ตอนที่แล้วบทที่ 5: เจ้าชายรูปงามอยู่ประตูถัดไป (5)              
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 : ผมจะดูแลคุณอย่างดี (2)

บทที่ 6 : ผมจะดูแลคุณอย่างดี (1)


บทที่ 6 : ผมจะดูแลคุณอย่างดี1)

 

“หรือว่าเธอเหงา เธอเปลี่ยวมาก จนต้องไปยืมมือคุณปู่เพื่อมาบังคับให้ฉันมานอนกับเธอ?  เหอะ...ลูกไม้เดิมๆ”

ลูกไม้เดิมๆ?

ซินเจียขมวดคิ้วด้วยความงุนงงเธอพยายามจะพูดแก้ต่างให้ตัวเอง   “ฉันไม่.......”

เธอพูดไปได้เพียงสองคำก่อนจะหยุดชะงักเธอมองไปยังกู่หยูเซิงอย่างกล้าๆกลัวๆ และลังเลที่จะพูดเพราะเธอไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงให้เขาเข้าใจว่าเธอไม่ได้เป็นคนไปฟ้องคุณปู่

แต่กู่หยูเซิงกลับตีความหมายเธอท่าทางของเธอไปอีกทาง   เขามองว่าเธอกำลังเสแสร้งและพยายามแสดงละครตบตาเขาด้วยท่าทางที่อ่อนแอไร้ทางสู้

“เธอไม่...อะไร?”   กู่หยูเซิงพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน  “เก่งจริงๆ!!  เดี๋ยวนี้เธอเก่งถึงขนาดเรียนรู้ที่จะพูดโกหกได้โดยไม่กระพริบตาแล้ว”

เขากระชากผมของซินเจียอย่างแรงอีกครั้ง   “ได้.....งั้นเธอช่วยบอกฉันทีสิ  ว่าอะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนี้ที่เธอไปลืมสร้อยข้อมือไว้ในห้องน้ำที่คฤหาสน์วันนี้  จนคุณปู่ต้องตามเอาสร้อยมาคืนเธอถึงที่บ้านถ้าเธอไม่ได้จงใจ!!!   แล้วอีกอย่างคุณปู่รู้ที่ฉันไม่ได้กลับบ้านมาเป็นเดือนแล้วได้ยังไงถ้าเธอไม่ได้เป็นคนฟ้องใครมันทำ!!”

ในที่สุดซินเจียก็เริ่มเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดมันดูบังเอิญจนเกินไป

เธอพยายามนึกย้อนถึงเหตุการณ์ทั้งหมด

นายผู้เฒ่ากู่ไม่ได้รู้เรื่องที่กู่หยูเซิงไม่เคยกลับบ้านเลยตั้งแต่ท่านไปไหหลำจากเธอแน่ๆ   เธอมั่นใจว่าตอนนั้นเธอแสดงละครได้ดีพอสมควร นายผู้เฒ่ากู่ไม่มีทางจับได้แน่  เพราะสีหน้าท่านเองก็ดูผ่อนคลายก่อนที่จะออกจากบ้านไปถ้าอย่างนั้นท่านรู้ได้ยังไงล่ะ?

เธอพยายามประติดประต่อเรื่องทั้งหมด ใช่…!!!

พ่อบ้าน!   เรื่องนี้นอกจากเธอแล้วคนที่รู้เรื่องก็มีแค่พ่อบ้านคนเดียวเท่านั้น   หากไม่ใช่เธอที่แสดงพิรุธให้ท่านเห็นก็คงเป็นพ่อบ้านเป็นแน่ที่จะเป็นคนบอกให้ท่านทราบ   มิน่าล่ะเมื้อกี้ตอนที่เขาวิ่งขึ้นมาข้างบนสีหน้าของเขาถึงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

“อะไรกัน  ถึงกับพูดไม่ออกเลยหรอ?   หรือเธอจะบอกว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำ?”   กู่หยูเซิงพูดเย้ยหยันเธอ   “ดี!! ฉันเองก็ไม่คิดว่าเธอจะฉลาดถึงขนาดลืมสร้อยข้อมือทิ้งไว้ที่คฤหาสน์แล้วล่อให้คุณปู่มาที่นี่เพียงเพื่อจะฟ้องท่านว่าฉันไม่ได้กลับบ้านหรอก ใช่ไหม?”

ซินเจียขยับปากเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเงียบ

ในเมื่อเขาสงสัยว่าเธอเป็นคนวางแผนเรื่องทั้งหมดถึงเธอจะอธิบายให้ตายยังไงว่าเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะลืมสร้อยข้อมือไว้ที่คฤหาสน์  เขาก็คงไม่เชื่อก็ในเมื่อเขาปักใจเชื่อไปแล้วว่าเป็นเธอ   ถ้าอย่างนั้นเธอจะอธิบายให้มันเปลืองน้ำลายทำไม  ดีไม่ดีพอเธอพูดไปเขาอาจจะสรรหาคำพูดมากระแหนะกระแหนเธออีกก็ได้

“ดีมาก...คืนนี้เธอทำได้ดีจริงๆ” กู่หยูเซิงแสร้งพูดยกย่องเธอราวกับว่านั้นมาจากส่วนลึกของหัวใจก่อนจะปรบมือให้เธอถึงสามครั้ง

หลังเสียงปรบมือครั้งที่สามจบลงเขาก็จ้องมองเธอด้วยสายตาอำมหิต รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มหายไป เสียงของเขาเย็นเยียบราวกับลมหนาวยามค่ำคืน “ในเมื่อเธอใช้ความพยายามมากขนาดนี้เพื่อให้ฉันกลับบ้าน เพราะฉะนั้นคืนนี้ฉันจะดูแลเธอเป็นอย่างดีเอง”

พูดจบเขาก็เหวี่ยงเธอลงบนเตียงด้วยความหยาบคายทันที

ปฏิกิริยาของเขาช่างรุนแรงราวกับต้องการทำให้เธอแหลกคามือ  และไม่สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อีก  การกระทำนี้มันทำให้ซินเจียนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์อันเลวร้ายในคืนวันนั้นตอนเดือนก่อน

แม้ว่าเธอจะรักเขาแต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีสิทธิ์ทำอะไรกับเธอก็ได้ เธอจึงพยายามดิ้นรนขัดขืน

แต่อย่างไรก็ตามถึงเธอจะขัดขืนแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย  เธอไม่สามารถหลีกหนีจากเขาไปได้ผ้าปูที่นอนยับยู่ยีในระยะเวลาอันสั้นหมอนใบหนึ่งยังอยู่บนเตียงในขณะที่อีกใบตกลงพื้นไปแล้ว

เธออ่อนแอกว่าเขาโดยปกติอยู่แล้ว   เขาและเธอเป็นคู่ที่ไม่ควรจะมาบรรจบกันได้เลย  เขาขึ้นคร่อมกักขังเธอไว้ภายใต้ร่างแกร่งของเขาจนเธอไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้  เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นชิ้นเนื้อบนเขียงที่พร้อมจะโดนหั่นเป็นชิ้นๆได้ตลอดเวลา

ไม่ต่างจากครั้งที่แล้วกู่หยูเซิงไม่เคยนุ่มนวลกับเธอเลยเขาปฏิบัติต่อเธออย่างโหดร้ายป่าเถื่อนราวกับว่าเธอเป็นสัตว์ร้ายจากขุมนรกที่เขาไม่มีทางจะญาติดีด้วย

ผิวของเขาร้อนจัดแต่ยามที่เขาสัมผัสเธอหัวใจของเธอกลับรู้สึกเย็นวาบราวกับว่ามันกำลังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ

เธออยากจะหนีออกไปจากตรงนี้แต่เธอก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย เพราะแรงตรึงจากวงแขนแกร่ง

ทุกๆการสัมผัสของเขาช่างป่าเถื่อนและไร้ความปราณีเธอรู้สึกราวกับว่ากำลังโดนมีดคมๆบาดมันเจ็บปวดเสียจนเธอแทบทนไม่ได้

เธอกัดฟันแน่นข่มความเจ็บปวดที่กำลังได้รับอย่างสุดความสามารถ เพราะเธอกลัวว่าตัวเองจะเผลอร้องขอความเมตตาจากเขา

เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเธอตอนนี้คงกำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด   เวลาเพียงไม่กี่วินาทีแต่มันราวกับว่านานเป็นกัปเป็นกัลป์สำหรับซินเจีย และแม้ว่าเธอจะเจ็บปวดแค่ไหนเธอก็จะไม่มีทางเปล่งเสียงอะไรออกไปให้กู่หยูเซิงได้ดูถูกเธอ   ซินเจียเริ่มนับเลขในใจเงียบๆเพื่อข่มความเจ็บปวด

เธอเริ่มนับไปเรื่อยๆ เหมือนมันจะช่วยให้เธอลืมความเจ็บปวดไปได้บ้างในช่วงแรกแต่เมื่อเธอนับไปถึง59 ความเจ็บปวดจนแทบทนไม่ได้ก็ทำให้เธอสติหลุดจนเผลอกลับไปนับเลข57 อีกครั้งโดยไม่รู้ตัว

ซินเจียไม่แน่ใจว่าเธอนับเลขไปได้ถึงแค่ไหนก่อนที่กู่หยูเซิงจะหยุดทารุณร่างกายเธอ

เมื่อทุกอย่างจบลงกู่หยูเซิงก็หยิบผ้าปูที่ยับยู่ยี่มาพันตัวก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป  ซินเจียถูกทิ้งไว้บนเตียงในสภาพเหมือนคนเป็นอัมพาตครึ่งซีก เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง เพราะแรงสะเทือนมันจะยิ่งทำให้เธอเจ็บปวด

ขณะที่ซินเจียกำลังจะผล็อยหลับเพราะความเหนื่อยอ่อน ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกอย่างแรงโดยกู่หยูเซิง เขาอาบน้ำเสร็จแล้ว ก่อนจะเดินไปแต่งตัวอย่างประณีต

เขาติดกระดุมเสื้อตรงข้อมืออย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทางสง่างาม  เขาเหลือบตามองซินเจียเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นตอนที่เดินผ่านเตียง

ใบหน้าและร่างกายของซินเจียเต็มไปด้วยเหงื่อไคล  ซึ่งมันได้ลบเครื่องสำอางที่แต่งแต้มอย่างประณีตบนใบหน้าของเธอก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น สภาพของเธอตอนนี้ช่างน่าอเนจอนาถจนแทบจำสภาพเดิมไม่ได้  ผมที่เปียกชุ่มหลู่ลงตามโครงหน้า เนื้อตัวมีแต่ร่องรอยฟกช้ำ ทั้งรอยแดง รอยม่วงเต็มไปหมด

ถึงจะสังเกตเห็นร่องรอยเหล่านั้น  แต่กู่หยูเซิงก็ไม่ได้มีท่าทีเสียใจใดๆเลยใบหน้าของเขายังคงเรียบตรึงไร้อารมณ์  กู่หยูเซิงกำลังจะเดินไปเปิดประตูออกไป แต่อยู่ๆเขาก็หยุดชะงักและเดินกลับมาที่เตียง ก่อนจะเอื้อมมือจับคางของซินเจียให้เชิดขึ้น  จากนั้นก็โน้มตัวลงไปกระซิบที่ข้างหูของเธอเบาๆ

ขณะที่พูดบนใบหน้าของกู่หยูเซิงเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ และดวงตาที่ประดุจใบมีโกนที่พร้อมจะทำลายซินเจียให้แหลกเป็นชิ้นๆน้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยการข่มขู่อย่างชัดเจน “ถ้าเธอชื่นชอบกับของขวัญที่ฉันจัดให้  เธอก็สามารถแจ้นไปฟ้องคุณปู่ได้ทุกเมื่อ! ฉันเองก็เต็มใจที่จะดูแลเธอเป็นอย่างดีทุกเวลา”

“เหลียงดูโขว่ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!  ถ้ายังมีครั้งต่อไปอีก เธอจะไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้แน่ ฉันยังมีหลายวิธีที่ ที่จะดูแลเธอถ้าไม่เชื่อก็ลองดู”

หลังจากพูดจบกู่หยูเซิงก็ปิดประดูและเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วราวกับพายุ

……………………………

ซินเจียได้ยินเสียงรถของกู่หยูเซิงวิ่งออกไปจากบ้านไปแล้ว  หลังจากนั้นประตูห้องนอนของเธอก็ถูกเคาะเบาๆด้วยพ่อบ้าน  “คุณครับ ....คุณโอเคไหมครับ?”

ซินเจียรู้สึกเหนื่อยมาก  มากเสียจนไม่อยากขยับปากเสวนากับใคร  แต่พ่อบ้านก็เคาะประตูขึ้นอีกครั้งพร้อมพูดว่า “คุณครับ…ผมขอเข้าไปข้างในได้ไหมครับ?”

ซินเจียกลัวว่าเขาจะเข้ามาเห็นสภาพอันน่าสมเพชของเธอ   เธอไม่มีทางเลือกจึงจำเป็นต้องเอ่ยตอบเขาไป “ฉันสบายดี   แต่ตอนนี้ฉันอยากอยู่คนเดียว”

พ่อบ้านที่ยืนอยู่หน้าประตูเงียบไปชั่วขณะ  ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือปนความรู้สึกผิดว่า “คุณครับ...ผมขอโทษนะครับเป็นผมเองครับที่บอกเรื่องคุณกู่กับนายผู้เฒ่า”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด