ตอนที่แล้วเล่ม1 : บทที่ 34 – ปัญหา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม1 : บทที่ 36 – โจรผู้ร้าย

เล่ม1 : บทที่ 35 – ข้อสงสัย


กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 35 – ข้อสงสัย

เมื่อโนอาห์ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ เขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย ก่อนเข้านอนเมื่อคืนเขาอาบน้ำเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกตามร่างกายที่ไหลออกมาระหว่างการเปลี่ยนอันดับ และตอนนี้เขาก็กำลังยืนอยู่ในห้องเพื่อสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลง สิ่งแรกที่รู้สึกเลยก็คือกล้ามเนื้อที่ขยายใหญ่และชัดเจนขึ้น ไม่มีชั้นไขมันแม้เล็กน้อยปรากฏให้เห็น ทำให้ร่างกายของโนอาห์ดูเพรียวและแข็งแรงถึงแม้ว่าส่วนสูงจะยังไม่มากก็ตาม

แต่ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดกว่านั้นเกิดขึ้นในร่างกายของเขา

จุดฝังเข็มทั้งเจ็ดบนแผ่นหลังดูดซับ “ลมหายใจ” ด้วยความเร็วที่มากกว่าถึงสองเท่าจากวัฏจักรก่อนหน้า ปริมาณที่ร่างกายสามารถรับไว้ได้ก็เพิ่มขึ้นถึงสามเท่า!

‘ด้วยปริมาณเท่านี้ ฉันสามารถปล่อยการโจมตีแบบเต็มกำลังได้อย่างน้อยก็หกครั้งก่อนที่ “ลมหายใจ” จะหมดเกลี้ยง! ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีความเร็วในการฟื้นฟูที่เพิ่มขึ้น แต่อาจได้พลังงานสำหรับการโจมตีครั้งอื่น ๆ หลังจากที่ใช้ไปแล้วหกครั้ง และทั้งหมดนี่จะเกิดขึ้นถึงแม้วัฏจักรที่สี่จะยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม!’

การค้นพบพลังใหม่นี้ทำให้โนอาห์กระหายที่จะฝึกฝนการต่อสู้กับอาจารย์ดังนั้นเขาจึงรีบสวมชุดกิโมโนและพร้อมที่จะออกจากห้องแต่ทันใดนั้นก็หยุดลง

‘จริงสิ วันนี้ต้องไปทำความสะอาดห้องทรมานก่อนนี่นา’

* * * * *

เพล้ง!

เสียงของดาบเหล็กปะทะกันดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วตึกผู้พิทักษ์ โนอาห์กำลังต่อสู้อยู่กับวิลเลียมด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่นขณะกำลังคุ้นชินกับร่างกายใหม่นี้เรื่อย ๆ

วิลเลียมจำเป็นต้องทิ้งดาบไม้และหยิบดาบจริงขึ้นมาป้องกันการโจมตีของโนอาห์บ้างในบางครั้ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม โนอาห์ไม่สามารถทำลายการป้องกันของอาจารย์เขาได้ วิลเลียมเพียงป้องกันทุกการโจมตีที่โถมเข้ามาพร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นถึงกระบวนท่านั้น ๆ ไปด้วย

แต่ความสุขที่ได้เห็นร่างกายพัฒนานั้นยังคงไม่ได้แสดงออกผ่านสีหน้าและอารมณ์ของโนอาห์เลย ปรากฏชัดเพียงแค่ความเย็นชาและสมาธิเท่านั้น เขาได้พบแม่ก่อนจะลงมาฝึกฝนการต่อสู้และรู้สึกจิตตกที่ได้พบรอยช้ำขนาดใหญ่บนใบหน้าบริเวณใต้ตาขวาของเธอ ความกดดันบางอย่างก่อตัวขึ้นในจิตใจของเขาและบังคับให้เขารีบเร่งพัฒนาตนก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่อาจสายเกินแก้ขึ้น

วิลเลียมสังเกตสภาพจิตใจของลูกศิษย์จึงยกระดับการฝึกฝนขึ้นเพื่อให้เกียรติต่อความตั้งใจของเขา แต่เมื่อเห็นว่าโนอาห์หายใจหอบอย่างรุนแรงและมีเหงื่อออกมาก อาจารย์ของเขาจึงตัดสินใจหยุดซ้อมและนั่งลงกับพื้นเพื่อพูดคุยกับเขา

โนอาห์นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าวิลเลียมและเรียบเรียงคำถามที่เขาคิดอยู่ในใจ

“ร่างกายอันดับสองเป็นยังไงบ้าง?” วิลเลียมเริ่มการสนทนา

“มันยอดเยี่ยมมากขอรับ! ความแข็งแกร่งและความเร็วเพิ่มขึ้นเยอะมาก ข้ามั่นใจว่าตอนนี้ข้าสามารถเอาชนะสัตว์เวทมนตร์อันดับสามได้แล้ว”

วิลเลียมพยักหน้า เขารู้ว่าทุกการเปลี่ยนอันดับจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และยิ่งไปอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นก็ยิ่งเห็นถึงความแตกต่างจากระดับก่อนหน้าได้อย่างชัดเจน

โนอาห์เลือกที่จะเอ่ยคำถามออกมา “ท่านอาจารย์ ผู้ฝึกตนทุกคนล้วนเป็นคนเขลาหรือ?”

วิลเลียมประหลาดใจกับคำถามและอดไม่ได้ที่จะถามกลับว่ามันสื่อถึงอะไร “เจ้าหมายความว่ายังไง?”

“ภารกิจที่ต้องต่อสู้กับออร์สัน ข้าตระหนักได้ว่าผู้ฝึกตนมี... เอ่อ... นิสัยที่ประหลาด”

วิลเลียมสับสนใจตอนแรกแต่จากนั้นก็เข้าใจบางอย่างเมื่อได้เห็นอารมณ์ที่ซับซ้อนและอาการเริ่มรู้สึกขุ่นเคืองของศิษย์

“เจ้าคือเด็กอายุแปดขวบคนนั้นที่หลอกผู้พิทักษ์เพื่อเอาเคล็ดวิชา คือเด็กอายุสี่ขวบคนนั้นที่เอาแต่ฝึกฝนและต่อสู้ คือเด็กคนนั้นที่วันๆ ไม่คิดสิ่งใดนอกเสียจาก การฝึกตน และเจ้ายังมาพูดว่าผู้ฝึกตน ประหลาด อีกงั้นหรือ?”

ดูเหมือนโนอาห์จะตกตะลึงกับคำพูดเหล่านี้ไปชั่วครู่แต่ไม่นานรอยยิ้มเล็กๆ ก็ปรากฏเป็นคำตอบ

วิลเลียมส่ายหน้าและว่าต่อ “ไม่ใช่เพราะขั้นตอนของการฝึกตนหรอกที่ทำให้เกิดความประหลาดเช่นนี้ หากแต่เป็นเพราะผู้คนต่างหากที่เอาแต่ไขว่คว้าไล่ตามพลัง มีเพียงแค่ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้เดินบนเส้นทางนี้ต่อ อุปสรรคมากมายที่เข้ามาก็มิอาจทำอะไรพวกเขาได้”

โนอาห์ตรัสรู้แล้ว กระบวนการบำรุงรักษาร่างกายต้องการการฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่องและใช้ความอดทนอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการฝึกฝน คนส่วนมากมักเบื่อและหน่ายกับวิธีเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถได้มาซึ่งพลังที่สูงกว่า ใครกันที่จะมุ่งมั่นเอาแต่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทั้งวันจนร่างกายหมดแรง? ใครกันที่จะเอาแต่นั่งจ้องอักษรรูนจนทำให้เขาเจ็บปวดและหมดสติไป? มีเพียงผู้ที่ตั้งใจแน่วแน่เท่านั้น! และพวกเขามักจะมี ความประหลาด เหล่านี้ในตัวซึ่งไม่ถูกลบออกไปง่ายๆ เช่นความดื้อรั้นของโนอาห์ในการเสาะหาพลัง

“ข้าคิดว่าข้าเข้าใจแล้ว แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”

โนอาห์กำลังจะถามเกี่ยวกับสำนักในเมืองหลวง แต่จากนั้นก็มีข้อสงสัยเกิดขึ้นในใจ เขายั้งที่จะถามคำถามแรกออกไปและเปลี่ยนหัวข้อที่จะถามในที่สุด

“ข้าขอดูข้อมูลเกี่ยวกับผู้ฝึกตนในเมืองได้หรือไม่ขอรับ? ท่านก็รู้ว่าหัวข้อนี้ไม่ค่อยเป็นที่เปิดเผยนัก และข้าไม่รู้เลยว่าจะไปหาอ่านได้จากที่ใด”

วิลเลียมรู้สึกประหลาดใจแต่ก็พยักหน้าพร้อมกับเผยรอยยิ้ม “ท้ายที่สุดเจ้าก็อยากรู้ประวัติศาสตร์ประเทศเพิ่มเติมจนได้สินะ! ไม่ต้องห่วง นัดหมายครั้งหน้าข้าจะนำตำราจากเขตในมาให้ ฉันจะขอมีชีวิตอยู่ต่อไปจนกว่าเจ้าจะขอบางสิ่งจากข้า ซึ่งแน่นอนว่าบางสิ่งที่ว่าย่อมไม่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝน!”

โนอาห์ยิ้มกว้าง ไม่นานเขาก็ออกมาจากห้องและคลายรอยยิ้ม

‘เกือบพลาดไปแล้วไหมล่ะ ฉันรู้ว่าอาจารย์ใส่ใจฉันมากแค่ไหนแต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเขารู้ว่าฉันคิดที่จะไปจากตระกูลนี้? เขาจะช่วยหรือลงโทษฉัน? เพื่อให้มั่นใจ คงจะเป็นการดีกว่าถ้าไม่เปิดเผยอะไรกับเขาจนกว่าการหลอมรวมนรกเจ็ดขั้นจะเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ก็ยังไม่รู้ด้วยว่าแท้จริงแล้วเมืองหลวงนั้นเป็นยังไง’

ขณะกำลังครุ่นคิด โนอาห์ก็กลับมาถึงห้อง เขาไม่ชอบปกปิดอะไรต่อวิลเลียมเนื่องจากวิลเลียมช่วยเหลือเขามาตลอด แต่อนาคตของเขาย่อมมาก่อน เขาไม่อาจยอมรับการที่ต้องเป็นแค่ผู้พิทักษ์ไปตลอดชีวิตได้ เขาอยากมีอิสระที่จะได้บินขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยไม่มีผู้มีอำนาจขัดขวางเขาได้และต้องการพลังที่แม้แต่การอยู่ในคฤหาสน์ทั้งชีวิตก็มิอาจหาได้

‘ดูเหมือนว่าการทำให้คนที่รักต้องรู้สึกผิดหวังมันจะเป็นสันดานของฉันไปแล้วจริงๆ ขอโทษนะท่านอาจารย์ แต่ไม่มีทางที่ฉันจะยอมรับฐานะของฉันว่าเป็นเพราะโชคชะตาได้หรอก หวังว่าท่านคงจะเข้าใจ’

เมื่อละทิ้งต่อความคิด เขาก็หยิบดาบขึ้นมาและฝึกฝน “ลมหายใจ” ในร่างกายได้รับการเติมเต็มอีกครั้งหลังจากที่หนึ่งในสี่ถูกใช้ไประหว่างการฝึกฝนการต่อสู้กับวิลเลียม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด