ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0725 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0727 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0726 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 726 : สอนสั่งบทเรียน

ฉินหยุนไม่หวาดเกรงใดต่อคนกลุ่มคน เขาแค่นเสียงตอบกลับ “เหตุใดข้าจึงต้องไสหัวไป? เพียงกลุ่มชนชั้นสวะเช่นพวกเจ้า คิดหรือว่าจะพอให้ข้าต้องไป?”

“เจ้ามันเพียงลำพัง ขณะพวกเราอยู่กันมากมาย หากติดตามเราไป นั่นไม่ใช่การเอาเปรียบต่อพวกเราหรืออย่างไร?” น้องชายคนหนึ่งของนายน้อยตระกูลเยี่ยตะโกนดัง “พวกเราบอกเจ้าให้จากไปอย่างมีมารยาทแล้ว เพราะพวกเราต้องการไว้หน้าแก่นายหญิงน้อยหลง ไม่เช่นนั้น ขาเจ้าคงหักนอนนิ่งที่นี่ไปแล้ว!”

เพื่อแสดงความอหังการต่อหน้าลูกพี่ มิตรสหายน้องชายเหล่านี้จึงเผยความอวดดีได้เพียงนี้

“เหอะ จะบอกว่าพวกเจ้ามีมากแล้วแข็งแกร่งอย่างนั้นหรือ? น่าขัน!” ฉินหยุนหัวเราะดัง “กลุ่มสวะเช่นพวกเจ้า แม้มีสักสิบคน ก็ไม่อาจเอาชนะข้าได้!”

“สิบงั้นหรือ? เจ้าให้ค่าตนเองสูงเกินไปแล้ว เพียงมือเดียวข้าก็เอาชนะเจ้าได้!” น้องชายคนหนึ่งของนายน้อยตระกูลเยี่ยนำหอกยาวออกมาพุ่งแทงใส่ฉินหยุน คลื่นอากาศทะลักล้นจากกายเขาเกิดเป็นสายลมรุนแรงวูบหนึ่ง

สายลมพัดเข้าหาทั้งฉินหยุน เชี่ยวเย่ว์เหม่ยที่อยู่ใกล้เคียงเผยอาการร้อนใจกล่าวเกลี้ยกล่อมไม่ให้ต่อสู้

ผู้คนที่นี้ล้วนไม่สนคำเกลี้ยกล่อมของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย พวกเขาเพียงแต่เชื่อฟังลูกพี่ของตนเองเท่านั้น

“นายหญิงน้อยหลง ชายผู้นี้อหังการอวดดีเกินไป ให้ข้าสอนสั่งแก่มันสักบทเรียนจะได้หลาบจำ ภายหน้าจะได้ไม่สร้างปัญหาให้แก่ผู้อื่น!” นายน้อยเยี่ยหัวเราะกล่าว “ท่านเพียงรับชม มันก็แค่ไก่อ่อนตัวหนึ่ง คิดเอาชนะน้องชายข้านั้นไม่อาจทำได้แน่!”

ขณะน้องชายของนายน้อยเยี่ยพุ่งทะยานออก หอกในมือเล็งเป้าที่ลำคอของฉินหยุน การลงมือครั้งนี้เจตนาสังหารอย่างชัดเจน

เขากล้าอวดดีได้เพียงนี้ ทางหนึ่งก็เพราะเป็นที่ชื่นชอบของนายน้อยเยี่ย และอีกทางหนึ่ง เขาอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้น ด้วยสัมผัสถึงออร่าของฉินหยุน เขาพบว่าตนสามารถเอาชนะอีกฝ่ายแม้มีระดับการฝึกฝนสูงกว่าได้

ผู้คนล้วนทราบถึงความแข็งแกร่งของน้องชายนายน้อยเยี่ยผู้นี้อย่างดี พวกเขาล้วนคิด ว่าถึงคราวฉินหยุนจบสิ้นแล้ว!

ยามเมื่อหอกเสียดแทงออกด้านหน้า ฉินหยุนพลันคว้าปลายหอกเอาไว้ เปลวเพลิงทะลักล้นออกจากฝ่ามือทำการหลอมละลายปลายหอกในพริบตา

“ข้าบอกไปแล้ว พวกเจ้าล้วนเป็นสวะ กระนั้นก็ยังไม่เชื่อข้าอย่างนั้นหรือ? ดูเหมือนข้าคงมีแต่ต้องให้ได้เห็นกับตา!” ฉินหยุนแค่นเสียงดังขึ้น หลังคว้าปลายหอกเอาไว้ได้ หมัดเขาต่อยพุ่งตรง หมัดนี้ไม่แม้สัมผัสกับชายหนุ่ม กลับเป็นพลังปะทุจากหมัดที่เบิกผ่านร่างชายหนุ่ม ทำการบดขยี้ป่นแก่นเต๋าอีกฝ่ายออกเป็นชิ้น

ตึง!

น้องชายนายน้อยเยี่ยร่างกระเด็นปะทะต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะร่วงหล่นร่างกองกับพื้นกระอักเลือดออกคำโต

ชายวัยกลางคนเร่งรีบพุ่งเข้าไปตรวจสอบอาการ สีหน้านั้นกลับกลายเป็นน่าเกลียด!

“แก่นเต๋าแตกสลาย!”

ยามผู้คนได้รับฟัง เสียงอึกทึกจึงบังเกิด

นี่ไม่ใช่เพราะพวกเขาตื่นตะลึงต่อกำลังของฉินหยุน แต่เป็นเพราะพวกเขามองว่าอีกฝ่ายหาญกล้าจนเกินไป ถึงขั้นทำร้ายน้องชายนายน้อยเยี่ยจนพิการต่อหน้า!

“เจ้าผู้แซ่มู่หรง เจ้าโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!” นายน้อยเยี่ยคำรามด้วยโทสะ เดิมเขาคิดอยากร่วมมือกับนายน้อยผู้อื่นสอนสั่งบุตรหลานตระกูลมู่หรง หวังจะได้หยามเหยียดอีกฝ่ายสักฉากหนึ่ง

ทว่าพวกเขาไม่คาดคิด ว่าเรื่องราวใหญ่โตจะบังเกิดขึ้นเช่นนี้

“โหดเหี้ยมหรือ? เป็นมันคิดแทงใส่ลำคอข้า!” ฉินหยุนแค่นเสียงกล่าว “นายน้อยเยี่ยใช่หรือไม่? เจ้าจึงเป็นคนที่ปฏิเสธไม่มองถึงความเป็นจริง ตัวเจ้ามีกำลัง กระนั้นกลับส่งน้องชายขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้นมาจัดการข้า เป็นเจ้าที่ส่งมันมาตาย!”

ฉินหยุนกล่าวจนเป็นผลให้นายน้อยเยี่ยตกสถานการณ์ยากลำบาก หากเขาไม่ทำอะไรเสียเดี๋ยวนี้ ผู้ใต้บัญชาทั้งหลายย่อมสงสัยในกำลังของเขา

“ผู้แซ่มู่หรง จงเร่งรีบคุกเข่าขอขมาต่ออาหยวนหนึ่งร้อยครั้ง! จากนั้นคิดไสหัวไปที่ใดจงไป มีแต่ทำเช่นนี้พวกเราจึงจะปล่อยเจ้ารอดพ้น! หากไม่ใช่เพราะไว้หน้าแก่นายหญิงน้อยหลง ชะตาเจ้าคือต้องเป็นคนตายอยู่ที่นี่!” นายน้อยเยี่ยกล่าวคำเสียงเย็นเยือก

“ลูกพี่เยี่ยของเราครอบครองวิญญาณยุทธ์หมีทองม่วง ในนครจันทราโกลาหล เขาคืออาจารย์ยุทธ์ผู้เลิศล้ำแห่งขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลาง!”

“ผู้แซ่มู่หรง เร่งรีบโขกหัวขอขมาต่ออาหยวน ยอมรับความผิดของเจ้า ไม่เช่นนั้น เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้มีชีวิตรอด!”

“หากไม่ใช่เพราะเมตตาจากนายหญิงน้อยหลงที่ไม่ชื่นชอบการเห็นผู้คนตกตาย เจ้าสมควรถูกลูกพี่เยี่ยสังหารไปแล้ว!”

“ยังยืนเฉยทำบ้าอะไร? เร่งรีบม้วนตัวโขกหัวแก่อาหยวนแล้วไสหัวไปได้แล้ว!”

บรรดาผู้ใต้บัญชาของนายน้อยเยี่ยต่างตะโกนอย่างเดือดแค้น

กลุ่มของนายน้อยผู้อื่นเพียงแต่รับชมจากด้านข้าง แม้พวกเขาไม่ยินดีกับคนของตระกูลมู่หรงผู้นี้เท่าใดนัก กระนั้นพวกเขาไม่ใช่โง่ พวกเขารับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่ล้อเล่นด้วยได้

“กลุ่มสุนัขที่ดีแต่เห่าหอน หากหาญกล้าจงเข้ามาสังหารข้าเสียที่นี่! กลุ่มชนชั้นสุนัขสวะเช่นพวกเจ้า ก็ดีแต่เห่าหอนผายลมออกมา!” ฉินหยุนหัวเราะดัง “กลุ่มสวะเช่นพวกเจ้าไม่อาจทำอื่นใด เพียงแต่ยกตนข่มท่านโดยที่ไม่มีดีอะไรให้ยก!”

นายน้อยเยี่ยยิ่งมีโทสะ เขาตะโกนดัง “อย่าได้ว่าร้ายผู้ใต้บัญชาข้า! ให้ข้าลงมือสังหารเจ้าเสียเดี๋ยวนี้!”

พูดกล่าวจบ ร่างนายน้อยเยี่ยจึงเผยร่างมายาหมีทองม่วงขนาดใหญ่ขึ้น ราวกับเขาเป็นหมีพิโรธคลุ้มคลั่ง ร่างนั้นพุ่งทะยานมา พื้นดินสั่นสะเทือน เสียงคำรามดังจนเป็นผลให้เส้นขนผู้คนชี้ตั้ง

นายน้อยเยี่ยพุ่งทะยานใส่ มือนั้นเปรียบดังอุ้งตีนหมีขนาดใหญ่ยักษ์คิดเข้าตะปบใส่ฉินหยุน พละกำลังอีกฝ่ายถึงขนาดทำพื้นดินจมลึกหลายเมตรเกิดเป็นหลุมมากมาย

“ด้วยกำลังอันน้อยนิดของเจ้า ยังกล้ากล่าวว่าจะสังหารข้าอีกหรือ?” ฉินหยุนมองฝ่ามือที่เข้ามาอย่างเชื่องช้า เขาเพียงผลักฝ่ามือออก พลังสั่นไหวภายในหมัดส่งผลให้แขนที่พุ่งเข้ามาใกล้ต้องระเบิดจนเลือดทะลัก

ต้องทราบว่าฉินหยุนตอนนี้คือขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูง ทว่าที่ผู้คนหมิ่นประมาทต่อเขา ก็เพราะเขาจงใจเผยออร่าออกมาเพียงแค่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลาง

ที่นี่หาได้มีขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูงไม่ ดังนั้นฉินหยุนถือว่าไร้เทียมทานที่นี่!

แขนนายน้อยเยี่ยระเบิดออกเป็นหมอกโลหิตกลุ่มก้อนหนึ่งกระจายทั่วทิศ หยาดเลือดที่สาดกระเซ็นออกเป็นผลให้บรรดาน้องชายผู้ใต้บัญชาต้องสั่นกลัวสันหลังเย็นเยือก

ลูกพี่เยี่ยซึ่งพวกเขานับถือบูชา แท้จริงอ่อนแอถึงเพียงนี้ แขนข้างหนึ่งถึงกับสิ้นสภาพได้ในพริบตา!

นายน้อยเยี่ยผู้นี้เดิมคิดอยากสำแดงกำลัง แต่แล้วเมื่อรับรู้ถึงออร่าทรงอำนาจตอบโต้สวนกลับคืน เขากลับกลายเป็นหวาดกลัวจนขาสั่น

“นายน้อยเยี่ย ไม่ใช่ท่านแข็งแกร่งนักหรอกหรือ?” ฉินหยุนแค่นเสียงเย้ยหยัน

“ข้า... ข้า... ท่านลุงมู่หรงโปรดละเว้นข้า!” นายน้อยเยี่ยคุกเข่ากับพื้นโขกคำนับอีกฝ่าย

ผู้คนต่างตื่นตะลึง นายน้อยเหล่านี้ปกติทำตัวอหังการอวดดี กระนั้นเวลานี้กลับคุกเข่าขอเมตตาจากอีกฝ่าย!

“ข้า ด้วยเพราะเป็นคนมีคุณธรรม ย่อมไม่เอาความกับคนหลงผิด ดังนั้นครั้งนี้ข้าจะยอมเห็นแก่หน้านายหญิงน้อยหลงปล่อยเจ้าไป!” ฉินหยุนหัวเราะเสียงดังก่อนจะเดินไปทางเชี่ยวเย่ว์เหม่ย

ทันใดนี้ นายน้อยเยี่ยผู้มีโทสะเปี่ยมล้น ฉับพลันนำกระบอกออกมาบ้องหนึ่งพ่นเข็มพิษออก ทันทีเมื่อเข็มสีดำปรากฏ ผู้คนต่างรับรู้ว่าฉินหยุนย่อมต้องตายแน่นอนแล้ว

เพราะฉินหยุนกำลังหันหลังให้แก่นายน้อยเยี่ย!

“ระวัง!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว ร่างงดงามของนางเผยแสงวูบปรากฏตัวด้านหลังฉินหยุน นางสะบัดแขนเสื้อส่งเข็มพิษเหล่านั้นลอยกลับไปปักเข้าที่ลำคอของนายน้อยเยี่ย

นายน้อยเยี่ยเมื่อต้องถูกพิษ ผิวหนังจึงเริ่มเน่าเปื่อยจนทำให้ผู้พบเห็นหวาดกลัว

ผู้คนล้วนกายแข็งทื่อ พวกเขาไม่คาดคิด ว่าสตรีผู้งดงามตรงหน้า จะถึงขั้นครอบครองเคล็ดวิชาเคลื่อนไหวอันเลิศล้ำ นางถึงขั้นสามารถปัดป้องอาวุธลับได้อย่างง่ายดาย

นายน้อยเยี่ยตายตก ผู้คนต่างหวาดกลัวกันถ้วนหน้า!

โดยเฉพาะกับบรรดานายน้อยผู้อื่น ก่อนหน้าพวกเขาเพิ่งสนทนากันอย่างสนุกสนานร่วมกับสตรีในตำหนักจารึกเทวะ พวกเขาย่อมไม่คาดคิด ว่าสตรีผู้มากมารยาทงดงามตรงหน้าจะแข็งแกร่งได้เพียงนี้

นายน้อยจีขมวดคิ้วกล่าว “นายหญิงน้อยหลง ท่านสังหารนายน้อยเยี่ย ตระกูลเยี่ยย่อมไม่ปล่อยท่านไป! หากตบแต่งกับข้า เช่นนั้นจึงค่อยอยู่รอดปลอดภัยได้!”

ฉินหยุนพลันหัวเราะ “นายน้อยจี เจ้าคล้ายให้ค่าตนเองไว้สูงล้ำยิ่งนัก เจ้าหรือจะคู่ควรกับนายหญิงน้อยหลง? นายหญิงน้อยหลงคืออาจารย์จารึกลึกล้ำ เป็นอัจฉริยะแห่งตระกูลหลง กระทั่งว่านางสังหารพวกเจ้าประหนึ่งมดปลวก ผู้อาวุโสเบื้องหลังพวกเจ้าก็ไม่คิดกล้าทำอันตรายใดแก่นาง!”

นายน้อยจีแค่นเสียงตอบกลับ “นายหญิงน้อยหลงอย่าได้ฟังคำของมัน! หากบรรดาผู้อาวุโสตระกูลเยี่ยทราบเรื่อง พวกเขาเหล่านั้นย่อมคิดจับตัวท่าน! ขอท่านกลับไปยังตระกูลจีร่วมกับข้า ตราบเท่าที่ตบแต่งกับข้า ตระกูลเยี่ยย่อมไม่กล้าทำอันตรายท่าน!”

“นายหญิงน้อยหลง เป็นเพียงท่านพลาดพลั้งสังหารนายน้อยเยี่ยไป! เพียงติดตามข้าไปหลบซ่อนที่ตระกูลเจียงก็พอแล้ว!” นายน้อยเจียงก้าวเดินเข้ามา ทั้งยังคว้ามือเชี่ยวเย่ว์เหม่ย กระนั้นเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลับหลบลี้

“เหอะ! ไม่นึกว่าจะดื้อรั้นเพียงนี้! เอาเถอะ อย่างไรวันนี้เจ้าก็หนีไม่รอดพ้น! ทุกคนล้อมสองคนนี้เอาไว้!” นายน้อยเจียงเผยรอยยิ้มชั่วร้าย “นายหญิงน้อยหลง ในเมื่อเจ้าได้รับสิ่งของล้ำค่าจากพวกเราไปมาก เช่นนั้นจงมาหลับนอนกับพวกเราสักหลายคืน นี่เป็นคำสั่ง หาได้ใช่คำบอกกล่าว!”

บรรดาผู้ใต้บัญชานายน้อยทั้งหลายต่างตั้งวงล้อม พวกเขาเหล่านี้เผยความคิดดุร้ายโฉดชั่วออกอย่างไม่ปิดบัง

นายน้อยเซียพลันหัวเราะชั่วร้ายขึ้นตอนนี้ “กับข้านั้นหลับนอนที่นี่ยังได้! ข้าชื่นชอบมีอะไรที่ภายนอกยิ่งนัก!”

ด้วยการกระทำของนายน้อยเหล่านี้พร้อมผู้ใต้บัญชา ฉินหยุนค่อยทราบว่าพวกเขาร่วมมือกันก่อเรื่องเช่นนี้บ่อยครั้งเพียงใด! เรื่องนี้ยิ่งทำเขาโกรธแค้นยามได้ยิน เพราะอีกฝ่ายถึงขั้นร่วมมือกันคิดจับเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอาไว้!

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะเบา “ในเมื่อพวกเจ้าชื่นชอบการหลับนอนมากนัก อย่างนั้นข้าจะส่งพวกเจ้าไปหลับนอนชั่วนิรันดร์!”

หลังกล่าวคำจบ ดาบยาวจึงปรากฏในมือขาวงดงามของนาง พร้อมจ้วงแทงเข้าใส่ศีรษะของนายน้อยเจียง

พร้อมกันนี้ ฉินหยุนได้ปลดปล่อยมีดบินออกมา!

วูบ วูบ วูบ!

มีดบินร่ายรำไปทั่ว พวกมันทิ่มแทงใส่ร่างและศีรษะของกลุ่มคนพรากเอาชีวิตเหล่านั้นไปอย่างรวดเร็ว

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยย่อมใช้พลังจิตควบคุมดาบยาวเช่นกัน พวกมันแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงอันเย็นเยือก มาพร้อมกับพลังอันแข็งแกร่ง เข้าแทงทะลวงใส่ร่างของหลายผู้คน

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยยืนที่ตรงกลาง ใช้วิชาวิญญาณควบคุม ส่งอาวุธบินไปมาพรากชีวิตเศษเดนของกลุ่มคนเหล่านี้

นายน้อยจี นายน้อยเจียง และนายน้อยเซีย ทั้งหมดนอนกับพื้นร้องโอดครวญอย่างรวดร้าว

“ไม่ใช่พวกเจ้าบอกหรือว่าอยากหลับนอนกับข้า? ทั้งยังเป็นการหลับนอนที่ภายนอกเช่นนี้!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยควบคุมดาบของนางพลางหัวเราะยินดี “คราวนี้พวกเจ้าค่อยได้นอนหลับไปชั่วนิรันดร์แล้ว!”

นางกล่าวคำจบ ดาบในมือสะบัดออกเข้าบั่นเศียรนายน้อยเหล่านี้จนกลิ้งกับพื้น!

ฉินหยุนบุ้ยปากกล่าวคำ “พวกมันเหล่านี้ล้วนเป็นสวะกันทั้งสิ้น!”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยนำเอาอสรพิษดูดกลืนวิญญาณออกมา นางหัวเราะกล่าว “พวกมันก็อวดดีได้เพียงแต่ที่นครจันทราโกลาหล!”

ไม่นานจากนั้น ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงเริ่มพูดคุยพลางหัวเราะขณะนำวิญญาณยุทธ์คนเหล่านี้ออกมา

“พี่ชาย ข้ามอบพวกนี้ให้แก่ท่าน ข้าเพียงต้องการแต่ผลไม้!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยรับผลไม้ลึกล้ำระดับราชันไว้ นางกัดเข้าปากก่อนมันจะหายวับทั้งลูกในพริบตา

อักขระลึกล้ำอัคคีพยัคฆ์ หยกผลึกแก้วเต๋า รวมถึงผลึกแก้วหัวใจลึกล้ำ ทั้งหมดล้วนมอบให้แก่ฉินหยุน

ฉินหยุนทราบ ว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยหาได้ต้องการสิ่งเหล่านี้ไม่ เพราะวิญญาณยุทธ์กระจกของนาง ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ระดับการฝึกฝนของนางพุ่งทะยานอยู่แล้ว

กวาดล้างที่แห่งนี้เรียบร้อย พวกเขาจึงมุ่งหน้าเข้าสู่ส่วนลึกของเทือกเขานิราศจันทรา

ไม่นานหลังเริ่มเดินทาง พวกเขาพลันพบเจอออร่าที่ทรงพลังตามมาจากทางด้านหลัง เหล่านี้คือยอดยุทธ์ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ!

“พวกมันมาถึงเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?” ฉินหยุนตื่นตะลึงหลังสัมผัสถึงออร่าที่ใกล้เข้ามาได้

“นี่ไม่ใช่คนของตระกูลพวกมัน แต่เป็นพวกท่านป้า! นางรับรู้ถึงตำแหน่งข้า เพราะเหตุนั้นจึงมุ่งหน้ามาทางนี้!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวคำเบา “พี่ชาย ท่านคิดอยากพบท่านป้าตอนนี้หรือไม่?”

ฉินหยุนจำได้ ว่าเชี่ยวเสวียนฉิน สื่อชิงเฉิง และสุ่ยเทียนสื่ออยู่ร่วมด้วยกัน ทั้งสามมาที่นี่ก็เพราะต้องการหาตัวหยางฉีเย่ว์ กระนั้นเวลานี้กลับพบเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเสียก่อน!

“แน่นอนว่าต้องคิดอยากพบเจอนาง พวกเรามีเรื่องต้องคุยกัน ทั้งยังต้องทำความเข้าใจต่อกันเสียใหม่ด้วย!” ฉินหยุนไม่คิดหวั่นเกรงการพบหน้า

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด