ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0724 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0726 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0725 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 725 : เข้าสู่เทือกเขา

สาเหตุว่าทำไมนายน้อยเหล่านี้นำผู้อาวุโสตนเองมาด้วย ก็เพราะผู้อาวุโสเหล่านี้กังวลว่าพวกเขาจะหน้ามืดส่งของล้ำค่าออกไป เพราะเหตุนั้นพวกเขาจึงต้องการมาเห็นด้วยตาตนเอง ว่าอีกฝ่ายเป็นบุตรหลานตระกูลหลงจริงหรือไม่

ตอนนี้ หลังจากที่ผู้อาวุโสเหล่านั้นมาถึง พวกเขาได้เห็นกับตาว่าเป็นบุตรหลานตระกูลหลง อีกทั้งนางยังเป็นเด็กสาวที่ครอบครองพรสวรรค์อันเหนือล้ำ

หากพวกเขาสามารถสร้างพันธะการตบแต่งกับตระกูลใหญ่ได้ อย่างนั้นสถานะของพวกเขาในตระกูลจะมีแต่พุ่งทะยาน

นครจันทราโกลาหลหาได้ใช่สถานที่ดี บรรดาผู้มาที่นี่ แม้เป็นคนของตระกูลใหญ่ ก็เป็นตัวตนธรรมดาภายในตระกูล

ดังนั้นตอนนี้ พวกเขาจึงคิดอยากคว้าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอาไว้

บรรดาชายชราต่างเผยยิ้ม ตราบเท่าที่ทำให้นายน้อยของพวกตนไปได้ด้วยดีกับนายหญิงน้อยแห่งตระกูลใหญ่ มันก็เปรียบเสมือน “ไข่แดงที่ถูกเจาะแล้วอย่างไรก็ต้องกินเข้าไป” นั่นถือเป็นความสำเร็จของพวกเขาประการหนึ่ง

เพราะพวกเขาต่างได้เห็น ว่าหลงเซียงเย่ว์บริสุทธิ์ผุดผ่อง ทั้งยังเห็นว่านางโอนอ่อนได้ง่าย คิดรับมือไม่น่าใช่เรื่องยาก

ผู้อาวุโสตระกูลจีเผยยิ้มกล่าวคำ “นายหญิงน้อยหลง นี่เป็นของขวัญเล็กน้อยจากตระกูลจีของเรา เป็นผลไม้ลึกล้ำระดับราชัน มีทั้งสิ้นสามผล แต่ละผลล้วนเติบโตมาเป็นเวลากว่าสองหมื่นปี!”

ผลไม้สีแดงทั้งสามปรากฏหมอกสีแดงอ่อนจางปกคลุม เพียงมองครั้งเดียวก็ทราบว่าเป็นของดีเพียงใด

“สิ่งนี้...” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยขมวดคิ้วพลางส่ายศีรษะ “ข้าไม่อาจรับของขวัญได้ไหวแล้ว ขอผู้อาวุโสโปรดเข้าใจ!”

“นายหญิงน้อยหลง ท่านไม่อาจไม่รับ! ของขวัญเหล่านี้ของพวกเราย่อมไม่แย่ไปกว่าอุปกรณ์เต๋า ท่านจะรับของจากเขาทว่าไม่รับของพวกเรานั้นไม่ได้!” ผู้อาวุโสตระกูลจีกล่าว

“อย่างนั้นก็ได้! ข้าจะถือว่าเป็นของขวัญจากตระกูลจีสู่ตระกูลหลง สิ่งนี้ข้าจะส่งต่อให้แก่ผู้อาวุโสของข้า!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพยักหน้าแสร้งทำเป็นฝืนรับเอาไว้

ผลไม้ลึกล้ำระดับราชันเหล่านี้ กล่าวได้ว่าดีอย่างยิ่ง กระนั้นพวกมันก็ยังห่างไกลนักหากคิดเทียบกับอุปกรณ์เต๋าของฉินหยุน ผู้จัดการหลี่และอาจารย์จารึกลึกล้ำล้วนทราบ กระนั้นพวกเขาไม่กล้าพูดกล่าวคำใด

บรรดาผู้เฒ่าชราเหล่านี้ก็เพียงแค่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ สิ่งของที่พวกเขาสามารถนำออกมาได้มีอย่างจำกัด

ไม่นานจากนั้น ตระกูลเซียจึงค่อยมอบหยกผลึกแก้วเต๋าน้ำหนักถึงห้าเหลี่ยงให้!

*หนึ่งเหลี่ยง มีค่าเท่ากับ หนึ่งในสิบจิน หรือห้าสิบกรัม*

แม้น้ำหนักเพียงห้าเหลี่ยง ทว่ามันก็ทำให้บรรดาผู้เฒ่าชราหลายคนที่นี้ต้องสะท้าน

“ผลไม้ที่ตระกูลจีมอบให้ย่อมไม่อาจทัดเทียมหยกผลึกแก้วเต๋าจากตระกูลเซียของเรา! นายหญิงน้อยหลง ท่านเองก็อยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ หากคิดเข้าถึงระดับสูงสุด เช่นนั้นท่านก็จำเป็นต้องฝึกฝนผลึกแก้วเต๋าวิญญาณลึกล้ำ และหยกผลึกแก้วเต๋าชิ้นเล็กนี้ มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านฝึกฝนสู่จุดสูงสุดได้ภายในเวลาไม่กี่ปี” ผู้อาวุโสตระกูลเซียหัวเราะกล่าว

ผู้อาวุโสตระกูลจีเผยสีหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียด เพราะพวกเขามีหยกผลึกแก้วเต๋าน้อยนิด โดยเฉพาะกับผู้ที่อยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูง มันถือเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างถึงที่สุด

ผู้อาวุโสตระกูลเจียงนำเอาชิ้นผลึกแก้วออกมาพร้อมกล่าว “นายหญิงน้อยหลง นี่คือผลึกแก้วหัวใจลึกล้ำ มันถือเป็นสิ่งดีเยี่ยมที่จะช่วยฝึกฝนผลึกแก้วเต๋าวิญญาณลึกล้ำ!”

ผู้จัดการหลี่เผยความตื่นตะลึง “ตราบเท่าที่มีผลึกแก้วหัวใจลึกล้ำ เมื่อนั้นคิดฝึกฝนผลึกแก้วเต๋าวิญญาณลึกล้ำถือเป็นเรื่องง่ายดาย! นอกจากนี้แล้ว มันจะยังไม่หายไปหลังใช้งาน แต่จะยังใช้งานต่อไปได้อีกเป็นระยะเวลาไม่น้อย!”

ของขวัญชิ้นสุดท้ายจากกลุ่มคนย่อมต้องดีที่สุด!

แม้ว่าพวกเขามาเพื่อดูแลสถานการณ์ที่นี่ แต่อย่างไรพวกเขาก็เป็นคนของตระกูลใหญ่ ในมือย่อมมีสิ่งของให้หยิบจับใช้สอย

เชี่ยวเย่ว์เหม่ย เพื่อปัดข้อครหา นางจึงรับของขวัญเหล่านั้นทั้งหมดพร้อมเผยความซาบซึ้งอออกมา

ฉินหยุนรับชมจากด้านข้าง ภายในเกิดความยินดี เขาคิดอยากทราบ ว่าก่อนหน้านี้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกับหงเมิ่งจูร่วมกับลวงหลอกผู้คนได้อะไรมาบ้าง

สุดท้ายแล้ว ผู้อาวุโสตระกูลเยี่ยจึงเคลื่อนไหว ชัดเจนว่าเขารอคอยเวลานี้เพื่อตระเตรียมมอบของดี ใบหน้าขณะนี้เผยรอยยิ้มมาดมั่น

หลังจากคลี่กางผืนหนังสัตว์ เขาจึงกล่าว “นายหญิงน้อยหลง ท่านเป็นอาจารย์จารึกลึกล้ำที่มีพรสวรรค์หาตัวจับได้ยาก ให้ข้ามอบอักขระลึกล้ำระดับราชันแก่ท่าน ข้าหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์แก่ท่านได้!”

ผู้จัดการหลี่ถึงขั้นอุทานร้องตื่นตระหนก “หรือนั่นจะเป็นอักขระลึกล้ำโบราณที่ยากเข้าใจซึ่งเจ้าเพิ่งได้รับมา เป็นอักขระลึกล้ำพยัคฆ์อัคคี? ตามรายงานที่ได้รับมา มันถูกดัดแปลงมาจากโทเทมพยัคฆ์ พลังผ่านการขัดเกลาสู่ยันต์ลึกล้ำ มันจะปลดปล่อยอัคคีพยัคฆ์ร้อนแรงออกมาได้!”

ผู้อาวุโสและนายน้อยแห่งตระกูลเยี่ยต่างเผยรอยยิ้มภาคภูมิกันออกมา

เรื่องนี้ทำเอาทั้งสามตระกูลก่อนหน้าต้องกัดฟันแน่นอย่างโกรธแค้น พวกเขายอมรับ ว่าอักขระลึกล้ำระดับราชันที่ตระกูลเยี่ยส่งมอบให้ ดีกว่าของขวัญซึ่งพวกเขามอบให้อย่างเห็นได้ชัด

ที่สำคัญยิ่งกว่า ตระกูลเยี่ยยังไม่สูญเสียใด เพราะพวกเขาย่อมมีอักขระลึกล้ำพยัคฆ์อัคคีฉบับคัดลอกไว้อยู่แล้ว ไม่เพียงแต่ไม่สูญเสียใด ทว่ายังได้เป็นการส่งมอบของขวัญอันล้ำค่า

แน่นอนว่า ของขวัญซึ่งพวกเขาทั้งหมดมอบให้แก่เชี่ยวเย่ว์เหม่ย มองไปแล้วก็ยังด้อยกว่าอุปกรณ์เต๋าที่ฉินหยุนมอบให้ระดับหนึ่ง

“ขอบคุณพวกท่านต่อของขวัญเหล่านี้แล้ว ข้าย่อมส่งพวกมันให้แก่ผู้อาวุโสข้า และจะแจ้งต่อพวกเขาให้ทราบอย่างชัดแจ้ง!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว

“นายหญิงน้อยหลงเดินทางมาไกลสมควรเหนื่อยล้าแล้ว อย่างนั้นพวกเราไม่ขอรบกวนเวลาพักของท่านอีก!” ผู้อาวุโสตระกูลเยี่ยเผยยิ้มกล่าวคำ

ทันใดนี้ อย่างกะทันหัน มันกลับเกิดแรงสั่นสะเทือนจนรู้สึกได้!

ผู้จัดการหลี่ขมวดคิ้วกล่าว “บางทีอาจเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงในเทือกเขานิราศจันทรา! มันกระทั่งส่งผลกระทบมาถึงที่นี่!”

พร้อมกันนี้ ประตูห้องจึงถูกเคาะดังขึ้น

ผู้จัดการหลี่เดินไปเปิดประตู อีกฝ่ายเป็นชายวัยกลางคนที่เผยสีหน้าร้อนรน

ชายวัยกลางคนกล่าว “ผู้จัดการอาวุโส เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ! ที่ส่วนลึกของเทือกเขานิราศจันทรา มันมีดวงดาวขนาดใหญ่ตกลงมา! ข่าวคราวจากแนวหน้า กล่าวว่าเป็นดวงดาวอสูร มีสัตว์อสูรดวงดาวที่แข็งแกร่งจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นในเทือกเขานิราศจันทรา!”

ผู้อาวุโสตระกูลเยี่ยเร่งรีบกล่าว “ถือเป็นเรื่องดี สัตว์อสูรดวงดาว แก่นดวงดาวของพวกมันถือเป็นประโยชน์แก่พวกเรายิ่ง! พวกเราควรเร่งรีบจัดตั้งกลุ่มบุกเข้าไป หากไปถึงก่อน พวกเราก็จะได้สังหารสัตว์อสูรดวงดาวได้มากกว่า!”

นายน้อยเยี่ยหันไปยิ้มให้แก่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพลางถาม “นายหญิงน้อยหลง ท่านคิดร่วมทางกับพวกเราหรือไม่? แน่นอนว่าข้าก็เชิญนายน้อยมู่หรงด้วย!”

“ท่านอาจารย์ข้ากล่าวไว้ ว่าแกนกลางดวงดาวของสัตว์อสูรดวงดาวเหล่านั้น ถือเป็นวัสดุจากร่างของสัตว์ดวงดาว ทั้งยังมีประโยชน์ยิ่งเพื่อใช้ในการหลอมสร้าง! ให้ข้าร่วมทางไปรับชมด้วยแล้ว!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว นางตอนนี้ลวงหลอกได้เพียงพอแล้ว ขณะนี้คิดอยากเข้าไปรับชมเรื่องราว

“สัตว์อสูรดวงดาวกล่าวได้ว่าเป็นสมบัติ หากจับเป็นพวกมันได้ พวกมันจะสามารถนำขายเป็นเหรียญผลึกม่วงได้มหาศาล!” ฉินหยุนกล่าว “ข้าย่อมคิดอยากร่วมทางไปรับชมด้วยแล้ว!”

“ได้ อย่างนั้นก็ไปรับชมด้วยกัน!” ผู้อาวุโสตระกูลเจียงหัวเราะรับ

พวกเขาเหล่านี้บอกกล่าวให้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้พักผ่อนก่อน กระนั้นเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวว่าไม่จำเป็น ดังนั้นจึงร่วมเดินทางด้วยกันเสียตอนนี้

ฉินหยุนยังทราบ ว่ามิตรสหายเหล่านี้เจตนาให้เขาร่วมทางไปด้วย เขาคิดอยากได้เห็น ว่าผู้คนเหล่านี้มีแผนการร้ายอันใด

เมื่อออกพ้นจากตำหนักจารึกเทวะ พวกเขาค่อยเห็นขั้วอำนาจใหญ่แห่งนครจันทราโกลาหลทั้งหลาย ต่างบินกันว่อนท้องฟ้าร่วมกับผู้เยาว์ มุ่งหน้าไปยังเทือกเขานิราศจันทรา

ฉินหยุนย่อมคุ้นเคยกับการที่ดวงดาวร่วงหล่น ย้อนกลับไปครั้งเกาะยุทธ์อสูร ก็มีดวงดาวร่วงหล่นลงมา

เขาพลันเกิดความสงสัยขึ้น ว่าหยางฉีเย่ว์อาจเป็นผู้ทำให้ดวงดาวร่วงหล่นลงมา

ฉินหยุนบินขึ้นบนฟ้า ติดตามกลุ่มคนมุ่งหน้าสู่เทือกเขานิราศจันทรา

“เย่ว์เหม่ย เอาอย่างไรต่อ?” ฉินหยุนถามผ่านเสียงสื่อสาร

“รอจนกระทั่งพวกเราเข้าสู่ด้านใน จากนั้นพวกเราจะหาโอกาสแยกตัวออกมา ถึงตอนนั้นพวกเราจะร่วมมือกันสังหารสัตว์อสูรดวงดาว!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “ผู้คนเหล่านี้หาได้มีสิ่งของดีอันใดไม่ ดังนั้นไม่มีพวกมันร่วมทางก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจ!”

ฉินหยุนคิดเห็นเช่นเดียวกัน มีแต่ราชันยุทธ์อยู่ร่วมจึงค่อยทำให้พวกเขาวางใจได้

เทือกเขานิราศจันทรา จากภายนอกเสมือนเกิดขึ้นจากภูเขาธรรมดา แต่ละลูกล้วนเป็นภูเขาสูงกว่าหนึ่งหรือสองหมื่นจ้าง พื้นที่โดยรอบต่างปกคลุมด้วยแนวภูเขาน้อยใหญ่

*หนึ่งจ้าง มีค่าเท่ากับ สามเมตรสามสิบเซนติเมตร*

ภูเขาสูงทั้งหลายที่นี้มีแต่หิมะสะสมหนาแน่นบนยอดเขา แต่ด้วยเพราะบางเหตุผล พวกมันเริ่มละลายลงมา เพราะมันเกิดเป็นสายน้ำมวลใหญ่ไหลลงประหนึ่งน้ำตกอันวิจิตรงดงาม ทั้งยังเป็นผลให้เกิดสายลมแรงจากการเคลื่อนตัวของอากาศ

เทือกเขานิราศจันทรางดงามอย่างยิ่ง มันประกอบด้วยแม่น้ำและช่องเขา

กระนั้น มันก็ยังประกอบด้วยอันตรายซ่อนเร้นภายในเทือกเขา

ฉินหยุนและคณะออกเดินทางจากนครจันทราโกลาหล มุ่งหน้าสู่เทือกเขานิราศจันทรา

“ผู้น้อยเช่นพวกเจ้า อยู่ตรงพื้นที่รอบนอก ภายในอันตรายเกินไป อย่าได้เข้าไปแล้ว! หากพบว่าน่าเบื่อ เช่นนั้นจงกลับไป!” ผู้อาวุโสตระกูลเยี่ยกล่าว

บรรดานายน้อยต่างเข้าใจ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่าเวลานี้มีสัตว์อสูรดวงดาวปรากฏตัวจำนวนมาก แม้เป็นก่อนหน้า พวกเขาก็หาได้กล้าเข้าสู่พื้นที่ส่วนในอย่างบุ่มบ่าม เพราะที่นั่นมีแต่อันตรายรอบด้าน

เพราะเหตุนี้หลายคนจึงเกิดเป็นความนับถือต่อหยางฉีเย่ว์ นางเพียงแค่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ กระนั้นกลับกล้าเข้ามายังที่นี่ กระทั่งถูกราชันยุทธ์และจักรพรรดิยุทธ์ไล่ล่า ทั้งยังผ่านไปเป็นเวลานาน นางก็ยังไม่ถูกจับตัว

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ต่างอยู่กับนายน้อยทั้งสี่คนบริเวณพื้นที่รอบนอก

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยภายในไม่ยินดี นางเชื่อว่าตัวนางมีความสามารถพอให้ติดตามยอดยุทธ์เหล่านั้นเข้าสู่ส่วนลึก กระนั้นกลับต้องถูกทิ้งไว้ด้านหลังเช่นนี้

ชั่วขณะนี้ นายน้อยตระกูลเยี่ยพลันนำเอาท่อกลมยาวออกมา ก่อนจะยิงบอลแสงขึ้นฟ้า มันระเบิดกลางอากาศเกิดเป็นเสียงดังสนั่นพร้อมประกายแสงเจิดจ้า

นายน้อยตระกูลจี ตระกูลเซีย และตระกูลเจียงล้วนทำเช่นเดียวกัน

“นายหญิงน้อยหลง พวกเราจะเรียกรวมพรรคพวก! พวกเขาย่อมต้องคิดอยากเข้าสู่ภายในเทือกเขาเช่นกัน พวกเราจะรวมตัวพวกเขาทั้งหมดมาที่นี่!” นายน้อยตระกูลเยี่ยกล่าวอธิบายเมื่อได้เห็นสายตาสงสัยของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยมีผ้าคลุมหน้าบดบัง เผยออกเพียงครึ่งหน้า กระนั้นก็ยังเห็นได้ชัด ว่าตัวนางมีความงดงามมากล้ำเพียงใด

“นายน้อยมู่หรง เจ้าไม่เรียกรวมมิตรสหายบ้างหรือไร?” นายน้อยตระกูลจีได้เห็นฉินหยุนยืนนิ่ง เขาแค่นเสียงกล่าวเย้ยหยันออกมา “หรือเจ้าเพียงลำพังไม่มีมิตรสหาย?”

“ข้าหรือลำพัง? ข้าย่อมมีนายหญิงน้อยหลงร่วมทางไปกับข้า!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

“นายน้อยมู่หรง นี่เจ้าเป็นบุตรแห่งตระกูลชนชั้นสูงจริงหรือ? เจ้าถึงขั้นไม่มีผู้ใต้บัญชาเช่นนี้!” นายน้อยเยี่ยแค่นเสียงกล่าว “เจ้าลงมือเพียงลำพัง หากตกอยู่ในอันตราย ก็อย่าหวังว่าพวกเราจะว่างหยิบยื่นมือช่วยเหลือ!”

ฉินหยุนแค่นเสียงรับก่อนจะเลิกสนใจนายน้อยเหล่านี้

“นายหญิงน้อยหลง พวกเขาใกล้มาถึงแล้ว ถึงตอนนั้น พวกเราจะสามารถเข้าสู่ส่วนลึกได้อย่างปลอดภัย! พื้นที่รอบนอกเหล่านี้หาได้มีอันใดให้หยิบฉวยไม่!” นายน้อยเยี่ยยิ้มกล่าว

“อย่างนี้ไม่โดนผู้อาวุโสลงโทษหรือ?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแสร้งถามอย่างนึกเป็นห่วง

“อย่าได้กังวลไป! เรื่องนั้นย่อมไม่เป็นไร! พวกเราก็แค่เข้าไปอีกสักเล็กน้อย!” นายน้อยเยี่ยหัวเราะดัง “ข้าเข้าไปด้านในค่อนข้างบ่อย และก็ไม่เคยมีเรื่องร้ายใดเกิดขึ้น!”

ไม่นานจากนั้น กลุ่มคนมาถึง พวกเขาได้เห็นนายน้อยทั้งหลายเหล่านี้ ต่างเรียกคำ ‘ลูกพี่’ กันออกมา

นายน้อยเหล่านี้จัดตั้งกลุ่มคนของตนเอง และตั้งตนเป็นลูกพี่

ยามเมื่อถูกเรียกหาเป็นลูกพี่จากกลุ่มน้องชายทั้งหลาย มันยิ่งทำให้นายน้อยเหล่านี้ยืดอกภาคภูมิ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าเชี่ยวเย่ว์เหม่ย

ถัดจากนั้น กลุ่มคนจึงเริ่มตระหนักได้ว่ามีสตรีจากตระกูลหลง ทั้งนี้นางยังเป็นถึงอาจารย์จารึกลึกล้ำ พวกเขาเคยได้ยินมาก่อน ทว่าเพิ่งได้พบนางกันตอนนี้

“เจ้าคือผู้มาจากตระกูลมู่หรง? ไสหัวไปได้แล้ว!” หนึ่งในผู้ใต้บัญชาของนายน้อยแห่งตระกูลเยี่ย ถึงขั้นชี้หน้าขับไล่ฉินหยุนอย่างโจ่งแจ้ง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด