ตอนที่แล้วบทที่ 185 จิตสังหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 187 ดาบมังกรเพลิง

บทที่ 186 เหล่าวีรบุรุษ


เมืองหลวงของจักรวรรดิ เมืองเทียนชิง ไม่ได้ตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของทวีป แต่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ณ ชายแดนของอาณาเป่ยเหลียง

ตามปกติแล้วเมืองเทียนชิงจะไม่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงและบ่าวก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปภายใน มันจะเปิดขึ้นในระหว่างสงครามราชอาณาจักรเท่านั้น วันนี้เมืองเทียนชิงคึกคักไปด้วยความตื่นเต้น เหล่าจอมยุทธที่เข้าร่วมจากทั้งหกขั้วอำนาจถูกรวมตัวกันกลางจัตุรัสของเมืองเทียนชิง

หลังจากเจียงอี้และคนอื่นๆถูกส่งไปแล้ว พวกเขาไม่ได้ไปเดินเล่นอย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกเขาจะหาโรงเตี๊ยมที่จะอาศัยในช่วงที่สงครามของราชอาณาจักรกำลังจะเริ่มขึ้น

ผู้เข้าร่วมจากอาณาจักรต่างๆถูกพามาเกือบทั้งหมดแล้ว เจียงอี้ทำการวิเคราะห์อย่างรวดเร็วและคาดว่ามีผู้เข้าร่วมจำนวนมากจากทั้งขั้วอำนาจทั้งหก อาณาจักรเป่ยเหลียงอีกเล็กน้อย ซึ่งน่าจะมีประมาณสองหมื่นคน อาณาจักรต้าเซี่ยมีจำนวนน้อยกว่าหมื่นคน เห็นได้ชัดว่าอาณาจักรต้าเซี่ยยังไม่ฟื้นตัวจากการสังหารหมู่ของจอมพลกองทัพทหารตะวันตกเมื่อสิบกว่าปีก่อน

จอมยุทธจากทั้งหกขั้วอำนาจยืนอยู่ในกลุ่มของตน ผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมเดินไปด้านข้างโดยอัตโนมัติและสังเกตการณ์อยู่ไกลๆ

เฉียนว่านก้วน จ้านหลินเอ๋อร์ อาจารย์และรองเจ้าสำนักฉีได้แยกตัวเองออกไปยืนอยู่ข้างๆเพื่อรอให้สมาชิกของเมืองจักรวรรดิปรากฏขึ้นและเริ่มสงครามอาณาจักร

เจียงอี้เฝ้าสังเกตจอมยุทธจากอาณาจักรต่างๆอย่างเงียบๆ เขาสังเกตเห็นว่าอาณาจักรต้าเซี่ย อาณาจักรเสินหวู่และอาณาจักรเซิ่งหลิงล้วนมีการแต่งกายคล้ายกัน ผู้คนที่มาจากอาณาจักรอาณาจักรเทียนเซวี่ยนนั้นมีอาภรณ์ที่พิเศษ จอมเวทย์สวมเสื้อคลุมสีสดใสซึ่งมีสัญลักษณ์แปลกๆอยู่ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนเถื่อนเช่นอาหนีซึ่งสวมชุดเกราะหุ้มหนังสัตว์อสูรบนร่างยักษ์ของพวกเขา

อาณาจักรเป่ยเหลียงและอาณาจักรเป่ยหมางสูงกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับอาณาจักรอื่น พวกเขาทั้งหมดสวมชุดเกราะสงครามและเป็นเหมือนกองทัพที่มีนับหมื่นพากันปล่อยกลิ่นอายสังหารอันเยือกเย็น

"อาณาจักรเป่ยเหลียงและอาณาจักรเป่ยหมางตั้งอยู่ในสถานที่อันเยือกเย็นที่ขมขื่น เหล่าจอมยุทธที่นั่นมีลักษณะนิสัยเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ... พวกเขาเข้าสู่ที่ราบน้ำแข็งเพื่อชำระโลหิต น่ากลัวจนต้องระวังหากได้พบกับจอมยุทธจากสองอาณาจักรนี้! มีอีกสิ่ง ศิษย์ของสำนักมังกรเวหาอยู่กับอาณาจักรเป่ยหมาง ในขณะที่ศิษย์จากสำนักฮวาเหลี่ยงอยู่อาณาจักรเซิ่งหลิง"

จ้านอู๋ซวงสรุปสรุปให้เจียงอี้ฟังด้วยเสียงเบาๆ เขากวาดสายตาไปทางกองทัพของอาณาจักรเทียนเซวี่ยนทางด้านซ้ายและพูดด้วยน้ำเสียงที่รุนแรง "เจ้าได้เห็นอาคมขององค์หญิงหยุนเฟยจากอาณาจักรเทียนเซวี่ยน มันจะเป็นการดีหากหลีกเลี่ยงจอมเวทย์ของพวกเขา มิฉะนั้นเจ้าอาจตายโดยไม่รู้เหตุผลว่าทำไม ในสงครามราชอาณาจักรย่อยที่ผ่านมาผู้อยู่อันดับแรกเป็นจอมเวทย์จากอาณาจักรเทียนเซวี่ยน ข้าได้ยินมาว่านางสังหารจอมยุทธไปอย่างน้อยหมื่นคน ... "

เจียงอี้พยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "อู๋ซวง เจ้าก็ต้องระวังเช่นกัน เจ้าอาจจะมีคนหลายสิบคนคอยอยู่กับเจ้า แต่นายน้อยจากตระกูลขุนนางชั้นสูงเช่นนี้คงจะอยู่ในรายชื่อการฆ่าของอาณาจักรอื่นๆ!"

"ฮึๆ!"

จ้านอู๋ซวงส่งเสียงหัวเราะเย่อหยิ่งและพูดราวกับว่ามันไม่ใช่ปัญหา "เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าอาจไม่มีความมั่นใจในการได้อันดับหนึ่ง แต่ข้าแน่ใจว่าข้าสามารถรอดมาได้ ลูกหลานของตระกูลเทพสงครามย่อมไม่ใช่คนที่จะถูกสังหารได้ง่ายๆเช่นนั้น”

"พรึบ"

ในขณะนั้น หนึ่งในค่ายกลเคลื่อนย้ายที่จัตุรัสสว่างขึ้น เจียงอี้และจ้านอู๋ซวงมองไปที่นั่นและมีเพียงสายตาที่เยือกเย็น

คนที่มาถึงคือกลุ่มสตรีทั้งหมด พวกนางสวมชุดเกราะสีเขียวและถือดาบสีเขียว มีประมาณห้าสิบคนและนอกเหนือจากบุคคลหนึ่งในนั้น คนที่เหลือก็อยู่ขอบเขตเสินโหยว คนที่พลังต่ำที่สุดในนั้นคือขั้นที่สี่ของขอบเขตเสินโหยว

"โอ้!"

เมื่อสตรีกลุ่มนี้ปรากฏตัวขึ้นก็เกิดความโกลาหลในจัตุรัสทั้งหมดของเมืองเทียนชิง คนส่วนใหญ่ทราบถึงที่มาของสตรีกลุ่มนี้และพวกเขาคาดหวังให้พวกนางเข้ามามีส่วนร่วมในสงครามราชอาณาจักร พวกเขาไม่ได้คาดหวังให้ว่าพวกนางจะมาเข้าร่วมและทั้งหมดมีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้

กองทัพอันสง่างามของหอดาราสุ่ยเยว่!

หอดาราสุ่ยเยว่ไม่เคยรับศิษย์ที่เป็นบุรุษเลย แม้แต่ประมุขหอดาราก็ยังเป็นสตรี สตรีอาจด้อยกว่าบุรุษเพศโดยแท้ในแง่ของความแข็งแรงทางกายภาพซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมตลอดประวัติศาสตร์ของทวีปเทียนชิงเกือบทั้งหมดมีแต่บุรุษที่เป็นอันดับหนึ่ง หลังจากหอดาราสุ่ยเยว่ปรากฏขึ้น พวกนางได้ฝ่าฝืนกฎแห่งธรรมชาตินี้ ประมุขหอดาราสุ่ยเยว่ทุกรุ่นจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้อันดับหนึ่งของทวีป ในรุ่นนี้ สุ่ยโย่วหลานดูถูกวีรบุรุษทุกคนและไร้คู่แข่ง

"สุ่ยเชียนโหรว!"

นายน้อยทั้งหลายต่างจ้องมองไปที่ความงามน้อยๆที่ถูกล้อมรอบไปด้วยสตรีในชุดเกราะสีเขียวและรู้สึกราวกับว่าดวงตาของพวกเขาสว่างขึ้น

เด็กผู้หญิงที่ถูกตามใจและป่าเถื่อนคนนี้อาจมีนิสัยฉาวโฉ่ แต่นางก็มีรูปลักษณ์ที่สามารถทำให้ทั้งอาณาจักรและเมืองล่มสลายได้ และนางยังไม่ได้พัฒนาเต็มที่ แม่ของนางเป็นอันดับหนึ่งของทวีป หากใครได้นางไปครอง เขาจะเป็นคนแรกของทวีปที่จะลุกโชนขึ้นมาเหมือนนกฟีนิกซ์!

มีสถานะที่ได้คำนิยามเป็นลูกเขยของนักสู้อันดับหนึ่ง ของทวีป ใครจะกล้าดูถูกเขา? ใครจะกล้าฆ่าเขา?

"เจียงอี้ นางเป็นบุคคลที่มีเจตนาร้าย!"

ดวงตาของจ้านอู๋ซวงเต็มไปด้วยความกังวล การแสดงออกของเจียงยี่ก็ค่อนข้างจริงจังเช่นกัน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาไม่เห็นสุ่ยเชียนโหรวในเมืองหลวง

เธอไปนำกองทัพของนางจากเกาะดาวตกมา ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้ทำลายเสื้อคลุมวิหควิญญาณของนางไปก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้นางมีอันใหม่หรือ? เขาอาจไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ระดับเดียวกับเสื้อคลุมวิหควิญญาณหรือไม่ แต่มันคงก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน

สุ่ยเชียนโหรวนำกองทหารของนางและเดินทะลุผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายออกมาด้วยความภาคภูมิใจ นางมองไปรอบๆและรีบเพ่งเล็งไปที่เจียงอี้ซึ่งอยู่ในกองทัพของอาณาจักรเสินหวู่

นางหยุดและพูดโดยไม่มีการยับยั้งใดๆ "เจียงอี้! ดีมาก! หากหญิงสาวคนนี้ทำให้เจ้าออกจากสงครามราชอาณาจักรทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ข้า สุ่ยเชียนโหรว จะใช้แซ่ตระกูลของเจ้า!"

"ว้าว!"

เกิดความวุ่นวายในพื้นที่ทั้งหมดและดวงตาจำนวนนับไม่ถ้วนมองไปที่เจียงอี้ พวกเขามองเจียงอี้ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ตายไปแล้ว การเป็นปรปักษ์ต่อนางก็เหมือนกับการเป็นปรปักษ์ต่อสตรีจำนวนนับไม่ถ้วนจากตระกูลใหญ่ที่ต้องการจะเป็นเหมือนนาง เจียงอี้กำลังจะเข้าสู่สงครามราชอาณาจักรนี้ที่รายล้อมไปด้วยศัตรูจากทุกทิศทุกทาง

"หึๆ!"

เจียงอี้ถูจมูกของเขาและเดินไปข้างหน้า เนื่องจากเขาเข้าสู่สงครามราชอาณาจักรกับศัตรูแล้วเขาคงจะถอยกลับไปไม่ได้แล้ว เขาปล่อยเสียงหัวเราะเยาะและตอบกลับโดยไม่ยั้งคิดเช่นกัน "แม่นางสุ่ย เจ้าก็ควรสวดอ้อนวอนว่าเจ้าจะไม่พบข้า ไม่เช่นนั้นนายน้อยคนนี้จะถอดเสื้อผ้าของเจ้าแล้วแขวนไว้บนต้นไม้เสีย!"

"ฮะ…"

เสียงของเจียงอี้ไม่ได้ดังหรือเบาเกินไป แต่ก็เพียงพอสำหรับทุกคนในจัตุรัสที่จะได้ยินมันอย่างชัดเจน ทันใดนั้น สตรีหลายคนก็พากันเขินอายขณะที่มีจิตสังหารอย่างหนาแน่นที่มาจากนายน้อยจำนวนนับไม่ถ้วน สุ่ยเชียนโหรวโกรธมากจนเกือบจะหมดความอดทน หากไม่ใช่เพราะคนที่มาจากหอดาราสุ่ยเยว่ นางอาจจะลงมือในเมืองเทียนชิงนี้ไปแล้ว

"พรึ่บ"

ในขณะนั้นเอง ค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดยักษ์ก็สว่างขึ้นอีกครั้งและดึงดูดความสนใจของทุกคน เจียงอี้แสดงอารมณ์ที่น่าสะพรึงกลัวนี้ทันทีที่เขามอง เขากระพริบตาและถามว่า "อู๋ซวง คนกลุ่มนี้ก็มีส่วนร่วมในสงครามราชอาณาจักรด้วยเหรอ?"

"อื้อ!"

จ้านอู๋ซวงพยักหน้าและตอบว่า "อารามเซนอันยิ่งใหญ่ไม่ได้เข้าร่วมในสงครามราชอาณาจักรครั้งใหญ่ แต่พวกเขามักจะเข้าร่วมในสงครามราชอาณาจักรย่อย พวกเขาจะไม่ฆ่าคนเพื่อได้เหรียญมา ตราบใดที่เจ้ามอบเหรียญให้ พวกเขาจะไม่สนใจเจ้า"

"ทำไมพวกเขาถึงเข้าร่วม หากพวกเขาไม่ฆ่าใคร ... ?"

เจียงอี้กวาดตามองพระที่ผ่านมาทางไกล มีนักบวชหนุ่มที่อายุราวๆสิบหกถึงสิบเจ็ดปีที่มองเขาด้วยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา

เขาดูเหมือนเด็กที่ไม่มีประสบการณ์ เจียงอี้คิดว่าหากนักบวชตัวเล็กนี้เข้าไปข้างในและเห็นศพและแขนขาขาด เขาจะไม่ร้องไห้จากฉากที่เหมือนนรกหรือ?

"หึๆ เจียงอี้ เจ้าไม่ควรประมาทนักบวชน้อยผู้นี้นะ"

จ้านอู๋ซวงเอนกายและกระซิบ "นักบวชน้อยคนนี้เป็นศิษย์คนสุดท้ายของเจ้าอาวาส เขาไม่มีขีดจำกัดในธรรมะและมีข่าวลือว่าเป็นอัจฉริยะที่หายากของอารามเซนที่ปรากฏทุกหมื่นปี ความแข็งแกร่งของเขาถูกปกปิดไว้อย่างพิเศษ จากการอ้างอิงในตระกูลของข้า ความแข็งแกร่งของเขาอย่างต่ำอยู่ที่ขอบเขตมหายานเซนซึ่งเทียบได้กับขอบเขตเสินโหยว ... "

"แข็งแกร่งอะไรเช่นนั้น?"

เจียงอี้ตกใจอย่างเงียบๆ นักบวชน้อยนี้ดูอ่อนกว่าเขาและมีรอยยิ้มที่ดูไม่เป็นอันตราย ดวงตาเล็กๆของเขามองและสังเกตทุกอย่างอย่างสงสัย แน่นอนที่สุด เขาไม่มีอะไรที่ดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวเลยแม้แต่น้อย

"ปึง ปึง ปึง... !"

เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นดังมาจากทางเหนือ ผู้คนส่วนใหญ่หันไปมองทางนั้นและจ้านอู๋ซวงผู้ซึ่งสะกิดไหล่ของเจียงอี้ทันที "คนจากตระกูลจักรพรรดิกำลังจะมา สงครามราชอาณาจักรกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด