ตอนที่แล้ว71 การเปลี่ยนแปลงของดาวปีศาจหลี่เย้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป73 ฆ่าด้วยหนึ่งการระเบิด

72 กิ้งก่ากลายกลายร่างเป็นทีเร็กซ์


72 กิ้งก่ากลายกลายร่างเป็นทีเร็กซ์

หลี่เย้าใช้เวลาตลอดทั้งวัน ไปกับการตรวจทุกส่วนของร่างกายที่โรงพยาบาล

เขาไม่รู้ว่ามีผ้ายันต์มากมายแค่ไหนที่หมอนำมาติดบนร่างกายของเขา จากนั้น หมอก็ใส่เขาเข้าไปในเครื่องตรวจ 17-18 เครื่องด้วยกัน ต่อจากนั้น ก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาจิตใจที่มีชื่อเสียงสี่คน ที่พยายามที่จะสะกดจิตเขาและล้มเหลวกลับไป

ประสาทของหลี่เย้าได้ทะลวงเข้าไปอยู่ในระดับใหม่ จากการที่ได้รับจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งของโอเย่หมิงมา จิตใจของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญทางจิตทั้งสี่ใช้เวลาตลอดเกือบครึ่งวัน และไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า ทำไมพวกเขาถึงเข้าไปในจิตใจของหลี่เย้าไม่ได้ พวกเขาจึงจบลงด้วยข้อสรุปที่ว่า...เมื่อรากวิญญาณของเขาถูกทำลายไปแล้ว หลี่เย้าก็ได้สูญเสียคลื่นสมองที่คนธรรมดาควรจะมีไปด้วย

โดยสรุปแล้ว พวกเขาได้พยายามครั้งแล้วครั้งเล่าไปจนกระทั่งบ่าย 3 โมง ในรายการผลการวินิจฉัยของทางโรงพยาบาลเมืองฝูเกอก็คือ...ร่างกายของหลี่เย้าไม่มีอะไรผิดปกติ อวัยวะภายในของเขาอ่อนแอลง เป็นเพราะเขามีอาการโคม่ามานานถึงหนึ่งเดือน เขาอาจจะต้องใช้เวลาครึ่งปี เพื่อทำให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้

หลี่เย้านั้นรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงดี มันเป็นเพราะ เขาใช้พลังในการดูดเอาความทรงจำของโอเย่หมิงมากจนเกินไป

ตราบใดที่เขาได้กินเนื้อเข้าไปเป็นจำนวนมาก เขาก็จะสามารถกลับมาเป็นปกติได้ ภายในเวลา 3-5 วัน

ต้องใช้เวลาหนึ่งปีเพื่อฟื้นตัว มันหมายความว่าอะไร? นี่มันเรื่องตลกชัดๆ

ไม่นาน แพทย์ในชุดกาวน์สีขาวก็ได้เดินมาที่เตียงของเขา ด้วยสีหน้าย่ำแย่ แพทย์ได้อธิบายออกมา ด้วยสีหน้าที่ราวคนกับท้องผูกมาหลายปี การโจมตีทางจิตของลิงตายักษ์ ทำให้รากวิญญาณของเขาถูกทำลาย อัตราการตื่นของรากวิญญาณของเขาลดลงจนถึงจุดที่ต่ำมาก และเหลือเพียงแค่ 7% เท่านั้น แพทย์ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า เขาคงจะต้องบอกลาการบ่มเพาะไปตลอดทั้งชีวิตของเขา

ถึงแม้ว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้ แต่แพทย์ก็ยังคงหวังว่า หวังเย้าจะใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างกล้าหาญ ถึงแม้ร่างกายของเขาจะเสียหาย เขาก็ควรที่จะเข้มแข็ง อย่าหมดหวัง และเดินหน้าต่อไป

หลี่เย้าอ่านผลการวินิจฉัยอย่างละเอียด เขาเปรียบเทียบรายงานแต่ละแผ่นและกราฟระบบประสาทของเขา หลี่เย้าใช้ความสามารถในการคำนวณของเขาในการคำนวณจนถึงขีดจำกัด ความคิดของเขาราวกับกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านไปด้วยความเร็วแสง

ไม่นาน ดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย เขาคิดถึงความเป็นไปได้ขึ้นมา

“ฉันพอจะเข้าใจว่าทำไมอยู่ๆรากวิญญาณของฉันถึงได้รับความเสียหาย และทำไมอัตราการตื่นของฉันถึงได้ลดลงไปแล้ว!”

“เมื่ออยู่ๆ ร่างของคนคนหนึ่งที่มีความสูงอยู่ที่ 180 เซนติเมตรและหนัก 50 กิโลกรัม เกิดการขยายตัวกลายเป็นมีความสูงอยู่ที่ 250 เซนติเมตรและหนัก 150 กิโลกรัม ภายในระยะเวลาแค่หนึ่งวัน กล้ามเนื้อของเขาก็จะระเบิดออกจนถึงจุดขีดสุด และเขาก็จะกลายเป็นคนที่มีร่างกายใหญ่โต...ทั้งผิวหนัง, กล้ามเนื้อ, เส้นเลือด, และกระดูกก็จะไม่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเขาได้ทัน พวกมันก็จะฉีกออกครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งพวกมันสามารถตามการเจริญเติบโตของร่างกายของเขาได้ทัน!”

“ในการฉีกขาดทุกๆครั้ง เขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น!”

“และในตอนที่ดูดกลืนความทรงจำของโอเย่หมิงเข้าไป จิตวิญญาณของฉันก็เติบโตขึ้นด้วยความเร็วที่บ้าคลั่ง จะเป็นไปได้ไหมว่า มันอาจจะคล้ายกับชายร่างผอมที่มีน้ำหนักตัวที่ 45 กิโลกรัมกลายเป็นชายร่างใหญ่ที่มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 135 กิโลกรัมแทน?”

“จิตวิญญาณแต่เดิมของฉัน เป็นเหมือนกับกิ้งก่าตัวเล็กที่กลายร่างเป็นไดโนเสาร์ทีเร็กซ์ในยุคดึกดำบรรพ์!”

“จิตวิญญาณของฉันแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ต่อมไพเนียลจะเติบโตได้ทัน มันจึงต้องฉีกตัวออกครั้งแล้วครั้งเล่า!”

“และเมื่อกิ้งก่าขนาดเล็กกลายเป็นทีเร็กซ์ กล้ามเนื้อและผิวหนังของมันก็จะต้องฉีกออกมาซ้ำๆ มันอาจจะดูเหมือนนองไปด้วยเลือด ก่อนที่มันจะได้กินเนื้อของเหยื่อจำนวนมาก ร่างกายของมันก็จะอ่อนแอ เมื่อมองในแวบแรก มันดูเหมือนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก! และกำลังจะตาย!”

“แต่เมื่อใดที่มันหาเหยื่อได้มากพอ...”

แววตาของหลี่เย้าเปล่งประกายออกมาอย่างชั่วร้าย มุมปากของเขายกขึ้นเป็นภาพที่โหดร้ายอยู่เลือนราง

“ดังนั้น ทุกคนต่างก็เชื่อว่า ฉันได้รับบาดเจ็บสาหัสและอ่อนแออย่างมาก และมองว่าฉันเป็นขยะ!”

“แต่กลับไม่มีใครรู้เลยว่า ฉันไม่ได้อ่อนแอ ความจริงแล้วฉัน...แข็งแกร่งจนร่างกายของฉันไม่สามารถรองรับได้ต่างหาก!”

รอยยิ้มที่เจิดจ้าของหลี่เย้า กลับกลายเป็นรอยยิ้มที่ดูโง่เง่าในสายตาของแพทย์

หมอกู้นั้นเข้าใจว่า หลี่เย้ากำลังตกใจกับข่าวที่ได้รับ จึงทำให้เขาไม่สามารถทำใจยอมรับมันในเวลานี้...ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติมาก อัจฉริยะที่ไหน จะสามารถทนรับความจริงที่อยู่ๆเขาก็กลายเป็นคนทุพพลภาพได้?

นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถใช้คำพูดเพียงแค่ไม่กี่คำมาปลอบใจกันได้ เขาก็ได้แต่หวังว่า เวลาจะช่วยเยียวยาแผลใจให้กับดาวปีศาจดวงนี้ได้

หมอกู้ถอนหายใจออกม เขาตบไหลของหลี่เย้าและเดินออกไปจากห้อง

ครู่ต่อมา เสียงการก้าวเดินที่มั่นคงและแน่วแน่ดังขึ้นที่ด้านนอก มันเป็นเสียงที่คล้ายกับค้อนเหล็กกำลังทุบลงไปบนพื้น

“ตุบ! ตุบ! ตุบ! ตุบ!”

ชายในชุดทหารสีดำได้ก้าวขายาวๆเข้ามาในห้อง

“สมาชิกของทหารปลดประจำการีมาที่นี่ทำไมกัน?” หลี่เย้ารู้สึกงุนงง

เขาคือนายทหารวัยกลางคนในชุดเครื่องแบบสีดำ ซึ่งมียศติดอยู่บนไหล่ทั้งสองข้างของเขา มันคือเครื่องแบบมาตรฐานของทหารปลดประจำการ

มีร่องรอยของบาดแผลอยู่ทั่วร่างการของชายคนนี้ แขนขวาและขาซ้ายของเขาได้ใส่แขนขาเทียมเอาไว้ แม้แต่ดวงตาข้างซ้ายของเขาก็ยังทำขึ้นมาจากหยก มีอักขระนับร้อยถูกสลักเอาไว้บนลูกตาของเขาก่อเกิดเป็นวงแหวนอักขระ พร้อมกับแสงสีแดงอ่อนๆส่องแสงออกมา มันเป็นภาพที่ดูน่าหวาดกลัว

“นักเรียนหลี่เย้า ฉันมาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของสมาคมทหารผ่านศึกทุพพลภาพของสหพันธรัฐ ในการมอบค่าชดเชยจากทางสหพันธรัฐให้กับเธอ!”

นายทหารประกบขาเข้าหากันจนเกิดเสียงดัง “ปัง” เขาได้แสดงท่าวันทยหัตถ์ต่อหลี่เย้า

“ค่าชดเชยเหรอ?”

หลี่เย้าตกตะลึง แต่ไม่นานเขาก็เข้าใจได้

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงและรากวิญญาณของเขาก็ไม่ได้เสียหาย คนอื่นๆก็คงจะไม่เชื่อเขาอยู่ดี

กองทัพของสหพันธรัฐคือผู้ที่รับผิดชอบการแข่งขันท้าทายขีดจำกัด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้ผู้เข้าแข่งขันหลายคนได้รับผลกระทบ แน่นอนว่า ทางกองทัพก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าชดเชยให้กับทุกคน

และอุบัติเหตุในครั้งนี้ เกิดจากการที่ผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งแหกกฎ โดยการนำสารเสพติดเข้ามาในการแข่งขัน ทางผู้จัดงานก็ไม่สามารถตรวจพบสารเสพติดได้ทันเวลา ซึ่งถือได้ว่า ทางกองทัพนั้นมีส่วนรับผิดชอบจากการละเลยการตรวจสอบในครั้งนี้ด้วย

ดังนั้น เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบของพวกเขา พวกเขาจึงต้องจ่ายค่าชดเชยจำนวนหนึ่งให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจจะเป็นเงินจำนวนมหาศาล!

หลังจากที่นายทหารได้แนะนำตัวเรียบร้อยแล้ว หลี่เย้าก็พบว่า เขานั้นพูดถูกต้อง อุบัติเหตุบนเกาะมังกรปีศาจอยู่ภายใต้การดูแลของทางกองทัพ

นอกจากการหาผู้กระทำผิดแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการจ่ายค่าชดเชยให้กับนักเรียนที่ได้รับความเสียหาย

นักเรียนที่เสียชีวิตไปแล้วสามารถจัดการเรื่องราวได้ค่อนข้างง่าย การช่วยเหลือทางการเงินและค่าชดเชย จะถูกจ่ายให้ในจำนวนที่เท่ากับทหารของกองทัพที่เสียชีวิตในสงคราม

แต่สำหรับหลี่เย้าที่เป็นเหยื่อแล้ว มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างวุ่นวายอยู่บ้าง

ซึ่งเป็นเพราะว่า อาการบาดเจ็บของเขาไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นหนักหรือเบา

หากเถียงว่าบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ก็สามารถพูดได้ว่า ผมแม้แต่ขนเส้นเดียวบนตัวเขาก็ไม่หายไปไหน หากเขาใช้เวลาฟื้นตัวหนึ่งปี เขาก็จะสามารถกลับมาเป็นปกติได้ และแข็งแรงเหมือนก่อนหน้านี้

แต่หากจะเถียงว่าบาดเจ็บหนัก ก็สามารถพูดได้ว่า เขาคือหนึ่งในอัจฉริยะ ที่วันหนึ่งจะกลายมาเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จึงทำให้เขาหมดหวังที่จะบ่มเพาะต่อไป

สำหรับคนที่หลงใหลในการฝึกตนแล้ว การได้รับบาดเจ็บแบบนี้ มันเลวร้ายยิ่งกว่าการตายซะด้วยซ้ำ

ความคิดทั้งสองอย่างนี้ ถูกนำมาถกเถียงกันไม่จบไม่สิ้น มีข่าวลือว่า ในตอนท้าย นายทหารระดับสูงได้ดูวิดีโอการต่อสู้ของหลี่เย้าบนเกาะมังกรปีศาจ

หรือบางที พวกเขาอาจจะซาบซึ้งใจกับการกระทำของหลี่เย้า และตัดสินใจที่จะมอบค่าชดเชยให้กับเขาด้วย คลาส 1 : ทหารทุพพลภาพของสหพันธรัฐ

“คลาส 1 : ทหารทุพพลภาพของสหพันธรัฐ!”

ถึงแม้ว่าหลี่เย้าจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่เขาก็ยังตกตะลึงกับสิ่งที่เขาได้รับอยู่ดี

สหพันธรัฐแห่งดวงดาวถูกสัตว์อสูรบุกรุกตลอดทั้งปี เปลวไฟสงครามเผาไหม้มานานกว่า 500 ปี และไม่เคยดับลงเลย สถานะของทหารจึงอยู่สูงมาก

มันเป็นเพราะ ทหารของสหพันธรัฐจำนวนมากที่ต่อสู้อยู่แนวหน้าแบบยอมถวายหัว, นองเลือด, ต้านคลื่นสัตว์อสูรที่ไม่มีวันจบสิ้น เพื่อให้ประชาชนคนธรรมดาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข

ดังนั้น คนทั่วไปจึงให้การเคารพ, ยำเกรง, และเลื่อมใสต่อทหารทุกนาย!

และในหมู่ทหารแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดถึงทหารที่เสียสละชีวิต แม้แต่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องพิการทุพพลภาพจากสงคราม ต่างก็ได้รับความเคารพจากทุกคนในสังคม!

ทหารทุพพลภาพถูกแบ่งออกเป็น 4 คลาส

“คลาส 1: ทหารทุพพลภาพของสหพันธรัฐ” เป็นรองแค่ “คลาสทุพพลภาพพิเศษ” เท่านั้น สำหรับ “คลาส 1: ทหารทุพพลภาพของสหพันธรัฐ” ก็คือคนที่คล้ายกับชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าของหลี่เย้าในเวลานี้ ที่เสียทั้งขาและแขนของเขา รวมถึงลูกตาด้วย จึงจะถูกนับว่าเป็นผู้ที่ได้รับการชดเชยในคลาส 1ได้

หลังจากที่ปลดประจำการไปแล้ว ไม่เพียงแต่จะได้รับค่าชดเชยจำนวนมากในทุกปีเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้บริการการขนส่งสาธารณะทั้งหมด เช่น รถไฟคริสตัลใต้ดิน, รถไฟคริสตัลความเร็วสูง, ยานบินสาธารณะ, และอีกหลายๆอย่าง ได้ฟรีตลอดชีพอีกด้วย!

นอกจากนี้แล้ว ร้านอาหารส่วนใหญ่, ห้องอาหาร, โรงแรม, และร้านค้าก็จะมอบส่วนลดพิเศษให้กับทหารทุพพลภาพด้วย

เมื่อทางเจ้าของร้านอาหารพบว่า มีทหารทุพพลภาพคลาส 1 อยู่ในร้านของเขา เขาก็อาจจะไม่รับเงินแม้แต่เหรียญเดียวด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่มักจะมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด