ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0697
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0699

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0698


ตอนที่ 698 : คืนชีพ

ศีรษะของปันหยุนหั่วถูกบั่นออกกระเด็น เชี่ยวเย่ว์หลานมีกำลังเลิศล้ำจนส่งผลให้ผู้คนร้องอุทานตื่นตระหนก

กระนั้น ขณะเชี่ยวเย่ว์หลานคิดใช้ฝ่ามือโจมตีที่ร่างปันหยุนหั่ว ร่างที่ไร้ศีรษะกลับเคลื่อนไหวรวดเร็วไปถึงตรงที่ศีรษะกลิ้งอยู่

เขาเร่งรีบเก็บศีรษะตนเองขึ้น จากนั้นจึงหลบเลี่ยงบอลพลังงานที่เชี่ยวเย่ว์หลานใช้โจมตีเข้าใส่

ศีรษะของปันหยุนหั่วถูกบั่นออก กระนั้นร่างกายกลับยังขยับได้ และศีรษะนั้นสามารถกลับคืนสู่ร่าง

เชี่ยวเย่ว์หลานเองก็ไม่คาดคิด ว่าร่างของปันหยุนหั่วจะประหลาดได้เพียงนี้!

ความสามารถการฟื้นฟูระดับนี้ชวนตื่นตะลึง หัวและคอสามารถเชื่อมต่อกันได้โดยไร้ซึ่งแผลเป็นใด

“แม่สาวงาม กำลังของเจ้าช่างยอดเยี่ยม เป็นข้าชื่นชอบสตรีเช่นเจ้านัก จงมาเป็นผู้หญิงของข้าเสีย!” ปันหยุนหั่วหัวเราะโฉดชั่ว ดวงตาสีน้ำเงินพลันทอแสงวูบ

เชี่ยวเย่ว์หลานทะยานร่างด้วยโทสะ กระนั้นที่ครึ่งทางพลันต้องหยุดพร้อมเผยใบหน้าที่หวาดกลัว

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ปันหยุนหั่วหัวเราะดังก้าวเดิน ขณะคิดโจมตี เขาจึงได้เห็นร่างเชี่ยวเย่ว์หลานหายวับกับตา

ในพริบตา เชี่ยวเย่ว์หลานทั้งสองได้ปรากฏบนลานประลอง เป็นร่างมายาแฝดที่นางปล่อยออกมา

เชี่ยวเย่ว์หลานตัวจริงกลับกลายเป็นโปร่งแสงและหลบซ่อนในลานประลองยุทธ์

“นี่สมควรเป็นความสามารถเทวะกระมัง? ความสามารถเทวะร่างแฝด? แต่ดูเหมือนเจ้ายังไม่ทันได้เชี่ยวชาญมันเท่าใดนัก!” ปันหยุนหั่วเร่งรีบพุ่งทะยานใส่ร่างหนึ่งพร้อมใช้ฝ่ามือโจมตี

พลังโจมตีครานี้เหนือล้ำ เมื่อมันปะทะออก ร่างแฝดมายาของเชี่ยวเย่ว์หลานจึงกระจายหาย

ร่างแฝดมายาอีกหนึ่งปรากฏตัวที่ด้านหลังปันหยุนหั่ว ใช้ฝ่ามือโจมตีที่ศีรษะอีกฝ่าย พลังโจมตีครั้งนี้ชวนสะพรึง ส่งผลให้ศีรษะนั้นต้องแตกแยกออก!

ทว่า ศีรษะที่ปริแตกแยกออกกลับสามารถฟื้นฟูได้ในทันที

ปันหยุนหั่นหันกลับ โจมตีต่อเนื่องด้วยฝ่ามือ สลายร่างแฝดมายาของเชี่ยวเย่ว์หลานจนเลือนหาย

ผู้คนที่ก่อนหน้านี้พ่ายแพ้ต่อเชี่ยวเย่ว์หลาน ครานี้ต่างอึ้งทึ่งและชื่นชมต่อกำลังของปันหยุนหั่ว

ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญความสามารถเทวะพลังจิตอันเลิศล้ำ เขายังมีความสามารถฟื้นฟูที่แกร่งกล้า

นี่ถือเป็นตัวตนไร้เทียมทานแล้ว!

กระนั้น ปันหยุนหั่วก็ยังได้เพียงแค่อันดับสองของงานประลองยุทธ์แห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้า!

อย่างนั้นแล้วอันดับที่หนึ่งอย่างหลงเย่ว์เล่า? นางจะแข็งแกร่งได้เพียงใด!

“เย่ว์หลานเป็นอะไรไป?” ฉินหยุนเผยอาการร้อนรน

“นางถูกโจมตีด้วยความสามารถเทวะพลังจิตที่แปลกประหลาด ส่วนเป็นการโจมตีใดนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “มันเป็นพลังที่สามารถควบคุมจิตใจผู้อื่นได้!”

เชี่ยวเย่ว์หลานที่โปร่งแสง ฉับพลันปรากฏตัวเบื้องหลังปันหยุนหั่ว

ตู้ม!

ทันทีที่นางปรากฏ ฝ่ามือจึงโจมตีออกรวดเร็ว การโจมตีนี้ปะทะลงที่แผ่นหลังของปันหยุนหั่วจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น

หลังจากที่แผ่นหลังของปันหยุนหั่วถูกโจมตีด้วยพลังรุนแรง หน้าอกนั้นจึงระเบิดออกด้วยพลังดังกล่าว เกิดเป็นรูขนาดใหญ่มีเลือดไหลเจิ่งนอง หัวใจของเขากระเด็นไกลออกไปเพราะแรงระเบิด

ที่ชวนให้ตื่นตะลึง คือกระดูกของปันหยุนหั่วยังอยู่ดี และพลังงานโลหิตสีแดงฉานได้ทะลักออก เกิดขึ้นเป็นเนื้อเติบโตพร้อมเลือด ทำการรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดีอย่างรวดเร็ว

ความสามารถในการฟื้นฟูอันเลิศล้ำเพียงนี้ ทำเอาครึ่งเซียนทั้งหลายที่นี่ต้องสะท้านภายใน

ฉินหยุนรู้สึกว่าแม้กระทั่งตนยังไม่อาจเทียบ “พลังการฟื้นฟูระดับนี้น่าทึ่งเกินไปแล้ว!”

ปันหยุนหั่วหันกลับ สายตาลุกโชนส่องสว่าง เผยหมอกแสงสีน้ำเงินอ่อนจางเข้าปกคลุมทั้งลานประลองยุทธ์

และชั่วขณะนี้ สีหน้าของเชี่ยวเย่ว์หลานพลันแปรเปลี่ยน!

หวาดกลัว โศกเศร้า โกรธเกรี้ยว และอีกหลายอย่างได้ปรากฏที่ใบหน้าของนาง

นางคล้ายถูกแทรกแซงจนเกิดเจ็บปวดขึ้นมา

ถึงตอนนี้เอง ปันหยุนหั่วพลันโหมบุกโจมตี ฝ่ามือปะทะเข้าที่ศีรษะของเชี่ยวเย่ว์หลาน

เชี่ยวเย่ว์หลานคำรามเบา หมอกพลังงานสีขาวเย็นเยือกปรากฏจากร่างของนาง ทำการสะกดข่มปันหยุนหั่วจนหวาดกลัวก้าวถอยไปหลายก้าว

ผู้อื่นไม่ทราบ แต่ฉินหยุนทราบดีว่าเชี่ยวเย่ว์หลานมีพลังจิตแกร่งกล้าเพียงใด แม้นางถูกแทรกแซงอย่างรุนแรง ก็ยังได้เห็นว่านางสามารถแทรกแซงกลับ ทางด้านปันหยุนหั่นกล่าวได้ว่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเท่าใดนัก

เชี่ยวเย่ว์หลานบีบบังคับให้ปันหยุนหั่วต้องถอย สีหน้าของนางค่อยดีขึ้นมาก ร่องรอยความเยือกเย็นฟื้นกลับคืน เห็นได้ชัดว่าพลังจิตที่แทรกแซงไม่เพียงทำนางเสียสมาธิ มันยังนำพามาซึ่งความเจ็บปวด

ปันหยุนหั่วเองก็ตื่นตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าเชี่ยวเย่ว์หลานจะสามารถต้านทานตนเองได้นานเพียงนี้

“เจ้าไม่อาจสังหารข้า และก็ไม่อาจเอาชนะข้า!” ปันหยุนหั่วหัวเราะเสียงดัง ดวงตานั้นทอแสงวูบสีน้ำเงินอีกครั้งหนึ่ง ยิงเอาลำแสงสองสายเข้าใส่เชี่ยวเย่ว์หลาน

เชี่ยวเย่ว์หลานปลดปล่อยหมอกสีดำ ต้านรับลำแสงสีน้ำเงินทั้งสองไว้ จากนั้นร่างกายนางจึงกลับคืนสภาพโปร่งแสง พร้อมพุ่งเข้าหาปันหยุนหั่ว

ปันหยุนหั่วสัมผัสได้ถึงเชี่ยวเย่ว์หลานที่เข้ามาใกล้ กระนั้นเวลาให้หลบเลี่ยงไม่มี เขาจึงได้แต่ต้องปล่อยหมอกพลังงานสีน้ำเงินออกมาต้านรับ

เชี่ยวเย่ว์หลานเคลื่อนผ่านข้างกายปันหยุนหั่ว พร้อมคว้าหัวใจอีกฝ่ายเอาไว้

กระนั้นนี่ไม่อาจทำร้ายปันหยุนหั่ว เพราะเขามีพลังฟื้นฟูอันเลิศล้ำ เพียงอึดใจหัวใจใหม่ก็ถูกสร้างขึ้นแทนที่

เชี่ยวเย่ว์หลานที่สัมผัสหมอกสีน้ำเงิน ใบหน้างดงามของนางจึงเผยความโศกศัลย์ เรื่องนี้ทำเอาฉินหยุนปวดใจ เขาไม่ทราบว่าเหตุใดเชี่ยวเย่ว์หลานจึงเผยความเศร้าเช่นนั้นออกมา

ปันหยุนหั่วใช้โอกาสที่พบเห็น เร่งรีบโจมตีด้วยฝ่ามือจากระยะไกล

ตู้ม! ครืน!

บอลสีน้ำเงินโจมตีปะทะ มันอัดแน่นเอาไว้ด้วยพลังงานพร้อมเข้าปกคลุมเชี่ยวเย่ว์หลาน ส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดพร้อมสายฟ้าอสนีบาตร่ายรำ

ขณะปันหยุนหั่วรู้สึกเป็นฝ่ายเหนือกว่าอยู่ภายใน คลื่นอากาศเย็นเยือกพลันโจมตีเข้าใส่

บอลพลังงานที่ปกคลุมร่างเชี่ยวเย่ว์หลาน กลับกลายเป็นกระจายตัวออกไร้ร่องรอยใดหลงเหลือ ร่างเชี่ยวเย่ว์หลานทะลักล้นออกซึ่งแสงสีขาวอันศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ นำมาพร้อมอากาศเย็นเยือกเข้าคุกคาม

เชี่ยวเย่ว์หลานเผยความโกรธเกรี้ยว เสื้อผ้าของนางได้รับความเสียหายระดับหนึ่ง ที่ใบหน้ายังได้รับบาดเจ็บ เส้นผมยุ่งเหยิงเพราะการต่อสู้ นางร่ายรำผ่านอากาศพร้อมสายลมเย็นเยือกส่งร่างทะยานออก

ปันหยุนหั่วรับรู้ได้ เขาเผยสีหน้าหนักอึ้งพร้อมเร่งรีบถอยหนี

เชี่ยวเย่ว์หลานบาดเจ็บ เลือดไหลจากมุมปาก ชัดเจนว่าอาการบาดเจ็บนี้ไม่ใช่เล็กน้อย

“หยุนหั่ว เป็นอะไร? โจมตีนางสิ!” ราชันแคว้นมู่เร่งร้อนตะโกน

ที่บนลานประลองยุทธ์ ปันหยุนหั่วเป็นเพียงผู้เดียวที่สัมผัสได้ถึงออร่าชวนสะพรึงของเชี่ยวเย่ว์หลาน เขาไม่กล้าบุ่มบ่ามโจมตี

“เชี่ยวเย่ว์หลาน หยุดมือที่ตรงนี้ ถือว่าเสมอกัน!” ปันหยุนหั่วเร่งร้อนตะโกน

คำกล่าวของเขาทำเอาผู้อื่นตื่นตะลึง

ผู้คนล้วนได้เห็นว่าปันหยุนหั่วเป็นฝ่ายมีเปรียบ เขาสะกดเชี่ยวเย่ว์หลานเอาไว้ได้ทุกทาง

กระนั้น ปันหยุนหั่วกลับเลือกไม่สู้ต่อ แต่เลือกที่จะยอมเสมอกับเชี่ยวเย่ว์

เชี่ยวเย่ว์หลานเผยเสียงเย็น “ได้ พวกเราถือว่าเสมอ!”

ปันหยุนหั่นกล่าวกับเจี้ยนสือเทียน “ผู้อาวุโสรบกวนปิดม่านพลัง เชี่ยวเย่ว์หลานและข้าเสมอกัน!”

ราชันแคว้นมู่ขมวดคิ้วเอ่ยถาม “หยุนหั่ว เจ้าเอาชนะนางไม่ได้จริงหรือ?”

ปันหยุนหั่วกล่าวตามตรง “ข้าเอาชนะนางได้ แต่นั่นหมายถึงข้าพิการ!”

“อย่างนั้นก็ให้จบที่เสมอ!” ราชันแคว้นมู่เข้าใจปันหยุนหั่ว เขาไม่ยอมเสี่ยงให้เรื่องราวดำเนินถึงขั้นนั้น

หลังม่านพลังปิดลง เจี้ยนสือเทียนจึงส่งคืนต้นกำเนิดเซียนทั้งสองแก่ราชันแคว้นมู่และแม่เฒ่าหยุนเหยา

ฉินหยุนส่งเสียงถามต่อเชี่ยวเย่ว์หลาน “เย่ว์หลาน ชายคนนี้แข็งแกร่งมากหรือ?”

“ไม่ใช่แข็งแกร่งอะไรมาก แต่เป็นเขาจับจุดอ่อนข้าได้! ข้าเอาชนะเขาได้หากทุ่มสุดตัว แต่นั่นหมายถึงข้าได้รับบาดเจ็บหนัก ดังนั้นเสมอถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว!” เชี่ยวเย่ว์หลานตอบกลับ “เสี่ยวหยุน เจ้าเอาชนะมันได้!”

เชี่ยวเย่ว์หลานเพิ่งส่งเสียงผ่านจิตสื่อสารไปยังฉินหยุนจบ นางจึงได้เห็นปันหยุนหั่วและราชันแคว้นมู่เดินเข้ามา

“ฉินหยุน ข้าคิดท้าประลองต่อเจ้า เดิมพันเป็นต้นกำเนิดเซียน เจ้ากล้ารับไว้หรือไม่?” ปันหยุนหั่วรู้สึกว่าฉินหยุนสมควรรับมือได้ง่ายกว่าเชี่ยวเย่ว์หลาน ครั้งนี้เขามั่นใจยิ่งนัก

“ข้าคืออันดับหนึ่งแห่งงานประลองยุทธ์แคว้นมหาดวงดาว เชี่ยวเย่ว์หลานเป็นอันดับสอง! เจ้าเอาชนะอันดับสองยังไม่ได้ อย่างนั้นเอาอะไรมามั่นใจว่าชนะข้าได้?” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

“เจ้าหาได้สู้กับนางไม่ เพียงแต่เอาชนะมาได้โดยโชคผ่านการเป่ายิงฉุบ!” ปันหยุนหั่วแค่นเสียงกล่าวคำ “ในความเห็นข้า พวกเจ้าทั้งสามหาได้ทัดเทียมเชี่ยวเย่ว์หลานไม่!”

“ในเมื่อปรามาสต่อข้าเพียงนี้ เช่นนั้นก็สู้!”

ฉินหยุนคิดอยากสั่งสอนบทเรียนแก่ปันหยุนหั่วอย่างแท้จริง เป็นอีกฝ่ายคิดคุกคามต่อภรรยาของเขาบนลานประลองยุทธ์!

หลงเฉียวเฟิงและเจี้ยนรั่วหยานต่างได้เห็นจิตสังหารพร้อมความพิโรธในดวงตาฉินหยุน

นั่นก็เพราะปันหยุนหั่วกล่าววาจาเหล่านั้นต่อเชี่ยวเย่ว์หลานบนลานประลองยุทธ์ มันถือเป็นการกระตุ้นโทสะฉินหยุนได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากนี้แล้ว ปันหยุนหั่วยังทำร้ายเชี่ยวเย่ว์หลานจนบาดเจ็บ!

เหมือนดังก่อนหน้า เปาเฉิงโฉ่วและราชันแคว้นมู่ต่างส่งมอบต้นกำเนิดเซียน ให้เจี้ยนสือเทียนเป็นผู้ถือครองไว้ชั่วคราว

จากนั้น ฉินหยุนและปันหยุนหั่วจึงเดินขึ้นบนลานประลองยุทธ์

“เจ้าเพิ่งสู้กับเชี่ยวเย่ว์หลานไป คิดพักก่อนหรือไม่? เพราะเมื่อถูกข้าลงมือสังหารจะได้ไม่มีอะไรติดค้างภายในใจ!” ฉินหยุนมองทางปันหยุนหั่วพร้อมเผยอาการเดียดฉันท์

ปันหยุนหั่วหัวเราะดังกล่าวคำ “ฉินหยุน ข้าเคยรับชมเจ้าต่อสู้มาก่อน ตัวเจ้าก็แค่งั้นงั้น! ที่แข็งแกร่งของเจ้าก็เป็นวิชายุทธ์โทเทมและร่างลึกล้ำที่ดีเลิศ แต่แล้วมันก็แค่นั้นหรือไม่ใช่?”

“เจ้าพูดกล่าวเหมือนชนะแน่นอนแล้ว รอสักประเดี๋ยว ข้าจะให้เจ้าได้สัมผัสถึงพลังข้า! แน่นอนว่า ที่เจ้าจะได้รับรู้ ก็ต้องแลกมาด้วยชีวิต!” ฉินหยุนไม่หวาดเกรงปันหยุนหั่วแม้แต่น้อย

ปันหยุนหั่วมองทางเชี่ยวเย่ว์หลานที่ยืนด้านล่างลานประลองยุทธ์ เขายิ้มกล่าว “โฉมงาม ตราบเท่าที่ข้าชนะฉินหยุนได้ เจ้ายินดีแต่งกับข้าหรือไม่?”

“เลิกฝันเฟื่อง!”

เชี่ยวเย่ว์หลานตอบคำเสียงเย็น ใบหน้านั้นเผยร่องรอยความโกรธออกมา “อย่าได้คิดว่าเป็นเพราะพวกเราเสมอแล้วตัวเจ้าจะยิ่งใหญ่ใต้หล้า ข้าเพียงคร้านจะสู้กับเจ้าต่อ!”

ปันหยุนหั่วหัวเราะดัง “เจ้าพ่ายแพ้ฉินหยุนด้วยการเป่ายิงฉุบ จะบอกข้าว่าเจ้าเชื่อหรือว่าฉินหยุนแข็งแกร่งกว่าตนเอง? ในความเห็นข้า เจ้าแข็งแกร่งกว่าฉินหยุนเป็นไหน!”

“เชี่ยวเย่ว์หลาน จงรอรับชมให้ดี ข้าจะนำศพฉินหยุนไปเฉือนหั่นให้เจ้าดูเป็นรางวัล!”

เชี่ยวเย่ว์หลานมองทางฉินหยุนและกล่าว “ฉินหยุน ตราบเท่าที่เจ้าสังหารปันหยุนหั่ว ข้าจะมอบจูบแรกให้ ทั้งยังจะติดตามเจ้ากลับนครเซียนยุทธภัณฑ์อยู่ร่วมด้วยสักเดือนหนึ่ง!”

เรื่องราวนี้ทำเอาผู้ได้รับฟังต่างต้องเบิกดวงตาออกกว้างแทบถลนตื่นตะลึง รางวัลเช่นนี้เย้ายวนเกินไปแล้ว

ปันหยุนหั่วกราดเกรี้ยวจนแทบสะดุ้ง เพราะเชี่ยวเย่ว์หลานไม่เคยให้โอกาสเช่นนี้แก่เขา

เชี่ยวเย่ว์หลานกล่าวย้ำ “ฉินหยุน ข้าเป็นคนรักษาคำพูด! จริงด้วย เจี้ยนรั่วหยานถือว่าแต่งงานกับข้าแล้ว ตราบเท่าที่เจ้าจัดการปันหยุนหั่วได้ ข้าจะพานางร่วมทางไปหาเจ้าด้วย!”

ฉินหยุนคิ้วกระตุก เขารับรู้ถึงจิตสังหารที่มาจากทั่วทิศ สายตาเหล่านี้โหดเหี้ยมดุร้าย ส่วนใหญ่เป็นของบรรดาศิษย์จากตำหนักเซียนดาบแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด