ตอนที่แล้วChapter 33 - 34: ไม่ขอโทษ, พายุลงเว็บบอร์ด (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 37 - 38 : ปะทะ, ชัยชนะ (ฟรี)

Chapter 35 - 36 : ท้าดวล 3:1, มั่นใจหรือแค่อวดเก่ง (ฟรี)


Chapter 35: ท้าดวล 3:1

“เธอคือกู้หนิงใช่ไหม?” ฮ่าวหรันเดินเข้ามาหากู้หนิงและถามให้แน่ใจ

“ใช่ มีอะไร?” กู้หนิงตอบเสียงเรียบ เธอไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย

“ฮ่าวหรัน นายต้องการจะทำอะไร?” เมื่อเห็นฮ่าวหรันที่นี่ มู่เค่อที่เดินตามกู้หนิงมาก็รู้สึกถึงบรรยากาศไม่ชอบมาพากล เขาก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อปกป้องกู้หนิงทันที

เขาไม่รู้ว่าทำไมฮ่าวหรันถึงมาหากู้หนิงแต่เขารู้ว่าที่ฮ่าวหรันมาไม่ได้มาเพราะเฉินจื่อเหยา

ฮ่าวหรันแปลกใจที่มู่เค่อปกป้องกู้หนิง แต่เขายังคงพูดต่อไปว่า “ฉันเห็นวิดีโอที่เกิดขึ้นในโรงอาหารแล้ว มันถูกอัพขึ้นบอร์ดโรงเรียน ทุกคนต่างพากันพูดว่ากู้หนิงนั้นแข่งแกร่ง แต่ฉันไม่เห็นด้วย และที่ฉันมาที่นี่เพื่อขอท้าดวลกู้หนิง เธอกล้ายอมรับคำท้าฉันไหม?”

“อะไรนะ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่เค่อและหยูหมิงซีต่างพากันตกใจ พวกเขามองไปที่กู้หนิงอย่างเป็นห่วง กู้หนิงยังคงนิ่งเงียบ มีเด็กผู้ชายมาที่นี่เพื่อขอท้าสู้เธอ! กู้หนิงคิดว่าเขามาที่นี่เพราะเฉินจื่อเหยาซะอีก

มู่เค่อสบถ ใครก็ตามที่อัพวิดีโอบ้านั่นลงบอร์ดโรงเรียน เห็นได้ชัดว่าเขาต้องอยากให้กู้หนิงมีปัญหา กู้หนิงไม่พอใจเช่นเดียวกัน แต่เธอรู้สึกสนใจมากกว่าตกใจกลัวต่อคำท้าของฮ่าวหรัน

กู้หนิงคุ้นชื่อฮ่าวหรัน เพราะฮ่าวหรันก็เป็นอันธพาลประจำโรงเรียนเช่นเดียวกับฉู่เพ่ยหาน เขามักข้องเกี่ยวกับเรื่องทะเลาะวิวาท ทั้งยังชอบขาดเรียนและได้รับใบเตือนมากมายเหมือนกับฉู่เพ่ยหาน

แต่เขาเรียนไม่เก่งเท่าฉู่เพ่ยหาน การเรียนของเขาค่อนข้างแย่ฮ่าวหรันมาจากครอบครัวร่ำรวย ครอบครัวของเขารวยเป็นอันดับสามของเมือง F

ฮ่าวหรัน ฉินซีหุนและจางเทียนปิง กลุ่มของพวกเขาต่างเป็นที่รู้จักในโรงเรียน

กู้หนิงเคยได้ยินประวัติของฉินซีหุนและจางเทียนปิงมาบ้าง ฉินซีหุนเป็นลูกชายของข้าราชการ แต่กู้หนิงไม่รู้ตำแหน่งพ่อของเขา ส่วนจางเทียนปิงว่ากันว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า พวกเขาทั้งสามกลายมาเป็นเพื่อนกันจากการต่อสู้

แม้ว่าพวกเขาจะมีภูมิหลังที่แตกต่างกันมาก แต่พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันอย่างแท้จริง

กู้หนิงมีแผนในใจของเธอหลังจากที่เธอรู้แล้วว่าพวกเขาเป็นใคร

“ฮ่าวหรัน นายจะชกต่อยกับผู้หญิงได้ยังไง” มู่เค่อโมโห ถึงเขาจะเชื่อมั่นในความสามารถกู้หนิง แต่เด็กหนุ่มสามคนนี้ก็ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ

“ถ้าเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาก็ดูเหมือนว่าฉันรังแกเธอ แต่เมื่อเธอต่อสู้เป็นก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้กันและกันจะดีกว่า” ฮ่าวหรันไม่คิดว่าสิ่งที่กำลังจะทำนั้นผิดแต่อย่างใด

ใช่ ถ้ากู้หนิงเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาๆ เขาคงไม่ขอสู้กับเธอ แต่วิดีโอนั่นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด

“นี่นาย…” มู่เค่อโกรธ ก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อ กู้หนิงก็ขัดขึ้น

“ถ้าชนะฉันจะได้อะไรและถ้าฉันแพ้จะเกิดอะไรขึ้น?” กู้หนิงถาม

“ถ้าเธอชนะฉันจะทำตามที่เธอสั่ง แต่ถ้าฉันชนะเธอก็ต้องทำตามที่ฉันสั่งเหมือนกัน ใจเย็น ฉันไม่ให้เธอทำอะไรที่ผิดศีลธรรมแน่” ฮ่าวหรันตอบ

ฮ่าวหรันเป็นเด็กหนุ่มที่พอมีคุณธรรมอยู่บ้าง

“ได้ ฉันรับคำท้า แต่ฉันมีเงื่อนไขอีกอย่าง” กู้หนิงเอ่ย

ทุกคนทึ่งที่กู้หนิงยอมรับคำท้า พวกเขาพากันลงพนันขันต่อว่าใครจะแพ้ชนะ

ถึงแม้ทุกคนจะยอมรับว่ากู้หนิงนั้นเก่งก็จริง แต่ฮ่าวหรันเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความสามารถที่โดดเด่นในการต่อสู้ ไม่มีใครคิดว่ากู้หนิงจะชนะ

กู้หนิงไปเอาความมั่นใจมาจากไหน หรือเธอคิดว่าตัวเธอเองอยู่ในระดับที่สูงกว่า

“บอส…” มู่เค่อเรียกเธออย่างเป็นห่วง แต่กู้หนิงหยุดเขาด้วยสายตา

“บอกมาเธอต้องการอะไร?” ฮ่าวหรันเองก็ประหลาดใจที่กู้หนิงรับคำท้าของเขาโดยไม่ลังเล เขาสงสัยเงื่อนไขของกู้หนิง

เขาไม่รู้ว่ากู้หนิงมั่นใจหรือแค่อวดดี แต่เขาก็ขอชื่นชมทัศนคติของเธอ

“หนึ่งต่อสาม ถ้าฉันแพ้ฉันจะทำสามอย่างตามที่พวกนายต้องการ แต่ถ้าฉันชนะพวกนายต้องเรียกฉันว่า ‘บอส’ และเชื่อฟังฉันจนกว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะจบลง” กู้หนิงกล่าวอย่างสบายอกสบายใจขณะที่คนอื่นล้วนตกตะลึงกับคำขอของเธอ

อะไรนะ? หนึ่งต่อสาม? คนแพ้ต้องเรียกเธอว่าบอส?

กู้หนิงมั่นใจในตัวเองเกินไปแล้ว!

หลังจากนิ่งงันไปชั่วครู่ ฮ่าวหรันและเพื่อนรู้สึกโกรธกับคำพูดของกู้หนิง มันเป็นความอัปยศของพวกเขาเลยทีเดียวถ้าต้องเรียกผู้หญิงว่า ‘บอส’!

“เธออยากให้พวกเราเรียกบอส? น่าสนใจนี่” ฮ่าวหรันพูดเย้ยหยัน

“ใช่ เธอคิดว่าเธอเป็นใคร?”

“กู้หนิง ความมั่นใจนั้นดีแต่อย่าให้มันมากเกินไป”

ฉินซีหุนและจางเทียนปิงโกรธ

“ฉันรู้ว่าฉันเป็นใคร จะมั่นใจหรือจะอวดดีก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนาย อย่างน้อยฉันก็ไม่กลัว ถ้านายขี้ขลาดและไม่กล้ายอมรับคำขอ งั้นก็แพ้ไปซะ” กู้หนิงปลายตามองฮ่าวหรันและเพื่อนของเขาอย่างยั่วยุ

“เธอ..”

ฮ่าวหรันและเพื่อนรู้สึกอับอายแต่ศักดิ์ศรีค้ำคอพวกเขาอยู่

“ขี้ขลาด? เราไม่เคยเป็นคนขี้ขลาด รับคำท้า!” ฮ่าวหรันตอบกลับด้วยความโกรธ

ฮ่าวหรันเป็นคนตัดสินใจแทนพวกเขาเสมอ เมื่อฮ่าวหรันยอมรับอีกสองคนก็เห็นด้วย นอกจากนี้พวกเขาไม่ต้องการที่จะเป็นคนขี้ขลาด!

“ดี ฉันจะรอพวกนายพรุ่งนี้บ่ายโมงที่ป่าหลังโรงเรียน” กู้หนิงเอ่ยอย่างพึงพอใจซึ่งนั่นทำให้มู่เค่อรู้สึกว่าเธอสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างแน่นอน

เขาควรเชื่อใจกู้หนิงในเมื่อเธอรับคำท้าแล้ว แสดงว่าเธอต้องมั่นใจว่าจะชนะแน่

หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หยูหมิงซีรู้ว่ากู้หนิงจะไม่วันเปลี่ยนใจกับสิ่งที่เธอได้ตัดสินใจไปแล้ว หยูหมิงซียังคงเงียบ เธอทำได้เพียงเชื่อเพื่อนของเธอเท่านั้น

จากนั้นกู้หนิงก็เดินเข้าห้องเรียนของเธอไป ทิ้งทุกคนไว้เบื้องหลัง

ฮ่าวหรันและเพื่อนทำเสียงขึ้นจมูกเบาๆจากนั้นก็พากันเดินจากไป

นักเรียนคนอื่นก็แยกย้ายกันไปหลังจากละครฉากใหญ่จบลง

มีเพียงสายตามุ่งร้ายของเฉินจื่อเหยายามมองกู้หนิงเดินเข้าไปในห้อง เธอผิดหวังที่กู้หนิงยังทำตัวสงบ เธอหวังว่าพรุ่งนี้กู้หนิงจะแพ้ ยิ่งแพ้รุดรุ่ยเลยยิ่งดี

จางอี้หมิงและฝูหมิงเหลียงคิดเหมือนกัน ขณะที่ฉินเจิ้งรู้สึกสับสน เขาอยากให้กู้หนิงได้รับบทเรียนแต่ก็รู้สึกเป็นห่วงเธอด้วย

เมื่อกู้หนิงเข้าไปในห้องเรียน เพื่อนร่วมชั้นบางคนมองมาที่เธออย่างเป็นห่วง บางคนก็รอคอยให้ถึงวันพรุ่งนี้ บางคนก็สะใจโดยเฉพาะจ้าวเฟยเฟยและเพื่อนของเธอ

จ้าวเฟยเฟยต้องการเยาะเย้ยกู้หนิง แต่เสียงออดดังขึ้นก่อน ดังนั้นเธอจำต้องหุบปากเธอลง

Chapter 36: มั่นใจหรือแค่อวดเก่ง

"กู้หนิง ออกมาข้างนอกกับครูสักครู่"

อาจารย์ใหญ่เรียกเธอออกไปพบข้างนอก กู้หนิงคิดว่าอาจเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนนี้

เมื่อกู้หนิงเดินพ้นประตูออกมา อาจารย์ใหญ่ก็เอ่ยถามเธอเสียงเข้ม "ทำไมเธอถึงทำอย่างนั้นที่โรงอาหาร? ทำไมเธอถึงตีเพื่อนนักเรียนด้วยกัน? และยังรับคำท้าดวลจากฮ่าวหรัน ฉินซีหุนและจางเทียนปิง ที่อยู่ห้องเจ็ด? เธอรู้ไหมว่าตอนนี้เธอเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว และมันมีผลกระทบต่อชั้นเรียนของเราด้วย?"

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามและอารมณ์โกรธจากอาจารย์ใหญ่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกโมโหเลยแม้แต่น้อย เธอเอ่ยอธิบายอย่างใจเย็นว่า "อาจารย์จางคะ กู้เซียวเซียวพูดไม่ดีเรื่องแม่หนูก่อน หนูก็เลยตีเธอที่โรงอาหาร อาจารย์จะให้หนูทนหรอคะถ้ามีใครมาว่าแม่หนู? ส่วนฮ่าวหรันกับเพื่อน พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้หนูอยู่อย่างสงบๆแน่นอนค่ะ ถ้าหนูไม่รับคำท้าพวกเขา พวกเขาก็จะคอยวนเวียนหาเรื่องหนูไม่หยุดหย่อน"

จางฉิวฮวารู้ว่ากู้หนิงต้องแบกรับความกดดันไว้มาก นักเรียนคนอื่นมักรังแกเธออยู่เสมอๆ เมื่อเธอรับรู้ถึงเหตุผลกู้หนิง เธอก็จะไม่เอาเรื่อง

เป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมกู้หนิงถึงต้องตอบโต้กลับ

ถึงแม้เธอจะยังคิดว่าการกระทำทั้งหมดนี้ออกจะมากเกินไปเกินไป แต่กู้หนิงเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเธอ จางฉิวฮวาไม่รู้จะพูดอะไร

แต่เธอยังไม่อาจยอมรับเรื่องที่กู้หนิงรับคำท้าฮ่าวหรันได้

"กู้หนิง เธอเป็นผู้หญิงแล้วจะเอาชนะผู้ชายสามคนได้ยังไง? แล้วทางโรงเรียนก็ห้ามเด็กนักเรียนชกต่อยกัน เธอต้องถูกลงโทษหากทำแบบนั้น และห้องเรียนของเราจะถูกเพ่งเล็งอีกด้วย" จางฉิวฮวาเอ่ย

ได้ยินดังนั้น กู้หนิงก็ตกใจขึ้นมา เธอลืมไปเลยว่าเธออาจถูกลงโทษได้หากมีเรื่องชกต่อยในโรงเรียนและห้องของเธอก็จะถูกเพ่งเล็งจากพฤติกรรมของเธอ

"แต่หนูรับปากพวกเขาไปแล้ว ถ้าหนูบอกปัด ฮ่าวหรันต้องเอาเรื่องหนูแน่" กู้หนิงรู้สึกเหมือนกำลังจะจนมุม

“เธอกำลังทำให้ครูอารมณ์เดือด” กู้หนิงทำให้จางฉิวฮวาโมโห ถึงแม้ว่ากู้หนิงคือเหตุผลของปัญหาทั้งหมด ฮ่าวหรันก็เป็นสาเหตุหลัก จางฉิวฮวาไม่อยากโทษกู้หนิงคนเดียว

เธอไม่ได้เลือดเย็นพอที่จะเห็นกู้หนิงถูกฮ่าวหรันตามแก้แค้นเพียงเพราะกู้หนิงบอกปัดไม่ยอมสู้ด้วย

ถ้าฮ่าวหรันจะลงมือแก้แค้นกู้หนิงจริง ทางโรงเรียนก็ไม่อาจช่วยได้

“เอาอย่างนี้ไหมคะ? หนูจะออกไปสู้กับฮ่าวหรันข้างนอกโรงเรียน ถ้าทำแบบนี้ก็จะไม่มีใครถูกลงโทษ” กู้หนิงเสนอความคิด

“เธอนี่มัน…” จางฉิวฮวายังไม่พอใจ

“กู้หนิงทำไมเธอโง่แบบนี้นะ! เธอคิดว่าเธอจะชนะฮ่าวหรันกับเพื่อนของเขาได้งั้นเหรอ? ถ้าเธอบาดเจ็บขึ้นมาล่ะ? แม่เธอก็ต้องเป็นห่วงเธอ แล้วยังค่ารักษาพยาบาลอีก?

จางฉิวฮวาจำเป็นต้องชี้ให้เห็นถึงความจริง เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้กู้หนิงรู้สึกไม่ดี แต่เพื่อตัวกู้หนิงเอง

กู้หนิงเข้าใจว่าอาจารย์ห่วงใยเธอ เธอไม่ได้รู้สึกแย่ “อย่ากังวลไปเลยค่ะ หนูเอาชนะพวกเขาได้แน่ค่ะ จริงๆนะคะ”

มันค่อนข้างยากที่จะให้จางฉิวฮวาเชื่อ แต่เธอรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดเรื่องนี้ต่อไป “เอาล่ะ ครูจะไม่เซ้าซี้เธอแล้ว โชคดีล่ะกันนะ”

จากนั้นจางฉิวฮวาก็หยุดพูดกับกู้หนิงและเดินจากไปด้วยด้วยความโกรธ กู้หนิงยักไหล่และเดินกลับเข้าห้องเรียน

ทุกคนในห้องต่างพากันเอาหูแนบประตูแอบฟังจางฉิวฮวาคุยกับกู้หนิง แต่อาจารย์พูดเสียงเบา ดังนั้นจึงไม่มีใครได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน พวกเขาเห็นเพียงอาจารย์เดินจากไปด้วยอาการโมโห

มีเพียงกู้หนิงที่ยังสงบเยือกเย็นแต่ต้นจนจบ เธอไม่ได้ดูเสียใจหรือกลัวที่ถูกต่อว่า ทุกคนต่างมองมาอย่างสงสัย

เมื่อกู้หนิงเดินกลับเข้ามาในห้อง เพื่อนร่วมห้องส่วนใหญ่จับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอเพื่อค้นหาว่ามีอะไรเกิดขึ้น

ตอนนี้อาจารย์ใหญ่ไม่ได้อยู่ในห้อง ห้องเรียนจึงกลับมาอึกทึกอีกครั้ง ห้องสี่ไม่ใช่ห้องเรียนระดับท็อบของ ม.6 ดังนั้นนักเรียนเหล่านี้จึงไม่ค่อยสนใจการเรียนเท่าไหร่นัก

“เฮ้ กู้หนิง เธอมั่นใจว่าจะชนะพวกเขารึปล่า?” นักเรียนชายที่นั่งข้างหน้ากู้หนิงหันมาถามเธอ

“หนึ่งต่อสาม สุดยอดไปเลย!” นักเรียนชายอีกคนพูดเสริมขึ้นอย่างชื่นชม

“เธอก็รูปร่างดีนะ ไม่รู้ความสามารถจะดีตามด้วยรึเปล่า?” นักเรียนอีกคนก็เอ่ยขึ้น

“ใช่” อีกคนก็เอ่ยเสริมขึ้นมา

นักเรียนส่วนใหญ่ไม่เชื่อกู้หนิงว่าเธอจะสามารถเอาชนะได้ กู้หนิงไม่สนใจพวกเขา แต่หยูหมิงซีที่นั่งเงียบมาตลอด เธอโต้กลับเป็นครั้งแรก

“ฉันเชื่อในตัวกู้หนิง ฉันเชื่อว่าเธอเอาชนะได้!”

กู้หนิงคลี่ยิ้ม หยูหมิงซียืดหยัดเพื่อเธอ

“แล้วยังไงล่ะ? เธอเชื่อแต่ไม่ได้ความว่ากู้หนิงจะเอาชนะได้ซะหน่อย” เพื่อนร่วมห้องเถียงกลับ

“ใช่ ฉันก็ไม่เชื่อ”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รอดูพรุ่งนี้บ่าย ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะไม่ยอมรับในความสามารถของกู้หนิง รอดูพรุ่งนี้กันดีกว่า!” หยูหมิงซีเถียงกลับ

นักเรียนที่ไม่เห็นด้วยนิ่งเงียบ บางคนก็อยากสาดน้ำเย็นใส่เพิ่ม แต่อาจารย์ใหญ่กลับเข้ามาที่ห้องพอดี พวกเขาจึงจำต้องหุบปากสนิท

ในบ้านของครอบครัวกู้ ห้องที่ตกแต่งงดงามอย่างกับห้องเจ้าหญิง กู้เซียวเซียวอยู่ในชุดราตรีสีชมพูนอนอยู่บนเตียงสีชมพูขนาดใหญ่พร้อมโทรศัพท์ในมือของเธอ เธอกำลังดูวิดีโอที่เฉินจื่อเหยาส่งมา และรู้สึกว่าน่าเสียดายที่เธอไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยตัวเอง

กู้เซียวเซียวมีปฏิกิริยาเช่นเดียวกับเฉินจื่อเหยา เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งกับความมั่นใจของกู้หนิงและไม่เชื่อว่ากู้หนิงจะเอาชนะฮ่าวหรันและเพื่อนของเขา ตอนนี้เธอกำลังจ้องมองวิดีโอตาไม่กระพิบ

เธอแทบทนรอไม่ไหวที่จะเห็นกู้หนิงถูกต่อยล้มคว่ำไปนอนกับพื้นในวันพรุ่งนี้

ยิ่งกว่านั้นเธอยังรอคำขอโทษจากกู้หนิง ถ้ากู้หนิงไม่ขอโทษหรือยังทำให้เธอไม่พอใจ เธอจะเกลี้ยกล่อมคุณยายให้เตะกู้หนิงกับแม่ออกจากบ้าน

เช้าวันรุ่งขึ้น กู้เซียวเซียวยืนรอกู้หนิงที่บันได เธอรอเพื่อเยาะเย้ยกู้หนิง รอไปสักพักกู้หนิงก็ยังไม่ปรากฏตัว กู้เซียวเซียวเริ่มหมดความอดทน

“คาบเช้าจะเริ่มแล้ว หรือมันกลัวจนไม่กล้ามาโรงเรียนวันนี้?” กู้เซียวเซียวสันนิษฐาน

“ใครจะรู้!” เฉินจื่อเหยาตอบ

สองนาทีก่อนคาบเรียนแรกจะเริ่ม กู้หนิงก็ปรากฏตัวพร้อมมู่เค่อและหยูหมิงซี

เมื่อเห็นมู่เค่อ กู้เซียวเซียวและเฉินจื่อเหยาก็ริษยากู้หนิงมากขึ้นกว่าเดิม มู่เค่อเคยเป็นเพื่อนพวกเธอมาก่อน แต่ตอนนี้เขากลับสนิทกับกู้หนิงมากกว่าพวกเธอ

นอกจากนี้ครอบครัวของมู่เค่อยังมีฐานะร่ำรวยมากกว่าพวกเธอ พวกเธออยากสนิทสนมกับมู่เค่อ แต่ใครจะไปรู้ว่ามู่เค่อดันยืนอยู่ข้างกู้หนิงและต่อต้านพวกเธอ

มู่เค่อและหยูหมิงซีรู้สึกเซ็งขึ้นมาทันทีที่สังเกตเห็นกู้เซียวเซียวและเฉินจื่อเหยา ส่วนกู้หนิงยังคงทำตัวปกติอย่างเช่นเคย

“กู้หนิง ฉันได้ยินมาว่าเธอกำลังจะสู้กับผู้ชายสามคนบ่ายวันนี้ หนึ่งต่อสาม เธอกล้าและมั่นใจในตัวเองมากเลยสินะ แต่ก็ไม่รู้ว่ามั่นใจจริงหรือทำอวดเก่งไปอย่างนั้นเอง?” กู้เซียวเซียวสบประมาท

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด