บาทที่ 3
บาทที่ 3
นับจากวันนั้นมา ชิวเยว่ก็มาเยี่ยมพวกเขาบ่อยๆ และมาพักอยู่ด้วยครั้งละนานๆ นอกจากเธอจะได้เล่นสนุกแล้ว พลังเซียนของเธอก็ก้าวหน้าราวติดปีก
ชิวเยว่ยังได้เล่าเรื่องของวิชาเซียนให้หงเซียวและหญิงสาวได้ฟัง
วิชาเซียนนั้นแบ่งออกเป็นสามช่วงชั้นห้าวิถี สามช่วงชั้นก็คือ ชั้นต้น ชั้นกลาง และชั้นปลาย ห้าวิถีก็คือ กายวิถี พลังวิถี จิตวิถี รัศมีวิถี และเขตวิถี
ชั้นต้นก็คือการสร้างชีพจรเซียน เรียกว่าปฐมเซียน ชั้นกลางก็คือการฝึกไปตามวิถีทั้งห้า ซึ่งวิถีในขั้นกลางนั้นไม่จำเป็นต้องครบทุกวิถีก็ได้ เรียกรวมกันว่ามัชฌิมเซียน ชั้นปลายคือการรวมวิถีทั้งหมดที่ได้ฝึกให้เป็นหนึ่ง เรียกว่า ปัจฉิมเซียน
“สำหรับวิชาเซียนสำนักเจ็ดเมฆานั้นปกติจะมุ่งสู่รัศมีวิถีเป็นอันดับแรก แล้วท่านล่ะ พี่ชาย วิชาเซียนที่ท่านกำลังใช้งานอยู่นี้ มุ่งสู่วิถีไหนเป็นอันดับแรก” ชิวเยว่ถาม ขณะนี้เธออยู่ในชุดว่ายน้ำนอนจิบน้ำผลไม้อยู่ใต้ร่มกันแดดคันใหญ่ข้างหงเซียว โดยเด็กสาวที่เหลือต่างก็นอนหลับอยู่ใต้ร่มกันแดดกัน
หงเซียวกล่าวว่า “ข้าไม่รู้ถึงวิถีเซียนแต่ข้าได้ความรู้บางอย่างมาจากการฝึกปราณ ดังนั้นข้าจึงคิดวิถีเซียนของข้าขึ้นมา เรียกว่า วิถีเก้าภูษา ใจความสำคัญก็คือ ไม่ว่าวิถีเซียนจะเดินทางไปแนวไหน เก้าภูษานี้ก็จะสามารถฝึกปรือตามนั้นได้ ก็เหมือนกับเสื้อผ้าที่เราสามารถถอดเปลี่ยนได้ตลอดเวลา”
“...” ชิวเยว่งง ไม่รู้ว่าจะถามอะไรต่อไป
หงเซียวอธิบายต่อว่า “ในแต่ละระดับของการสร้างชีพจรเซียน ข้ากำหนดให้สามารถสร้างภูษาเซียนได้หนึ่งผืน ภูษาแต่ละผืนก็เหมือนชีพจรแต่ละชุด ข้าสามารถจะกำหนดให้ภูษาเซียนหรือชีพจรแต่ละชุดนี้ฝึกวิชาแนวทางไหนก็ได้ตามความต้องการ เข้าใจไหม”
“ซับซ้อนจัง นั่นหมายความว่าพี่ชายสามารถให้ภูษาผืนหนึ่งฝึกวิชาเซียนเจ็ดเมฆาได้ด้วยนะสิ” ชิวเยว่เริ่มเห็นความเป็นไปของวิชาเซียนนี้
“ใช่ แล้วก็จะยังมีภูษาเหลืออีกแปดผืนไปฝึกวิชาเซียนอื่นๆอีก” หงเซียวกล่าว
“สุดยอด ข้าอยากฝึกบ้าง ข้ายังอยู่ในระดับสูงสุดของปฐมเซียน ยังฝึกได้หรือไม่” ชิวเยว่กล่าว
“เจ้าใช้เวลาตั้งเกือบสิบปีก้าวจากระดับสามปฐมเซียนไปถึงระดับเก้าปฐมเซียนรึ ทำไมจึงช้าจัง” หงเซียวแปลกใจ
“ข้าก้าวสู่ระดับเก้าปฐมเซียนนานแล้ว แต่ว่าห้าวิถีนั้นข้าตีความมันยังไม่ออก ก็เลยติดอยู่แต่ที่ตรงนี้ และนานเข้าข้าก็เลยเบื่อนึกถึงพี่ชาย แล้วก็จึงมาที่นี่ไงล่ะ” ชิวเยว่กล่าว
“ข้าเข้าใจแล้ว แล้วเซียนคนอื่นๆล่ะ ติดอยู่ที่ระดับนี้กันบ้างหรือไม่” หงเซียวถามอีก
“คนที่จะก้าวข้ามเข้าสู่ชั้นกลางได้นั้นต้องมีพรสวรรค์เป็นเลิศ สามารถเข้าใจความล้ำลึกของวิถีทั้งห้าได้ อย่างน้อยหนึ่งวิถี” ชิวเยว่กล่าว “มีเพียงหนึ่งในร้อยคนที่จะผ่านไปสู่ชั้นกลางได้”
“ถ้าเช่นนั้นก็มาฝึกวิชานี้ได้ แต่ต้องใช้เวลาปีหนึ่งในการหลอมร่างเซียน อย่างไรก็ตามข้าจะลองหาวิธีลดความยุ่งยากลง” หงเซียวกล่าว “แต่เจ้าอาจจะต้องบอกกล่าวกับอาจารย์เจ้าก่อนนะ”
“อื้ม” ชิวเยว่รับคำ
ชิวเยว่หายไปอีกครั้งแต่คราวนี้นานหลายเดือนจนพวกเขาอดคิดไม่ได้ว่าอาจารย์ของเธอคงไม่ยอมและกักขังเธอไว้
“พี่ชาย” ย่างเข้าเดือนที่แปดของปีที่ห้าหลังจากที่พวกเขาออกมาจากไข่มุกแล้ว ชิวเยว่ที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนก็โผเข้ามากอดคอของหงเซียวที่กำลังยืนดูสาวๆเล่นบอลชายหาด
“ชิวเยว่” จินหลินและคนที่เหลือเลิกเล่นบอลชายหาด พากันวิ่งมากอดเด็กสาวไว้ แต่เพราะอีกฝ่ายกอดหงเซียวเหมือนกับโคอาล่าเกาะต้นไม้ จึงช่วยไม่ได้ที่พวกเธอจำเป็นต้องกอดหงเซียวไปด้วย จนพวกเขาเหมือนกับเป็นลูกบอลกลมๆ
หลังจากชุลมุนชั่วขณะ ชิวเยว่ก็กล่าวว่า “สำเร็จแล้วพี่ชาย อาจารย์ยอมให้ข้าฝึกวิชาของท่านแล้ว”
“เย้” สาวๆอีกสี่คนต่างพากันกระโดดโลดเต้น
จากนั้นพวกเขาต่างก็พากันเตรียมตัว หงเซียวซึ่งมีเวลานานกว่าแปดเดือนย่อมคิดหาวิธีขึ้นมาได้แล้ว และจะต้องใช้เวลาทั้งหมดหนึ่งเดือนกับอีกสองสัปดาห์
“ช่วงนี้ต้องฝากเรื่องของเกาะไว้กับเจ้าแล้ว” หงเซียวกล่าวกับจินหลิน
“ไม่ต้องห่วง พี่ชาย” จินหลินกล่าว
“ที่ข้ากังวลก็คือ สัตว์อสูรใต้ท้องทะเล เริ่มมาป้วนเปี้ยนใกล้กับเกาะ พวกเจ้าต้องระวังตัวกันไว้” หงเซียวกล่าว
“ข้าจะจำไว้” จินหลินรับรอง
“เช่นนั้นเรามาเริ่มกระบวนการกันเถอะ” หงเซียวกล่าว
หงเซียวนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ตำแหน่งเดิมดังปกติ เขาเริ่มโคจรเคล็ดวิชาหลอมร่างเซียนอีกครั้ง ผลักดันกระแสพลังสีฟ้าออกมาจากร่าง หมุนวนเวียนรอบกายและถูกดูดกลืนกลับเข้าไปในร่าง
และจากนั้นก็ดังเช่นกระบวนการปกติ กระแสพลังนั้นเริ่มผนึกกลายเป็นก้อนพลังขนาดยักษ์ที่ขังเขาไว้ข้างใน
“ข้าเริ่มแล้ว” ชิวเยว่กล่าวคาถาบ้าง เธอเห็นเขาหลับตาลงแล้ว หน้าของเธอแดงสดด้วยความอายขณะที่ปลดผ้าเช็ดตัวออกส่งให้สี่เด็กสาวที่อยู่ด้านข้าง แล้วร่ายคาถาจนถูกลูกบอลพลังสีฟ้าดึงดูดเธอเข้าไป เธอขดตัวลงเหมือนกับทารกในครรภ์ขณะที่ลอยไปคลอเคลียอยู่กับร่างของชายหนุ่ม
ผิวของบอลพลังสีฟ้าที่เรืองแสงนั้นเริ่มผนึกแข็งตัว กลายเป็นผิวไข่มุกสีขาวนวล หมุนเวียนวนรอบตัวอย่างช้าๆ
“พวกเราไปกันเถอะ” จินหลินกล่าวกับสาวรุ่นที่เหลือ “พี่ชายไม่อยู่ พวกเราไปดำน้ำดูสัตว์อสูรกัน ว่ามีวี่แววจะมาหรือไม่”
สามเด็กสาวพยักหน้า พวกเธอพุ่งปราดไปยังริมหาด วิ่งไถลไปบนผิวน้ำ แล้วกระโดดจมหายไปในทะเลเมื่อห่างจากชายฝั่งระยะหนึ่ง
ชายฝั่งทะเลนั้นจะราบเรียบเมื่ออยู่ใกล้กับฝั่ง แต่เมื่ออกมาห่างก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันหักลงไปใต้น้ำเหมือนกับเป็นหน้าผาใต้น้ำ พวกเธอพุ่งลัดเลาะไปตามหน้าผาลึกลงไปในทันที
สิบเมตร ยี่สิบเมตร ห้าสิบเมตร ร้อยเมตร ทุกระยะหน้าผาที่ผ่านไปล้วนเป็นเพียงปะการังและปลาสวยงาม มีปลาดุร้ายอยู่บ้าง แต่พวกเธอไม่เห็นเจตนาไม่เป็นมิตรจากพวกมัน จึงไม่ได้สนใจแต่อย่างไร
ที่หนึ่งร้อยยี่สิบเมตร พวกเธอก็ลงถึงพื้น พวกเธอก็วนเวียนไปโดยรอบทันที เพื่อหาร่องรอยว่ามีสัตว์อสูรอะไรป้วนเปี้ยนแถวนี้หรือไม่
“เฮ้อ ช่างซุกซนจริงๆ” หงเซียวที่อยู่ในไข่มุกอดส่ายหน้าไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในดักแด้ไข่มุก แต่ว่าเขาก็สามารถเห็นทุกสิ่งรอบเกาะได้ผ่านร่างจิตเทียม “ไม่น่าบอกเลย”
เขาส่งร่างจิตเทียมตัวที่คอยติดตามพวกจินหลินไปเสมอ ไปเกาะกับร่างของเธอและส่งข้อความผ่านเชือกปราณ “กลับมาได้แล้ว คอยระวังป้องกันเกาะก็พอ”
“พี่ชายยังจะแอบดูพวกเราอีก” จินหลินส่งเสียงผ่านเชือกปราณไปหาสามสาว ในเมื่อเธอไม่รู้วิธีจะส่งเสียงกลับไปให้หงเซียวอย่างไรในเมื่อร่างจิตเทียมนั้นมองไม่เห็น
“ถ้างั้นก็กลับกันเถอะ” เหมยเหมยชักชวน
ทุกคนตกลง และพากันพุ่งกลับขึ้นไปบนชายฝั่งอย่างรวดเร็ว
“ฮ่า พี่ชายนะพี่ชาย คอยแอบตามพวกเราอยู่เรื่อยทั้งที่อยู่ในไข่แล้วเชียว” จินหลินบ่นอุบ
ซิ่วจูและซีชี่พยักหน้าเห็นด้วย
“แต่ว่าในเมื่อพี่ชายติดตามพวกเรา นั่นก็หมายความว่าเขาเป็นห่วงเราไม่ใช่เหรอ” เหมยเหมยยิ้ม เธอรู้สึกอบอุ่นใจ
“เชอะ” จินหลินเบือนหน้าไปอีกทาง แต่จริงแล้วใบหน้าเธอก็ขึ้นสีชมพูเรื่อๆ “พี่ชายเป็นห่วงพวกเราจริงๆ” เธอคิดในใจ
ที่ทุกคนรวมถึงหงเซียวไม่รู้ก็คือ สัตว์อสูรกลุ่มหนึ่ง มีร่างเหมือนกับปลาดาวห้าแฉก แต่ว่าบนหลังของมันกลับเป็นเหมือนกับงูตัวหนึ่ง เคยมีผู้คนตั้งชื่อให้มันว่า อสูรงูดาวทะเล แต่นั่นเป็นเรื่องนานมาแล้ว ถูกดึงดูดจากการมาว่ายน้ำวนรอบเกาะของบรรดาเด็กสาว ทำให้การรุกรานขึ้นเกาะของพวกมันเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
อสูรงูดาวทะเลนั้นชอบกินเนื้อหอยมาก และพวกมันได้กลิ่นนี้จากร่างของหงเซียวและเด็กสาวยามเมื่อมาเล่นน้ำในทะเล ทำให้มันเคลื่อนตัวมาใกล้ชายฝั่งมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้พวกมันกำลังขยับเข้าสู่หน้าผาใต้น้ำอย่างช้าๆ