ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0728 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0730 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0729 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 729 : ประโยชน์ของอุปกรณ์

สุ่ยเทียนสื่อมีโทสะ นางโพล่งเสียงดังตอบ “พวกเราหาได้ต้องการอาวุธใดไม่ ลำพังพวกเราก็จัดการสัตว์อสูรดวงดาวนั่นได้! ไป!”

เชี่ยวเสวียนฉินมีโทสะไม่ต่างกัน “ภายหน้าเมื่อใดพวกมันพัง พวกเจ้ายังจะทำอะไรได้? ช่างกล้าอวดดีอย่างไม่รู้จักตน! ลำพังข้ามือเปล่าก็แข็งแกร่งกว่าพวกเจ้า!”

ต้นไม้ต้องมีเปลือกไม้ ผู้คนก็มีหน้าตาต้องรักษา!

เชี่ยวเสวียนฉินและคณะ ผู้ซึ่งถูกสองสตรีทรงเสน่ห์กล่าวยั่วยุ จนถึงตอนนี้จึงระเบิดโทสะออก พวกนางเวลานี้ค่อนข้างค้นแข้นอย่างแท้จริง

สุ่ยเทียนสื่อ เชี่ยวเสวียนฉิน และสื่อชิงเฉิงต่างเร่งรีบพุ่งลงพื้นอย่างดุดันในพริบตา

ด้วยพลังอันเหนือล้ำ พวกนางกวาดล้างสัตว์อสูรตัวยักษ์กว่าสามสิบเมตรบนพื้นดิน

พละกำลังที่พวกนางเผย ทำเอาพวกหวังเหลียงเห่าจากสำนักเซียนแห่งแคว้นสวรรค์ดวงตะวันต้องตื่นตะลึง!

สัตว์อสูรดวงดาวตัวนั้นมีแต่เกล็ดเกราะอัดแน่น ขนาดของมันค่อนข้างใหญ่โต นั่นหมายความถึงมันทรงพลังยิ่ง

เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรดวงดาวขนาดใหญ่ยักษ์ ทั้งยังเอาชนะมันได้ด้วยมือเปล่า นี่หมายความถึงพลังอำนาจเป็นล้นพ้น

“น้องเล็ก ลงมา!” เชี่ยวเสวียนฉินตะโกนดังขึ้น

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยนำฉินหยุนลงไป

เชี่ยวเสวียนฉินเรียกเชี่ยวเย่ว์เหม่ยลงมา เพราะพวกนางทั้งสามมีมิติเก็บของไม่มากพอ ดังนั้นจึงได้แต่ต้องหยิบยืมของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย

“ส่งสัตว์อสูรดวงดาวนั่นมาครึ่งหนึ่ง!” สตรีคางแหลมตะโกนดังขึ้น “พวกเราพบเจอพวกมันร่วมกัน ดังนั้นย่อมต้องแบ่งอย่างเท่าเทียม!”

“แบ่งให้แก่บรรพบุรุษเจ้า!” เชี่ยวเสวียนฉินสบถออกอย่างมีโทสะ “หากเจ้ากล้ากล่าวแม้อีกครึ่งคำ เชื่อหรือไม่ ว่าข้าจะตบคางของเจ้าที่ยื่นออกจนมันเบี้ยวได้!”

“เจ้า... อวดดีนัก!” สตรีคางแหลมมีโทสะ นางตะโกนดัง “หากกล้าจงเข้ามา! อาจารย์ข้าอยู่เทือกเขานิราศจันทราแห่งนี้ หากเจ้ากล้า ชะตาเจ้าคือความตาย!”

“ทางที่ดีจงส่งมอบสัตว์อสูรดวงดาวตนนั้น ไม่อย่างนั้นแล้ว เมื่อใดอาจารย์พวกเรามาถึง ชะตาเจ้าย่อมจบไม่สวย!” สตรีอีกหนึ่งที่เหลือแค่นเสียงกล่าวคำดัง

หวังเหลียงเห่ากระแอมไอแห้ง “แม่นางเชี่ยว ท่านสมควรแบ่งสัตว์อสูรดวงดาวนั้นครึ่งหนึ่ง! อย่างไรแล้วตัวมันก็ใหญ่ยิ่ง แม้แบ่งครึ่งกับพวกเราก็ยังเหลืออีกมาก!”

ชายอีกสองคนต่างเผยสีหน้าเด่นชัดว่าต้องการให้แบ่งอย่างเท่าเทียม

ระหว่างทาง ชายทั้งสามจากสำนักเซียนได้ตระหนักแล้ว ว่าพวกเชี่ยวเสวียนฉินไม่มีเยื่อใยใดให้ อีกฝ่ายไม่ใช่เล่นด้วยง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงยอมปล่อยมือ

กระนั้นตอนนี้ หากมีโอกาสได้แบ่งร่างสัตว์อสูรดวงดาวอย่างเท่าเทียม พวกเขาจะได้ผลประโยชน์กันก้อนใหญ่

ฉินหยุนพบว่าเรื่องราวแปลกประหลาด เพราะในสายตาของเขา สัตว์อสูรดวงดาวตัวนี้หาได้มีค่าอันใดไม่

เป็นเขาได้เข้าใจ ว่าเชี่ยวเสวียนฉินและคณะข้นแค้นอย่างแท้จริง

แม้พวกนางกล่าวว่ามาจากเกาะจันทราปีศาจ กระนั้นก็อับอายที่จะไปยังที่นั่น

พวกนางล้วนเป็นยอดยุทธ์ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ หากต้องเผยความข้นแค้นออกไป พวกนางเกรงว่าจะกลายเป็นขบขัน

ด้วยเหตุนี้ เชี่ยวเสวียนฉินจึงคิดสู้เพื่อให้ได้มาด้วยตนเอง!

เชี่ยวเสวียนฉินหัวเราะเสียงเย็น “ข้าย่อมไม่ให้ พวกเจ้าจะทำอันใดได้?”

“หากเจ้าไม่ให้ เช่นนั้นจงตาย!” สตรีคางแหลมคำรามกราดเกรี้ยว ดาบยาวของนางเสียดแทงออกซึ่งหน้า

กระนั้น ขณะนางพุ่งทะยานไป เชี่ยวเสวียนฉินพลันหลบ!

นอกจากนี้แล้ว นางยังเคลื่อนตัวไปข้างกายสตรีคางแหลมพร้อมตบหน้ารุนแรง

“สวะ! เจ้าคิดสังหารข้าหรือ? ฝันเฟื่อง!” เชี่ยวเสวียนฉินหัวเราะดังก่อนจะตบอีกฝ่ายหลายครั้งครา

ถึงตอนนี้เอง การศึกจึงปะทุขึ้น

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่ใช่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ ดังนั้นนางจึงได้แต่รับชมอยู่ไกลห่าง

“หวังเหลียงเห่า ข้าขอเตือนพวกเจ้า อย่าได้หลงมัวเมาในตัวพวกมัน สังหารพวกมันเหล่านี้เสีย! ไม่เช่นนั้น ข้าจะเปิดโปงว่าพวกเจ้าทำอันใดเอาไว้บ้าง!” สตรีคางแหลมตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว “สังหารพวกมันให้หมด!”

เสียงหัวเราะชั่วร้ายจากอีกฝ่ายจึงดังขึ้น “อย่างนั้นไว้ข้าค่อยเล่นกับศพพวกนางก็ไม่มีปัญหาใดใช่หรือไม่?”

“ย่อมได้!” สตรีคางยาวพอได้ฟังเช่นนี้ นางจึงหัวเราะโฉดชั่วดังขึ้น

เชี่ยวเสวียนฉินยิ่งมีโทสะเป็นล้นพ้น!

สื่อชิงเฉิงและคณะต่างเป็นเพียงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับต้น ทว่าทางด้านศิษย์สำนักเซียนของแคว้นสวรรค์ดวงตะวัน ล้วนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับกลาง นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังมีชุดเกราะลึกล้ำ

พวกนางเพียงสาม คิดรับมือกับคนทั้งห้าถือเป็นเรื่องยากเย็นเกินไป

ฉินหยุนส่งปืนใหญ่ราชันลึกล้ำพร้อมลูกกระสุนปืนใหญ่แก่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยอย่างเงียบงัน

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยย่อมทราบวิธีใช้ปืนใหญ่ราชันลึกล้ำ จากระยะไกล นางยกปืนใหญ่ราชันลึกล้ำขึ้นเตรียมพร้อมยิงออก

กระนั้น กลุ่มสามคนของสื่อชิงเฉิงกลับเริ่มเปิดศึกต่อหวังเหลียงเห่าและคณะไปแล้ว

“ให้ข้าบดขยี้นางเด็กน้อยนั่น!” สตรีไว้ผมทรงซาลาเปาหัวเราะชั่วร้ายกล่าวคำ “ข้าต้องการนางนั่นมาเป็นข้าทาส!”

เชี่ยวเสวียนฉินและคณะต่างร้อนใจ กระนั้นพวกนางไม่อาจปลีกตัว จึงได้แต่หวังให้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหลบหนีได้เร็วพอ

“เข้ามาเองหรือ วิเศษนัก!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเมื่อครู่ยังเป็นกังวล ว่าเป้าหมายอยู่เป็นกลุ่มทำให้ไม่อาจเล็งได้

สตรีผมซาลาเปาเมื่อเข้ามาใกล้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงยิงปืนใหญ่ออก

ตู้ม!

กระสุนปืนใหญ่ยิงออกแม่นยำเข้าปะทะร่างอีกฝ่าย อัคคีเพลิงระเบิดลุกท่วมกลางอากาศ คลื่นความร้อนรุนแรงแผดเผาแผ่กระจายลงไปยังพื้นดิน

ต้นไม้และพื้นดินบริเวณใกล้เคียงมอดไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านลุกท่วมด้วยอัคคีเพลิง มันเปรียบดังเทศกาลดอกไม้ไฟที่มีสะเก็ดไฟกระจายทั่วสารทิศ

“พี่ชาย เจ้านี่ใช้งานง่ายนัก!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวชื่นชมไม่จบไม่สิ้น “หากท่านมีเวลา ช่วยสร้างให้แก่ข้าสักกระบอกหนึ่งแล้ว!”

ฉินหยุนเดิมมีแก่นเต๋าจำนวนมาก แต่ด้วยเพราะฝึกฝนร่างเซียนอสูร ทำให้เขาใช้พวกมันไปแทบหมดสิ้น

ตอนนี้ กระสุนปืนใหญ่ที่ใช้งาน เป็นของที่เขาสร้างขึ้นไว้แต่แรก

“เร่งรีบฉีกกระชากนางเด็กนั่นเป็นชิ้นให้ข้า!”

สตรีผมทรงซาลาเปาซึ่งถูกเผาร่างด้วยแรงระเบิด นางคล้ายก้อนถ่านที่ผุดขึ้นจากพื้นพร้อมคำราม!

โทสะของนางเผยผ่านน้ำเสียง ราวกับคิดอยากแยกฟากฟ้าออกจากกันเพื่อคิดสังหารอีกฝ่าย

สื่อชิงเฉิงและคณะค่อยวางใจ พวกนางทราบ ว่าอุปกรณ์ลึกล้ำในมือเชี่ยวเย่ว์เหม่ยทรงอำนาจเพียงใด

โดยเฉพาะสื่อชิงเฉิง นางจดจำได้อย่างรวดเร็ว ว่านั่นคือปืนใหญ่ราชันลึกล้ำที่ฉินหยุนสร้างขึ้น ย้อนกลับไปตอนนั้น เป็นนางที่ช่วยเหลืออีกฝ่ายสร้างขึ้นมา

สตรีคางแหลมเมื่อพบเห็นปืนใหญ่ราชันลึกล้ำในมือเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ดวงตาของนางเผยความละโมบออกจนเร่งรีบบินทะยานเข้าไป

“เด็กน้อย เจ้าไม่อาจโจมตีข้าโดน!” สตรีคางแหลมหลบเลี่ยง นางเผยยิ้มชั่วร้าย “คราวนี้จงมาเป็นนางทาสแก่ข้า!”

ไม่นานหลังนางหลบลูกปืนใหญ่พ้น เชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงโยนยันต์สะกดกายออกไป!

สตรีคางแหลมนิ่งงัน ยันต์สะกดกายสามารถทำให้ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำชะงักได้หนึ่งหรือสองวินาที ทว่านั่นก็เพียงพอให้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้โจมตีแล้ว

ครั้งนี้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยิงกระสุนปืนใหญ่ต่อเนื่องสองนัด!

สตรีที่บินเข้ามา ไม่เพียงร่างถูกเผาไหม้ดำเป็นเถ้าถ่าน แต่ยังมีบาดแผลหลายแห่งซึ่งถูกเผาไหม้ตามร่างกาย

“ยันต์สะกดกาย!” หวังเหลียงเห่าเผยความหวาดกลัว “เร่งรีบถอย!”

ชายอีกสองเร่งรีบจากไปพร้อมสตรีทั้งสองที่ร่างดำเป็นก้อนถ่าน

อัคคีเพลิงยังคงปกคลุมรอบ ทั้งหมดเป็นผลจากกระสุนปืนใหญ่

เชี่ยวเสวียนฉินและคณะกลับมาด้วยสภาพย่ำแย่ พวกนางมองปืนใหญ่ราชันลึกล้ำในมือเชี่ยวเย่ว์เหม่ยอย่างนึกอิจฉา

“ฉินหยุนมอบให้เจ้าหรือ?” สื่อชิงเฉิงยิ้มถาม “ข้าเป็นคนช่วยเขาสร้างมันขึ้นมาเอง!”

“ข้าบอกพี่ชายว่าจะมาที่นี่ ด้วยเป็นห่วงเขาจึงให้หยิบยืมสิ่งของมา!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะรับ “นี่ช่างยอดเยี่ยม! ของสิ่งนี้จัดการพวกมันได้อยู่หมัดนัก!”

สุ่ยเทียนสื่อมองอย่างนึกอิจฉา “เมื่อใดกลับไป ข้าคงต้องไปพบเจอน้องหยุน ขอให้เขาช่วยสร้างอุปกรณ์ลึกล้ำทรงอำนาจแก่ข้าบ้างแล้ว!”

“หากข้าทราบแต่แรก คงไปพบเขาก่อนมาแล้ว!” สื่อชิงเฉิงถอนหายใจเบา

แม้เชี่ยวเสวียนฉินไม่พูดกล่าว ทว่าภายในใจ นางคิดอยากครอบครองสิ่งของที่ดีเช่นนี้บ้าง

ก่อนหน้านี้ หากพวกนางมีชุดเกราะและอาวุธที่ดี พวกนางจะสังหารคนทั้งห้าได้ในเวลาเพียงอึดใจ

“มุ่งหน้าไปกันต่อ!” เชี่ยวเสวียนฉินกล่าว

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยินดียิ่ง เพราะฉินหยุนเปรียบดังคลังเก็บยุทโธปกรณ์เคลื่อนที่ ทั้งยังอยู่ข้างกายนาง ดังนั้นนางไม่มีทางขาดแคลนสิ่งของให้ใช้งาน

“พี่ชาย ท่านป้าต้องการของดีเช่นนี้ยิ่งนัก! ดูเหมือนท่านจะมีโอกาสได้ไกล่เกลี่ยกับนางแล้ว!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุนพลางหัวเราะ “พี่สุ่ยเองก็คล้ายต้องการอุทิศชีวิตให้แก่ท่าน การที่ท่านทราบวิธีสร้างสิ่งของนี้ช่างดียิ่งนัก!”

พวกนางไม่ได้บินกันนานนัก เพราะอย่างกะทันหัน มันปรากฏออร่าของราชันยุทธ์หลายคนพุ่งมาจากทางด้านหลัง!

“ราชันยุทธ์ หรือเป็นอาจารย์ของเจ้าพวกนั้น?” เชี่ยวเสวียนฉินสบถเสียงเบา “ต้องเพิ่มความเร็ว สลัดพวกมันให้พ้น!”

ตอนนี้เป็นเวลาค่ำคืน ฉินหยุนสามารถนำคนกลุ่มนี้หลบซ่อนในความมืด หลบเลี่ยงการไล่ล่าของกลุ่มราชันยุทธ์ได้

กระนั้น เขาเกรงว่าเชี่ยวเสวียนฉินจะทราบเรื่อง ดังนั้นเขาจึงได้แต่ตามหลังเพื่อรับชมสถานการณ์ต่อไปอย่างเงียบงัน

กลุ่มคนทางด้านหลัง อย่างไรก็แค่ราชันยุทธ์

ฉินหยุนสงบใจได้ เพราะเขายังคงมีไพ่ตายอย่างจอมราชันดวงดาวอสูร

“เย่ว์เหม่ย หรือข้าควรเผยตัวตนเสียตอนนี้? ข้าสามารถพาพวกนางหลบซ่อนตัวได้! พวกเราจะหลบพ้นจากราชันยุทธ์กลุ่มนั้นง่ายดาย!” ฉินหยุนส่งเสียงสื่อสารถามต่อเชี่ยวเย่ว์เหม่ย

“รอก่อน! สถานการณ์ยังไม่อันตราย เมื่อใดถึงเวลา ท่านค่อยลงมือ! เช่นนี้ท่านป้าจะได้ไม่กล้าทำอะไรท่าน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะคิกคักกล่าว

“เช่นนี้ ภายหลังนางย่อมต้องโกรธ บอกมาว่าทำไมข้าไม่ควรลงมือเสียแต่ตอนนี้?” ฉินหยุนกังวล

“เมื่อใดถึงเวลา ข้าจะช่วยให้ท่านยืนเคียงข้างนาง!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว

ราชันยุทธ์เหล่านั้นรวดเร็วยิ่ง หากเป็นแบบนี้ต่อ พวกเขาจะไล่ตามทันในไม่ช้า

“ลงกันก่อน!” เชี่ยวเสวียนฉินร้อนรนดังไฟเผา นางกังวลว่าจะถูกราชันยุทธ์เหล่านั้นจับตัว

นางกล่าวโทษตนเอง หากไม่พบเจอหวังเหลียงเห่า เรื่องราวเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้น

หากพวกนางถูกจับตัวได้ สื่อชิงเฉิง สุ่ยเทียนสื่อ และเชี่ยวเย่ว์เหม่ยต้องตกอยู่ในอันตราย

เวลานี้ นางนึกเสียใจ กล่าวโทษตนเองอยู่ภายในเป็นล้นพ้น

แม้ร่อนลงในป่าหลบซ่อนออร่า กระนั้นก็ต้องหลบเลี่ยงต้นไม้มากมาย ความเร็วมีแต่จะลดทอนลงไป

ราชันยุทธ์ที่ติดตามมา ย่อมสามารถแกะรอยจากเศษเสี้ยวออร่าที่พวกนางหลงเหลือไว้

เวลานี้ คนกลุ่มนั้นมีแต่ต้องร่อนลงมาในป่า เพื่อตามรอยเชี่ยวเสวียนฉินและคณะต่อไป

“เย่ว์เหม่ย ชิงเฉิง เทียนสื่อ พวกเจ้าไปก่อน ข้าจะรั้งท้ายจัดการราชันยุทธ์พวกนั้น พวกเราค่อยติดต่อหากันภายหลัง!” เชี่ยวเสวียนฉินพลันกล่าวขึ้น

“นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? ลำพังท่านไม่อาจรับมือพวกมัน!” สื่อชิงเฉิงเร่งรีบร้องบอก

“เสวียนฉิน อย่าได้แสร้งเป็นกล้าหาญในเวลาเช่นนี้!” สุ่ยเทียนสื่อทราบถึงกำลังของเชี่ยวเสวียนฉินเป็นอย่างดี

“ข้าจะใช้เคล็ดวิชาลับกระตุ้นพลังขึ้นมา คิดว่าคงถ่วงไว้ได้ชั่วระยะหนึ่ง อย่าได้เป็นห่วงข้าไป!” เชี่ยวเสวียนฉินกล่าว “เป็นความผิดข้าเอง ข้าไม่ควรเข้าไปพูดคุยกับหวังเหลียงเห่า พวกเจ้านำหน้าไปก่อนได้แล้ว!”

ทันใดนี้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงส่งเสียงบอกต่อฉินหยุน “พี่ชาย ท่านป้าหาได้มีเคล็ดวิชาลับดังที่กล่าวอ้างไม่ เป็นนางคิดเสียสละตนเอง ท่านมั่นใจว่าสามารถช่วยนางได้หรือไม่?”

“ไม่มีปัญหา!” ฉินหยุนตอบรับ

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงหันไปกล่าวต่อเชี่ยวเสวียนฉิน “ท่านป้า ข้าจะทิ้งหุ่นเชิดนี้ไว้ช่วยท่าน!”

“ดี!” เชี่ยวเสวียนฉินพยักหน้ารับ

สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ มีแต่ต้องเชื่อมั่นในเชี่ยวเสวียนฉิน เพราะพวกนางทราบ  เชี่ยวเสวียนฉินคือเซียนในชาติภพก่อนหน้า

เชี่ยวเสวียนฉินหยุดฝีเท้า สายตามองไปยังทิศทางซึ่งราชันยุทธ์เหล่านั้นกำลังบินมา ราวกับนางคิดเผชิญหน้าต่อความตาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด