ตอนที่แล้วGOI ตอนที่ 87 จะไสหัวไป หรือจะตาย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGOI ตอนที่ 89 ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย!

GOI ตอนที่ 88 เรื่องจบ แต่เจ้าอยู่!


ในเวลาสำคัญ ทุกคนตกตะลึงไม่อาจขยับตัว กระทั่งหลินหลียังร้องเสียงหลงออกมาก่อนจะกระโจนเข้าไปพลางเรียกหุ่นเชิด แต่ระยะห่างนั้นมากเกินไปสำหรับนาง

‘เขาตายแน่!’

‘ป๋ายเสี่ยวเฟยตายแน่!’

ทุกคนมีความคิดเช่นเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ป๋ายเสี่ยวเฟย!

แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นดังที่ทุกคนคาด เรือนร่างสีม่วงพลันปรากฎเบื้องหน้าชายหนุ่ม ศิษย์พี่ผู้นั้นถูกส่งกระเด็นลอยออกไปด้วยความเร็วที่มากกว่าตอนเขาพุ่งเข้ามา พร้อมเสียงปัง ร่างของมันกระแทกหลายคนในระหว่างนี้

ทุกคนหันไปมองป๋ายเสี่ยวเฟย และเห็นฉากที่ทำให้พวกเขาต้องหยุดหายใจไปชั่วขณะ

หูเซียนเอ๋อร์ที่มีส่วนสูงมากกว่าเดิมหลายส่วนยืนเบื้องหน้าป๋ายเสี่ยวเฟย บนใบหน้าของนางมีขนงอกเงย ผ้าคลุมหน้าตกหล่นเนื่องเพราะความเร็ว ใบหน้าไร้ที่ติดุจเทพยดาปรากฎขึ้นในครรลองจักษุ

ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีหางจิ้งจอกสีม่วงสั่นไหวและหูปุกปุยน่าสัมผัส ทุกคนเหม่อมองฉากนี้อย่างโง่งม

‘นักเชิดหุ่นสายจิ้งจอกแปลงกาย!’

วิธีขานเรียกเช่นนี้ปรากฎขึ้นในใจของทุกคนพร้อมคลื่นซัดโถมกระหน่ำ โดยเฉพาะศิษย์ชาย!

นักเชิดหุ่นสายแปลงกายจะต้องล่า และดูดซึมจิตวิญญาณของหุ่นเชิด เพราะความเป็นเอกลักษณ์ของจิ้งจอก ทำให้ความเป็นไปได้ที่มันจะกลายมาเป็นวิญญาณหุ่นเชิดไม่มากไปกว่าความเป็นไปได้ที่นักเชิดหุ่นสายแปลงกายจะถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ทำให้นักเชิดหุ่นสายจิ้งจอกแปลงกายหาตัวจับได้ยาก

แต่กายจิ้งจอกมิได้ครอบครองความสามารถที่เลอเลิศ เหตุผลสำคัญคือความเปลี่ยนแปลงจากภายนอกเมื่อทำการแปลงกาย...

ทวีปชิงหลัวไม่ใช่สถานที่บริสุทธิ์ และมันสกปรกเหลือเกิน! มีเงาหลบซ่อนอยู่ทั่วทวีป และนักเชิดหุ่นสายจิ้งจอกแปลงกายสามารถดึงดูดเงาพวกนี้ออกมาได้!

ภายในทวีป มีผู้คนนับไม่ถ้วนยินยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อที่จะได้นักเชิดหุ่นสายจิ้งจอกแปลงกายมาเข้าร่วม ไม่เว้นกระทั่งพวกระดับสูงขององค์กรยักษ์ใหญ่!

จึงทำให้พวกเขาสามารถโอ้อวดไปทั้งชีวิตว่าได้เห็นโฉมสะคราญแปลงกายเป็นจิ้งจอก

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงหนึ่งส่วนของความตกใจที่ทุกคนจะได้ประสบ และอีกส่วนมาจากหลินหลีที่ปรากฎกายข้างป๋ายเสี่ยวเฟยในเวลาต่อมา!

เป็นใบหน้างามเลิศยากจะหาผู้ใดเทียบเช่นกัน เรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นไร้ที่ติ และที่สำคัญที่สุด อาภรณ์หรูหราสีทองคำสวมใส่โดยดรุณีผู้นี้!

‘อาภรณ์ปีกฟีนิกซ์เทวะ!!!’

‘นางมีความสัมพันธ์เช่นใดกับหลินหนีฉาง!?‘

คำถามเดียวกันนี้ผุดขึ้นในใจทุกคน แต่ไม่มีใครสามารถคิดคำตอบได้...

ในอีกด้าน ถันชิวเซิงตกตะลึงเป็นอย่างมาก หากสมองผู้นั้นไม่มีปัญหา ไม่ว่าใครก็สามารถบอกได้ว่าฐานะของป๋ายเสี่ยวเฟยในใจของหลินหลีและหูเซียนเอ๋อร์ไม่มีทางต่ำ มิเช่นนั้นพวกนางไม่มีทางยอมเสี่ยงเปิดเผยความลับต่อสาธารณชนโดยไม่ลังเล!

และปัญหาคือ...

ป๋ายเสี่ยวเฟยคือใครกันแน่?

นักเชิดหุ่นสายจิ้งจอกแปลงกายกับนักเชิดหุ่นสายพลังงานที่มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับหลินหนีฉาง...!

ตัวตนเช่นใดที่ทำให้สองโฉมสะคราญระดับนั้นรายล้อมข้างกายเขา!?

ด้วยโฉมสะคราญข้างกายและสิ่งที่เขาได้ทำจนถึงตอนนี้ ทุกคนเริ่มคาดเดาไปต่างๆ นานา บางคนกระทั่งรู้สึกว่าสมองของพวกมันไม่แข็งแรงพอที่จะรองรับสิ่งที่เกิดขึ้น

ในอีกด้าน ป๋ายเสี่ยวเฟยมีสีหน้าสับสนเช่นกัน...

เขารู้ว่าทำไมหลินหลีจึงได้ขุ่นเคือง แต่หูเซียนเอ๋อร์?

‘ข้าแค่พบเจอนางสองครา ใช่หรือไม่? หรือเป็นเพราะข้าเห็นนางอาบน้ำ!?’

ในใจของป๋ายเสี่ยวเฟยปั่นป่วนเล็กน้อยขณะที่เขามองเรือนร่างของหูเซียนเอ๋อร์จากข้างหลังก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่

‘ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นเช่นใด แต่พอมองจากมุมนี้แล้วช่าง...’

‘นี่หรือคือที่พ่อสามบอกไว้ว่าโลกนี้มีหญิงสาวบางชนิดทีล่อลวงจิตใจแค่นางยืนเฉยๆ ? แน่นอน ข้าไม่อาจต้านทานได้...’

โชคดีที่ทุกคนไม่สามารถอ่านใจกันและกัน มิเช่นนั้น สิ่งที่ป๋ายเสี่ยวเฟยคิดไว้ต้องทำให้ทุกคนสลบเป็นแน่แท้...

อมิตตาพุทธ!

ป๋ายเสี่ยวเฟยรีบปัดเป่าความฟุ้งซ่านในใจพลางดึงทั้งสองดรุณีไปข้างหลัง เป็นอีกครั้งที่เขาก้าวขาสองก้าวไปทางถันชิวเซิง

หูเซียนเอ๋อร์และหลินหลีไม่ได้ต่อต้าน แตกต่างที่หลินหลีที่มีท่าทีเป็นธรรมชาติ หูเซียนเอ๋อร์กลับ...

หวาดกลัวเล็กน้อย...?

แน่นอนว่าไม่มีใครสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เพราะป๋ายเสี่ยวเฟยได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนไว้

ปัจจุบัน มีคนเฝ้าจับตามองป๋ายเสี่ยวเฟยยิ่งกว่าดรุณีใดๆ เพราะทุกสิ่งที่เขาทำล้วนเกี่ยวโยงกับอนาคตของสถาบัน!

“ศิษย์พี่ การกระทำเมื่อครู่ถือได้ว่าเป็นการตัดสินใจของท่านได้หรือไม่?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่เอ่ยถึงเรื่องที่ถูกลอบโจมตี เขาสวมสีหน้าผ่อนคลายราวกับไม่มีสิ่งใดเคยเกิดขึ้น

เมื่อถูกถาม ถันชิวเซิงนิ่งเงียบไปนานก่อนจะเอ่ยปาก

“ข้าจะพาคนของข้าจากไป แต่ข้าไม่ได้เป็นคนเดียวในกลุ่ม ข้าไม่อาจตัดสินใจแทนคนอื่น”

ถันชิวเซิงเอ่ยความคิดในใจ แทนที่จะถูกอัดแล้วค่อยกลับ อย่างน้อยวิธีนี้ก็ยังกล่าวได้ว่าเขาจากไปพร้อมศักดิ์ศรี

อีกทั้งถันชิวเซิงยังเป็นคนที่เด็ดเดี่ยว เมื่อเขาเอ่ยจบ เขารีบหันไปบอกคนของเขาก่อนจะจากไปราวกับกำลังหนี

“ศิษย์พี่ที่เหลือคิดเช่นไร?”

หลังจากถันชิวเซิงจากไป ป๋ายเสี่ยวเฟยกวาดตามองศิษย์พี่ปีสามคนอื่น รอยยิ้มบนใบหน้าราวกับเป็นของปีศาจร้ายในสายตาพวกเขา

“คนของข้าจะไม่ก้าวเท้าเข้าสู่บริเวณศิษย์ใหม่อีก!”

ด้วยมีถันชิวเซิงเป็นคนนำ คนที่เหลือทั้งหมดล้วนไม่มีความตั้งใจจะขัดขืน เมื่อมีคนหนึ่งเอ่ยเช่นนี้ คนที่เหลือป่าวประกาศตามๆ กันว่าจะไม่มาที่บริเวณศิษย์ใหม่อีก

แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่มีทีท่าจะให้พวกเขาจากไปเฉกเช่นถันชิวเซิง

“ข้ารู้ว่ามีบางคนในหมู่พวกเจ้าไม่พอใจ แต่ถ้ายังไม่เห็นด้วย เช่นนั้นบริเวณศิษย์ใหม่ยินดีตอนรับทุกเวลา เมื่อพวกเราสามารถต่อต้านพวกเจ้าได้ครั้งแรก พวกเราย่อมต่อต้านครั้งต่อๆ ไปได้ ไม่ว่าจะมีเศษสวะเช่นพวกเจ้ามากมายเพียงใด สมาคมรวมพลังศิษย์ใหม่ของเราจะไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย แน่นอนว่าพวกเจ้าจะทำอันใดก็ได้กับผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกของสมาคม”

หลังจากป๋ายเสี่ยวเฟยพูดมานาน ประโยคสุดท้ายที่เขาเอ่ยคือจุดสำคัญที่สุด

พูดให้เข้าใจง่าย ป๋ายเสี่ยวเฟยอยากใช้ทุกคนในที่นี้เพื่อกระจายข่าวเพราะไม่ใช่ศิษย์ใหม่ทุกคนจะเข้าร่วมสมาคม

ป๋ายเสี่ยวเฟยต้องการให้คนเข้าร่วมเพื่อที่ถังทองคำที่เขาได้รับถังแรกจะเพียงพอในการทำเรื่องบางอย่าง

“ไอ้หนู เจ้าหยิ่งยโสไปแล้ว จะมีวันหนึ่งที่เจ้าต้องจ่ายราคาให้กับสันดานของเจ้า!”

ศิษย์พี่อีกคนไม่อาจหยุดยั้งไม่ให้ตนเปิดปากได้ หลินหลีเกือบจะกระโจนออกไปทันที โชคดีที่ป๋ายเสี่ยวเฟยรั้งนางไว้

“ข้าหวังหว่าจะมีวันเช่นนั้น เพื่อที่ข้าจะได้บดขยี้เจ้าเฉกเช่นวันนี้!”

ป๋ายเสี่ยวเฟยยิ้มไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย

‘นี่คือสันดานของข้า!

‘เข้ามาหากเจ้าไม่พอใจ!’

กลุ่มศิษย์พี่กระจายตัวออกไป แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่คิดจะจบ

“เจ้า ศิษย์พี่ตรงนั้น ข้าบอกว่าทุกคนไปได้ แต่ไม่นับเจ้าด้วย!

เมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยจบ ศิษย์พี่หยิ่งยโสที่ลอบจู่โจมเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย็นเยียบกลางแผ่นหลัง...

‘ข้าจบสิ้นแล้ว...’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด