ตอนที่แล้วบทที่ 205 ความแข็งแกร่งของสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 207 เต๋าแห่งการจู่โจม

บทที่ 206 มนุษย์เพลิง


“หยุนเฮ่อกับสุ่ยเชียนโหรวมาแล้ว!”

ภายในอุโมงค์ใต้ดิน เจียงอี้และหยุนเฟยพร้อมทั้งจ้านอู๋ซวงกำลังรวมตัวพูดคุยกัน หยุนเฟยใช้ญาณของนางในการตรวจสอบโลกภายนอกก่อนที่จะเอ่ย

“ดูเหมือนว่าสุ่ยเชียนโหรวจะใช้สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์ของนางแล้ว พวกเราจะเอายังไงดี?”

เจียงอี้ครุ่นคิดในใจและถอนหายใจออกมาเบาๆ “ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง พวกเราจะต้องยื้อเวลาไว้จนถึงเที่ยงคืน เมื่อถึงตอนนั้น พวกมันจะสูญเสียการป้องกันทางวิญญาณและกลายเป็นบ้า จากนั้นก็ค่อยเก็บกวาดพวกมัน”

“หนึ่งชั่วโมงเลยรึ? จะทำยังไงถึงจะถ่วงเวลาได้นานขนาดนั้น?”

หยุนเฟยส่ายหัวพลางกล่าว “อิทธิฤทธิ์ของสร้อยเงินดับโลกานั้นน่าตกตะลึงเกินไป มันไม่ใช่อะไรที่ต้นไม้เหล่านี้จะต้านทานได้และดูเหมือนว่าใกล้จะถึงขีดจำกัดเต็มที...”

“ข้าเกรงว่าเมื่อต้นไม้เหล่านี้เสียหายมากเกินไป การก่อตัวของรูปแบบตามธรรมชาติก็คงจะถูกทำลายและแม้แต่พวกเราเองก็คงจะหนีไม่พ้น!”

“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ข้าต้องออกไป… อู๋ซวง เจ้ากับหยุนเฟยรวมมือกันและก่อกวนพวกมันให้ได้มากที่สุด พวกเราจำเป็นต้องถ่วงเวลาพวกมันไว้จนกว่าจะถึงเที่ยงคืน”

“แล้วก็จำไว้ว่า… พวกเราจะต้องมารวมตัวกันก่อนเที่ยงคืน มิฉะนั้น หยุนเฟยก็อาจจะกลายเป็นบ้าเช่นกัน!”

หลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว เจียงอี้ก็ตะโกน “หมาป่าจันทราสีเงิน!”

ตู้มมมม!

แต่ทันใดนั้นเอง เสียงระเบิดมหึมาก็ดังมาจากด้านนอก แรงสั่นสะเทือนทำให้ร่างของทั้งสามคนล้มลงกับพื้น เจียงอี้และหยุนเฟยถูกคลื่นสะท้อนทำให้กระอักเลือดออกมา

“มีต้นไม้สามต้นพังทลาย! พวกเราต้องเร่งมือแล้ว!”

องค์หญิงหยุนเฟยร่ายคาถาเพื่อสั่งการรากไม้ จ้านอู๋ซวงก็ไม่กล้ารอช้า เขาพานางวิ่งไปอีกทางหนึ่งในขณะเดียวกันเจียงอี้ที่อยู่บนหลังของหมาป่าจันทราสีเงินก็วิ่งไปอีกทาง

“คิดหนี?”

แมลงพิษเขียวไล่ตามเจียงอี้ราวกับเงาตามตัว ตราบเท่าที่เขาเคลื่อนไหว หยุนเฮ่อก็จะรู้ตัวทันที ดวงตาของเขาเหลือบมองสุ่ยเชียนโหรวที่อยู่ด้านข้างและเอ่ย

“ทำลายอุโมงค์เหล่านี้ต่อไป! จากนั้นพวกเราก็จะไล่ล่ามัน ข้าอยากรู้นักว่าเศษสวะอย่างมันจะหนีไปไหนได้?”

“อือ!”

สุ่ยเชียนโหรวกำลังตื่นเต้น นางมั่นใจว่าเจียงอี้อยู่ไม่ไกลจากบริเวณนี้เท่าไหร่นัก ด้วยความหวังที่จะได้แก้แค้น นางรีดเค้นพลังและทำใช้สร้อยเงินดับโลกาทำลายรากไม้ครั้งแล้วครั้งเล่า

จากนั้นด้วยคำสั่งของหยุนเฮ่อ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวนับโหลและนักสู้ขอบเขตจื่อฝู่อีกหลายร้อยชีวิตก็พุ่งลงไปในอุโมงค์เพื่อไล่ล่าเจียงอี้

“ไป! ไอ้สารเลวเจียงอี้อยู่ทางนั้น!”

หยุนเฮ่อคำรามและบังคับให้ลิงยักษ์วิ่งตรงไป สุ่ยเชียนโหรวกระโดดกลับขึ้นมาบนไหล่ของมัน ในขณะเดียวกันนางก็ออกคำสั่งให้ผู้เชี่ยวชาญของหอดาราสุ่ยเยว่ขนาบข้างเพื่อป้องกันไม่ให้เจียงอี้ลงมือลอบทำร้าย

ปังงง!

อีกด้านหนึ่ง พื้นดินระเบิดออกพร้อมกับร่างของเจียงอี้ที่ทะยานขึ้นมา โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาจุดเพลิงโลกาและแผดเผาศัตรูนับสิบจนกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา

คราวนี้เขาไม่ได้ดำดิ่งกลับลงไปในดินเหมือนเช่นเคย แต่ควบหมาป่าจันทราสีเงินมุ่งตรงไปข้างหน้าโดยไม่เหลียวหลังกลับมามอง

“เจียงอี้—มันคือเจียงอี้!”

สุ่ยเชียนโหรวไม่ได้อยู่หางเกินไปนัก เมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มที่อยู่บนหลังจากปีศาจหมาป่า นางก็จดจำเขาได้ทันที

“ส่งคำสั่งออกไป จัดตั้งค่ายกล ลอมจับเจียงอี้!”

หยุนเฮ่อเผยรอยยิ้มราวกับปีศาจ ตราบเท่าที่เจียงอี้ยอมเผยตัวออกมา แม้ว่าเขาจะเป็นเทพเทวดา แต่ก็ไม่มีทางหนีรอดจากกลุ่มคนนับพันไปได้

“บู้ววววว!”

หน่วยสอดแนมรับผิดชอบในการส่งผ่านคำสั่งทำการเป่าแตรซึ่งทำให้กองกำลังทั้งสามเปลี่ยนรูปแบบ พวกมันไม่ได้ไล่ล่าเจียงอี้อย่างเอาเป็นเอาตายอีกต่อไป

แต่เปลี่ยนเป็นจัดตั้งรูปขบวนให้เป็นวงกลมสองวง ในขณะเดียวกันหยุนเฮ่อก็ออกคำสั่งให้นักสู้อีกเกือบสามร้อยคนลงไปในอุโมงค์เพื่อทำการไล่ต้อนและปิดทางหนีเจียงอี้

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้เลยว่าที่จริงเจียงอี้ก็ไม่มีความคิดที่จะหลบหนีตั้งแต่แรกแล้ว!

เขาต้องการที่จะให้คนทั้งกลุ่มรวมไปถึงสุ่ยเชียนโหยวคอยไล่ตามอยู่ด้านหลังเพื่อทำการถ่วงเวลา เพราะถึงเขาจะหนีออกไปจากที่นี่ คนเหล่านี้ก็ยังคงไล่ล่าเขาอยู่ดี

นอกจากนี้ เจียงอี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหนี เพราะกว่าเขาจะค้นหาสถานที่ซึ่งทำให้เขาได้เปรียบในการต่อสู้เช่นป่าอาถรรพ์แห่งนี้ มันต้องใช้เวลานานและเสี่ยงที่จะถูกพบเจอระหว่างทาง

ดังนั้น เขาจึงเตรียมที่จะเสี่ยงชีวิต แต่เขาก็ไม่ได้ประมาท เจียงอี้ควบคุมให้หมาป่าจันทราสีเงินทิ้งระยะห่างจากสุ่ยเชียนโหรวกับหยุนเฮ่อ

สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์สามารถทำลายไหมปีศาจนภาได้ เช่นเดียวกับหยุนเฮ่อที่เป็นผู้ใช้ศาสตร์เวทย์อันลึกลับ มันจึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่กล้าที่จะเข้าใกล้สองคนนั้นมากเกินไป

สิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงแค่การถ่วงเวลาเท่านั้น!

ฟึ่บ

ขบวนทัพของนักสู้เปลี่ยนเป็นเส้นตรง ก่อนที่เจียงอี้จะได้เข้าใกล้พวกมัน คลื่นดาบและกระบี่จำนวนมหาศาลก็ทะลวงผ่านอากาศเข้ามาเขาเสียแล้ว

เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสั่งให้ปีศาจหมาป่าเปลี่ยนทิศทาง แต่ไม่ว่าจะมุ่งหน้าไปทางไหน พวกเขาก็มักจะถูกลอบโจมตีในรูปแบบเดียวกันเสมอ

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

เสียงหัวเราะดังมาแต่ไกล

“เจียงอี้ หยุดดิ้นรนและยอมให้จับกุมเสียโดยดี! เจ้าไม่มีทางหนีไปได้หรอก ตราบใดที่เจ้ายอมแพ้ เชียนโหรวรับประกันว่าจะไม่ทุบตีเจ้าจนตาย!”

“ฮ่าฮ่า!”

เสียงหัวเราะของสุ่ยเชียนโหรวดังขึ้นอีกครั้ง “เจียงอี้ ในตอนที่เจ้าลงมือสังหารเจ้าทมิฬของข้ารวมไปถึงทำลายเสื้อคลุมวิหควิญญาณ เจ้าคงไม่เคยคิดล่ะสิว่าตัวเองจะต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้?”

“หึ!”

ดวงตาภายใต้หน้ากากปีศาจของเจียงอี้ยังคงเย็นชา เขาไม่คิดที่จะใช้วาจาตอบโต้ ทันใดนั้นเขาก็สั่งให้หมาป่าจันทราสีเงินกระโดด จากนั้นเขาก็นำหน้าไม้สังหารเทพทั้งสองคันที่ซ่อนไว้ออกมาและเหนี่ยวไก

“ผู้ที่ขัดขวางข้าจะต้องตาย!”

ปังง!

ห่างออกไปเพียงไม่กี่พันเมตร แขนสีทองสองข้างโผล่พรวดขึ้นมาจากใต้ดิน ฝ่ามือของเขาแปรเปลี่ยนเป็นกรงเล็บแหลมคมและตะครุบไปที่ขาของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวคนหนึ่ง

ในเวลาเดียวกัน พื้นดินก็เกิดการสั่นไหวพร้อมกับเถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนที่โผล่ขึ้นมาและพันธนาการร่างของเหล่านักสู้ในบริเวณนั้นเอาไว้

ปังงง!

ตู้มมม!

ตัดภาพกลับมาที่เจียงอี้ ในจังหวะที่เขากำลังถูกคลื่นดัชนี,ดาบและกระบี่บดขยี้ จู่ๆร่างของหมาป่าจันทราสีเงินก็หายวับไปและถูกแทนที่ด้วยไหมปีศาจนภาซึ่งห่อหุ้มร่างกายของเขาไว้

แต่ดูเหมือนว่าเจียงอี้จะคำนวณพลาดไป แม้ว่าเขาจะหลบเลี่ยงการโจมตีส่วนใหญ่ได้แต่ก็ถูกคลื่นกระบี่สองสายเฉือนผ่านร่างกายอยู่ดี

“ไป!”

โดยที่ไม่มีเวลาให้ตรวจสอบบาดแผล เจียงอี้รีบลุกขึ้นมาและดึงไหมปีศาจนภาออกจากร่างกายพร้อมทั้งมัดมันไว้กับต้นไม้

“โจมตี!”

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวที่อยู่ใกล้เคียงกู่คำราม นักสู้ขอบเขตจื่อฝู่ต่างก็กำอาวุธในมือแน่นและกระโจนเข้าหาเจียงอี้

มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวสี่ถึงห้าคนซุ่มโจมตี พวกเขาปลดปล่อยจิตสังหารเข้าไปในอาวุธเพื่อที่จะสร้างแรงกดดันให้กับเจียงอี้มากขึ้น

“เพลิงโลกา!”

แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูจำนวนมาก แต่สีหน้าของเขาก็ยังคงสุขุมเย็นชา ทันใดนั้นเอง จู่ๆก็มีควันลอยออกมาจากร่างของเขา เจียงอี้เอนตัวไปด้านหลังและใช้ไหมปีศาจนภาเป็นตัวปล่อยนำซึ่งทำหน้าที่เปรียบเสมือนกับหนังสติ๊ก ส่งผลให้ร่างของเขาพุ่งเข้าหาฝ่ายศัตรูด้วยความเร็วราวกับลูกกระสุน

“วิ่ง—!”

ในเวลาเดียวกันร่างของเจียงอี้ก็แปรเปลี่ยนเป็นมนุษย์เพลิง ทำให้ห้วงอากาศโดยรอบเกิดการบิดเบี้ยวเนื่องจากความร้อนที่สูงขึ้นอย่างกะทันหัน

“อ๊ากกก!”

ฝ่ายศัตรูแตกฮือและพากันหลบหนีอย่างอลหม่าน แต่เมื่อเจียงอี้ตวัดมือออกไป เปลวไฟอันร้อนแรงก็สาดใส่นักสู้นับโหล ในกลุ่มนั้นยังมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวสองสามคน แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะกลายเป็นขี้เถ้าและถูกพัดหายไปตามสายลม

“แย่แล้ว หนีเร็ว!”

มีหลายคนที่รู้อยู่แล้วว่าเจียงอี้เป็นผู้ใช้ไฟ แต่เมื่อมาเจอกับตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวเพราะไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะวิปริตขนาดนี้ แม้แต่สุ่ยเชียนโหรวและหยุนเฮ่อที่อยู่ไกลออกไปต่างก็หน้าถอดสี

ในตอนนี้สีหน้าของหยุนเฮ่อย่ำแย่ยิ่งนัก เมื่อเขามองเห็นเถาวัลย์ที่ออกมาจากอีกด้านหนึ่ง ใบหน้าของเขาก็เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันและแฝงไว้ด้วยความโกรธ

“ดีมาก! หยุนเฟย นังแพศยาเช่นเจ้าถึงกับช่วยคนอื่นจัดการข้า? ดี เช่นนั้นเจ้าก็ตายพร้อมกับมันเสียเถอะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด