ตอนที่แล้วMSL บทที่ 18 ความเร็วอันน่ากลัว 16 เมตรต่อวินาที!!!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 20 สาวงามมาที่บ้าน

MSL บทที่ 19 จ้างเป็นหัวหน้าครูฝึกของสำนักวรยุทธ์


MSL บทที่ 19 จ้างเป็นหัวหน้าครูฝึกของสำนักวรยุทธ์

"เขาเป็นหุ้นส่วนของฉันเอง"

หลิวรั่วหลาน ไม่ได้อธิบายอะไรมากถึงวิธีการที่เธอรู้จักจางปิน แต่เธอเองก็ไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจบนใบหน้าของเธอได้

"ได้แค่ 16 เมตรต่อวินาที? ดูเหมือนว่าเราต้องฝึกอีกมากกว่าจะถึงขั้น

กลั่นลมปราณ"

จางปินพึมพำในใจของเขา

ขอบเขตของวรยุทธ์ที่ดาวซวนหวู่ นั้นคล้ายกับที่โลก**** ฝึกกายา

ฝึกลมปราณ กลั่นลมปราณ กลั่นเส้นชีพจร ผสานเป็นหนึ่ง สร้างแก่นแท้

อณูพฤกษา พฤกษาสวรรค์ นี้คือขอบเขตของวิชาต้นไม้อมตะ

มีแค่ฝึกจนถึงกลั่นลมปราณ ก็จะมีอายุยืนยาวใช้พลังในการรักษาโรคได้และเมื่อฝึกจนถึงขั้น อณูพฤกษาก็จะสามารถสังเคราะห์ลมปราณและจิตวิญญาณรอบๆตัวให้มีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากอาหารและออกซิเจนมี อายุไขนับหมื่นปี

ตอนนี้จางปินกระตือรือร้นที่จะรีบฝึกวิชาแล้วรักษาอาการบาดเจ็บของพ่อเขา

"เสี่ยวปิน ไปทดสอบความแข็งแกร่งของคุณกันเถอะ"

หลิวรั่วหลาน กอดแขนของจางปินแล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม ทันใดนั้นใบหน้าของลูกศิษย์ในสำนักหลายคนต่างก็แสดงท่าทางตกใจออกมา

หลิวรั่วหลาน งดงามมาก เธอใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งตัวแถมยังขับรถที่มูลค่ามากกว่า 20 ล้าน เป็นเทพีที่ผู้ชายทุกคนได้แต่มองเท่านั้น

ส่วนจางปินเสื้อผ้าของเขาทั้งโทรมแถมหัวก็ยุ่งเหมือนคนขอทานแต่ผู้หญิงแบบนั้นกลับโอบกอดแขนของเขาอย่างใกล้ชิด

พวกเขาไม่สามารถยอมรับภาพตรงหน้าได้เลย

ใบหน้าของ เทียนปิงปิง เองก็ปรากฏความประหลาดใจออกมาเช่นกัน เธอมอง หลิวรั่วหลาน เหมือนสัตว์ประหลาดเธอรู้ว่าตัวตนของ หลิวรั่วหลาน เป็นคนยังไงเธอเป็นคนหยิ่งมากและเธอไม่เคยสนิทสนมกับใครเลย

"เกิดอะไรขึ้นกับพี่หลิวนะ? หรือเพราะหมอนั้น?" เทียนปิงปิง พึมพำในใจของเธอ

อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้แสดงออกบนใบหน้าแต่กลับนำทั้งสองไปยังสถานที่ซึ่งใช้ทดสอบความแข็งแกร่ง

แขนของจางปินสัมผัสกับจุดที่นุ่มนวล เขาได้กลิ่นหอมๆจนรู้สึกมึนเมาร่างกายของเขาบางส่วนเริ่มแข็งตัว

เขามีความสุขจนเหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้าเขาอยากจะรู้สึกแบบนี้ตลอดไป แต่ดูเหมือนไม่นานมันก็หมดเวลา เมื่อเขาได้ยินเสียงเธอพูดออกมา

“เสี่ยวปิน เมื่อไร คุณจะพาฉันไปหาอาจารย์ของคุณ ฉันอยากเจอคนประหลาดแบบเขา” หลิวรั่วหลาน พูดอย่างมีเสน่ห์

"ปรากฎว่าเธอมีเป้าหมายในใจ" เมื่อได้ยินแบบนี้หัวใจของจางปินก็เย็นชาลง เขาถอนหายใจออกมา "อาจารย์ของฉันป่วยหนักมากเขาอยู่ได้อีกไม่นาน แถมเขาอาศัยอยู่ในภูเขาลึก แม้แต่ฉันยังต้องเดินนานกว่า 5-6 ชมหากคุณไป เธออาจต้องใช้เวลากว่า 3 วัน ภายในนั้นน่ากลัวมากมันมีทั้งสัตว์ป่าในภูเขาและสิ่งอันตรายอยู่รอบข้างที่สามารถเอาชีวิตเธอได้ตลอดเวลา"

"ไร้สาระน่า" หลิวรั่วหลาน ไม่เชื่อ จางปิน ดูเหมือนว่า จางปิน กำลังปฏิเสธเธอ "ไม่รู้สิ คุณเรียนรู้ทักษะมาจากอาจารย์ของคุณมากแค่ไหน?"

"ฉันฝึกหนักมากก็แทบทุกอย่าง" จางปินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

"หมอนี้ ร้ายกาจ เขาไม่บอกอะไรเราเลย" หลิวรั่วหลาน พึมพำในใจของเธอ

ในที่สุดเทียนปิงปิงพาทั้งสองเข้าไปในห้องพิเศษ

มีเครื่องใหญ่ๆตั้งอยู่ในนั้น

เทียนปิงปิง พูดออกมา "จางปิน คุณทดสอบความแข็งแก่รงของคุณได้ด้วยเครื่องชกมวยนี่"

"ท่าทาง ดูใช้ได้เลย." จางปิน เดินไปชกบริเวณที่เป็นเป้าซ้อม

ตู้มมมมมมมมมมมมมม..... เสียงดังจนน่าเหลือเชื่อ

"750 กก." ผลการทดสอบปรากฏบนหน้าจออีกด้านหนึ่ง

"750 กก. เป็นไปได้ยังไง"

หลิวรั่วหลาน มอง จางปิน เหมือนสัตว์ประหลาดและอุทานออกมา วันนี้ชายหนุ่มคนนี้ที่ชื่อจางปินทำให้เธอตกใจได้หลายครั้งจริงๆ

อย่างแรกคือโสมอายุ 100 ปี อย่างที่ 2 คือ ยาดวงตาสดใส แล้วอย่างที่ 3 ก็คือ ความเร็วของเขา ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาก็เวอร์มาก

เธอไม่ใช่คนธรรมดาเธอรู้ดี เพราะเธอเห็นจอมยุทธ์มามากมาย แต่ว่าเธอไม่เคยเห็นคนที่อายุน้อยแบบเขามีพลังสูงขนาดนี้มาก่อน

เนื่องจากการฝึกฝนความแข็งแกร่งจึงจำเป็นต้องฝึกฝนมานานหลายสิบปีเพื่อให้บรรลุความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

"จางปินคุณ…….คุณฝึกฝนจนถึงขั้นกลางของการกลั่นลมปราณแล้ว….อีก…..อีกไม่นาน คุณจะทะลวงผ่านไปสู่ขั้นปลายกลั่นลมปราณ" เทียนปิงปิง มองดูจางปินด้วยสายตาที่ชื่นชม "แบบนี้ไม่แน่ถ้าคุณฝึกตลอดชีวิตคุณอาจฝึกได้ถึงขั้น สร้างแกนทองคำ เลยนะ คุณเป็นอัจฉริยะขอจริง”

"ไม่หรอกฉันแค่โชคดี ได้รับทรัพยากรการฝึกฝนมาจากอาจารย์ดังนั้นฉันเลยก้าวหน้าเร็วมากในอนาคต ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะไปถึงขั้นไหนกันแน่"

จางปินกล่าวอย่างสุภาพ

"อย่าอ่อนน้อมถ่อมตนไปเลย" เทียนปิงปิงพูดอย่างมีเสน่ห์ "คุณสนใจที่จะเป็นหัวหน้าคูรฝึกของสำนักเราไหม"

"ฉันเป็นชาวนานะทำนาเป็นอย่างเดียวเอง" จางปินตกใจมากที่เธอพูดแบบนี้

"คิกคิก..." เทียนปิงปิง ยิ้มพร้อมเสียงหัวเราะ "การเป็นหัวหน้าคูรฝึกไม่ทำให้คุณยุ่งเท่าไรหรอก แถมเมื่อคุณมาเมื่อคูรฝึกคุณจะมาเล่นที่โรงยิมนี้เมื่อได้ก็ได้ที่คุณต้องการ คุณอาศัยอยู่ที่ ซานเจียเหอ สินะขับรถไปหมู่บ้านนั้นแค่ 20 นาทีเองได้นานหรอก"

“อืมม ถ้ามันเรื่องนี้ไม่ทำให้เราเสียเวลาก็ดีไป ถ้าเป็นครูฝึกก็คงได้เงินเดือนด้วยสินะน่าจะได้” จางปินคิดในใจของเขา "นอกจากนี้ถ้าเราเป็นหัวหน้าครูฝึก เราจะได้เจอ เทียนปิงปิงอาจได้มีเวลาเรียนรู้วิชาจากเธอหรือรู้ว่าโลกจอมยุทธ์อยู่กันว่าจริงๆแล้วต้องทำตัวยังไงอาจเป็นเรื่องดีก็ได้"

จากการคำนวณแล้ว เขาก็ถามอย่างลังเล "แล้วครูฝึกนี้ต้องแข็งแกร่งขนาดไหน ฉันเหมาะสมเหรอน่าจะมีคนที่เก่งกว่าฉันอยู่แล้วนะ อย่างปรมจารย์ ของที่นี่"

เนื่องจากเขาพึ่งฝึกวิชามาแค่ 1 เดือน แม้เขาจะแข็งแกร่งขึ้นแต่ความคิดของเขาก็ไม่เปลี่ยนแปลง เขายังคิดว่าตัวเองเป็นชาวนาตัวน้อยๆในโลกที่กว้างใหญ่อยู่ดี

“จริงๆแล้วมีไม่กี่คนที่เหมาะสม แน่นอนว่ามีคนที่แข็งแกร่งกว่าคุณแต่พวกเขาแข็งแกร่งจนไม่สนใจงานแบบนี้ และพวกเขาหาตัวจับได้ยากมากจริงๆ”

"พวกเขาขอบเขตอะไร กลั่นเส้นชีพจร สินะ?" จางปินถามอย่างสงสัย

“ใช่ ปรมาจารย์ทุกคนอยู่ในขั้นชีพจรล้วนหรือสูงกว่า แต่พวกเขากว่าจะเป็นก็แก่กัยหมดแล้ว พวกเขาล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียง อาจคนเป็นอาจารย์ให้กับพวกทหารหรือคูรฝึกให้กับกองกำลังพิเศษแม้แต่พ่อของฉันก็มีตำแหน่งพิเศษเหมือนกัน ปรมาจารย์พวกนั้นไม่ได้มาสอนให้คนทั่วไปหรอก” เทียนปิงปิงกล่าว

"แล้วค่าจ้างล่ะ?" จางปินถามออกมา

เขามั่นใจว่าจะฝึกให้ถึงขั้นถึงขีดสุดของขั้นกลั่นลมปราณในอีก 1 เดือนหลังจากนั้นไม่นานเขาน่าจะเข้าสู่ขอบเขตใหม่ ตอนนั้นเขาน่าจะสู้กับพวกจอมยุทธ์ที่อยู่ในขั้น กลั่นเส้นชีพจร ได้แล้ว

"50,000 หยวนต่อเดือน (200000-250000 บาท) มาเดือนที่นี่ละ 5 ครั้งคุณคิดว่าไง?" เทียนปิงปิง หัวเราะเบาๆ

"ว้าวก็ไม่น้อยนะ?" จางปิน พอใจไม่น้อยแต่ว่า….

"น้องสาว 50,000 หยวนนี้มันขี้เหนียวไปหรือเปล่า" หลิวรั่วหลาน รีบกล่าวออกมา "บอดี้การ์ดส่วนตัวที่ไม่ใช่จอมยุทธ์ยังได้มากกว่านี้เลย"

"หลิวรั่วหลาน ฉันไม่ได้รวยแบบเธอนะ" เทียนปิงปิงพูดพึมพำอย่างขมขื่น “ถ้างั้น 60,000 เป็นยังไง”

"โอเค ฉันตกลง" จางปินไม่ต่อรอง เขาตกลงรับงานนี้