เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0732 [อ่านฟรี]
ตอนที่ 732 : ความลับของแกนกลางดวงดาว
เชี่ยวเสวียนฉินค่อนข้างเป็นกังวล เพราะนางเพียงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ แม้นางสามารถได้รับพลังมหาศาลชั่วคราว ทว่านั่นก็รับมือกับราชันยุทธ์ได้ไม่กี่คน
ข้างภูเขาผลึกแก้ว ยังคงมีราชันยุทธ์อยู่ราวเกือบสามสิบคน หากเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น พวกนางจะไม่อาจต้านรับไว้ได้
“นี่ได้จริงหรือ?” เชี่ยวเสวียนฉินเอ่ยถามอย่างกังวลใจ
“อย่าได้ห่วงไป ย่อมไม่เป็นไร!” ฉินหยุนตอบคำ “ป้าเชี่ยว ท่านต้องมั่นใจว่าแปรเปลี่ยนออร่าตนเองแล้ว เพื่อที่ราชันยุทธ์เหล่านั้นจากสำนักเซียนจะไม่ได้ไม่อาจจดจำท่าน”
“หวังเหลียงเห่าและพรรคพวกไม่อยู่แถวนี้ ตราบเท่าที่ออร่าพวกเราไม่คล้ายที่พวกมันพบเจอ เช่นนั้นย่อมไม่เป็นไร!”
เชี่ยวเสวียนฉินพิจารณาเรื่องนี้ ก่อนจะส่งข้อความผ่านทางเปลือกหอยสื่อสารให้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยและคณะได้ทราบแผนการ
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเห็นด้วย กระนั้นก็ยังกล่าวเตือนให้ระมัดระวัง
เชี่ยวเสวียนฉินยังคงกังวล เพราะพวกนางอย่างไรก็อ่อนแอกว่า หากพวกนางทั้งหมดเป็นราชันยุทธ์ เช่นนั้นก็ไม่มีอันใดต้องหวาดกลัวคนกลุ่มนี้
แม้ว่าเรื่องราวที่ฉินหยุนครอบครองจอมราชันดวงดาวอสูรจะถูกผู้อื่นทราบ กระนั้นพวกเขาเหล่านั้นก็ช่วยเก็บงำเป็นอย่างดี ทำให้ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวใดหลุดรอดออกไป ดังนั้น เชี่ยวเสวียนฉินจึงไม่ทราบ ว่าฉินหยุนครอบครองจอมราชันดวงดาวอสูร
“ป้าเชี่ยวไม่ต้องกลัวไปแล้ว ข้าย่อมมีแผนสำรอง!” ฉินหยุนหัวเราะคิกคักกล่าว “ท่านเพียงอยู่ที่นี่และรับชม ข้าจะเข้าไปเอง!”
“ไม่ได้ ให้ข้าเข้าไปพร้อมเจ้า!” เชี่ยวเสวียนฉินไม่มีทางวางใจปล่อยให้ฉินหยุนไปลำพัง นางกล่าวทักท้วงขึ้นมา
ถึงตอนนี้ กลุ่มราชันยุทธ์กำลังใช้งานอาวุธในมือตนเองโจมตีใส่ภูเขาผลึกแก้ว พวกเขาพยายามเพื่อให้เศษเสี้ยวมันหลุดออกมาแม้เพียงนิด กระนั้นก็ไม่อาจทำได้สำเร็จ
เวลานี้ เชี่ยวเสวียนฉินได้สอบถามผ่านทางเปลือกหอยสื่อสาร เป็นปกติที่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยจะตอบกลับมา พร้อมชี้แนะวิธีการลวงหลอกผู้อื่น
เรื่องนี้มีแต่เชี่ยวเสวียนฉินจึงได้ยิน ฉินหยุนไม่ทราบเนื้อหา
เพราะเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว ว่าเมื่อถึงเวลา ฉินหยุนจะให้ความร่วมมือเอง
เชี่ยวเสวียนฉินกัดริมฝีปาก นางได้แต่ทำตามแผนของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยแล้ว
ฉับพลันนี้ นางค่อยตระหนักได้ ว่าฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเป็นตัวตนลวงโลกโดยธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมา
นางเองยังจำได้ ถึงเรื่องราวที่ฉินหยุนฉ้อโกงผู้คนไปทั่วในชาติภพก่อน ทั้งยังสำเร็จอย่างงดงาม นางอดไม่ได้ที่จะเกิดความวางใจอย่างประหลาดขึ้น
เมื่อฉินหยุนและเชี่ยวเสวียนฉินปรากฏตัว พวกเขาดึงดูดสายตากลุ่มราชันยุทธ์ตรงหน้าง่ายดาย
ราชันยุทธ์หลายคนตะโกนดังมาแต่ไกล “พวกเจ้าเป็นใคร? จงหยุดยืนอย่าได้ขยับ อย่าได้นำเอาอุปกรณ์สื่อสารออกมาด้วย!”
เชี่ยวเสวียนฉินตระเตรียมไว้ก่อนแล้ว นางกล่าว “พวกเราเป็นศิษย์ของตำหนักมหาดวงดาวแห่งแคว้นมหาดวงดาว และนี่คือสามีของข้าเอง!”
ฉินหยุนนิ่งอึ้ง สายตามองทางเชี่ยวเสวียนฉินอย่างไม่นึกเชื่อเรื่องราว
เชี่ยวเสวียนฉินเพียงยิ้มบางกลับมา นี่เป็นแผนการที่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยคิดให้
ฉินหยุนปลอมแปลงโฉมเล็กน้อย ตอนนี้เปรียบเสมือนชายวัยกลางคนหล่อเหลาผู้หนึ่ง เขาเผยยิ้มสุกสว่าง “จ้าวสำนักของพวกเรากำลังมองหาดวงดาวที่เคลื่อนคล้อยลงมา เขาจึงส่งเรามาที่นี่เพื่อตรวจสอบ!”
ราชันยุทธ์คนหนึ่งตะโกนขึ้นแต่ไกล “ข้ามาจากหุบเขาเซียนโอสถแห่งแคว้นมหาดวงดาว ข้าไม่เคยได้ยินชื่อตำหนักมหาดวงดาวมาก่อน!”
“ตำหนักมหาดวงดาวของพวกเราคงอยู่บนดวงดาว ทั้งยังปลีกวิเวกจากโลกหล้า และยังเป็นเพียงสำนักเล็กจ้อย เป็นปกติที่ผู้อาวุโสเช่นพวกท่านไม่เคยได้ยิน!” ฉินหยุนยิ้มกล่าวตอบ
ถึงตอนนี้ เชี่ยวเสวียนฉินค่อยดึงฉินหยุนเข้ามา
“ชายคนนั้นหาได้ใช่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำไม่ เป็นเพียงขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูง! แม่นางตรงนั้นจึงเป็นขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ ทั้งยังงดงามยิ่ง ภรรยาของมันงั้นหรือ? ไม่คล้ายเหมาะสมกันสักนิด!” ราชันยุทธ์คนหนึ่งกล่าวเสียงเบา
เชี่ยวเสวียนฉินพอได้ฟัง นางจึงเผยยิ้มอ่อน “เพราะสามีข้ามีความสามารถเหนือล้ำ! เขาครอบครองวิญญาณยุทธ์ดวงดาว ทำให้เชี่ยวชาญพลังในการทำลายดวงดาว!”
ฉินหยุนกล่าว “ตำหนักมหาดวงดาวของพวกเราอาศัยพลังของผลึกแก้วแกนกลางดวงดาวมายาวนานหลายปีนัก! ผลึกแก้วแกนกลางดวงดาวเช่นนี้ยากตัดทำลาย แต่หากมีเคล็ดวิชาพิเศษ คิดตัดมันถือเป็นเรื่องง่ายดาย!”
เมื่อราชันยุทธ์กลุ่มนี้ได้เห็นว่าฉินหยุนและเชี่ยวเสวียนฉินหาได้แข็งแกร่งใด พวกเขาจึงไม่ตั้งระวังมากมายเช่นที่เคย เพียงคิดอยากกันอีกฝ่ายไม่ให้ส่งข้อความผ่านทางเปลือกหอยสื่อสารก็เท่านั้น
“เจ้าทำลายภูเขาผลึกแก้วนี้ได้หรือ?”
ราชันยุทธ์ชุดขาวกล่าวอย่างไม่อาจเชื่อ เพราะพวกเขาคือราชันยุทธ์ กระทั่งใช้อาวุธทรงพลังอำนาจ ก็ยังไม่อาจฝากรอยแผลเอาไว้ที่ภูเขาผลึกแก้วนี้ได้
เชี่ยวเสวียนฉินยิ้มบาง “ข้าไม่อาจ ทว่าสามีข้าสามารถ!”
ฉินหยุนแสร้งทำเป็นตื่นเต้นขณะกล่าวคำ “ข้าสามารถทำลายมันได้ ทว่าต้องใช้เวลา! ผลึกแก้วแกนกลางดวงดาวนี้ค่อนข้างใหญ่ เป็นสิ่งยากพบเห็นได้ในรอบหลายหมื่นปี! ดังนั้นแล้ว ต้นกำเนิดเซียนดวงดาวสมควรถือกำเนิดที่ภายในของมันเป็นแน่!”
“ผู้อาวุโสล้วนเป็นคนของสำนักเซียน พวกท่านย่อมทราบว่าเมื่อต้นกำเนิดเซียนถูกผนึกเอาไว้ มันจะไม่มีออร่าใดปลดปล่อยออกมา!”
คำกล่าวทั้งหมดเป็นคำลวงโดยฉินหยุน โดยมีหลิงหยุนเอ๋อคอยชี้แนะอีกทีหนึ่ง
แม้เป็นเชี่ยวเสวียนฉินที่มากประสบการณ์และความรู้ ตอนนี้ก็เริ่มเชื่อคำกล่าวนี้ขึ้นมาบ้าง
ราชันยุทธ์หลายคนจากสำนักเซียนย่อมยินดี พวกเขาต่างพยักหน้ารับกันถี่ถ้วน
“ครั้งเขตแดนลึกล้ำส่งมอบต้นกำเนิดเซียน พวกมันเป็นเพียงก้อนสีขาวขนาดใหญ่ หาได้มีออร่าใดเผยออก คำกล่าวนี้เป็นจริง!” ราชันยุทธ์ผู้หนึ่งกล่าวขึ้น
“น้องชาย ระหว่างต้นกำเนิดเซียน และต้นกำเนิดเซียนดวงดาวมีอันใดแตกต่างกัน?” ราชันยุทธ์อีกคนหนึ่งเอ่ยถาม
พวกเขาตอนนี้เริ่มคล้อยตาม ว่าฉินหยุนและเชี่ยวเสวียนฉินคือผู้มาจากตำหนักมหาดวงดาว
“เรื่องนี้ยากพูดกล่าว! จ้าวตำหนักมหาดวงดาวครั้งหนึ่งเคยกล่าว ว่าความแปลกประหลาดอย่างถึงที่สุดของต้นกำเนิดเซียนดวงดาว พวกมันสามารถให้กำเนิดจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาวได้! นอกจากนี้แล้ว พวกมันยังสามารถปล่อยพลังเซียนอันมหาศาลที่อัดแน่นด้วยพลังดวงดาวได้!” ฉินหยุนกล่าวออกไป
ยามผู้คนได้ยินคำจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาว ดวงตาราชันยุทธ์ตรงหน้าเหล่านี้จึงทอประกาย!
สาเหตุว่าทำไมพวกเขามายังเทือกเขานิราศจันทรา นั่นก็เพื่อจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาว
“แน่นอนว่าคำกล่าวนี้ก็เป็นเพียงตำนาน! กับผลึกแก้วแกนกลางดวงดาวใหญ่โตเพียงนี้ ต่อให้ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ภายใน มันก็ยังสามารถใช้พลังงานอันมหาศาลในผลึกแก้วให้เกิดประโยชน์ได้!”
“ตราบเท่าที่ดวงดาวไม่ร่วงหล่นลงมา มันย่อมมีชีวิตอันยืนยาว! และผลึกแก้วแกนกลางดวงดาวที่โบราณ มันจะอัดแน่นเอาไว้ด้วยพลังในการยืดชีวิตผู้คน!” ฉินหยุนกล่าว
การได้รับอายุขัยเพิ่ม นั่นเป็นสิ่งที่ราชันยุทธ์เหล่านี้ต้องการอย่างถึงที่สุด!
เชี่ยวเสวียนฉินกุมมือฉินหยุนเอาไว้แน่น เพราะพวกนางกำลังเข้าใกล้ภูเขาผลึกแก้ว กลุ่มราชันยุทธ์ได้ปิดล้อมพวกนางเอาไว้ เรื่องนี้ยิ่งทำให้นางร้อนรน
และฉินหยุน ยังคงพูดคุยไปพลางยิ้มแย้มเช่นเหมือนเคย
“ขอข้าพิจารณามันหน่อย!” ฉินหยุนกดมือลงที่ภูเขาผลึกแก้ว ปลดปล่อยพลังจิตต้นกำเนิดออกไปเพื่อสัมผัสถึงเรื่องราวภายใน
เชี่ยวเสวียนฉินทำเช่นเดียวกัน
“ฉินหยุน มีอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน!” เชี่ยวเสวียนฉินที่พบเจอจึงเร่งรีบส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุน
“เป็นจริง แต่มันคืออะไร?” ฉินหยุนเองก็พบ ทว่า เขาไม่ทราบว่าสิ่งของภายในคืออันใด
“ข้าไม่ทราบแล้ว! จัดการคนกลุ่มคนก่อนจึงดีกว่า!” เชี่ยวเสวียนฉินส่งเสียงสื่อสารร้องบอก “พวกมันสงสัยพวกเราแล้ว!”
หลิงหยุนเอ๋อพลันควบคุมแก่นเต๋าตะวันทมิฬ ปลดปล่อยพลังงานที่ฉินหยุนกักเก็บเอาไว้ภายใต้เล็บออกมา
ฉินหยุนเผยความดุร้ายฝากรอยแผลเอาไว้บนภูเขาผลึกแก้ว ได้เห็นเช่นนี้ บรรดาราชันยุทธ์ตรงหน้าจึงอุทานร้องตระหนกตกใจ
เชี่ยวเสวียนฉินยังต้องนึกทึ่ง นางไม่ทราบว่าฉินหยุนสามารถทำถึงเพียงนี้ได้อย่างไร
บรรดาราชันยุทธ์ผู้ซึ่งสงสัยต่อฉินหยุนเมื่อครู่ ครานี้ล้วนเชื่อกันสนิทใจ
“มีอะไรบางอย่างที่ข้างใน และไม่ใช่ธรรมดาเสียด้วย!” ฉินหยุนกล่าวด้วยสีหน้าหนักอึ้ง “ผู้อาวุโส พวกท่านสามารถปลดชั้นปกคลุมภายนอกของมันได้ เช่นนั้นย่อมสมควรได้เห็นว่าภายในคืออันใด!”
คำพอกล่าวจบ ราชันยุทธ์นับสิบคนจึงพร้อมใจกันลงมือ เข้าฉีกกระชากเปลือกนอกสีขาวซึ่งปกคลุมภูเขาผลึกแก้วนี้เอาไว้
ภายในภูเขาผลึกแก้วโปร่งแสง มันคือทรงกลมขนาดใหญ่ยักษ์หลายเมตร!
“นี่คล้ายต้นกำเนิดเซียนที่ถูกผนึกเอาไว้ยิ่งนัก!” ราชันยุทธ์คนหนึ่งร้องตะโกน
กลุ่มราชันยุทธ์เหล่านี้กลายเป็นตื่นเต้นยินดี
พวกเขานึกย้อนขึ้นมาได้ ว่าเมื่อครู่ฉินหยุนเพิ่งกล่าว ว่ามันอาจเป็นต้นกำเนิดเซียนดวงดาว และต้นกำเนิดเซียนดวงดาวบางชิ้น มันสามารถให้กำเนิดจารึกวิญญาณจ้าวดวงดาวได้
“น้องชาย โดยคร่าวแล้วเจ้าต้องใช้เวลาเท่าใดเพื่อฉีกกระชากภูเขาผลึกแก้วนี่?” ชายชราชุดขาวเอ่ยถาม ตอนนี้เขาเชื่อในตัวฉินหยุนอย่างสนิทใจ
เพราะพวกเขาใช้กำลังอันเหนือล้ำ กระทั่งว่าใช้อุปกรณ์เต๋าโจมตีภูเขาผลึกแก้ว กระนั้นมันกลับไม่มีรอยใดแม้เพียงนิด
ทว่าฉินหยุนเพียงลงมือเล็กน้อย จึงค่อยฝากฝังรอยแผลเอาไว้บนผลึกแก้วที่เรียบเนียนแต่เดิม ชัดเจนว่าเขาครอบครองพลังที่สามารถทำลายภูเขาผลึกแก้วนี้ได้
ฉินหยุนพอคว้าจับที่ผลึกแก้ว เขาสัมผัสถึงพลังข้างในได้ มันคือพลังดวงดาวอันมหาศาล
เขาคิด ว่าหากจอมราชันดวงดาวอสูรได้ดูดกลืนภูเขาผลึกแก้วนี้ พลังของมันจะก้าวทะยานสู่ระดับใหม่
“ข้าต้องการอย่างน้อยหนึ่งชั่วยามเพื่อตั้งค่ายอาคม!” ฉินหยุนนำเอาอาคมธงออกมา “หลังค่ายอาคมเริ่มปล่อยพลังออกมา มันจะสามารถสร้างรอยปริแตกบนภูเขาผลึกแก้ว เมื่อถึงเวลา ให้ทุกคนร่วมมือกันทำลายภูเขาผลึกแก้วนี้ก็พอ”
“หลังเสร็จเรียบร้อย พวกท่านมอบผลึกแก้วแกนกลางดวงดาวแก่พวกเราสักห้าพันจินก็พอ!”
ผลึกแก้วห้าพันจินไม่ใช่จำนวนที่มาก ราชันยุทธ์เหล่านี้ย่อมตกลง พวกเขาเพียงปรารถนาฉีกกระชากภูเขาผลึกแก้วนี้โดยเร็ว
เชี่ยวเสวียนฉินไม่ทราบว่าฉินหยุนคิดทำอันใด ดังนั้นจึงได้แต่ให้ความร่วมมือด้วย
แม้นางร้อนรุ่ม กระนั้นก็ยังตื่นเต้นยินดีไปด้วย
ฉินหยุนมอบอาคมธงแก่นางจำนวนหนึ่ง
ถัดจากนั้น ฉินหยุนและเชี่ยวเสวียนฉินจึงเริ่มทำการปักธงห่างกันสิบเมตรรอบตัวภูเขาผลึกแก้ว กลุ่มราชันยุทธ์จับจ้องในทุกขั้นตอน
พวกเขาหาได้หวั่นเกรงฉินหยุนและเชี่ยวเสวียนฉินก่อความวุ่นวายไม่ เพราะอีกฝ่ายเป็นเพียงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ และขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ พลังของทั้งสองไม่อาจสำแดงต่อหน้าคณะราชันยุทธ์เช่นพวกเขาได้
“ฉินหยุน เจ้ามีแผนการทำอย่างไรต่อหลังติดตั้งค่ายอาคมแล้ว?”
เชี่ยวเสวียนฉินถามผ่านเสียงสื่อสาร นางมีความมั่นใจระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงผ่อนคลายได้มาก
“หลังติดตั้งค่ายอาคม ข้าจะเก็บภูเขาผลึกแก้วนี้ใส่อุปกรณ์วิเศษเก็บของ!” ฉินหยุนหัวเราะตอบกลับไป
“ว่าอะไร? เจ้ามีอุปกรณ์วิเศษเก็บของใหญ่โตเพียงนี้?” เชี่ยวเสวียนฉินเผยอาการตื่นตะลึง
“ข้าย่อมมี!”
ไข่มุกเม็ดแรกของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน มันมีมิติภายในที่กว้างใหญ่ ทุกครั้งที่ระดับการฝึกฝนของเขาเพิ่ม ขนาดของมันก็ใหญ่ขึ้นทุกครั้ง
ทางด้านไข่มุกเม็ดที่สองก็เป็นเช่นเดียวกัน มิติภายในสามารถเติบโตขึ้นได้ทีละน้อย
ตอนนี้ มีแต่ไข่มุกเม็ดที่สามซึ่งถูกเหยาเฟิงผู้ลึกลับครอบครองไว้
ฉินหยุนเองก็คิดถามต่อเชี่ยวเสวียนฉิน ว่านางมีโอกาสได้รู้จักหรือมีเบาะแสข้องเกี่ยวกับเหยาเฟิงอันใดบ้างหรือไม่หลังจบเรื่องราว
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม อาคมธงจึงติตตั้งแล้วเสร็จ
อาคมธงเหล่านี้ล้วนว่างเปล่า พวกมันหาได้มีอักขระใดแกะสลักเอาไว้
บรรดาราชันยุทธ์ตรงหน้าไม่คิดถามอันใด เพราะพวกเขาล้วนเชื่อ ว่าธงเหล่านี้ไม่ใช่ธรรมดา
ฉินหยุนเมื่อตระเตรียมเรียบร้อย เขาจึงยืนที่ภายในค่ายอาคมพร้อมเชี่ยวเสวียนฉิน “ผู้อาวุโส โปรดคุ้มกันพวกเรา อย่าได้ให้ผู้อื่นเข้ามาแทรกแซงได้!”
ฉินหยุนกล่าวคำจบ ค่ายอาคมจึงเริ่มทำงาน
แสงสีทองมวลมหาศาลปรากฏก่อนจะเข้ากลืนกินทั้งภูเขาผลึกแก้ว
เชี่ยวเสวียนฉินร้อนรน กลุ่มคนด้านนอกเวลานี้ไม่อาจมองเห็นได้แล้วว่าภายในเกิดอันใดขึ้น
ฉินหยุนวางมือที่ภูเขาผลึกแก้ว เขาขมวดคิ้วกล่าว “ป้าเชี่ยว พลังจิตของข้าไม่แข็งแกร่งพอกักเก็บมันในอุปกรณ์วิเศษเก็บของ เจ้าสิ่งนี้ไม่ใช่ธรรมดา!”
หลิงหยุนเอ๋อเองก็มีพลังจิตไม่เป็นรองผู้ใด กระนั้นนางกลับไม่ลงมือใด
“ให้ข้าช่วยเจ้า!”
เชี่ยวเสวียนฉินวางมือของนางที่แผ่นหลังฉินหยุน ทำการถ่ายเทพลังจิตมหาศาลผ่านทางแผ่นหลัง ในพริบตา พลังจิตของฉินหยุนจึงแข็งแกร่งเพิ่มพูนยิ่งขึ้น
ไม่นานนัก มิติรอบด้านของภูเขาผลึกแก้วจึงเริ่มบิดเบี้ยว สุดท้ายแล้วมันจึงลดขนาดลงด้วยพลังมิติพิเศษของอุปกรณ์วิเศษเก็บของ!
ภูเขาผลึกแก้วในที่สุดก็เลือนหาย เชี่ยวเสวียนฉินแม้พบเห็นก็ยังคงมีอาการตระหนกตกใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
“ไปกัน!”
ฉินหยุนดึงมือเชี่ยวเสวียนฉิน ใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง ดำดิ่งลงสู่เบื้องลึกใต้พื้นดิน ก่อนจะออกไปพ้นจากที่นี่
พร้อมกันนี้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยและคณะต่างล่าถอย
ค่ายอาคมยังคงทำงาน มันปลดปล่อยแสงสีทองปกคลุมภูเขาผลึกแก้วต่อเนื่อง
บรรดาราชันยุทธ์ยังคงอยู่ที่ตรงนั้น สายตายังจับจ้องด้วยความคาดหวังเป็นล้นพ้น