ตอนที่แล้วMSL บทที่ 17 ร่วมงานกับน้องหลิว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMSL บทที่ 19 จ้างเป็นหัวหน้าครูฝึกของสำนักวรยุทธ์

MSL บทที่ 18 ความเร็วอันน่ากลัว 16 เมตรต่อวินาที!!!


MSL บทที่ 18 ความเร็วอันน่ากลัว 16 เมตรต่อวินาที!!!

จางปินฝึกฝนอย่างหนัก เขารู้ว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าเขาแข็งแกร่งขนาดไหนแล้วกันแน่

ยิ่งไปกว่านั้นเขาอยากรู้ว่าปรมาจารย์กังฟูนั้นแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่?

เขาอยากที่จะฝึกฝนทั้งความแข็งแกร่งภายนอกและภายใน ดังนั้นคราวนี้เขาต้องทำความเข้าใจกับโลกภายนอก นี้คือเป้าหมายที่เข้าเมืองมานอกจากเรื่องการขายโสมและยาดวงตาสดใส

"คุณฝึกกังฟูด้วยเหรอ?" ใบหน้า หลิวรั่วหลาน ปรากฏความประหลาดใจ

"ผมพึ่งได้ฝึกฝนเพราะผมเพิ่งเจออาจารย์เมื่อไม่นานนี้เอง" จางปินกล่าว

"ฉันจะพาคุณไปที่สำนักวรยุทธ์ที่มีชื่อเสียง - มีสำนักวรยุทธ์ที่มีชื่อว่า

เทียนกวงจิน ที่เก่งเรื่องการต่อสู้แบบเร้นลับ

หลิวรั่วหลาน พูดพร้อมรอยยิ้มแล้วขับรถไปอีกถนนหนึ่ง

เหตุผลที่เธออยากไปส่งจางปินในวันนี้ไม่ใช่เพราะเธอชอบจางปิน แต่เพราะเธออยากเข้าใจรายละเอียดข้อมูลต่างๆของจางปิน เธอต้องรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนและสถานการณ์ในครอบครัวของเขาตอนนี้เป็นยังไงเพราะว่า

หลังจากวันนี้จางปินเป็นคู่หูของเธอ

ยาวิเศษเช่นยาดวงตาสดใสจะสร้างความตกตะลึงให้กับโลกใบนี้หากไม่มีปัญหาในการทดสอบ เธอให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับจางปิน

ตอนนี้เธอรู้อีกอย่างคือ จางปิน ฝึกศิลปะการต่อสู้ เธอมีความสุขมากเพราะเธอได้เรียนรู้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับเขา ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึง สำนักวรยุทธ์ ตอนนี้เป็นเวลา 10 โมงเช้า

ลูกศิษย์หลายร้อยคนกำลังฝึกวิชาการต่อสู้พร้อมเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ บางครั้งเสียงก็ดูรุนแรงมากจนน่ากลัว

ในทุกมุมของสนามซ้อม กระสอบทรายถูกแขวนไว้เต็มไปหมด

ในนั้นมีหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปีเธอสวมชุดออกกำลังกายสีขาวใบหน้าที่งดงาม ผิวสีเหมือนข้าวสาลีมันคือผลจากการฝึกฝน

เธอชกกระสอบทรายด้วยหมัด,เท่า,เข่า,ศอก,หลังมือและแขน

มีเสียงตะโกนดังขึ้นอย่างหนาแน่นเหมือนสายฝนที่กระทบต้นกล้าและเธอเหมือนสัตว์ร้ายกลางป่าเขา กระสอบทรายสั่นด้วยความเร็วขึ้นเรื่อยๆตอนนี้ร่างของเธอกลายเป็นเงาสีขาวพร่ามัวทำให้สายตาของผู้คนมองเห็นได้ไม่ชัดเจน

ร่างของเธอพุ่งไปมาอย่างรวดเร็ว มันเป็นท่าร่างที่น่าอัศจรรย์

วัยรุ่นหลายคนที่ฝึกฝน ต่างก็หันมามองเธอด้วยสายตาของพวกเขายินดีความน่าอัศจรรย์ ความรักและความเคารพ

"ชื่อของเธอคือ เทียนปิงปิง ลูกสาวของเจ้าสำนักเป็นสาวงามที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง เธออายุ 22 ปีและเพิ่งจบการศึกษาจากวิทยาลัย เสี่ยวปิง คุณคิดยังไงกับกังฟูของเธอ"

หลิวรั่วหลาน เดินเข้ามาพร้อมกับจางปินและชี้ไปที่เด็กผู้หญิงที่กำลังชกกระสอบทราย

"เธอแข็งแกร่งมาก"

จางปินมองเทียนปิงปิงด้วยสายตาที่ประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เห็นเด็กหญิงที่แข็งแกร่งขนาดนี้

ไม่นาน เทียนปิงปิง ก็หยุดการฝึกซ้อม เธอเดินมาพร้อมกับกลิ่นหอมๆและพูดด้วยความประหลาดใจ "พี่หลิน ทำไมคุณถึงมาที่นี่"

เห็นได้ชัดว่าพวกเธอรู้จักกันและมีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างแน่นอน

หลิวรั่วหลาน อธิบายและแนะนำ จางปิน ให้กับ เทียนปิงปิง รู้จัก

เทียนปิงปิง นั้นพูดออกมาอย่างง่ายๆ "งั้นทดสอบความเร็วก่อนแล้วกันทดสอบหนึ่งพันเมตรเป็นยังไง"

"ก็ดี."

จางปินพยักหน้าอย่างตื่นเต้นแล้วเขาก็ถามด้วยความเขินอายเล็กน้อย

"ไม่รู้สิ คุณเทียน คุณวิ่งได้วินาทีละเท่าไร?"

เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายวิ่งได้เร็วเท่าไรและกังวลว่าถ้าถามไม่ดีจะดูน่าเกลียดแต่ในที่สุดเขาก็ต้องถามออกมา

"ความเร็วของฉันโดยเฉลี่ยประมาณ 11 เมตรต่อวินาที"

ความภาคภูมิใจปรากฏตัวบนใบหน้าของ เทียนปิงปิง

"11 เมตรต่อวินาที ถ้าเธอวิ่งหนึ่งร้อยเมตรจะได้ 9 วินาทีสินะนี้เท่ากับความเร็วของนักวิ่งที่เร็วที่สุดในโลกตอนนี้เลย" จางปิน พึมพำในใจของเขา แต่เขาก็ยังรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะความเร็วเท่านี้มันไม่ได้เร็วมากเท่าไรสำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงลองถามอีกครั้ง "คุณเทียน ฉันไม่รู้ว่าโลกใบนี้มีกี่ขอบเขตที่ต้องฝึกฝน?"

"ขอบเขต? ก็เรียงระดับจาก กลั่นกายา กลั่นจิตวิญญาณ กลั่นลมปราณ กลั่นเส้นชีพจร ผสานเป็นหนึ่ง สร้างแกนทองคำ ลมปราณก่อกำเนิด

ค้นหาเต๋า สู่มหายาน" เทียนปิงปิง กล่าวพร้อมรอยยิ้ม

"ระดับสู่มหายาน นี้บินได้ไหม?" ดวงตาจางปินเบิกกว้างเมื่อได้ยินเช่นนี้

"คิกคิก..."

เกือบจะในเวลาเดียวกัน หลิวรั่วหลาน และ เทียนปิงปิง ต่างก็หน้ากระตุกและหัวเราะออกมา

"พวกคุณหัวเราะอะไร?"

จางปินที่มองดูสาวงามทั้ง 2 หัวเราะไปมา มันทำให้เขารู้สึกเขินๆ

หลิวรั่วหลานเป็นผู้หญิงที่สวย ร่างกายของ เทียนปิงปิง นั้นก็ยอดเยี่ยมพวกเธอเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ การได้ชื่นชมพวกเธออย่างใกล้ชิดแบบนี้ถือว่าดีต่อสายตาจริงๆ

"แน่นอนฉัน หัวเราะนายไง" เทียนปิงปิงพูดด้วยรอยยิ้ม

"เพราะที่ฉันเพิ่งพูดไปคือขอบเขตในสมัยโบราณ แม้แต่ในสมัยโบราณก็มีเพียง 2 คนที่บรรลุระดับสู่มหายานนั้นคือพญามารและพระพุทธเจ้าส่วนในยุคปัจจุบันการฝึกคนเดียวนั้นยากมากมากๆ ถ้าฝึกแบบเปิดจุดชีพจรก็อาจจะเร็วกว่าฝึกปกติแต่ก็ไม่มีทางถึงขั้นนั้นเลย”

"มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ?" จางปินถามอย่างสงสัย

"การฝึกฝนนั้นต้องใช้พลังจิตวิญญาณแต่ถ้าไม่มีหินจิตวิญญาณหรือไม่มี

น้ำจิตวิญญาณ ก็ไม่อาจทะลวงขอบเขตไปได้ง่ายๆ พวกเราต้องฝึกฝนให้หนักพร้อมกันดูดซับลมปราณเพื่อชดเชยแทน 2 สิ่งนั้นแต่ถึงอย่างนั้นถ้าไม่มีจะทำให้ความเร็วในการฝึกฝนต่างกันราวฟ้้ากับดินเลย" เทียนปิงปิง กล่าว "ในสมัยโบราณทรัพยากรการฝึกวิชานั้นอุดมสมบูรณ์กว่าตอนนี้มาก สามารถหาหินจิตวิญญาณและสมุนไพรต่างๆได้ง่ายๆเลยละ"

"แล้วทำไมการดูดซับลมปราณ ถึงพัฒนาตัวเองกว่าปกติละ" จางปินพึมพำ

"เพราะพวกเราต้องใช้พลังออกมาตลอดทำให้ยิ่งต้องดูดซับการที่ดูดซับแต่ลมปราณแค่อย่างเดียวทำให้ช้ากว่าคนที่ใช้หินจิตวิญญาณหรือน้ำจิตวิญญาณช่วย" เทียนปิงปิง กล่าว

"มันเป็นอย่างนั้นเองเหรอ" จางปินถอนหายใจออกมา การฝึกฝนวิชาในโลกใบนี้ล้าหลังเกินไปและไม่มีทางรวบรวมลมปราณมาทีละเยอะได้ดังนั้นจึงยากที่จะฝึกฝนให้แข็งแก่รง

วิธีการฝึกวิชาที่เราได้เรียนรู้มานั้นช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆน่าเสียดายที่ต้องใช้เม็ดยาแห่งปัญญาถึงจะฝึกได้

ไม่ช้าการทดสอบก็เริ่มขึ้น

จางปิน พร้อมแล้ว เทียนปิงปิง ยกปืนขึ้นส่วน หลิวรั่วหลาน เธอยืนห่างออกไป 1 กิโลเมตรพร้อมที่จะกดนาฬิกาจับเวลา

ปัง...... เทียนปิงปิงยิงส่งสัญญาณ

"ยิงแล้ว... "

จางปินเริ่มต้นวิ่งโดยทันทีเขาพุ่งไปหลายเมตรใน 1 ก้าวดังนั้นเพียงแค่ได้ยินฟังเสียงฝีเท้าของเขา ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวกับเสียงลมคำราม

"เขาเร็วกว่าฉันแล้วก็แข็งแกร่งกว่าฉันอีกเหรอเนี้ย" ใบหน้า เทียนปิงปิง เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความอยากรู้อยากเห็น

ลูกศิษย์หลายคนก็ตกตะลึงเช่นกัน พวกเขาไม่เคยเห็นใครวิ่งเร็วขนาดนี้

ไม่นานจางปินก็พุ่งไปถึงที่ๆ หลิวรั่วหลาน รออยู่และผลการทดสอบก็ออกมา เทียนปิงปิง รีบร้อนและถามออกมาอย่างสงสัย "กี่วินาที?"

"62.5 วินาที" หลิวรั่วหลาน จ้องมองที่นาฬิกาจับเวลาอย่างไม่อยากเชื่อในสายตาของตัวเอง เพราะเธอรู้ว่าสถิติโลกสำหรับผู้ชาย 1 กิโลเมตรนั้นประมาณ 2 นาที 15 วินาที จางปินเร็วกว่าอีกฝ่ายถึง 1 นาที!!!

"งั้นก็ประมาณ 16 เมตรต่อวินาที เป็นความเร็วที่น่ากลัวมาก จางปินจะต้องฝึกฝนจนถึงขั้นกลางของกลั่นจิตวิญญาณแล้วแน่ๆ" เทียนปิงปิงพูดอย่างตกใจ "พี่หลิว คุณไปเจอนายคนนี้จากที่ไหน"