ตอนที่แล้วบทที่ 350 - จุดจบ (4) [04-04-2021]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 352 - งานแต่งของเทพเจ้า (จบ) [08-04-2021]

บทที่ 351 - จุดจบ (5) [06-04-2021]


บทที่ 351 - จุดจบ (5)

หลังจากคิดอยู่ซักพักเคียร่าก็หยักหน้าออกมา

"ปีศาจผู้หญิงใช่ไหม? คนที่มีพลังในการปฏิเสธพลังดันเจี้ยน"

"เธอบอกว่าผู้บัญชาการกองทัพปีศาจคนถัดไปที่ฉันจะได้สู้จะเป็นคนเหมือนเรสปิน่าในเวอร์ชั่นที่แกร่งขึ้น"

"ใช่แล้ว ฉันพูดแแบบนั้น แต่ว่าฉันพลาดไปเอง ฉันได้รู้เรื่องนี้หลังจากได้รับความทรงจำของผู้หญิงคนนี้ เธอคนคนผิดปกติในหมู่พวกผิดปกติ"

พลังของเชอร์ราฟิน่าพิเศษแม้กระทั่งในหมู่ของปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีอยู่ เดม่อนลอร์ดดูจะรับปากว่าจะให้ปีศาจแบบเธอเกิดขึ้นมามากขึ้น แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่มีปีศาจแบบเธอปรากฏขึ้นมาอีก แม้กระทั่งเดม่อนลอร์ดก็ยังถูกเชอร์ราฟิน่าปั่นหัว

แต่ว่าหลังจากปราบเรสปิน่าไป ได้มีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้นกับฉันเสมอ

"ก่อนที่ฉันจะเอาชนะเรสปิน่า ฉันได้เจอกับเชอร์ราฟิน่าเป็นครั้งแรก ในตอนนั้นเธอได้บอกฉันอยู่สองเรื่อง หนึ่งคืออันตรายของปีศาจ สองคือพาเคียร่า คีเน็กซ์มาหาเธอ ... นี่คือเวทย์ที่บังคับให้ใครบางคนทำตาม... อย่างการชักจูงจิตใจใช่ไหม?"

"ใช่แล้ว เพราะคุณฮีโร่มีวิญญาณสัมบูรณ์อยู่ในตอนนั้น ทำให้การจะชักจูงจิตใจเป็นไปไม่ได้เว้นแต่ว่าเธอจะได้เจอกับคุณฮีโร่ตรงๆ"

"ฉันเข้าใจแล้ว งั้นเธอก็ทำแบบเดียวกันกับโรเล็ตต้า"

ฉันได้นึกไปถึงตอนที่โรเล็ตต้าแสดงท่าทางแปลกๆโดยการจู่ๆก็พาฉันไปเจอเจ้าของดันเจี้ยน

นี่คือครั้งเดียวที่เชอร์ราฟิน่าได้เจอกับฉันตรงๆ ในตอนนั้นฉันไม่คิดว่ามันแปลกอะไร แต่ตอนนี้พอมาคิดดูแล้วมันผิดปกติมากๆ

หากว่าเธออยากจะบอกอะไรกับฉัน เธอก็บอกฉันได้เลยผ่านระบบข้อความดันเจี้ยน หากเธออยากคงเอกลักษ์ข้อความอัตโนมัติไว้ เธอก็แค่ส่งข้อความาให้โรเล็ตต้าก็ได้

นอกไปจากนี้หากในท้ายที่สุดเชอร์ราฟิน่าอยากจะได้พลังของฉัน การไม่แสดงตัวต่อหน้าฉันจนกว่าจะถึงเวลามันจะดีกวามาก เพราะการที่ฉันได้เจอเธอก่อนทำให้ฉันสามารถจะรับมือกับมานาเธอได้ง่ายขึ้น

ไม่มีทางอยู่แล้วที่เชอร์ราฟิน่าจะไม่รู้เรื่องนี้ มันก็แค่ว่าเธอต้องเจอหน้าฉันเพื่อใช้การชักจูงจิดใจกับฉัน

วิธีการก็ง่ายาก เธอได้ใช้การชักจูงจิตใจกับโรเล็ตต้าเพื่อพาฉันมา หลังจากเจอฉันแล้ว เธอก็ใช้การชักจูงจิตใจกับฉันสำเร็จ หากว่าฉันเชี่ยวชาญในวิญญาณสัมบูรณ์แล้วเธอก็คงจะทำไม่ได้ แต่ว่าในตอนนั้นฉันยังปรับตัวเข้ากับวิญญาณสัมบูรณ์ไม่ได้โดยสมบูรณ์ เพราะแบบนั้นฉันเลยตกหลุมพลางการชักจูงจิตใจจากเธอ

หลังจากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ชัดเจนมาก ถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากเจอเคียร่าอีก แต่ฉันก็ตัดสินใจดึงตัวเธอมาโดยไม่คิดอะไรมาก ที่สำคัญที่สุดเลยคือฉันได้ฆ่าปีศาจใดๆก็ตามที่เข้ามาอย่างไร้ปราณีและโหดเหี้ยม

แต่ก็แน่นอนว่าฉันไม่เคยลังเลที่จะฆ่าศัตรูอยู่แล้ว แต่ในตอนนั้นมันแทบจะเหมือนกับว่าฉันได้ถูกบดบังด้วยความคิดที่ว่าต้องฆ่าเรสปิน่าเท่านั้น ฉันได้สังหารหมู่ปีศาจโดยไม่คิดถึงความปลอดภัยของตัวเองเลย

"แต่ทำไมกันล่ะ? ในเมื่อเธอดูดซับเชอร์ราฟิน่าไปแล้วเธอก็น่าจะรู้สินะ ทำไมเชอร์ราฟิน่าถึงได้ทำขนาดนั้นแค่เพื่อปลูกฝังการชักจูงจิตใจกับฉันแค่นั้นล่ะ?"

"คนพวกนั้นมีความสำคัญต่อเธอ เธอมั่นใจว่าสามารถจะดูดซับฉันเข้าไปได้และกลัวในพลังของปีศาจผู้หญิงนั่น นอกจากนี้... ผูู้หญิงคนนั้น เรสปินน่า รู้ความจริงส่วนหนึ่ง เธอรู้เรื่องการเชื่อมต่อระหว่างเดม่อนลอร์ดกับเชอร์ราฟิน่า แต่ถึงแบบนั้นในท้ายที่สุดเธอก็ต้องตายไปภายใต้เงื้อมมือของคุณฮีโร่โดยที่ไม่อาจจะทำอะไรได้"

เคียร่าไม่รู้อย่างที่ฉันคิดเลย

น่าจะมีเรื่องอื่นอีกที่เชอร์ราฟิน่าเป็นกังวล ฉันรู้แล้วว่าเธอเป็นคนที่ให้ข้มูลกับเดม่อนลอร์ด เธอคือผู้ปกครองที่อยู่เบื้องหลังทวีปมอนสเตอร์ เคียร่าได้บอกว่าเรสปิน่าตายไปโดยไม่อาจจะทำอะไรได้ แต่จริงๆแล้วมันต่างออกไป

ใช่แล้ว นั่นคือตอนที่ฉันมั่นใจว่าเชอร์ราฟิน่าคือศัตรูของฉัน ในตอนที่เรสปิน่าตกอยู่ใต้ผลของการล่อลวงของลิลิธและมาเป็นลูกน้องของฉัน การชักจูงจิตใจที่เชอร์ราฟิน่าทิ้งไว้ในตัวฉันก็ได้หายไป

'เจ้าของดันเจี้ยนได้เจอกับเดม่อนลอร์ด'

นั่นคือสิ่งที่เรสปิน่าพูดออกมาในตอนที่เธอกำลังตาย

"แต่ว่านะคุณฮีโร่ ทำไมถึงมาถามฉันตอนนี้ล่ะ"

เคียร่าไม่ได้รู้ถึงสิ่งที่เรสปิน่าบอกกับฉัน นี่มีอยู่หนึ่งเหตุผลที่เป็นเช่นนี้

พลังของเธอไม่ได้บริสุทธิ์

"ฉันอยากจะทำใจน่ะ"

"ทำใจงั้นหรอ?"

ฉันได้หยักหน้าและยื่นมือขึ้นไปบนฟ้า มานากว่าครึ่งในตัวฉันได้ถูกบีบอัดภายในมือฉันทันที นี่คือเทคนิคที่มีแต่ฉันเท่านั้นที่ทำได้

เคียร่าได้รีบใช้มานาของเธอเข้ามาแทรกแซงในทันที แต่ว่าฉันได้ใช้พลังยึดครองออกมาจนถึงขีดสุดเพื่อขโมยพลังบางส่วนมาจากเธอ เหตุผลที่ฉันไม่ยอมใช้ยึดครองมาจนถึงตอนนี้ก็เพื่อจังหวะนี้นี่แหละ ไม่สำคัญว่ามานาเชอร์ราฟิน่าจะเป็นยังไง ฉันก็จะไม่พ่ายแพ้เธอง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวฉันที่มีไพ่ตายอยู่สองสามใบเก็บไว้อยู่

เคียร่าดูจะประหลาดใจมาก

"คุณฮีโร่ นี่มัน..."

"นี่คือเวทย์ที่มีชื่อว่าท่องมิติ"

เวทย์ที่ฉันได้เรียนรู้มาในกระท่อมของโรเล็ตต้า เวทย์นี้จะทำให้ฉันท่องไปมิติเพื่อไปสู่โลกอื่นได้โดยไม่ต้องให้ดันเจี้ยนช่วยเหนือ เคียร่าที่มองมาอย่างตกตะลึงได้ส่ายหัวออกมา

"คุณฮีโร่ อย่าบอกนะว่า... คุณกำลังจะออกไปจากที่นี่? ฉันขอโทษนะ แต่ว่าฉันจะปล่อยให้มันเกิดขึนไม่ได้"

"ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน หากว่าฉันใช้พลังของเฮอร์มีสมันก็คงจะเป็นไปได้ แต่ว่าฉันได้ตัดสินใจอีกอย่างน่ะ"

ฉันได้ลังเลอยู่ระหว่างสองทางเลือก หนึ่งคือหนีไปก่อนและหาโอกาสลอบโจมตีเธอทีหลัง อีกทางเลือกหนึ่งคือจบทุกอย่างที่นี่ในตอนนี้

หลังจากวิเคราะห์ความสามารเธอแล้ว... ไม่สิแค่จากสิ่งที่เคียร่าพูดออกมา หากฉันหนีไป เคียร่าก็จะกลับไปที่โลก นั่นก็มีแต่จะทำให้เธอแกร่งขึ้น

หากฉันสู้กับเคียร่าที่นี่มันก็จะไม่ต่างไปจากการสู้กับเชอร์ราฟิน่าเลย และฉันก็จะสามารถใช้ทุกๆอย่างที่เตรียมการไว้สู้กับเชอร์ราฟิน่ากับเคียร่าได้ ในเมื่อเคียร่าใช้พลังนัยน์ตาปีศาจเธอไม่ได้ ผลลัพธ์ก็ได้ถูกตัดสินใจแล้ว

แม้ว่าประตูมิติจะถูกเปิดขึ้นมา ฉันก็แค่โยนเหรียญๆนึ่งเข้าไปเท่านั้น เคียร่าได้ปล่อยมานาของเธอออกมาปกคลุมประตูมิติและปิดมันลงไปอย่างง่ายดายทันที

"คุณฮีโร่... เหรียญนั่นคืออะไร?"

เคียร่าได้ถามออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ ฉันได้ตอบเธอกลับไป

"เป็นสัญญาณน่ะ"

"สัญญาณ?"

เมื่อเคียร่าเอียงหัวออกมาด้วยท่าทางน่ารัก ฉันก็อยากจะเข้าไปเขกหัวเธอสักที แต่สำหรับในตอนนี้ฉันได้หยักหน้าตอบกลับไปอย่างสงบ

"เธอจำตอนที่ฉันได้จบชีวิตเรสปิน่าได้ไหม?"

"แน่นอนสิ! ฉันได้ดูการต่อสู้ทั้งหมดของคุณฮีโร่ด้วยตาตัวเอง! อ๊า ไม่สำคัญหรอกว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง คุณฮีโร่ช่างน่าดึงดูดและสง่างาม! ในตอนนี้ปีศาจผู้หญิงได้ถูกคุณฮีโร่ใช้เพลิงแห่งความโกลาหลเผาเธอจนตาย!"

"ใช่แล้ว และเธอก็รู้ว่าเพลิงแห่งความโกลาหลคืออะไรใช่ไหม?"

"มันคือเพลิงที่จะไม่ดับจนกว่าเป้าหมายจะตาย!"

เคียร่าได้ตาเป็นประกายออกมาราวกับเธอลืมเรื่องเกี่ยวกับประตูมิติที่เพิ่งเปิดขึ้นมาไปแล้ว

เด็กนี่อันตรายจริงๆเลย การมีมานาที่มหาศาลกับความสามารถในการเห็นประวัติศาสตร์กว่า 4.6 ล้านปีเป็นอีกเรื่อง แต่ว่าบุคลิกของเธอบิดเบี้ยวไปแล้ว

"เมื่อก่อนคุณฮีโร่ชอบจะใช้พลังนี้! อ๊า ฉันยังจำได้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นของฉันในตอนที่เห็นคุณฮีโร่ใช้พลังนั่น! ความเสียใจเดียวที่ฉันมีคือคฉันจริงๆไม่ได้อยู่ที่นั่น"

"ฉันจะบอกความจริงให้ฟังนะ มันมีสองวิธีที่จะดับเพลิงนี่ เธอรู้ไหม?"

"ใช่แล้ว! อย่างแรกคือมันจะดับลงเมื่อเป้าหมายตาย"

"แล้ววิธีที่สองล่ะ?"

มิติได้เกิดความผันผวนขึ้นและประตูมิติได้เปิดขึ้นมา ฉันไม่ได้เป็นคนเปิดประตูมิตินี้ มันถูกเปิดโดยคนๆหนึ่งที่ได้รับสัญญาณจากฉัน

เคียหน้าได้หน้าซีดไปในทันที

"...คุณฮีโร่?"

ฉันได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

"เป็นฉันที่ดับมันลงด้วยตัวเอง..."

หญิงสาวที่มีร่างกายบอบบางได้เดินผ่านประตูมิติเข้ามา หญิงสาวผมสีม่วงและผิวสีหน้าเงินอ่อนซึ่งตัดกันกับนัยน์ตาสีขาวที่ขนลุก เธอมีความงดงามที่หาได้ยาก

"ก่อนที่เป้าหมายจะตาย"

ปีศาจ

"ฉันดีใจมากเลยที่ถึงเวลาของฉันแล้วนายท่าน"

"ใช่แล้วล่ะเรสปิน่า ฉันดีใจที่ได้เธออีกนะ"

"ฉันก็เช่นกันนายท่าน!"

"ดะ ได้ยังไงกัน...!?"

เมื่อได้เห็นสีหน้าตกตะลึงของเคียร่าฉันก็ได้อธิบายออกมาอย่างใจดี

"ฉันแกล้งหลอกว่าเรสปิน่าตายไปแล้ว เพื่อไม่ให้เชอร์ราฟิน่ารู้ตัวไงล่ะ"

"ได้ยังไงกัน...!? ไม่สิ ผู้หญิงคนนี้ไปอยู่ที่ไหนมา!?"

"อีเดียส"

ฉันได้ตอบกลับไปสั้นๆ

"ฉันมีความรู้สึกว่าเชอร์ราฟิน่าอยู่ใกล้ๆกับฉันและเรสปิน่าก็ได้มาถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกัน ฉันได้ปล่อยเธอไว้ในโลกที่ต่างออกไปเพราะงั้นเธอจึงได้ใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องซ่อนตัว มันดูเหมือนว่าเพราะแบบนั้นฉันก็เลยหลอกเธอไปด้วย"

"อีเดียส... ศัตรูแห่งโลก!?"

"ใช่แล้ว เธอก็ยังเป็นผู้พิทักษ์ที่นั่นเพื่อเตรียมการสำหรับการเดินทางไปอีเดียวของฉันด้วย เธอคิดว่าฉันจะไปในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยไร้ซึ่งเครือค่ายความปลอดภัยงั้นหรอ? เรสปิน่าคือผู้พิทักษ์ของฉัน"

การเชี่ยวชาญวงจรเพรูต้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของฉัน มีเพียงแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่หวังพึ่งโชคให้มาช่วยชีวิต ฉันได้วางแผนเอาชีวิตรอดมาอย่างรอบคอบและนั่นก็คือการนำเรสปิน่าไปด้วย ด้วยพลังของเรสปิน่าที่สามารถจะปฏิเสธในพลังที่ไม่บริสุทธิทั้งหมดได้ทำให้ฉันมั่นใจว่าฉันจะมีชีวิตรอดไม่ว่าจะเจอกับสถานการณ์แบบไหน

แต่แล้วสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นในตอนนั้นทำให้ฉันไม่ต้องใช้เรสปิน่าออกมา แต่ว่าฉันก็ได้ทำตามเป้าหมายที่สองของฉันในการไปอีเดียสด้วย ในเทือกเขาเพรูต้า สถานที่ที่เต็มไปด้วยมานาของเพรูต้า ไม่มีที่ไหนจะดีกว่ากว่าที่แห่งนี้ที่จะใช้ซ่อนเธอจากสายตาเชอร์ราฟิน่าและพักฟื้นไปในเวลาเดียวกันแล้ว

หากไม่ใช่เพราะแบบนี้ฉันก็คงทำให้มานาของเพรูต้าทั้งหมดในทวีปกลายมาเป็นของฉันไปแล้ว ทำไมฉันต้องทิ้งมานาที่มีค่าแบบนี้ไว้ข้างหลังด้วยล่ะ?

"เธอท่องมิติ.. สำเร็จได้ยังไงกัน?"

"การจะใช้ท่องมิติมีสองอย่างที่จำเป็นต้องทำ อย่างแรกคือเวทย์ที่ร่าย สองคือมานาที่ตองใช้"

ฉันได้ให้สิ่งที่จำเป็นทั้งหมดกับพอลไปแล้ว

ฉันไม่ได้แค่ให้พอลเอาพลังแห่งโลกของเขากลับไปที่ทวีปอีเดียสเท่านั้น แต่ฉันยังให้ความรู้เวทย์ที่ทำให้เชอร์ราฟิน่าสามารถหาทางมาร่วมมือกับฉันและมอบมานาที่เธอต้องใช้ในการท่องมิติไปด้วย

เหรียญก่อนหน้านี้ก็คือสัญญาณที่ฉันส่งให้เธอ และเธอก็มาหาฉันได้สำเร็จ

"แต่ได้ยังไงกัน... เชอร์ราฟิน่าน่าจะจับตามองคนที่มีชื่อว่าพอลไว้นี่!"

"ฉันก็แค่ขอให้พอลไปทำเรื่องหนึ่ง ไปที่เทือกเขาเพรูต้าและสร้างสุสานให้กับเพรูต้าเท่านั้น"

ฉันไม่ได้โง่ ทำไมฉันต้องอธิบายทุกอย่างให้พอลรู้ด้วย? หน้าที่ของเขาได้เสร็จสิ้นตั้งแต่ที่เขาไปเทือกเขาเพรูต้าที่ที่เรสปิน่าอยู่แล้ว ส่วนที่เหลือเรสปิน่าจะจัดการเอาเอง

"เพราะแบบนี้เชอร์ราฟิน่าก็เลยไม่รู้"

"หุหุ... แต่ว่าปีศาจแค่ตนเดียวไม่ได้ช่วยเปลื่ยนอะไรหรอกนะคุณฮีโร่"

"เธอพูดผิดแล้ว หากว่าฉันไม่มั่นใจ ฉันก็คงพาทุกคนหนีไปแล้ว"

"คุณจะใช้ปีศาจนั่นทำอะไรได้กันคุณฮีโร่ อย่าได้ประเมินพลังฉันต่ำไป ฉันได้กลืนกินพลังเชอร์ราฟิน่าในสภาพที่ไร้พลัง มันไม่สำคัญว่าฉันจะรักคุณฮีโร่มากแค่ไหน แต่หากคุณดูถูกฉันเกินไปฉันจะโกรธแล้วนะ"

"ไม่หรอกเคียร่า หากว่าพลังนั่นเป็นของเธอ ฉันก็คงจะไม่สบายใจแบบนี้ แต่ว่า..."

ฉันได้หันกลับมาส่ายหัวพูดขึ้น

"มันไม่ใช่พลังของเธอ"

หากพลังที่อยู่กับเคียร่าเป็นพลังบริสุทธิ์ เธอก็จะรู้ทุกๆอย่างเกี่ยวกับเรสปินา หากเธอรู้การมาของเรสปิน่าก็จะไม่มีความหมายใดๆ

เธอจะทำทุกอย่างนับตั้งแต่แรกเพื่อไม่ให้เรสปิน่าข้ามไปทวีปอีเดียสแล้ว และเธอก็จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่าเรสปิน่า การที่เธอทำล้มเหลวหรือไม่ทำมันนั่นหมายความว่าพลังอำนาจของเรสปิน่าได้ปฏิเสธในพลังของเคียร่า

เรสปิน่าได้ปฏิเสธต่อพลังที่ไม่บริสุทธิ์ทั้งหมด พลังของเธอได้ปฏิเสธต่อเคียร่า

"ถ้างั้นพลังพวกนี้มันคืออะไร!?"

เคียร่าได้ตะโกนออกมา เรสปิน่าได้เริ่มทำหน้าที่ของเธอแล้ว ฉันได้ส่งมานาที่เหลือของฉันไปให้เรสปิน่า เธอได้ใช้มานาของฉันแยกเคียร่าจากพลังทั้งหมดของเธอ นี่รวมไปถึงพลังของเชอร์ราฟิน่า ระดับพลังที่เธอมีอยู่ และพลังแห่งโลก

เคียร่าได้พยายามจะดึงพลังมานาออกมา แต่แล้วก็ล้มเลว ความพยายามที่จะต่อต้านของเธอได้กลายเป็นเรื่องน่าขำขัน

เมื่อพลังเหล่านั้นได้ถูกดึงมาที่ฉัน ฉันก็มั่นใจแล้ว อืมม เมื่อคิดจากว่ามีแค่พลังของเชอร์ราฟิน่าเท่านั้นที่กำลังถูกดูดเข้ามา ดูเหมือนพลังของตัวเคียร่าเองจะไม่ใช่ของฉันจริงๆ

เพราะแบบนี้จึงมีแค่พลังเดียวเท่านั้นที่เข้าเงื่อนไข

ฉันได้เดินเข้าไปจับเคียร่าเอาไว้

ในที่สุดแล้วฉันก็จับเธอได้ เมื่อมานาที่ไร้ขีดสุดและพลังที่ลึกซึ้งได้หายไป มือเคียร่าก็ไม่ต่างไปจากมือของเด็กสาวอายุ 13 ปีธรรมดาๆคือหนึ่งเลย

"ชะ ช่วยฉันด้วย"

เธอได้พูดออกมา

"ช่วยฉันด้วย! คุณเป็นคนที่บอกฉันเรื่องของคุณฮีโร่"

ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันรู้ว่าเธอกำลังพูดกับใครอยู่ แต่ตัวตนนั้นไม่ได้ตอบกลับมา

"ช่วยฉันด้วย! ฉันจะต้องให้พลังกับคุณฮีโร่... ฉันต้องทำมัน! ไม่เช่นนั้นคุณฮีโร่จะน่าสงสารเกินไป คุณฮีโร่ควรที่จะต้องเป็นราชันที่ปกครองทุกสิ่ง... ได้โปรด!"

"เธอชอบฉันขนาดนั้นเลยหรอ?"

"คุณฮีโร่ ฉันได้บอกมันไปตั้งแต่แรกแล้ว! คุณคือทุกสิ่งสำหรับฉัน! นับตั้งแต่ที่ฉันเกิดขึ้นมา ฉันก็รู้ถึงเรื่องของคุณฮีโร่และมีชีวิตอยู่เพื่อคุณฮีโร่เท่านั้น!"

เธอน่าจะรู้ดีว่าฉันกำลังจะทำอะไรกับเธอ แต่ดวงตาเคียร่าก็ยังเต็มไปด้วยความรักและความต้องการ

"คุณฮีโร่ มันยังไม่สายเกินไปนะ เชื่อมต่อทุกๆโลกเข้ากับโลก! คุณฮีโร่จะเป็นเทพเจ้าและมีฉันอยู่เคียงข้าง ฉัน..."

"แต่ฉันเกลียดเธอ ฉันเกลียดเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเธอ และก็ยังเป็นอยู่"

"คุณฮีโร่..."

ฉันได้ฉีกเธอขาดครึ่งโดยไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว จากนั้นฉันก็ได้เผาร่างเธอทิ้งจนไม่เหลือซากด้วยสายฟ้าของฉัน

"อ๊า นายท่านเท่จัง!"

"ทำได้ดีมากเรสปิน่า ตอนนี้เธอรู้ว่าจะต้องทำอะไรใช่ไหม?"

"ค่ะ"

เรสปิน่าได้วางมือของเธอไว้ที่ตัวฉันและเริ่มส่งพลังทั้งหมดของเธอมาให้ฉัน ถึงแม้ว่ามันจะยากเล็กน้อยในตอนที่ฉันยังไม่ได้ดูดซับพลังเชอร์ราฟิน่าอย่างสมบูรณ์ แต่ว่าฉันก็เอามานามาจากเธอได้สำเร็จ พลังของเรสปิน่ามีความจำเป็นต่อฉันในสิ่งที่ฉันต้องการจะทำต่อไป

พลังที่พิเศษของฉัน พลังของเชอร์ราฟิน่า และในตอนนี้ก็เป็นพลังของเรสปิน่าที่ปฏิเสธในพลังที่ไม่บริสุทธิ์ นี่มันผิดปกติมากๆที่พลังเหล่านี้หลอมรวมเข้าด้วยกัน ในตอนแรกมันขัดแย้งกับพลังในการปฏิเสธพลังไม่บริสุทธิ์ในการจะหลอมรวมเข้ากับพลังอื่นๆจนกลายเป็นพลังไม่บริสุทธิ์

แต่ว่าด้วยพรสวรรค์แต่กำเนิดของฉันทำให้มันเป็นไปได้ ภายใต้สายตาของฉันพลังทั้งสามได้หลอมรวมเป็นหนึ่งอย่างราบรื่นจนไม่น่าเชื่อ พลังภายในร่างของฉันได้ขยายออกไปอย่างไม่สิ้นสุด มันยากมากที่จะเชื่อว่าการหลอมรวมพลังทั้งสามจะทำให้เกิดผลลัพธ์แบบนี้

รูปลักษณ์ของฉันก็ยังเริ่มเปลื่ยนแปลงไป ฉันตัวสูงขึ้น ผิวหนังเริ่มเรืองแสงออกมา และมีวงกลมสีทองปรากฏขึ้นในดวงตาฉัน ในท้ายที่สุดวงแหวนก็ส่องแสงเจิดจ้าออกมาก่อนที่จะเริ่มเปลื่ยนรูปร่างไป

"เป็นเกียรติมากที่ได้รับใช้นายท่าน"

"อืม"

หลังจากนั้นเรสปิน่าได้ยกมือขึ้นพยายามจะแทงท้องตัวเอง แต่ว่าฉันได้ยื่นมืออกไปหยุดเธอไว้

"...ในตอนแรกฉันได้วางแผนจะฆ่าเธอ แต่ว่าเธอมีประโยชน์มากเกินไป นอกจากนีฉันก็รู้สึกไม่อยากจะฆ๋าใครอีกแล้ว... เธอควรที่จะมีชีวิตต่อไปเคียงข้างฉัน"

"นายท่าน!"

เรสปิน่าได้ตะโกนออกมาด้วยใบหน้าประทับใจ จริงๆแล้วการที่เธอมีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้มันขัดต่อความเชื่อในการใช้ชีวิตของฉัน แต่ว่าแบบนี้มันก็ไม่ได้แย่อะไร

แม้ว่าการกระทำที่ปราณีนี้จะเป็นการกระทำตามใจฉัน แต่เมื่อคิดดูอีกรอบแล้วนี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันมาถึงตำแหน่งนี้

ตำแหน่งของเทพเจ้า

"ถ้าอย่างนั้นนายท่านจะทำยังไงต่อ?"

แม้ว่าเธอจะสูญเสียพลังทั้งหมดไปและกลายเป็นปีศาจธรรมดา แต่เรสปิน่าก็ยังถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยพลังและความสุข เมื่อเทียบกับในตอนแรกทีเธอรับใช้ฉันแล้ว ทัศนคติของเธอเปลื่ยนไปจนน่าตกใจเล็กน้อย แต่ว่าฉันก็เชื่อว่านี่เป็นเรื่องที่ดีแล้ว

ฉันได้เอื้อมมือออกไปเติมเต็มมานาให้กับเธอและพูดออกมา

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน มีอีกหลายอย่างที่ฉันต้องทำอย่างแน่นอน แต่ว่า..."

ทั้งการทำให้ดันเจี้ยนกลับมาทำงาน ทำความสะอาดโลก จัดการดูแลโลกอื่นๆ.... มีงานอยู่จำนวนมากที่รอให้ฉันไปจัดการอยู่

แต่ว่าในตอนนี้

"มานอนกันสักหน่อยเถอะ"

"ค่ะ นายท่าน!"

หลังจากพักซักหน่อยแล้ว ฉันก็จะไปจัดการงานที่เหลือ เมื่อคิดได้แล้วฉันก็ดีดนิ้วขึ้นมา เมื่อได้เห็นเตียงสีทองปรากฏขึ้นตรงหน้าฉันก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

"ดอร์ตูทำให้มันนุ่มกว่านี้หน่อยสิ"

[ข้าดอร์ตู โลหะก็ต้องแข็งเป็นปกติอยู่แล้ว มันไม่ใช่เพราะข้าไม่ชอบที่นายท่านนอนกับผู้หญิงคนอื่นหรอกนะ]

อืมม ฉันคงจะไม่ได้นอนแล้วสินะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด