ตอนที่แล้วGE446 โอสถมิติ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE448 เจ้าไม่อาจเทียบบุรุษของข้าได้ [ฟรี]

GE447 แคว้นเหมันต์ [ฟรี]


เผ่าปีศาจยักษ์ตั้งอยู่ในแถบทะเลปีศาจน้ำแข็ง มีเกาะที่อยู่ในปกครอง 400 แห่ง มีแคว้นที่อยู่ในปกครองอีก 13 แห่ง

เผ่าปีศาจยักษ์นั้นแตกต่างจากอีก 3 เผ่าปีศาจที่เหลือ ด้วยความที่ยอมภักดีต่อกษัตริย์อัสนี พวกมันจึงได้รับการสนับสนุนและพัฒนาขุมกำลัง

ในบรรดาแคว้นปีศาจและหมู่เกาะทั้งหมด มีเกาะอยู่แห่งหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นามว่าเกาะเหมันต์ เป็นเกาะที่มีพื้นที่กว่า 70 ล้านตารางลี้ ซึ่งแคว้นแห่งนี้แทบจะเทียบเท่ากับแคว้นระดับสูงของโลกพิรุณ

เกาะเหมันต์เป็นที่ตั้งหลักของเผ่าปีศาจยักษ์ งานปรุงโอสถก็จะจัดอยู่เกาะแห่งนี้ สู่ฉุ่ยหลิงเองก็อยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน

เมื่อเข้ามาถึงส่วนในของแถบทะเลน้ำแข็ง หนิงฝานก็ลดความเร็วลง เพราะบริเวณนี้ก็มีกฏอยู่

แต่ละเกาะที่อยู่ในปกครองของเผ่า จะมีคนของเผ่าปีศาจยักษ์เฝ้าอารักขา ผู้ที่มาส่วนใหญ่ ก็ไม่กล้าก่อเรื่องที่นี่

ยามนี้เกาะเหมันต์เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา เพราะอีกไม่นานงานปรุงโอสถจะเริ่มขึ้น ผู้คนจากหลายๆที่จึงมุ่งมาเพื่อเข้าชม

ระหว่างเดินทาง หนิงฝานไม่ได้เร่งความเร็วมากนัก เขาให้เยว่หลิงคงและเฟินซื่อได้ชื่นชมทิวทัศน์สองข้างทาง เพราะเกาะแต่ละแห่งของเผ่าปีศาจยักษ์นั้นงดงามราวกับสรวงสวรรค์ ดูไม่เหมือนเกาะที่ปกครองด้วยเผ่าปีศาจเลยแม้แต่น้อย

แรกเริ่มเมื่อหนิงฝานเริ่มฝึกวิชา หานหยวนจี๋เคยบอกหนิงฝานว่า แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นขุมกำลังฝ่ายอธรรม แต่มันก็ไม่ได้ต่างจากขุมกำลังฝ่ายธรรมะ แก่นแท้ที่แตกต่างกันจริงๆคือวิชาที่ฝึกฝน แต่ผู้คนมักจะเข้าใจกันไปเองว่าขุมกำลังฝ่ายอธรรมต้องเลวร้าย ซึ่งไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป

เซ่าชวนได้เล่าถึงความเป็นมา แนะนำสถานที่ และกฏต่างๆของเผ่าให้ฟัง ทั้งยังได้บอกอีกว่า เกาะบางแห่งของเผ่าปีศาจยักษ์นั้น คือสมบัติที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่

“แคว้นตรงนั้นมีนามว่า แคว้นน้ำค้างขาว เป็นแคว้นที่ทรงพลังเป็นอับดับ 4 ในบรรดาแคว้นของเผ่าเรา”

“และนั่น...” เซ่าชวนบอกเล่าเรื่องต่างๆอย่างมีความสุขและตื่นเต้น

“ตรงนั้นคือแคว้นเหมันต์ เป็นที่ตั้งของเผ่าปีศาจยักษ์ มีเนื้อที่ 70 ล้านตารางลี้ มีผู้เชี่ยวชาญกว่า 4 ล้านคน เหตุที่เกาะแห่งนั้นชื่อเหมันต์ก็เพราะบรรพบุรุษของเรานั้นเศร้าโศกเสียใจที่ไม่อาจหวนคืนบ้านเกิด จึงได้สร้างสถานที่แห่งนี้เอาไว้ และเปรียบเทียบความหนาวเหน็บเป็นความโดดเดี่ยวอ้างว้าง...”

เซ่าชวนบอกเล่าเรื่องราวต่างๆได้อย่างน่าสนใจ เฟินซื่อที่ไม่เคยออกจากเผ่า เมื่อได้ฟังเรื่องราวก็รู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก

แม้หลิงคงจะเคยมาที่นี่แล้ว แต่นางก็มาอยู่แค่ไม่กี่ครั้ง และไม่รู้เรื่องราวความเป็นไปของเผ่า นางจึงสนใจเช่นกัน

มีเพียงหนิงฝานที่ไม่สนใจคำกล่าวของเซ่าชวน เขากำลังขบคิดเรื่องบรรพบุรุษของเผ่าที่เซ่าชวนกล่าวเมื่อครู่

“ไม่อาจหวนคืนบ้านเกิดจึงไรู้สึกโดดเดี่ยว… ผู้ฝึกตนที่จะหวนคืนบ้านเกิดของตนนั้น มีเพียงไม่อาจฝึกฝนวิชาได้ต่อ… ความโดดเดี่ยวเปรียบได้กับความความหนาวเหน็บ หิมะโปรยปรายก็คือความหนาวเหน็บ...”

หนิงฝานขบคิดทำความเข้าใจ แม้จะเป็นเรื่องราวสั้นๆแต่เขากลับคิดว่ามันคือเต๋าทั้งชีวิตของคนผู้หนึ่ง

เมื่อมนุษย์ก้าวเข้าสู่เส้นทางของการฝึกฝน ก็จำเป็นต้องจากบ้านเกิด ท่องไปในทะเลโลหิตเพียงลำพัง มีเพียงความอ้างว้างและโดดเดี่ยวอยู่ข้างกาย

เส้นทางที่โดดเดี่ยวนี้ หากได้ก้าวเดินเข้ามาแล้ว จะไม่มีวันได้หวนกลับ

หนิงฝานในทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าตนเองจะได้กลับคืนบ้านเมื่อไหร่ เพราะยิ่งเขาก้าวเดิน ก็ยิ่งไกลออกจากบ้าน

“เมืองเหมันต์… เผ่าปีศาจยักษ์ไม่ธรรมดา… หิมะที่นี่ก็ไม่ธรรมดา… หากข้าเข้าใจไม่ผิด มันสมควรเป็นวิชาที่ให้ผลเป็นวงกว้าง”

หนิงฝานเริ่มเข้าใจในเผ่าปีศาจยักษ์มากขึ้น และรู้ว่าหิมะที่โปรยปรายเหล่านี้ ทำหน้าที่ซ่อนอำพรางกลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง

กลิ่นอายนั้นคล้ายกับเซ่าชวนมาก แต่ทรงพลังกว่าไม่รู้กี่เท่า

เหตุที่กล่าวว่าหิมะเหล่านี้เป็นวิชาที่กินวงกว้าง เพราะมันกว้างพอที่จะปกปิดเกาะทั้ง 400 แห่ง และแคว้นอีก 13 แห่งได้!

หากจะให้หนิงฝานทำเช่นนี้เขาก็ทำได้ เขาสามารถเปลี่ยนให้รอบข้างมีฝนตกโปรยปรายไม่หยุดได้ด้วยเจตจำนงค์พิรุณ แต่คงไม่อาจทำให้กินวงกว้างได้ขนาดนั้น ต่อให้เป็นขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นหรือขั้นกลางก็ทำไม่ได้

“นี่คือวิชาระดับไร้ดัดแปลงขั้นสูง! เผ่าปีศาจยักษ์มีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นสูงอยู่!”

ดูเหมือนเผ่าปีศาจยักษ์จะแสร้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อเล่นหมูกินเสือ

ฉะนั้นเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังของเผ่าปีศาจตกตายในการต่อสู้ที่รุนแรงในอดีต จึงเป็นเพียงเรื่องโกหก

ผ่านไปครึ่งเดือนหนิงฝานและคนอื่นๆก็มาถึงแคว้นเหมันต์ แคว้นแห่งนี้มีหิมะโปรยปรายอยู่ตลอดเวลา ภายในแคว้นมีผู้คุ้มกันสวมเสื้อคลุมหนายืนเฝ้าหลายแห่ง

เมื่อไปถึง หนิงฝานก็ลงจากท้องนภาเปลี่ยนมาเดินเท้า แต่ในขณะนั้น ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้าขวางทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนเข้าไปภายในแคว้น

ผู้คนมากมายเดินทางมาไกล แต่กลับไม่ยอมให้เข้าแคว้น นับว่าพวกมันเสียหน้าอย่างใหญ่หลวง

แต่ถึงอย่างนั้น ท่านชวี่ผู้ปกครองแคว้นเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังในทะเลส่วนใน แม้คนเหล่านั้นไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าตำหนิ

อีกอย่าง การที่ปิดกั้นไม่ให้ผู้คนภายนอกเข้าไป แสดงว่าแขกที่มาต้องมีสถานะสูงส่งและทรงพลังมาก จึงต้องต้อนรับด้วยวิธีการเช่นนี้

ผู้ที่ขวางทางล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ ดังนั้นพวกมันจึงไม่กลัวที่จะห้ามผู้ที่มาไม่ให้เข้าแคว้น

แต่เมื่อพวกมันสังเกตุเห็นเซ่าชวนจึงได้กล่าวทักทาย และต้อนรับกลับอย่างอบอุ่น

“น้องเซ่า เจ้ากลับมาแล้วเหรอ? หืม? นั่นโสมน้ำแข็ง 3 หมื่นปี เจ้าหามันมาได้ด้วย! ฮ่าฮ่า นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี แบบนี้คุณหนูใหญ่ต้องอาการดีขึ้นแน่ ตัวเจ้าเองก็จะได้รับความดีความชอบมากมายเช่นกัน!”

คนของเผ่าปีศาจยักษ์ไม่สนใจคนของขุมกำลังอื่น แต่จะดีกับคนของตนมาก แม้ต้องเผชิญหน้ากับความตาย พวกมันก็จะไม่ทิ้งกัน และยอมสู้จนตัวตาย

เทียบกับขุมกำลังฝ่ายธรรมะบางแห่งแล้ว เผ่าปีศาจยักษ์ยังดีซะกว่า อีกอย่าง พวกมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับสามกองทัพปีศาจของเขา

“นับว่าโชคดีที่ข้ารอดมาได้ เพราะพี่น้องของเราหลายคนไม่รอดกลับมา… ว่าแต่ มีเรื่องอะไรทำไมถึงปิดไม่ให้คนเข้าแคว้น”

“ไม่ได้เกิดอะไรร้ายแรงนักหรอก แค่คุณหนูใหญ่หายตัวไป เจ้าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด… แต่จะว่าไป ทำไมคนของเราถึงตายไปหลายคน ด้วยชื่อเสียงของเผ่าเรา น่าจะไม่มีใครกล้ายั่วยุ ใครกันที่สังหารคนของเรา?” ผู้นำกลุ่มคนที่ปิดกั้นเส้นทางกล่าว

“ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก แต่เป็นพวกวาฬมังกรขาวที่คิดเข้ามาชิงโสม!” เมื่อได้ยินว่าคุณหนูใหญ่หายตัวไป เซ่าชวนจึงเริ่มเป็นกังวล

“ว่าไงนะ! วาฬมังกร! ได้ข่าวว่าฝูงวาฬมังกรมีจ่าฝูงที่อยู่ในขอบเขตตัดวิญญาณอยู่ ผิวหนังของพวกมันก็หนา ทนทานต่อการจู่โจม นับว่าโชคดีที่เจ้ารอดจากพวกมันมาได้”

“ใช่… ถ้าไม่ได้ผู้อาวุโสซัวช่วย พวกข้าคงไม่รอดกลับมาแบบนี้หรอก”

เซ่าชวนกล่าวพลางชี้ไปหาหนิงฝาน ทำให้คนที่ปิดกั้นทางทั้งหมดหันไปมอง เดิมที่พวกมันไม่ได้สนใจผู้ที่มานัก เพราะพวกมันได้รับหน้าที่ให้ป้องกันไม่ให้คนเข้าแคว้น ยิ่งได้พบกับเซ่าชวน ก็ยิ่งไม่สนใจคนรอบข้างเข้าไปใหญ่ อีกอย่างหนิงฝานลบกลิ่นอายตน ทำให้ตัวเขาไม่เป็นจุดสนใจของผู้ใด

เมื่อได้ยินเซ่าชวนกล่าวถึงผู้ที่ช่วยชีวิต คนเหล่านั้นต้องคิดว่าอย่างน้อยผู้ที่ช่วยต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ จึงเตรียมจะป้องมือเพื่อกล่าวขอบคุณ และนำเรื่องไปแจ้งกับเผ่า แต่เมื่อพวกมันสังเกตุเห็นหน้าหนิงฝาน สีหน้าพวกมันกลับแข็งค้าง

“ทะ...ท่านหมิง! เขาคือ...ซัวหมิง! แล้วนั่น… ผู้ปกครองเกาะมิติเทพ เยว่หลิงคง! ท่านซัวหมิงมาที่นี่!”

“ท่านพี่รีบเปิดข่ายอาคมเถอะ”

“รีบไปตามคนทั้งหมดมาเร็วเข้า แล้วรีบเปิดข่ายอาคมป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด อย่าให้ซัวหมิงเข้าเกาะได้!”

“บ้าเอ้ย! ส่งสัญญาณหาท่านชวี่ว่าอันตรายมาเยือนแล้ว… พวกเราถูกฆ่าหมดแน่!”

เมื่อเห็นว่าหนิงฝานมา พวกมันจึงเร่งทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันเกาะ

ไม่นานนัก สัญญาณบางอย่างได้ปรากฏบนท้องนภาอย่างชัดเจน จนคนทั้งเกาะสามารถมองเห็นได้ เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่รอบข้างก็เร่งทะยานห่างจากหนิงฝานด้วยความหวาดกลัว

สำหรับพวกมันแล้ว หนิงฝานเป็นเหมือนปีศาจร้ายที่สามารถทำลายเผ่าปีศาจได้ทั้งเผ่า

เรื่องที่หนิงฝานเป็นมิตรกับตงสู่ มีเพียงตัวตนระดับสูงขอบเขตเผ่าเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเหล่าทหารทั่วไปจึงไม่รู้เรื่องด้วย

เมื่อหลายเดือนก่อน หนิงฝานก็เพิ่งสังหารลู่เจี่ยเฟิน ทำให้วังผนึกอสูรถูกทำลาย

การที่เขามาเผ่าปีศาจยักษ์ในยามนี้ จึงทำให้เหล่าทหารหวาดกลัว

หนิงฝานส่ายหน้าอย่างไร้หนทาง ดูเหมือนชื่อเสียงด้านลบของเขาจะก้าวหน้าไปมาก แม้สถานที่ห่างไกลขนาดนี้ยังไม่พ้นต้องเจอคนหวาดกลัว

นี่เขาชั่วร้ายขนาดนั้นเลยหรือ? ทำไมทุกคนต้องทำเหมือนเห็นผีด้วย?

“ฮ่าฮ่า! แตงกวาน้อย ชื่อเสียงของเจ้าไม่ธรรมดาจริงๆ ข้าหล่ะขำแทบตาย!” เยว่หลิงคงหัวเราะจนต้องเอามือกุมท้อง

เฟินซื่อเองก็ต้องรีบเอามือปิดปากไม่กล้าหัวเราะเสียงดัง ก่อนหน้านี้นางก็คิดว่าหนิงฝานคือปีศาจไร้หัวใจ แต่ตอนนี้นางรู้แล้วว่า หนิงฝานจะดีกับคนของตนมาก แต่จะโหดร้ายก็กับศัตรูเท่านั้น

หากเผ่าปีศาจยักษ์ไม่ยั่วยุเขาก่อน นางก็มั่นใจว่าหนิงฝานจะไม่ทำอะไรเผ่าปีศาจยักษ์

นางจ้องมองสีหน้าหนิงฝานไร้หนทางของหนิงฝานยามนี้ นางยิ่งรู้สึกว่าเขาน่ารักอย่างบอกไม่ถูก

“หยุดเดี๋ยวนี้!” ไม่นานนักเสียงสายหนึ่งก็ดังขึ้น บอกให้ทหารเหล่านั้นหยุดมือและปิดข่ายอาคม

ชายชราในอาภรณ์ขาวผู้หนึ่งปรากฏตัว เป็นผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่า อยู่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด

“ข้าคือผู้อาวุโสใหญ่แห่งเผ่าปีศาจยักษ์ นาม ‘ฝูไป๋’ คารวะท่านหมิง… ทหารเหล่านี้ไม่รู้ว่าท่านเป็นสหายของเผ่าปีศาจยักษ์เรา ข้าต้องขอโทษที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”

คำกล่าวของชายชราทำให้เหล่าทหารตกตะลึง

ซัวหมิงเป็นสหายของเผ่าปีศาจยักษ์? งั้นที่มาเผ่าวันนี้ก็ไม่ได้มาเพื่อทำลาย? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ข่าวลือที่แพร่มา คือซัวหมิงปรากฏตัวที่ใดที่นั่นต้องถูกทำลาย ทำให้เขาถูกมองเป็นเทพแห่งการสังหารไป หรือนั่นไม่ใช่ความจริง?

“ฮ่าฮ่า! แตงกวาน้อย ดูสิ พวกนั้นคิดว่าเจ้าจะมาทำลายที่นี่...” ในขณะที่นางหัวเราะอยู่นั้น หนิงฝานกลับตีก้นนางอย่างแรง

การถูกทำโทษต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ทำให้นางทั้งอายและโกรธ แต่นางก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำ นางเป็นถึงผู้ที่ทรงพลังที่สุดในหมู่ผู้เชี่ยวชาญทะเลส่วนใน แต่กลับถูกตีก้นต่อหน้าผู้คนมากมาย

ทุกคนก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน ทุกคนรู้ดีว่าเยว่หลิงคงนั้นทรงพลัง แต่วันนี้หนิงฝานกลับตีก้นนางทำโทษ นั่นหมายความว่าหนิงฝานทรงพลังกว่านาง

แต่ในระหว่างที่นางไม่พอใจอยู่นั้น หนิงฝานกลับกอดนางแนบกายพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ “สงบคำบ้าง ไม่อย่างนั้นเจ้าจะไม่ได้ของขวัญ!”

“ถ้าเจ้าไม่ให้ของขวัญข้า ข้าจะโกรธเจ้า!” นางกล่าวแล้วอยู่อย่างสงบในอ้อมกอดของเขา

นางจ้องมองคนรอบข้างด้วยสายตาเย็นชาจนไม่มีผู้ใดกล้าสบตานางสักคน คนเหล่านั้นเพียงคิดว่า เยว่หลิงคงที่น่ากลัวแล้ว หนิงฝานยังน่ากลัวกว่านางอีก

ฝูไป๋เองก็ไม่กล้ามองนาง เพราะกลัวจะทำให้โกรธ ชายชราจึงป้องมือกล่าว

“ฮ่าฮ่า… คนของข้าทำเรื่องไม่ควรเข้า ขอท่านหมิงโปรดอภัย หากท่านต้องการ ข้าจะชดใช้แทนคนเหล่านี้ให้”

“ข้าไม่ต้องการหรอก… พวกเขาแค่เข้าใจผิด ไม่ได้ล่วงเกินข้าแต่อย่างใด ข้าไม่ถือสาหรอก” หนิงฝานปล่อยเยว่หลิงคงพลางป้องมือให้ชายชรา ทั้งยังยิ้มอย่างเป็นมิตร

สำหรับหนิงฝานแล้ว เขาจะไม่ยอมก้มหัวให้ศัตรู แต่เขาจะดีกับคนของตนและสหายมาก

ผู้ที่เฝ้ามองเหตูการณ์ต่างตกตะลึง ดูเหมือนพวกมันจะเข้าใจหนิงฝานผิดไป เขาไม่ได้เลือดเย็นเหมือนข่าวลือ

“ฮ่าฮ่า ขอบคุณท่านที่ใจกว่าง ตอนนี้ในแคว้นเรามีปัญหาเล็กน้อย ไม่อย่างนั้น ท่านชวี่ ท่านตงสู่ และคุณหนูฉุ่ยหลิงคงออกมาพบท่านด้วยตัวเอง” ชายชรากล่าว

“ฉุ่ยหลิง...” แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนอ่อนโยน เขาไม่ได้พบนางนานแล้ว จึงคิดถึงนาง

นางเป็นบุบผาที่โอบอุ้มตัวเขา เป็นบุบผาที่ยอมสละชีวิตได้เพื่อเขา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น… หรือจะเป็นเรื่องที่คุณหนูใหญ่หายตัวไป พวกท่านเลยกังวล?”

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เรื่องที่คุณหนูใหญ่หายตัวไปไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องความปลอดภัยของนางยิ่งไม่ต้องกังวล เพราะนางออกไปจากเกาะแห่งนี้ไม่ได้… เพียงแต่หากนางคิดจะซ่อนตัว ไม่ว่าผู้ใดก็หานางไม่พบ… ฮ่าฮ่า เชิญสหายเต๋าเถอะ ข้าจะนำทางเอง ท่านชวี่และคนอื่นๆกำลังยุ่งอยู่ ท่านอาจจะยังไม่ได้พบพวกเขาในทันที”

“พวกเขายุ่งเรื่องอะไร ให้ข้าช่วยได้หรือเปล่า?” หนิงฝานไม่ได้อยากจะยุ่งเรื่องของเผ่า แต่เหตุที่ต้องยุ่งเพราะมันเกี่ยวพันกับฉุ่ยหลิง

“โอ้! เรื่องนี้ถ้าได้ท่านช่วยคงง่ายขึ้นมาก เชิญเถอะ ระหว่างทางข้าจะเล่าให้ท่านฟัง เพราะเรื่องที่ว่าเป็นเรื่องที่คุณหนูใหญ่ก่อไว้” ดูเหมือนชายชราจะปวดหัวกับฟงฉุ่ยเยวียนมาก...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด