ตอนที่แล้ว74 เวลาไม่ค่อยท่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป76 ท้วงทำนองของค้อน

75 ทิ้งทุกอย่าง


75 ทิ้งทุกอย่าง

“เพื่อนนักเรียนหลี่เย้า ฉันคิดไม่ถึงเลยนะ ว่านายจะฟื้นขึ้นมาได้เร็วขนาดนี้ พลังใจของนายมันน่าอัศจรรย์ใจมาก ไม่ต่างกับแมลงสาบเลย ยินดีด้วย!”

เฮ่อเหลียนเลี่ยยืนตระหง่านอย่างอวดดี เขาก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของหลี่เย้าเบาๆ

นักเรียนที่อยู่รอบๆไม่ได้ยินคำพูดของเขา พวกเขาเห็นแค่เพียงรอยยิ้มเป็นมิตรบนหน้าเขาเท่านั้น พวกเขาจึงเชื่อว่า ทั้งสองได้เคลียร์ข้อบาดหมางระหว่างกันเรียบร้อยแล้ว และเฮ่อเหลียนเลี่ยก็มาต้อนรับหลี่เย้ากลับโรงเรียน!

หลี่เย้ายกคิ้วขึ้น หลังจากที่ได้กลืนกินความทรงจำของโอเย่หมิงไปจำนวนมาก ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ เฮ่อเหลียนเลี่ยจึงถูกลดระดับลงไปเป็นลูกปืนที่ถูกยิงออกไปแล้ว เขาไม่มีค่าพอที่หลี่เย้าจะต้องไปเสียอารมณ์ด้วย

และเป็นอีกครั้ง ที่หลี่เย้าคิดถึงเจิ้งตงหมิง

มีเพียงสัตว์ประหลาดอย่างเจิ้งตงหมิง ที่สามารถบ่มเพาะได้ทั้งพลังวิญญาณและพลังความมืดเท่านั้น ถึงจะมีค่าพอเป็นศัตรูหรือเหยื่อของเขา และทำให้เขาสามารถใช้พลังในการล่าอย่างเต็มที่ได้

เฮ่อเหลียนเลี่ยก็เป็นได้แค่เพียงเศษอาหารตามไรฟันของเขาเท่านั้น!

“เพื่อนนักเรียนเฮ่อเหลียนเลี่ย ฉันคงต้องขอตัวก่อนนะ” หลี่เย้าพูดออกมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เขาพูดออกมาโดยมาอย่างไม่สะทกสะท้าน

เฮ่อเหลียนเลี่ยขมวดคิ้วเป็นปม มันดูเหมือนว่า หลี่เย้าจะยังกล้าทำตัวไม่สะทกสะท้านต่อหน้าเขา จนถึงขั้นไม่ใส่ใจเขาด้วยซ้ำ

ความเกรี้ยวกราดวาดผ่านใบหน้าของเฮ่อเหลียนเลี่ย เขากัดฟันพูดออกมาว่า “หลี่เย้า แกยังคิดว่า ตัวเองเป็นอัจฉริยะเหมือนตอนที่อยู่บนเกาะมังกรปีศาจอยู่อีกเหรอ? เฮอะ! ตอนนี้ แกมันก็เป็นได้แค่ขยะที่มีอัตราการตื่นเหลืออยู่แค่ 7% เท่านั้น ไอ้เศษขยะ! แกกล้ามาทำตัวอวดดีต่อหน้าฉันงั้นเหรอ? ฉันมีหลายร้อยวิธีที่จะทรมานแกจนตาย!”

“หืม?”

หลี่เย้าหรี่ตาลง แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นคมกริบ ราวกับมีแท่งน้ำแข็งทิ่มแทงเข้าไปในดวงตาของเฮ่อเหลียนเลี่ย

เฮ่อเหลียนเลี่ยรู้สึกเย็นยะเยือกเข้าไปถึงในเส้นประสาท มันราวกับว่า ดวงตาของเขาถูกทิ่มแทงอย่างรุนแรง จนมีน้ำตาไหลพรากออกมา เขาถอยหลังออกไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว

ในตอนที่เฮ่อเหลียนเลี่ยได้สติกลับคืนมา หลี่เย้าก็ได้เดินจากไปแล้ว

“แก...”

เฮ่อเหลียนมองไปรอบตัว ทุกคนต่างมองมาที่เขาด้วยมึนงง พวกเขาต่างก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมอยู่ๆเฮ่อเหลียนเลี่ยถึงได้ตัวแข็งทื่อ ราวกับหวาดกลัวอะไรบางอย่างอยู่

เฮ่อเหลียนเลี่ยรู้สึกโมโหขึ้นมา แต่ก่อนที่เขาจะทันได้เข้าไปขวางหลี่เย้าเอาไว้ เขาก็หันไปเห็นชายวัยกลางคนผิวสีแทนเดินเข้าไปหาหลี่เย้าเข้าก่อน

เฮ่อเหลียนเลี่ยผ่อนคลายลงและพูดกลั้วด้วยน้ำเสียงหัวเราะที่ราวกับปีศาจว่า “เพื่อนนักเรียนหลี่เย้า ดูเหมือนว่าหัวหน้าอาจารย์แนะแนวจะมีธุระกับนายนะ นายควรจะเตรียมใจเอาไว้ให้ดีล่ะ อย่าได้ตื่นเต้นจนเกินไป...ฉันจะรอนายออกมาจากห้องทำงานของเขา แล้วเราจะได้พูดคุยกันต่อ!”

หลี่เย้าสังเกตดูใบหน้าสีแทนด้วยความสงสัย

ชื่อของหัวหน้าอาจารย์แนะแนวก็คือ เฮยอี้หมิง แต่นักเรียนทุกคนต่างก็เรียกเขาว่า “เทพหน้าดำ” เขาเป็นคนที่เข้มงวดมากและเป็นที่รู้จักกันดีในความโหดร้ายของเขา เมื่อมีนักเรียนทำผิดกฎ เขาก็จะปรากฏตัวขึ้นที่หลังห้องเพื่อจับเด็กนักเรียน เขาเป้นที่เกลียดชังของนักเรียนทุกคน และมีชื่อเสียงในการทำตัวลับๆล่อๆและความเกรี้ยวกราด

“นักเรียนหลี่เย้า ทางโรงเรียนเพิ่งจะได้รับข่าวที่เธอฟื้นขึ้นมา เรากำลังเตรียมที่จะส่งคนไปหาเธอที่โรงพยาบาลอยู่พอดี ไม่คิดเลยว่า เธอจะมาโผล่ที่โรงเรียนก่อน! ดีเลย ไปที่ห้องแนะแนวกันเถอะ ฉันเป็นตัวแทนของทางโรงเรียนในการจัดการเรื่องการเรียนของเธอในเวลานี้!” เทพหน้าดำพูดอย่างเย็นชา

หลี่เย้าขมวดคิ้ว เพราะท่าทีที่เย็นขาของเทพหน้าดำ ปกติแล้ว ชายคนนี้มักจะมีใบหน้าที่ตายด้าน แต่วันนี้ สีหน้าที่เขาแสดงออกมานั้นแปลกไป คล้ายกับว่า...มีความเวทนาแฝงอยู่ด้วย?

แต่ถึงยังไง หลี่เย้าก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเดินตามหลังของเทพหน้าดำไป จนไปถึงห้องแนะแนว

ภายในห้องแนะแนว มีครูหลายคนที่กำลังพูดคุยกันด้วยเสียงเบาๆอยู่ แต่พวกเขาก็หยุดคุย หลังจากที่เห็นว่าหลี่เย้าได้เดินเข้ามา แววตาของพวกเขาแฝงไว้ด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง และพากันเดินออกไปจากห้องทีละคนสองคน

คนสุดท้ายปิดประตูตามหลังอย่างเบามือ

เทพหน้าดำไอแห้งๆออกมา บนใบหน้าที่เย็นชาของเขา ปรากฏความอึดอัดใจออกมา ในตอนที่เขานั่งลงบนเก้าอี้ ปลายนิ้วมือของเขาก็เผลอจับเข้ากับโต๊ะ ในที่สุด เขาก็ได้พูดถึงการตัดสินใจของทางโรงเรียนออกมา

หลังจากที่เทพหน้าดำพูดจบ หลี่เย้าก็เงียบไปเป็นเวลานาน เกิดกระแสไฟฟ้าไหลผ่านดวงตาที่สงบนิ่งของเขา เมื่อความโกรธของเขาพุ่งถึงขีดสุด จนคิดว่า มันเป็นเรื่องน่าขันและพิลึกพิลั่น เขาก็พูดออกมาอย่างไร้อารมณ์ว่า “คุณจะให้ผมหยุดเรียนเหรอ?”

“นักเรียนหลี่เย้า ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกยังไง และฉันก็รู้สึกเห็นใจความโชคร้ายของเธอมาก แต่ฉันก็อยากจะให้เธอใจเย็นเมื่อฟังคำพูดของฉัน...โรงเรียนมัธยมซื่อเซียวที่สองของเรา คือโรงเรียนที่มีชื่อเสียงและยอดเยี่ยมที่สุดในเมืองฝูเกอ เราเข้มงวดกวดขันกับนักเรียนของเรา ไม่ต้องพูดถึงนักเรียนในคลาสพิเศษ เพราะแม้แต่นักเรียนในคลาสสามัญของเราก็ยังต้องมีอัตราการตื่นอย่างน้อย 25%!”

ในตอนแรก เทพหน้าดำก็รู้สึกอับอายอยู่บ้าง แต่ไม่นาน ใบหน้าของเขาก็กลับมาสงบ มันดูเหมือนว่า เขาทำใจให้ตัวเองเชื่อได้แล้ว

เขาจับโต๊ะเอาไว้ด้วยท่าทีสงบและพูดออกมาไม่ช้าไม่เร็วว่า “ร่างกายในปัจจุบันของเธอไม่เหมาะที่จะเรียนและบ่มเพาะอย่างเข้มงวดในแบบของนักเรียนชั้นปีสาม ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม ไม่เพียงแต่เธอจะไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เท่านั้น แต่เธอยังจะทำร้ายร่างกายของตัวเองไปด้วย มันจะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเธอจะถอยกลับไปหนึ่งก้าวและพักการเรียนซักปีหนึ่ง? เธอค่อยๆใช้เวลาหนึ่งปีเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว หรืออาจจะสองหรือสามปีก็ได้ มันไม่สำคัญเลย พอร่างกายของเธอฟื้นตัวและอัตราการตื่นของเธอเพิ่มขึ้นแล้ว เธอก็สามารถกลับมาเรียนใหม่ได้!”

หลี่เย้าทำเพียงยิ้มเยาะออกมา เขาไม่ได้ตอบคำพูดเหล่านั้น ความโกรธในจิตใจของเขาเพิ่มสูงขึ้น จนจะระเบิดออกมาได้อยู่แล้ว มันดูเหมือนว่า เขากำลังจะระเบิดลาวาออกมา

เขาคาดเดาเอาไว้อยู่ก่อนแล้วว่า การรับเข้าเรียนเป็นกรณีพิเศษและคะแนนสอบพิเศษจากมหาวิทยาลัยเชินห่าย ที่เขาควรจะได้รับอาจจะถูกยกเลิก และเขาก็ยังคิดด้วยว่า ทางนิกายซื่อเซียวคงจะไม่มีการแนะนำเขาให้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชิงหยุน และคงจะไม่มีการเซ็นต์สัญญาจ้างงานระหว่างเขากับนิกายซื่อเซียวแล้ว

มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลในเรื่องของธุรกิจ เขาไม่โทษใคร และเขาก็ไม่ได้โกรธ

แต่เรื่องของเรื่องก็คือ...เขาไม่เคยคิดเลยว่า โรงเรียนมัธยมซื่อเซียวที่สองจะถึงกับบังคับให้เขาหยุดเรียนไปหนึ่งปี และพวกเขาต้องการจะเห็นการฟื้นตัวของเขาในอีกหนึ่งปีให้หลัง เพื่อดูว่า เขาจะสามารถกลับมาเรียนได้อีกหรือไม่!

ในตอนท้าย หลี่เย้าเป็นตัวแทนของโรงเรียนมัธยมซื่อเซียว ในการเข้าแข่งขันบนเกาะมังกรปีศาจ หากในเวลานั้น เขาได้ที่หนึ่งขึ้นมาจริงๆละก็ นอกจากเขาจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลแล้ว โรงเรียนมัธยมซื่อเซียวก็คงจะภาคภูมิใจอย่างถึงที่สุด พวกเขาจะกลายมาเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุดในตะวันออกเฉียงใต้

แต่ในเวลานี้ เขาได้รับบาดเจ็บและกลายเป็นคนพิการ โรงเรียนมองเขาเป็นเพียงเศษขยะชิ้นหนึ่ง และในเวลานี้ พวกเขาก็กำลังพยายามเขี่ยเขาออกไป?

ความคิดของหลี่เย้าแล่นปราดอย่างรวดเร็ว เขาหรี่ตาลงกลายเป็นรอยกรีดยาว

เขาเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา โรงเรียนคงจะไม่สามารถตัดสินใจให้เขาพักการเรียนได้รวดเร็วขนาดนี้

หากพวกเขาจริงใจต่อเขาจริงๆ ทางโรงเรียนก็คงจะต้องไปที่โรงพยาบาลเพื่อปลอบใจเขาก่อน พวกเขาจะต้องสอบถามความคิดเห็นจากเขา ให้เวลาเขาได้ตัดสินใจ และมอบค่าชดเชยให้กับเขาด้วย

เพราะถึงยังไง มันก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับอนาคตของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง พวกเขาจะทำเป็นไม่สนใจได้ยังไง?

มันจะต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเกมส์เกมส์นี้อย่างแน่นอน!

“ผมเข้าใจแล้ว เป็นเฮ่อเหลียนเลี่ยสินะ?” หลี่เย้าพูดเสียงเข้ม

ใบหน้าของเทพหน้าดำปรากฏความตื่นตระหนก แต่เขาก็กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว เขาเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงขมขื่นว่า “นักเรียนหลี่เย้า นี่เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่ทางโรงเรียนจะทำให้เธอได้ นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับโรงเรียนและตัวเธอเอง มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนักเรียนคนอื่นเลย เธออย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยากกว่านี้เลย! เธอกลับไปบ้านและฝึกฝนด้วยตัวเองสักหนึ่งปี เธอก็อาจจะสามารถฟื้นคืนอัตราการตื่นของเธอขึ้นมาได้ เมื่อถึงเวลานั้น โรงเรียนก็ยังคงยินดีต้อนรับเธอเสมอ...”

“ฮาฮา ฮาฮาฮาฮา!” หลี่เย้าไม่อาจอดกลั้นต่อไปได้อีก เขาหัวเราะออกมาอย่างคนสติแตก

“นะ-นะ-นี่ มันหมายความว่ายังไง?” เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นมาบนหน้าผากของเทพหน้าดำ ไม่ว่าเขาจะเช็ดมันกี่ครั้ง เขาก็ไม่สามารถเช็ดจนหมดได้

เขารู้สึกได้ถึงคลื่นพลังรุนแรงออกมาจากชายพิการตรงหน้าเขา มันน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าจ้าวชูเต๋อ ที่เป็นผู้ฝึกตนระดับรากฐานเสียด้วยซ้ำ

“ผมต้องขอบคุณความหวังดีที่ทางโรงเรียนมอบให้ ไม่จำเป็นต้องให้ผมพักการเรียนหรอก ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผมขอออกจากโรงเรียนนี้ ผมไม่ใช่นักเรียนของที่นี่อีกต่อไป!”

หลี่เย้าเก็บรอยยิ้มกลับ สีหน้าของเขากลายเป็นจริงจัง และพูดเน้นย้ำออกมาทีละคำ

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ก้าวขายาวๆออกไปจากห้อง โดยไม่หันกลับมามอง

พิลึก มันพิลึกเกินไปแล้ว เฮ่อเหลียนเลี่ยเชื่อว่า เขาได้กลายเป็นคนพิการไปแล้ว เขาเชื่อว่า เขาจะสามารถรังแกหลี่เย้าได้ด้วยวิธีนี้ แต่เขาไม่รู้เลยว่า หลี่เย้าในเวลานี้ แข็งแกร่งยิ่งกว่าหลี่เย้าตอนที่อยู่บนเกาะมังกรปีศาจ 3-5 เท่า และการเติบโตของเขาก็พุ่งสูงขึ้นหลายร้อยเท่า

โลกใบนี้มีท้องทะเลและผืนฟ้าที่กว้างใหญ่ เขาจะไม่สามารถไปบ่มเพาะที่อื่นได้เลยเหรอ? ในเมื่อโรงเรียนมัธยมซื่อเซียวที่สองมีดวงตามืดบอด ทุกคนก็คงต้องตัดขาดกันและมารอดูกันว่า สุดท้ายแล้วใครกันแน่ที่จะต้องเสียใจ!

“นักเรียนหลี่เย้า เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ โรงเรียนไม่ได้คิดที่จะให้เธอออก นักเรียนหลี่เย้า!” เทพหน้าดำที่เหงื่อท่วมตัวได้ตะโกนออกมาด้วยเสียงอันแหบแห้ง

เมื่อเดินไปถึงประตู หลี่เย้าก็หยุดลง จากนั้นก็ค่อยๆหันกลับมา เขามองไปที่เทพหน้าดำด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก

เพียงการจับจ้องเดียว ก็ทำให้หัวใจของเทพหน้าดำรัดแน่น ราวกับถูกกรงเล็บที่มองไม่เห็นคว้าจับเอาไว้ กรงเล็บออกแรงกระชากอย่างรุนแรง ทำให้เขาต้องร้องตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวด “อ้า!!!” น้ำตาไหลนองออกมาจากตาของเขาอย่างห้ามไม่อยู่

เกิดอะไรขึ้นกัน?

เจ้าเด็กพิการนี่ก็เป็นแค่ด้ามไม้กวาดที่ผอมแห้ง เพียงแค่ลมพัดมา เขาก็อาจจะปลิวไปได้ แล้วทำไมแววตาของเขาถึงได้เข้มข้นขนาดนี้? มันไม่ต่างจากดาบที่ทิ่มแทงหัวใจของเขาเลย!

เทพหน้าดำกุมหน้าอกของตัวเองอยู่นาน เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็เห็นเพียงแค่บานประตูที่เปิดกว้างเอาไว้เท่านั้น หลี่เย้าได้หายไปนานแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด