยแท้ เมื่อข้าอายุเท่าเจ้ายังมิอาจเทียบได้”

หวงเทียนฮั๋วยิ้มแหยๆ และสุภาพกับป๋ายเสี่ยวเฟยที่เอ่ยขัดเขามาก และศิษย์ที่อยู่ข้างหลังเขาตื่นเต้นถึงขีดสุดเมื่อสังเกตเห็นป๋ายเสี่ยวเฟย

“ลูกพี่เฟย! ลูกพี่ฟาง!”

ศิษย์ใหม่สี่คนที่ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่รู้จักรีบวิ่งเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร สำหรับศิษย์ใหม่แล้ว ป๋ายเสี่ยวเฟยและฟางเย่ได้กลายมาเป็นตัวตนในตำนาน ถือว่าเป็นเกียรติสำหรับพวกเขาหากได้พูดคุยกับป๋ายเสี่ยวเฟยและฟางเย่

“พวกท่านทั้งสองมาเลือกหุ่นเชิดเหมือนกันหรือ? สหายของข้าต่อแถวอยู่ด้านหน้า พวกเราจะบอกให้พวกมันแลกที่กับท่าน!”

ศิษย์ใหม่เอ่ยอย่างมีอารมณ์ ใบหน้าของหวงเทียนฮั๋วข้างๆ มืดทะมึนลง

‘ไม่เพียงเสวี่ยอิ่งที่เมินข้า การกระทำของไอ้เด็กเวรพวกนี้หมายความว่าอย่างไร? อย่าบอกนะว่าป๋ายเสี่ยวเฟยสำคัญกว่าอาจารย์ประจำห้องของพวกเจ้า?’

หวงเทียนฮั๋วกัดฟันแน่นกรอด โทษป๋ายเสี่ยวเฟยอยู่ในใจ

“ไม่จำเป็น ไม่จำเป็น พวกเราจะต่อแถวรอเอง”

ป๋ายเสี่ยวเฟยรีบโบกมือปฏิเสธ เขาเอ่ยอย่างจริงใจ ในความเป็นจริงแล้ว ที่เขาก่อตั้งสมาคมรวมพลังศิษย์ใหม่ขึ้นมาเพราเขาต้องการเงิน หรือมากที่สุดก็แค่สร้างชื่อเสียงให้ตนเอง แต่เขาร้อยไม่คิดพันไม่คิดว่าชื่อเสียงที่สั่มสมมาของเขาจะมากเกินไป...

พูดให้เข้าใจง่าย ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่ได้เตรียมตัวพร้อมที่จะเป็นนายของฝูงชนจำนวนมากแม้แต่น้อย...

“หามิได้! พวกเราจะให้ลูกพี่ต่อแถวอยู่ข้างหลังได้อย่างไร!?”

ศิษย์ใหม่คนนั้นเอ่ยก่อนจะรีบวิ่งไปข้างหน้าพร้อมเพื่อนร่วมห้อง เขาตะโกน

“ลูกพี่ป๋ายมาทำการทดสอบ! มีสหายข้างหน้าผู้ใดยินดีสละที่ให้ลูกพี่บ้าง?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่มีแม้แต่โอกาสจะหยุดเขาก่อนที่เสียงนั้นจะดังไปทั่วบริเวณ ทุกหันกลับมามองข้างหลังอย่างพร้อมเพรียง

หลังจากนั้น อย่างน้อยสามในสิบของกลุ่มคนวิ่งกรูมาล้อมรอบเขาไว้

“ลูกพี่ป๋ายจริงๆ ด้วย!”

“ลูกพี่ฟางก็อยู่!”

“ในที่สุดก็ได้เจอตัวเป็นๆ !”

“ลูกพี่ ขอลายเซ็นต์หน่อย!!!”

“ลูกพี่ รับข้าไปเป็นลูกน้องด้วย!!!”

...

หลากเสียงแฝงความตื่นเต้นดังขึ้น บริเวณทดสอบที่มีเพียงเสียงกระซิบกระซาบในบัดนี้เปลี่ยนเป็นดั่งตลาดนัด

“พวกเจ้าทุกคนหุบปาก!!! คิดว่าที่นี่เป็นบ้านของพวกเจ้าหรือ!!?”

เสียงทุ้มลึกดังกลบเสียงของทุกคน เปลี่ยนบริเวณโดยรอบให้เงียบเป็นป่าช้า

ต่อมา ศิษย์ปีสามที่มีรูปร่างคล้ายคลึงหมีทลายพสุธาเดินเข้ามา บนหน้าอกมีสัญลักษณ์แสดงตัวตนในฐานะเทพในหมู่ปุถุชน

“ศิษย์ใหม่ ข้าได้ยินเรื่องของเจ้าแล้ว เจ้าคือป๋ายเสี่ยวเฟย ให้ข้าชี้แนะเรื่องหนึ่ง อย่ายโสโอหังมากเกินไป เพราะพวกสวะที่เจ้าจัดการไม่อาจเป็นตัวแทนของทุกคนในศิษย์ปีสูงๆ ได้ เจ้าเข้าใจที่ข้าพูดหรือไม่?”

ศิษย์พี่เอ่ยเสียงเย็นชา ใบหน้าจริงจังขึงขังในบัดนี้ดูน่าเกรงขามยิ่งกว่าเดิม

อีกทั้งการมาถึงของเขาทำให้จิตใจของทุกคนสั่นเทิ้ม

อันดับที่ 57 ในอันดับต่อสู้ วิญญาณศิลา สงเฉิง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด