ตอนที่แล้วบทที่ 9 : ผมจะดูแลคุณอย่างดี (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 : เล่นเกมกับฉันไหม (1) อ่านฟรี

บทที่10 : ผมจะดูแลคุณอย่างดี (5)


บทที่10 : ผมจะดูแลคุณอย่างดี5)

 

 

รถตู้ของซินเจียและรถของกู่หยูเซิงยังคงอยู่ที่เดิม  แทบจะไม่ได้เคลื่อนไปไหนเลย  เนื่องจากบนท้องถนนในยามนี้รถค่อนข้างติดมาก

ดูเหมือนว่ากูหยูเซิงจะเริ่มรู้สึกตัวว่าซินเจียจ้องมองดูเขาอยู่นานแล้ว   เขาจึงเหลือบมองไปยังอีกฝั่งของถนนที่เธอนั่งอยู่  ในขณะที่กำลังจุดบุหรี่มวนใหม่ในมือ

ในแววตาของเขาไม่ปรากฏระลอกคลื่นใดๆ  ซินเจียเองก็เลยไม่แน่ใจว่า  เขามองเห็นเธอไหม  หรือเขามองเห็นแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็นเธอกันแน่  แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เอาบุหรี่ที่จุดแล้วในมือขึ้นมาสูบ  ก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือไปกดปุ่มปิดหน้าต่าง  และกระจกหน้าต่างก็ค่อยๆเลื่อนขึ้นจนปิดสนิท

ด้วยฟิล์มของรถเขาค่อนข้างทึบ ทำให้มันลายเป็นเหมือนประตูที่กั้นการถูกจ้องมองจากซินเจียไปโดยปริยาย

หลังจากที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาเรียบร้อยแล้ว  การจราจรก็เริ่มโอเคขึ้น  ไม่ได้แออัดมากเท่าก่อนหน้านี้  กู่หยูเซิงเองก็ทำราวกับว่ากลัวเธอจะมองเขาอีก  เขารีบเร่งความเร็วของรถ  ก่อนจะขับแซงรถคันข้างหน้าอีกประมาณสองสามคันจากนั้นรถของเขาก็หลอมรวมเข้ากับการจราจรที่คับคั่ง  ก่อนจะหายไป

ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร  จะเป็นผู้หญิงที่เขาลืมไปแล้วเมื่อสองปีก่อนหรือ เป็นผู้หญิงที่อยู่กับเขาภายใต้ตัวตนของคนอื่นหลังจากนั้นอีกสองปีมันก็คงไม่มีอะไรแตกต่างกันเพราะทั้งกู่หยูเซิงและ ซินเจียก็คงเป็นเหมือนโลกสองใบที่ไม่ทางมาบรรจบกันได้

ซินเจียหันไปมองที่หน้าต่างอีกครั้ง   พลางกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่หยดน้ำตาที่คลออยู่  ก่อนจะปิดกระจกหน้าต่างรถขึ้น  และค่อยๆเอนหลังลงที่พนักพิงรถเบาๆก่อนจะหลับตาแน่น

เมื่อรถเคลื่อนตัวเข้าสู่เมือง  โจวจิงผู้จัดการส่วนตัวของเหลียงดูโขว่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายก่อนจะตอบกลับปลายสาย “ใช่....โอเค”  เมื่อวางสายเธอก็หันไปบอกคนขับว่า  “ไปสโมสรมาเจสติก”

เมื่อได้ยินดังนั้นซินเจียก็ค่อยๆลืมตาขึ้น  ก่อนจะมองไปที่โจวจิงด้วยสายตาที่ปนสงสัย

โจวจิงรู้ว่าเธอจะถามอะไร  เธอเลยชิงอธิบายก่อน  “มีบัตรเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงจากคุณลู่บันเฉิง”

โจวจิงหยุดชะงักไปชั่วครู่  ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเธอไม่ใช่เหลียงดูโขว่ตัวจริง  จึงพูดต่อว่า   “เธอเป็นเพื่อนไฮโซของเหลียงดูโขว่”

ซินเจียเข้าใจดีว่าเธอรับค่าจ้างในการทำงานมาแล้ว   แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจที่จะไปเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้สักแค่ไหน  เธอก็คงไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้  ดังนั้นเธอจึงปฏิบัติตามคำขอของโจวจิงโดยไม่มีการคัดค้านใด ๆ

งานเลี้ยงอาหารกลางวันที่สโมสรมาเจสติกกำลังจะเริ่มขึ้นเมื่อตอนที่โจวจิงได้รับโทรศัพท์ ดังนั้นเมื่อเธอมาถึง  ห้องจัดเลี้ยงก็เต็มไปด้วยผู้คนแล้ว

ห้องขนาดเกือบ150 ตารางฟุตที่ตอนนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายจนทำให้โต๊ะอาหารยาวเหยียดขนาดสองหลาทั้งสองโต๊ะไม่มีเก้าอี้ว่างเหลือเลยสักที่

ลู่บันเฉิงที่เป็นเจ้าของงาน  เมื่อเห็นพวกเธอเดินมาถึงจึงรีบสั่งให้พนักงานเสิร์ฟไปเอาเก้าอี้มาเพิ่มให้อีกสองตัวทันที

เนื่องด้วยตอนนี้โต๊ะอาหารทั้งสองโต๊ะแน่นจนเกินกว่าที่จะวางเก้าอี้สองตัวไว้ที่โต๊ะเดียวกันได้แล้ว  พนักงานเสิร์ฟจึงเอาเก้าอี้ไปวางไว้โต๊ะละตัวแทน

โจวจิงจึงเดินไปนั่งเก้าอี้ว่างที่อยู่ใกล้เธอที่สุด  ส่วนซินเจียจึงเดินไปนั่งเก้าอี้อีกตัวแทน

หลังจากที่นั่งลงแล้วเธอถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ   ก่อนเธอจะหันไปมองที่ด้านขวาของตัวเอง  ใช่…เป็นเขา  กู่หยูเซิงนั่งอยู่ห่างจากเธอไม่มากนัก  ในมือข้างหนึ่งของเขาถือบุหรี่  และกำลังนั่งฟังคนข้างๆพูดอย่างตั้งใจ

ห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวนี้ค่อนข้างเสียงดังมากเพราะถึงแม้ว่าเธอจะนั่งอยู่ไม่ไกลจากเขานัก  แต่เธอก็แทบไม่ได้ยินว่า  พวกเขากำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่

และสำหรับกู่หยูเซิงนั้นความสนใจทั้งหมดของเขาก็คือคนที่เขาพูดด้วยดังนั้นเขาจึงไม่สังเกตเห็นเลยว่ามีเก้าอี้เสริมอีกตัวอยู่ข้างๆเขา

แทบจะไม่มีใครจำซินเจียที่อยู่ใต้เงาของเหลียงดูโขว่ได้เลย  จนกระทั่งมีสาวสวมแว่นคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อเหลียงดูโขว่ออกมาและเมื่อกู่หยูเซิงได้ยิน  เขาก็หยุดสูบบุหรี่ในมือทันที

ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นเขาก็ค่อยๆหันมา และมองดูซินเจียอย่างเงียบ ๆ

ซินเจียที่เพิ่งจะยืนขึ้นและยกแก้วไวน์ในมือชนกับคนอื่นๆ  รู้สึกประหม่าจนตัวแข็งทื่อเมื่อรับรู้ได้ว่ากู่หยูเซิงกำลังจ้องมองมาที่เธออยู่

แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดีของเธอเหมือนกับตอนที่นั่งรถออกมาจากสนามบินเพราะกู่หยูเซิงมองเธอแค่ชั่วครู่เท่านั้น  ไม่อย่างนั้นเธอคงทำตัวไม่ถูกแน่ๆ

กู่หยูเซิงไม่ได้พูดคุยกับเธอเลยสักคำ และซินเจียเองก็ไม่ได้ใจกล้าถึงขนาดที่จะไปเป็นฝ่ายชวนเขาคุยก่อนอยู่แล้ว

เขามองเธอแค่แวบเดียวแล้วก็ละสายตาไป  เขาทำท่าราวกับว่าเธอไม่มีตัวตนและหันกับไปคุยกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาต่อ

ซินเจียแกล้งทำตัวปกติทั้งที่ในใจรู้สึกประหม่ามาก  เธอชนแก้วกับคนที่เข้ามาหาเธอทุกคน และดื่มไวน์ในแก้วจนหมดเมื่อเธอวางแก้วไวน์ลง  ซินเจียก็แอบเหลือบมองกู่หยูเซิงเงียบๆ

เธอไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า  แต่เธอรู้สึกว่าท่าทางของกู่หยูเซิงก่อนที่รู้ว่าเธออยู่ที่นี่ดูผ่อนคลายมากกว่านี้  แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาเหมือนถูกฉาบด้วยความเย็นชาบางๆ

คนที่กำลังคุยอยู่กับกู่หยูเซิงหันมามองหน้าเธอ  ส่วนกู่หยูเซิงกำลังหยิบบุหรี่มวนใหม่ออกมาจากซอง  เมื่อเขาหยิบบุหรี่ได้แล้ว  คนคนนั้นก็ถามเขาว่า  “รู้จักเธอหรือเปล่า ?”

“ไม่”  กู่หยูเซิงตอยด้วยน้ำเสียงเย็นชา  พลางจุดบุหรี่มวนใหม่มาสูบ

“อืม  ฉันก็นึกว่านายรู้จัก  พอดีเมื่อกี้เห็นเธอมองนาย”คนที่กำลังคุยอยู่กับกู่หยูเซิงคิดว่าเธอคงไม่ได้ยินที่เขาพูด  เพราะเขาคิดว่าเธอคงกำลังคุยกับคนอื่นอยู่

กู่หยูเซิงค่อยๆพ่นควันบุหรี่สีขาวออกมาจากปาก  ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันที่แสดงออกถึงความรังเกียจอย่างชัดเจนว่า  “เราคุยเรื่องอื่นกันดีไหม?  อย่าไปพูดถึงเรื่องไร้สาระพวกนั้นเลย”

ซินเจียได้ยินทุกคำที่พวกเขากำลังคุยกัน  เมื่อเธอได้ยินประโยคสุดท้ายที่กู่หยูเซิงพูด  มือของเธอก็เริ่มสั่นจนทำให้ไวน์ในแก้วหกใส่ชายแขนเสื้อของกู่หยูเซิง

“ขอโทษค่ะ  ฉันไม่ได้ตั้งใจ…….”  ซินเจียรีบดึงเอาทิชชู่มา เพื่อจะมาเช็ดให้กู่หยูเซิง

กระดาษทิชชู่ยังไปไม่ทันจะถึงข้อมือดี  เขาก็ทำท่าราวกับว่ากำลังจะโดนงูเห่าฉก  เขาชักมือออก  ลุกขึ้นยืนและเลื่อนเก้าอี้ออก  ก่อนจะพูดกับคนที่อยู่ข้างๆว่า  “ขอตัวนะครับ”  พอพูดจบเขาก็หันหลังและเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็ไม่กลับเข้ามาอีกเลย

แน่นอนว่าซินเจียรู้ว่าทำไมเขาถึงไม่กลับมา  นั่นก็เป็นเพราะว่าเธออยู่ที่นี้นะสิ  เขาคงไม่อยากจะนั่งหายใจร่วมกับเธอละมั่ง

เมื่องานเลี้ยงใกล้จะจบลง  ซินเจียก็ใช้ข้ออ้างว่าตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ  รู้สึกเหนื่อยจากการเดินเลยจะขอตัวกลับบ้านไปพักผ่อนก่อน  เพื่อเลี่ยงออกจากงานเธอกลับออกมาก่อนแต่โจวจิงยังคงอยู่ในงานเลี้ยงต่อ

เนื่องจากเธอดื่มไวน์ไปพอสมควรประกอบกับเดินทางไกลจึงทำให้เธอรู้สึกเมื่อยล้ามาก  เมื่อกลับถึงบ้านเธอก็มุ่งไปที่เตียงนอน  และนอนหลับไปในทันที

ช่วงค่ำๆซินเจียก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงโทรศัพท์จากโจวจิง  “ฉันดื่มหนักมากไปหน่อย  กลับเองไม่ไหว  เธอช่วยมารับฉันได้หรือเปล่า”  โจวจิงพูดด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้  เธอบอกที่อยู่ที่ต้องไปรับกับซินเจีย  ก่อนจะวางไปอย่างรวดเร็ว

ที่อยู่ที่โจวจิงบอกมา มันเป็นวิลล่าส่วนตัวแห่งหนึ่ง  ซินเจียรู้จักและเคยไปมาก่อน  ดังนั้นเธอจึงค่อนข้างคุ้นทาง

ขณะที่ซินเจียกำลังเดินลงจากรถ  เธอก็เหลือบไปเห็นกู่หยูเซิงผ่านรั้วของวิลล่า  เขากำลังยืนพิงต้นไม้พลางคุยโทรศัพท์ไปด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด