ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 825 ฟื้นฟูแดนศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 827 การตื่นขึ้นของฟางเจิ้ง

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 826 ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 826 ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT 

ฟางหยวนนำฝูงหิ่งห้อยแสงดาวและหญ้าสะเก็ดดาวเก็บไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์ของไท่เป่ยหยุนเฉิงเช่นกันแต่ตอนนี้พวกมันถูกนำกลับมาอีกครั้งขณะที่โลหิตพิษที่ตกค้างอยู่บนพื้นไม่สามารถทำสิ่งใดดินเมฆที่อยู่บนท้องฟ้า

รอบๆทะเลสาบเกล็ดมังกรและทะเลสาบหยกยังมีทะเลสาบบ่อเล็กๆอีกมากมายที่ทำให้มันดูเหมือนทะเลดาวท่ามกลางดวงจันทร์สองดวง

ทะเลสาบเหล่านั้นไม่ได้ใช้ดินชนิดพิเศษใดๆ

หมาป่าวารีและหมาป่าครีบฉลามอาศัยอยู่ในทะเลสาบเหล่านี้ หมาป่าครีบฉลามเดียวดายที่สงบลงแล้วก็ถูกย้ายมาอยู่ที่นี่เช่นกัน

ยังมีปลาคราฟหยกฟ้าอยู่ในทะเลสาบ ปลาคราฟเหล่านี้มีความอดทนต่อสภาพแวดล้อมค่อนข้างสูง กระทั่งโลหิตพิษก็ไม่สามารถฆ่าพวกมัน ในความเป็นจริงโลหิตพิษยังทำให้พวกมันเกิดวิวัฒนาการกลายเป็นปลาคราฟหยกแดงที่มีมูลค่าสูงกว่าปลาคราฟหยกฟ้าอีกด้วย

ภาคตะวันตกของแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู ฟางหยวนถมพื้นที่สร้างทะเลสาบด้วยถ่านหิน อย่างไรก็ตามทะเลสาบแห่งนี้กลับปราศจากน้ำ เมื่อสายลมพัดผ่าน ถ่านหินสีดำจะเรืองแสงสีแดงออกมา

ฟางหยวนตั้งชื่อทะเลสาบแห่งนี้ว่าทะเลสาบถ่านหิน มันเป็นรังที่มีคุณภาพสูงเป็นอันดับสองสำหรับการเพาะเลี้ยงอสรพิษเพลิง

ฟางหยวนเรียนรู้วิธีที่ดีที่สุดมาจากตงฟางชางฟานเช่นกัน แต่วิธีดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบ ฟางหยวนจึงเลือกวิธีที่สอง

เขาวางฝูงอสรพิษเพลิงไว้ในทะเลสาบถ่านหินและปล่อยให้พวกมันเติบโตด้วยตนเอง

ในสถานที่ห่างออกมา ฟางหยวนยังขุดทะเลสาบอีกมากมายก่อนจะดึงโลหิตพิษออกจากมิติช่องว่างของตนและเติมเต็มทะเลสาบเหล่านี้

ภายใต้ค่ายกลวิญญาณ โลหิตพิษจึงไม่ลั่วไหลออกนอกทะเลสาบ

เหตุใดฟางหยวนจึงทำเช่นนี้?

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติสวรรค์พิภพและแดนศักดิ์สิทธิ์

โชคดีมักซ่อนอยู่ในโชคร้ายเสมอ

ยิ่งแดนศักดิ์สิทธิ์มีรากฐานที่แข็งแกร่งเพียงใด อนาคตของมันก็ยิ่งสดใสขณะที่ภัยพิบัติสวรรค์พิภพก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเพื่อทำลายความรุ่งโรจน์ของมัน

ตัวอย่างเช่นภัยพิบัติพิภพครั้งก่อนหน้านี้ ปูบึงเป็นสัตว์อสูรเดียวดายที่มาพร้อมวิญญาณอมตะบ่อโคลน การมาของมันมีเป้าหมายอยู่ที่ภูเขาตงฮัน หลังจากทั้งหมดฟางหยวนต้องดิ้นรนและฟื้นฟูมันด้วยความยากลำบาก

นี่คือความยุติธรรมของสวรรค์

อย่างไรก็ตามยังมีโชคดีแฝงตัวอยู่

หลังจากภัยพิบัติปูบึงผ่านพ้นไป แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งทาสและปฐพีมาเป็นจำนวนมาก

ยิ่งพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งทาสสูงเท่าใด สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้นก็สามารถเติบโตได้ดีเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หิน มนุษย์ขน ฝูงจิ้งจอก ฝูงหมาป่า ฝูงปลา และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

นอกจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งทาส แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูยังได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีเพิ่มขึ้น นี่ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูสามารถดูดซับปราณพิภพได้ดีขึ้น แน่นอนว่ามันสนับสนุนการคงอยู่ของภูเขาตงฮัน

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้ไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธีการทั่วไป พวกมันรวมตัวกันอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและทำให้โลกใบเล็กแห่งนี้โดดเด่นยิ่งขึ้น

ฟางหยวนยังคาดเดาว่าภัยพิบัติดอกไม้โลหิตพิษที่ถูกส่งมามีความสัมพันธ์กับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งเลือดของเขา

หลังจากผ่านภัยพิบัติครั้งนี้แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูยังได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งเลือดมาด้วยเช่นกัน

การปรากฏขึ้นของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งเลือดทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้า

การกลายพันธุ์ของปลาคราฟหยกฟ้าเป็นปลาคราฟหยกแดงคือหนึ่งในผลกระทบของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งเลือด นอกจากนั้นพื้นดินที่เปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อนยังมีหญ้าสีแดงและดอกไม้สีแดงที่สวยงามเติบโตขึ้น

หญ้าเหล่านี้เรียกว่าหญ้าเคียวโลหิต เมื่อมันโตเติบที่ ใบของมันจะโค้งงอและมีความแหลมคม

ดอกไม้สีแดงคือดอกขวานแดง ในความเป็นจริงกลีบของดอกไม้ชนิดนี้เป็นสีขาวแต่มันกลับส่องแสงสีแดงออกมา

ทั้งหญ้าเคียวโลหิตและดอกขวานแดง พวกมันต่างเป็นวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณที่ยอดเยี่ยม แม้จะไม่ใช่ทรัพยากรอมตะ แต่มันยังสามารถใช้หลอมรวมวิญญาณระดับสามได้ดี

หญ้าเคียวโลหิตและดอกขวานแดงเติบโตขึ้นทุกที่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู มันสามารถเป็นแหล่งรายได้ที่ดีอีกแหล่งหนึ่ง

นี่คือสิ่งที่ได้รับมาจากภัยพิบัติพิภพครั้งล่าสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู

เดิมทีแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูเต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด พวกมันล้วนเป็นวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณระดับหนึ่งและสอง คุณค่าของพวกมันต่ำกว่าหญ้าเคียวโลหิตและดอกขวานแดงอย่างชัดเจน

โลหิตพิษที่แทรกซึมอยู่ในชั้นดินเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้หญ้าเคียวโลหิตและดอกขวานแดงเติบโตขึ้น

โดยทั่วไปผู้อมตะระดับหกต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพิภพทุกสิบปีและพบกับภัยพิบัติสวรรค์ทุกหนึ่งร้อยปี หลังจากผ่านภัยพิบัติสวรรค์ครบสามครั้ง พวกเขาจะสามารถก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ด

แน่นอนว่าภัยพิบัติสวรรค์ย่อมเต็มไปด้วยอันตรายและน่าสะพรึงกลัวกว่าภัยพิบัติพิภพแต่มันก็เต็มไปด้วยโอกาสเช่นกัน

พลังงานแห่งเต๋าที่เพิ่มขึ้นจะทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์สามารถผลิตทรัพยากรที่มีคุณค่ามากขึ้น ทรัพยากรเหล่านี้คือสิ่งสำคัญในการบ่มเพาะของผู้อมตะ

เดิมทีแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูไม่มีกระทั่งน้ำและลม นี่ทำให้พืชพันธุ์และดอกไม้ไม่สามารถเติบโต แต่หลังจากผ่านภัยพิบัติและได้รับพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีและวารีเพิ่มขึ้น ดอกไม้หลากหลายชนิดจึงเติบโตขึ้นในที่สุด

แม้แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูจะพัฒนาขึ้นจากแรกเริ่มแต่มันยังพบกับความสูญเสียจากภัยพิบัติแต่ละครั้ง กล่าวได้ว่านี่คือบททดสอบของผู้อมตะ

เมื่อแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูพบกับภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น สุดท้ายเทพธิดาไป่หูจึงเสียชีวิตในภัยพิบัติพิภพครั้งที่ห้าภายใต้ความบ้าคลั่งของมนุษย์เงาสายฟ้า

หลังจากฟางหยวนได้รับสืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู เขาแทบไม่สามารถผ่านภัยพิบัติครั้งที่หก อย่างไรก็ตามตอนนี้เขากลับสามารถผ่านภัยพิบัติครั้งที่เจ็ดมาได้อย่างราบรื่น

พลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งเลือดทำให้หญ้าเคียวโลหิตและดอกขวานแดงกำเนิดขึ้นที่นี่

ด้วยประสบการณ์มากมาย ฟางหยวนจึงไม่ยินดีให้ไท่เป่ยหยุนเฉิงใช้วิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้าฟื้นฟูแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูแต่เลือกที่จะขุดทะเลสาบโลหิตพิษ

‘ในความเป็นจริง ไม่เพียงต้นหญ้าและดอกไม้แต่ด้วยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งเลือด ข้าสามารถเลี้ยงจิ้งจอกโลหิต อัตราการสืบพันธุ์ของพวกมันจะสูงกว่าจิ้งจอกชนิดอื่น หากข้าสามารถซื้อข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงดูจิ้งจอกโลหิต ข้าอาจทำให้มันกลายเป็นแหล่งรายได้ชั้นยอด’

อย่างไรก็ตามอาหารของจิ้งจอกโลหิตคือกระต่ายสีเลือด แล้วกระต่ายสีเลือดกินสิ่งใด คำตอบก็คือหญ้าเคียวโลหิต

ดังนั้นฟางหยวนจึงทุ่มเทความพยายามสร้างทะเลสาบโลหิตพิษเพื่อเสริมสร้างห่วงโซ่อาหารให้กับระบบนิเวศน์ที่เขาต้องการ

เพื่อยกระดับฝูงจิ้งจอกโลหิต ฟางหยวนยังต้องนำฝูงหมาป่าพิษเข้ามาเป็นคู่แข่งของพวกมัน ก่อนหน้านี้แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูไม่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงหมาป่าพิษ แต่ด้วยโลหิตพิษ ฟางหยวนจึงสามารถเลี้ยงฝูงหมาป่าพิษในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูได้ในที่สุด

หมาป่าพิษไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยพิษ พวกมันต้องการพิษเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ในช่วงเวลานี้ฟางหยวนจึงต้องวิ่งไปวิ่งมาเพื่อจัดการเรื่องต่างๆอย่างไม่หยุดหย่อน

เวลาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อชีวิตของคนผู้หนึ่งเต็มไปด้วยความวุ่นวาย

เพียงพริบตาครึ่งเดือนของแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูก็ผ่านพ้นไป

แผนการพัฒนาแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูของฟางหยวนเสร็จสมบูรณ์ในที่สุด

แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง

ภาคตะวันออก ทะเลสาบเกล็ดมังกร ทะเลสาบหยก รวมถึงทะเลสาบเล็กๆน้อยๆต่างส่งเสริมซึ่งกันและกัน สิ่งมีชีวิตมากมายไม่ว่าจะเป็นปลามังกร ปลาฟองอากาศ ปลาคราฟหยกแดง ปลาคราฟหยกฟ้า หมาป่าวารี หมาป่าครีบฉลาม และสิ่งมีชีวิตอื่นๆอีกมากมายอาศัยอยู่ที่นี่

ในส่วนของภาคตะวันตกยิ่งมีทะเลสาบมากกว่าภาคตะวันออก ทะเลสาบหลักของภูมิภาคนี้ยังเป็นทะเลสาบถ่านหิน

นอกจากนั้นยังมีทะเลสาบโลหิตพิษขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนกระจายตัวอยู่รอบๆทุ่งหญ้าเคียวโลหิตและดอกขวานแดง มีกระต่ายสีเลือด จิ้งจอกโลหิต และหมาป่าพิษตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่

ด้วยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ฝูงจิ้งจอกโลหิตจึงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงอีกประการหนึ่งก็คือสัตว์อสูรเดียวดาย แกะเขาเดี่ยว มันถูกวางไว้ที่นี่เพื่อป้องกันการบุกรุกของหมาป่าครีบฉลามเดียวดายที่อาศัยอยู่ทางทิศตะวันออก