ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0733 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0735 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0734 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 734 : สังเวยสัตว์อสูร

ฉินหยุนเองก็คิด ว่าหยางฉีเย่ว์น่าจะลักลอบก่อการใหญ่อยู่ กระนั้น เขาไม่อาจทราบว่านางคิดทำอะไร

เชี่ยวเสวียนฉินนำฉินหยุนมุ่งหน้าสู่กลุ่มภูเขาตรงหน้า ออร่าของสัตว์อสูรดวงดาวปรากฏจากที่แห่งนั้น

“ป้าเชี่ยว ท่านต้องการแกนกลางดวงดาวหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“ใช่!” เชี่ยวเสวียนฉินพยักหน้ารับ

“ท่านขาดแคลนเหรียญม่วงหรือไม่? ข้ามอบให้ท่านได้บ้าง!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

“ไม่ต้อง ข้าย่อมมีของตนเอง! เจ้าเพียงช่วยข้าสร้างอุปกรณ์ลึกล้ำที่ไม่ต้องดีมากนักให้ก็พอ!” อันที่จริง เชี่ยวเสวียนฉินหาได้มีเหรียญม่วงจำนวนมากแต่อย่างใด เพราะเหตุนั้นนางจึงต้องการเงินโดยการล่าสัตว์อสูรดวงดาว ทว่านางจะไม่มีทางให้ฉินหยุนต้องมอบเหรียญม่วงแก่นาง

ฉินหยุนยิ้มกล่าว “อุปกรณ์ลึกล้ำที่ข้าสร้างย่อมต้องดี! เมื่อใดกลับไป ข้าจะเร่งรีบสร้างมันขึ้นมา! ป้าเชี่ยว อาวุธและชุดเกราะใดที่ท่านต้องการ? พูดคุยถึงเรื่องนี้กันก่อน ระหว่างทางกลับข้าจะได้คิดอ่านไว้ล่วงหน้าได้!”

“เจ้า... นี่เจ้าไม่ต้องใช้พิมพ์เขียวอุปกรณ์ลึกล้ำเลยหรือไร?” เชี่ยวเสวียนฉินเอ่ยถาม

“หาได้จำเป็นไม่!” ฉินหยุนยิ้มตอบภาคภูมิ “อาจารย์จารึกที่แข็งแกร่งดังเช่นข้า สามารถสร้างขึ้นโดยใช้พิมพ์เขียวของตนเอง!”

ฉินหยุนไม่ได้คุยโว เขาสามารถทำได้จริง นั่นคือพรสวรรค์ของตัวเขา

เชี่ยวเสวียนฉินต้องลอบนับถือขณะบอกกล่าวถึงอุปกรณ์ลึกล้ำที่นางต้องการ

นางทราบกระจ่างชัดดี ว่าหากได้ครอบครองอาวุธที่ดี เมื่อใดนางพบเจอศัตรู มันจะขยับขยายพลังให้แก่นางได้ใช้รับมืออย่างเหมาะสม

ฉินหยุนพบว่าที่เชี่ยวเสวียนฉินต้องการไม่ใช่ยากสร้างเกินไป เขาจดจำพวกมันอย่างขึ้นใจ เพื่อที่กลับไปเมื่อใดจะได้ลงมือโดยทันที

พวกเขาบินผ่านฟากฟ้ากว่าชั่วยาม ก่อนจะไปถึงยังยอดเทือกเขาซึ่งมีแต่เมฆและหมอก

ที่เบื้องล่าง ออร่าของสัตว์อสูรดวงดาวแทบเกิดเป็นรัศมีพลัง พวกมันอัดแน่นด้วยพลังดวงดาว

“ป้าเชี่ยว ด้านล่างมีสัตว์อสูรดวงดาวมหาศาลนัก น่าจะเกินกว่าหนึ่งหมื่นตัว และพวกมันทั้งหมดไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว!” ฉินหยุนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ตอนนี้ยังคงเป็นกลางวัน เขาเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย “หรือสัตว์อสูรดวงดาวเหล่านี้เคลื่อนไหวได้แต่ตอนกลางคืน?”

“ไม่ใช่!” น้ำเสียงเชี่ยวเสวียนฉินกลายเป็นเคร่งเครียด “ที่เบื้องล่างต้องมีอะไรบางอย่างควบคุมสัตว์อสูรดวงดาวเหล่านี้เป็นแน่!”

“หรือจะเป็นพี่หยางที่ลอบเร้นควบคุมพวกมัน? หากเป็นอย่างนั้น พวกเราก็ไม่ควรสังหารสัตว์อสูรดวงดาวพวกนี้ นี่จะต้องเป็นแผนการที่พี่หยางวางไว้!” ฉินหยุนกล่าว

“อาจเป็นอย่างนั้น พวกเราเข้าไปดูให้ใกล้กว่านี้จะดีกว่า!” เชี่ยวเสวียนฉินส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุน

ฉินหยุนใช้งานวิญญาณยุทธ์โปร่งแสง ทำให้ร่างกายโปร่งแสง ทั้งสองรุกคืบผ่านหมู่เมฆจนเข้ามาถึงป่าเบื้องล่างภูเขา

ทั้งสองย่อมได้เห็นสัตว์อสูรดวงดาว พวกมันเหล่านี้รูปลักษณ์คล้ายแพะ ทั้งหมดเป็นสีขาว และมีเขาที่บนหัว

ที่แตกต่างจากแพะทั่วไป คือแพะเหล่านี้มีตัวใหญ่กว่า ขนาดตัวยาวกว่าหลายเมตร ทั้งร่างกายยังมีพลังดวงดาวทอประกายเผยออก

สัตว์อสูรแพะดวงดาวเหล่านี้แทบบดบังภูเขาใหญ่เอาไว้ พวกมันยืนนิ่งไร้การเคลื่อนไหว ไม่อาจทราบได้ว่าพวกมันคิดทำอันใด

“ภูเขานั่นกำลังดูดกลืนพลังจากสัตว์อสูรดวงดาว!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว

ทางด้านเชี่ยวเสวียนฉินเองก็พบเรื่องราวโดยคร่าว นางกล่าวคำเบา “ฉินหยุน ภูเขาที่ตรงนั้นภายในมีเรื่องแปลก! ความสามารถเทวะทะลุทะลวงของเจ้าสามารถบุกฝ่าเข้าไปได้ใช่หรือไม่?”

“ให้ข้าลอง!” ฉินหยุนดึงเชี่ยวเสวียนฉินมุ่งหน้าไปยังภูเขาลูกดังกล่าว

สัตว์อสูรแพะดวงดาวเหล่านี้ล้วนอยู่ที่ตีนเขา พวกเขาที่ไปสำรวจบนยอดเขา จึงไม่อาจพบเห็นสัตว์อสูรแพะดวงดาวได้อีก ดังนั้นจึงไม่อาจทราบสถานการณ์ทั้งหมดอย่างกระจ่างชัด

“ป้าเชี่ยว ท่านพบอะไรบ้างหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“ยังไม่! เจ้าสามารถใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวงบุกฝ่าไปได้หรือไม่?” เชี่ยวเสวียนฉินเอ่ยถามหลังร่อนลงมา

“ย่อมต้องได้! ให้ข้าพาท่านไปรับชมด้วยแล้ว!” ฉินหยุนกล่าวพร้อมดึงเชี่ยวเสวียนฉินเข้าหาเพื่อใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง

ในพริบตา ฉินหยุนและเชี่ยวเสวียนฉินจึงทะลวงผ่านมวลหินหนาที่พื้นผิวภูเขาไปยังเบื้องล่าง

กระนั้น ฉินหยุนกลายเป็นต้องเร่งรีบนำเชี่ยวเสวียนฉินกลับขึ้นมา

เพราะภายในภูเขา มันมีม่านพลังแข็งแกร่งขวางกั้นเขาเอาไว้ มันคือสิ่งที่ไม่อาจทะลวงผ่าน ดังนั้นเขาจึงได้แต่ต้องถอยกลับมา

“มีม่านพลังคุ้มกันภูเขาเอาไว้!” ฉินหยุนขมวดคิ้ว “ข้าไม่อาจทะลวงเข้าไปได้!”

“ภูเขาลูกนี้สมควรเป็นทางเข้าแล้ว!” เชี่ยวเสวียนฉินยิ่งสงสัยตัวภูเขาลูกนี้มากขึ้น

อย่างกะทันหัน เสียงแพะร้องพลันดังขึ้นจากก้นบึ้งภูเขา

“มีคนบุกโจมตีสัตว์อสูรดวงดาวพวกนั้น!” เชี่ยวเสวียนฉินสบถเสียงเบา “พวกมันช่างเป็นตัวบัดซบยิ่งนัก!”

“มากันหลายคนเสียด้วย! ลงไปดูสถานการณ์ก่อน!” ฉินหยุนกล่าว

ฉินหยุนและเชี่ยวเสวียนฉินระแวดระวังเคลื่อนตัวลงจากภูเขา ไม่ช้า พวกเขาจึงได้เห็นคนกลุ่มใหญ่กำลังโหมโจมตีสัตว์อสูรดวงดาว

“เป็นพวกตัวบัดซบหวังเหลียงเห่า!” เชี่ยวเสวียนฉินพอนึกย้อนถึงกลุ่มคนของหวังเหลียงเห่า ความรู้สึกโกรธแค้นจึงท่วมท้นหัวใจนาง

“ฉินหยุน พวกเราควรโจมตีพวกมันเลยหรือไม่?” เชี่ยวเสวียนฉินเอ่ยถาม

ฉินหยุนส่ายศีรษะ “ยังไม่! พื้นที่นี้กล่าวได้ว่าอันตรายยิ่ง สาเหตุที่พวกมันมาที่นี่ ชัดว่าเป็นเพราะติดตามผู้อาวุโสพวกมันมา!”

“หากพวกเราบุ่มบ่าม ตาเฒ่าราชันยุทธ์เหล่านั้นได้เสนอหน้ากันออกมา ถึงตอนนั้นพวกเราจะตกอยู่ในปัญหา!”

เชี่ยวเสวียนฉินเอ่ยถาม “อย่างนั้นควรทำอย่างไร? หากพวกมันสังหารสัตว์อสูรดวงดาวเหล่านี้จนหมด แผนการของฉีเย่ว์ได้พังแน่!”

ฉินหยุนคิดอยู่ครู่จึงค่อยตอบ “พวกเราจะรอจนฟ้ามืด!”

มีแต่เป็นเวลาค่ำคืน ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพที่เขาอัญเชิญออกมา จึงจะแข็งแกร่งพอจัดการหวังเหลียงเห่าและคณะได้

เชี่ยวเสวียนฉินนำหน้ากากออกมา “ฉินหยุน ข้าไปก่อน เจ้ารับชมที่ตรงนี้ หากข้าต้านรับไม่ไหว เจ้าค่อยโจมตี! อย่างนี้เป็นไร?”

“ตกลง!”

ฉินหยุนพยักหน้ารับ พวกเขามีแต่ต้องทำเช่นนี้

แม้สัตว์อสูรแพะดวงดาวมีพลังแข็งแกร่งในร่าง กระนั้นพวกมันกลับอ่อนแอยิ่ง

หวังเหลียงเห่าและคณะล้วนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ คิดสังหารพวกมันเป็นไปง่ายดายและรวดเร็ว!

เชี่ยวเสวียนฉินถือดาบเต๋าของฉินหยุน ฉับพลันปรากฏกายเบื้องหลังหวังเหลียงเห่า

ยามเมื่อดาบเสียดแทงรุกคืบ พลังงานในตัวดาบจึงสั่นไหวจนเกิดเสียงคล้ายเครื่องสายดีดดังขึ้น พลังคลื่นเสียงได้แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานแข็งแกร่งทะลักออกมา

“แม่นางเชี่ยว ข้าทราบว่าเป็นเจ้า!” หวังเหลียงเห่าหัวเราะดังขณะกล่าว “แม้ข้าไม่ทราบว่าเจ้าหลบหนีพ้นจากอาจารย์พวกเราได้อย่างไร แต่คราวนี้ชะตาเจ้ามีแต่ต้องตายแน่นอนแล้ว!”

เชี่ยวเสวียนฉินกล่าวอย่างนึกโกรธแค้น “พวกเจ้าตัวบัดซบ จงเข้ามารับความตายต่อหน้าข้า!”

ฉินหยุนพบว่าสถานการณ์ผิดคาด จึงเร่งรีบนำเอาปืนใหญ่ราชันลึกล้ำออกมา ตัวเขาเวลานี้ยังคงโปร่งแสง มีแต่วิธีการเช่นนี้จึงทำให้เขาสามารถซ่อนตัวโดยไม่ถูกพบเห็นได้

หวังเหลียงเห่าและคณะอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ เวลานี้ต่างหยุดมือไม่โจมตีสัตว์อสูรแพะดวงดาว แต่เลือกปิดล้อมเชี่ยวเสวียนฉินเอาไว้แทน

“ป้าเชี่ยว เร่งรีบมาทางนี้!” ฉินหยุนร้องโพล่งบอก

เชี่ยวเสวียนฉินถือดาบเต๋าต้านรับการโจมตีหวังเหลียงเห่า ทำลายอุปกรณ์ลึกล้ำอีกฝ่าย เรื่องนี้ทำเอาหวังเหลียงเห่าปวดใจพร้อมมีโทสะ

เชี่ยวเสวียนฉินบุกฝ่าวงล้อมออกมา นางมุ่งตรงไปยังทิศทางที่ฉินหยุนคงอยู่

“กลุ่มตัวบัดซบ รับปืนใหญ่ข้าไปกิน!” ฉินหยุนควบคุมปืนใหญ่ราชันลึกล้ำ ยิงกระสุนปืนใหญ่ออกไปชุดหนึ่ง

เมื่อกระสุนปืนใหญ่ที่ขัดเกลาขึ้นจากน้ำมันสัตว์ระเบิดออก อัคคีเพลิงรุนแรงจึงทะลักล้นทั่วสารทิศ อุณหภูมิและแรงระเบิด ทั้งสองต่างเป็นพลังอำนาจระดับชวนสะพรึง

เมื่อเชี่ยวเสวียนฉินพุ่งมาทางฉินหยุน นางรับรู้ได้ถึงคลื่นความร้อนรุนแรงที่แผ่นหลัง นางถูกผลักให้พุ่งด้านหน้าด้วยแรงระเบิดก่อนจะโผเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดฉินหยุน และนางที่ไม่มีทางเลือกอื่น จึงได้แต่ต้องอยู่ในอ้อมกอดฉินหยุน

ด้วยการกระแทกครั้งหนึ่ง ร่างกายเชี่ยวเสวียนฉินจึงแนบแน่นสัมผัสกับฉินหยุน นางรับรู้ได้ ว่าหน้าอกของตนเองและฉินหยุนสัมผัสถึงอัตราการเต้นของหัวใจกันและกัน

ตู้ม!

เมื่อเชี่ยวเสวียนฉินหลงเข้าสู่โลกมายา ฉินหยุนจึงยิงปืนใหญ่ออกอีกนัดหนึ่ง เสียงดังสนั่นบังเกิด เป็นผลให้เชี่ยวเสวียนฉินดึงสติตนเองกลับคืนมาได้

เชี่ยวเสวียนฉินมองทางหวังเหลียงเห่าซึ่งเร่งรีบออกมาจากทะเลเพลิง นางยินดีไม่น้อย เพราะกลุ่มของหวังเหลียงเห่าเชื่องช้าลงได้มาก ตามร่างมีแต่รอยแผลไฟไหม้

“ฉินหยุน อัคคีเพลิงเจ้าร้อนแรงนัก!”

เชี่ยวเสวียนฉินกล่าวคำชื่นชม จากนั้นร่างจึงทะยานออก เข้าสังหารหนึ่งในศิษย์สำนักเซียนด้วยการฟาดฟันดาบเพียงครั้งเดียว

นางเพียงกระโดดไปไม่กี่ครั้ง ศิษย์สำนักเซียนอีกหนึ่งที่เดิมได้รับบาดเจ็บจึงถูกสังหารไปอีกคน

“หวังเหลียงเห่า เจ้าคงคาดไม่ถึงใช่หรือไม่? ว่าข้าเองก็มีอาวุธดีให้ใช้งาน!” เชี่ยวเสวียนฉินกล่าวคำเสียงเย็นเยียบ

หวังเหลียงเห่า ผู้ซึ่งร่างมีแต่บาดแผลไฟไหม้ เขาไม่คาดคิด ว่าอาวุธของเชี่ยวเสวียนฉินจะทรงอำนาจเพียงนี้ มันกระทั่งทำอุปกรณ์ลึกล้ำของเขาเสียหายร้ายแรง

ชุดเกราะของหวังเหลียงเห่า เวลานี้มันถูกเผาไหม้จนเสียหาย เชี่ยวเสวียนฉินจึงสามารถจ้วงแทงดาบได้ง่ายดาย

“แม่นางเชี่ยว ในเมื่อพวกเราเคยเป็นสหายที่ดีต่อกัน ดังนั้นโปรดอย่าได้สังหารข้าแล้ว!” หวังเหลียงเห่าเร่งร้อนร้องขอความเมตตา

“ชะตาเจ้าคือต้องตาย!” ดาบของเชี่ยวเสวียนฉินแทงผ่านลำคอของหวังเหลียงเห่า จากนั้นจึงค่อยเป็นการสะบั้นเศียรอีกฝ่าย

ฉินหยุนเร่งรีบเข้ามา พร้อมนำวิญญาณยุทธ์อีกฝ่ายออกมาเก็บไว้

“ป้าเชี่ยว พวกเราควรไปจากภูเขาลูกนี้!” ฉินหยุนกล่าวขณะเร่งรีบดึงเชี่ยวเสวียนฉิน

เชี่ยวเสวียนฉินบินนำฉินหยุนขึ้นฟากฟ้าสูง นางเองก็สัมผัสได้ ว่าออร่าของราชันยุทธ์กำลังใกล้เข้ามา

“ที่นี่มีสัตว์อสูรดวงดาวมากมายนัก ราชันยุทธ์ที่อยู่ใกล้ย่อมสัมผัสถึงพวกมันได้ เมื่อครู่เกิดความอึกทึกครั้งใหญ่ พวกมันที่อยู่ใกล้เคียงย่อมต้องมาแน่!” ฉินหยุนกล่าวคำ

เขาและเชี่ยวเสวียนฉิน ต่างมองไปยังยอดเขาที่ห่างไกลหลายพันเมตร ภูเขาแห่งนั้นกำลังลุกท่วมด้วยอัคคีเพลิงเผาไหม้

ฉินหยุนทิ้งเนตรวิญญาณเอาไว้ที่นั่น เพื่อให้สามารถพบเห็นได้ว่าเกิดอันใดขึ้น

ละแวกใกล้เคียงมีราชันยุทธ์อยู่หลายคน รวมถึงกลุ่มราชันยุทธ์ซึ่งถูกพวกเขาลวงหลอกไป เมื่อคนกลุ่มนั้นมาถึงและได้เห็นสัตว์อสูรดวงดาว พวกเขาจึงเริ่มลงมือสังหารด้วยความยินดี

ฉินหยุนรู้สึกว่าเรื่องราวน่าเสียดาย แต่แล้ว เขาพลันได้เห็นเรื่องราวชวนตื่นตะลึงจากเนตรวิญญาณ

สัตว์อสูรดวงดาวเหล่านั้นพลันถูกธรณีสูบลงไปในพริบตา พวกมันทั้งหมดหายตัวไปจนสิ้น

ฉินหยุนเร่งรีบบอกเรื่องราวต่อเชี่ยวเสวียนฉิน

“นี่ถือว่าดี แผนการของฉีเย่ว์ยังไม่พังทลาย!” เชี่ยวเสวียนฉินถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก

“ป้าเชี่ยว พวกเราควรเข้าไปยังส่วนลึกของเทือกเขานิราศจันทราต่อหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“ไม่ต้องแล้ว เพียงรอที่นี่ให้จันทราสีครามปรากฏ น่าจะอีกไม่กี่วันเท่านั้น!” เชี่ยวเสวียนฉินเงยหน้ามองฟากฟ้า “ภูเขาแห่งนั้นดูดกลืนพลังจากสัตว์อสูรดวงดาว มันน่าจะต้องการดึงความสนใจของสัตว์อสูรดวงดาวจำนวนมหาศาลมา!”

“เมื่อใดจันทราสีครามปรากฏ ภูเขาแห่งนั้นต้องมีความเคลื่อนไหว!”

ฉินหยุนยังคงสงสัยขณะรับชมที่ไกลห่างออกไปร่วมกับเชี่ยวเสวียนฉิน

รอคอยอยู่สองวัน อย่างกะทันหัน พวกเขาพลันรับรู้ได้ถึงออร่าที่เข้ามาจากทั่วทิศ!

“สัตว์อสูรดวงดาวแห่กันมาแล้ว!” เชี่ยวเสวียนฉินบินขึ้นสู่ด้านบน

ฉินหยุนเองก็ลอยสูงกลางอากาศ เขาได้เห็นต้นไม้ล้มตามรายทางจากทั่วทิศที่ห่างไกลออกไป พวกมันคือสัตว์อสูรดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนที่เร่งรีบพุ่งทะยานมา

พร้อมกันนี้เอง ออร่าของจักรพรรดิยุทธ์และครึ่งเซียนได้ปรากฏ

เชี่ยวเสวียนฉินเร่งรีบดึงฉินหยุนลงสู่ยอดเขา

“จักรพรรดิยุทธ์และครึ่งเซียนมาที่นี่แล้ว!” เชี่ยวเสวียนฉินเผยสีหน้ามืดมน “ภูเขาลูกนั้น เวลานี้กลายเป็นศูนย์รวมความอันตรายแล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด