ตอนที่แล้วบทที่ 182 ก่อตั้งตำหนักม่วง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 184 โชคชะตาและเคราะห์ร้ายห่างกันเพียงแค่เส้นบางๆ

บทที่ 183 ตำหนักม่วงสองหลัง


“สำเร็จ!”

เจียงอี้จมอยู่กับความปลื้มปิติ เมื่อตำหนักม่วงถูกก่อตั้งขึ้นในตันเทียน นั่นก็หมายความว่าเขาได้เขยิบเข้ามาใกล้เต๋าแห่งวรยุทธที่แท้จริงอีกหนึ่งก้าวแล้ว

เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งตัวเองจะไปถึงจุดสูงสุดของเต๋าวรยุทธและสามารถยืนหยัดได้อย่างภาคภูมิ!

ความแข็งแกร่งโดยรวมของเจียงอี้อยู่ในระดับที่น่าเหลือเชื่อ เขาสามารถสังหารผู้อาวุโสหงที่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวได้อย่างไม่ยากเย็น แต่นั่นก็เป็นเพราะความช่วยเหลือจากเพลิงโลกาซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก!

บนเส้นทางสู่เต๋าวรยุทธ ความช่วยเหลือจากภายนอกเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่ทำให้จอมยุทธแข็งแกร่งขึ้นได้ชั่วคราวเท่านั้น มันไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริง

นอกจากนี้ การพึ่งพาตัวช่วยตลอดเวลาจะทำให้จอมยุทธถูกชักจูงให้ออกนอกเต๋าวรยุทธที่แท้จริงได้โดยง่าย

ยกตัวอย่างเช่นเจียงเปี๋ยหลี เมื่อเขาทะลวงสู่ขอบเขตจินกัง(วัชระ)ในตำนาน เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาสิ่งประดิษฐ์ใดๆและมอบสิ่งประดิษฐ์ที่น่าเกรงขามอย่างตราประทับผู้ปกครองให้กับบุตรชายอย่างเจียงนี่หลิวในตอนที่เขามีอายุครบสิบห้าปี

นั่นก็เป็นเพราะว่าเจียงเปี๋ยหลีไม่ต้องการพลังจากภายนอกซึ่งจะส่งผลต่อจิตใจของเขาและทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเต๋าวรยุทธที่แท้จริงได้

เพลิงโลกานั้นเป็นวัตถุอัศจรรย์ที่น่าหวาดกลัว  แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีวันที่จะถูกใช้จนหมดไป

พลังที่แท้จริงของเพลิงโลกานั้นสามารถแผดเผาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวขั้นที่ห้าให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้ในพริบตา

แต่หากเปลี่ยนเป็นเจียงอี้ล่ะ เขาจะสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับนั้นได้ด้วยพลังของตัวเองหรือ?

ก่อนหน้านี้ที่เขาสามารถสังหารผู้อาวุโสหงได้ก็เป็นเพราะโชคช่วย ชายชราผู้นั้นถูกกดดันจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายและไม่เอื้ออำนวยให้ทำการต่อสู้

มิฉะนั้น ด้วยความเร็วของเขา เขาก็คงจะสามารถหลบหลีกการโจมตีของเจียงอี้ได้อย่างง่ายดายและหันกลับมาสังหารอีกฝ่ายได้ในพริบตา

เจียงอี้ทราบเรื่องเหล่านี้อยู่แก่ใจ ดังนั้นเขาถึงขยันหมั่นเพียรในการฝึกปรือฝีมืออยู่เสมอ เขารู้ว่ามีเพียงพลังของตัวเองเท่านั้นที่จะนับว่าเป็นความแข็งแกร่งที่แท้จริง แต่มันก็ต้องเพิ่มขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและไม่มีทางลัดซึ่งทุกอย่างก็จะตกผลึกมาจากประสบการณ์ที่เขาสั่งสมมาทั้งชีวิต

“ช่างมันเถอะ คิดมากไปก็ปวดหัว รีบมาจัดการเห็ดหลินจืออัคคีนี่ดีกว่า มิฉะนั้นมันจะเสียเปล่า!”

เจียงอี้ดึงสติกลับมาและย้ายจิตเข้าไปในตำหนักม่วงซึ่งอยู่ในตันเทียนของเขา จากนั้นเขาก็ควบคุมแก่นแท้พลังสีน้ำเงินให้สกัดกลั่นเห็ดหลินจืออัคคีต่อไป

แก่นแท้พลังอาจจะถูกควบแน่นอยู่ในตำหนักม่วง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าแก่นแท้พลังจะหายไป แต่มันคือการแปรสภาพของแก่นแท้พลังให้อยู่ในรูปของเหลว

หากเจียงอี้ต้องการจะปลดปล่อยแก่นแท้พลัง เขาก็แค่ต้องดึงมันซึ่งอยู่ในรูปแบบของของเหลวออกมาจากตำหนักม่วงเท่านั้น จากนั้นตำหนักม่วงก็จะแปรสภาพแก่นแท้พลังที่อยู๋ในรูปแบบของเหลวให้มาอยู่ในรูปแบบอากาศธาตุ(แบบเดิม)

แน่นอนว่าเมื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตใหม่ พลังความเข้มข้นของแก่นแท้พลังก็ถูกยกระดับด้วยเช่นกัน

“หืม?!”

แต่ในขณะที่เจียงอี้กำลังสำรวจตำหนักม่วงอยู่นั้น เขาก็พบเจอกับภาพที่น่าตกใจซึ่งทำให้ร่างของเขาแทบจะทรุดลงกับพื้น ดวงตาของเขาเบิกกว้างขณะที่สบถออกมา

“เวรเอ้ย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?!”

เฉียนว่านก้วนและจ้านอู๋ซวงซึ่งกำลังนั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องตื่นตกใจเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเจียงอี้

“ลูกพี่ เกิดอะไรขึ้น? เจ้าล้มเหลวในการควบกลั่นจื่อฝู่หรือ?!”

เมื่อจอมยุทธมาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตฉูติ่ง โดยปกติแล้วพวกเขาจะไม่พบปัญหาเมื่อเข้าสู่กระบวนการก่อตั้งตำหนักม่วงในตันเทียน

แต่แน่นอนว่าไม่ใช่กับทุกคน มีบางคนที่รวบรวมแก่นแท้พลังได้ไม่มากพอในขณะที่ทำการก่อตั้งตำหนักม่วง ในกรณีที่เลวร้ายสุด ตันเทียนของคนผู้นั้นก็อาจจะระเบิดและกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต

แต่วิธีการควบกลั่นจื่อฝู่ของเจียงอี้มีต้นกำเนิดมาจากสำนักจิตอสูรและแม่นยำที่สุด ผนวกกับพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมของเขา มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะล้มเหลว?

เจียงอี้ไม่ได้ตอบคำถามของเฉียนว่านก้วนและย้ายจิตกลับเข้าไปในตำหนักม่วงอีกครั้ง แต่เขาก็ยังคงต้องตื่นตกใจเมื่อพบว่าภายในนั้นไม่มีแก่นแท้พลังเหลวเลยแม้แต่หยดเดียว แต่กลับมีตำหนักม่วงสีดำซึ่งมีขนาดเล็กกว่าตั้งอยู่ภายในนั้นแทน!

นี่ข้ามีตำหนักม่วงสองหลังหรือนี่?!

หรือมันจะเป็นเพราะแก่นแท้พลังสีดำจึงทำให้เกิดตำหนักม่วงสองหลังซึ่งมีขนาดที่ต่างกันขึ้นมา?

“บัดซบ! หรือว่าแก่นแท้พลังสีดำจะทำให้ข้าซวยแล้ว!?”

เจียงอี้โกรธเกรี้ยวมากจนสบถออกมาไม่หยุด ตำหนักม่วงคืออะไร? มันคือสิ่งที่จอมยุทธไม่สามารถทำผิดพลาดได้ในกระบวนการควบกลั่นแก่นแท้พลัง!

นอกจากนี้ ประวัติศาสตร์หลายล้านปีของทวีปเทียนชิงไม่เคยมีปรากฏเรื่องที่จอมยุทธสามารถสร้างตำหนักม่วงหลังที่สองขึ้นมาได้มาก่อน!

เมื่อไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดได้อีกต่อไป เจียงอี้ก็ต้องบังคับให้ตัวเองใจเย็นลงและเข้าไปสำรวจในตำหนักม่วงที่หลังเล็กกว่า

ไม่นานนัก เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อสัมผัสได้ว่าตำหนักม่วงหลังน้อยถูกสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบและยังมีของเหลวสีดำอยู่ข้างในสามหยด

จงออกมา!

เจียงอี้ส่งกระแสจิตไปควบคุมของเหลวสีดำหนึ่งหยด แต่พริบตาต่อมาเขาก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น

เมื่อของเหลวสีดำถูกนำออกมาจากตำหนักม่วงที่มีขนาดเล็กกว่า มันก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแก่นแท้พลังเหลวสีน้ำเงินและเพิ่มจำนวนขึ้นกว่าหนึ่งร้อยหยด!

แก่นแท้พลังสีน้ำเงิน จงออกมา!

เจียงอี้ลำเลียงแก่นแท้พลังเหลวสีน้ำเงินให้ออกมาจากตำหนักม่วงหนึ่งหยด จากนั้นเขาก็มองเห็นกระบวนการที่เกิดขึ้น

แก่นแท้พลังเหลวสีน้ำเงินถูกแปรสภาพให้อยู่ในรูปอากาศธาตุที่มีปริมาณมากถึงหนึ่งร้อยเส้น!

ที่แท้แก่นแท้พลังของเขาก็ไม่ได้หายไป เพียงแค่อยู่ในรูปแบบที่แตกต่างจากเดิมก็เท่านั้น!

ตำหนักม่วงของเจียงอี้อาจจะดูไม่เหมือนของชาวบ้าน แต่อย่างน้อยพลังของเขาก็ยังคงอยู่ ตราบเท่าที่ยังสามารถเรียกใช้แก่นแท้พลังได้ เขาก็ยังคงเป็นจอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่อยู่วันยังค่ำ

“เดี๋ยวค่อยมาวิเคราะห์มันภายหลัง ตอนนี้ข้าต้องรีบดูดซับเห็ดหลินจืออัคคีเสียก่อน!”

เห็ดหลินจืออัคคีกำลังถูกหลอมละลายอย่างช้าๆและแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานสีแดงซึ่งกำลังหลั่งไหลไปตามเส้นลมปราณของเจียงอี้ จากนั้นมันก็ถูกลำเลียงเข้าไปในตำหนักม่วงก่อนที่จะแปรสภาพเป็นแก่นแท้พลังเหลวสีน้ำเงิน

ที่แท้ตำหนักม่วงก็มีกระบวนการทำงานเช่นนี้?!

เจียงอี้ถอนหายใจและจดจ่ออยู่กับการดูดซับเห็ดหลินจืออัคคี เมื่อผ่านไปสามสิบนาที กระบวนการดูดซับก็เสร็จสิ้น ตอนนี้ตำหนักม่วงของเขาได้ควบกลั่นแก่นแท้พลังเหลวสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบหยดแล้ว

“ฟู้วว…”

เจียงอี้ลืมตาขึ้นและโคจรแก่นแท้พลังไปที่ฝ่ามือเพื่อเรียกใช้ฝ่ามือระเบิดแก่นแท้ แต่เขาไม่ได้โจมตีออกไป เขาเพียงแค่ต้องการตรวจสอบว่าท่าไม้ตายของเขายังคงมีพลังที่น่าหวาดกลัวอยู่หรือไม่

เมื่อเห็นว่าไม่มีปัญหา เขาก็ถอนหายใจเพื่อสลายความตึงเครียด

“ลูกพี่ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เมื่อเจียงอี้ก้าวออกมาจากห้อง เฉียนว่านก้วนก็รีบเอ่ยถามด้วยความร้อนใจ เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็ส่ายศีรษะและกล่าว

“มีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับตำหนักม่วงของข้า แต่ข้าก็ยังไม่มั่นใจนัก เอาเป็นว่าข้าจะบอกพวกเจ้าในภายหลัง… แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วง ตำหนักม่วงของข้าถูกก่อตั้งขึ้นอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เจ้าสบายใจได้”

“ประเสริฐ! เจ้าก็ควรหาเวลาวิเคราะห์มันดู แต่ตอนนี้เจ้าก็พักผ่อนก่อน พรุ่งนี้พวกเราจะต้องเดินทางไปเมืองเทียนชิงตั้งแต่เช้าตรู่!”

ในเมื่อเจียงอี้ไม่ต้องการที่จะกล่าวถึงมัน พวกเขาสองคนก็ไม่ได้ซักไซ้ไต่ถามต่อ เพราะรู้ดีว่าทุกคนย่อมมีความลับของตัวเอง ขอเพียงแค่กระบวนการควบกลั่นจื่อฝู่ของเขาประสบความสำเร็จ เช่นนั้นเรื่องอื่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด

หลังจากที่ทั้งสองคนจากไปแล้ว เจียงอี้ก็กลับมาสำรวจตำหนักม่วงของเขาอย่างละเอียด แม้ว่าจะเลยเที่ยงคืนมาแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับมันนัก

ในตอนนี้เจียงอี้ยังคงไม่พบปัญหาใดๆ ตำหนักม่วงและตันเทียนของเขายังคงเป็นปกติดี หลังจากที่ดูดซับเห็ดหลินจืออัคคีจนหมดแล้ว เขาก็ได้ทะลวงสู่ขอบเขตจื่อฝู่ขั้นที่สอง!

ทุกอย่างยังคงปกติดี!

มีเพียงตำหนักม่วงหลังน้อยเท่านั้นที่เขายังไม่สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับมันได้… ไม่ใช่ว่ามันเป็นของไร้ประโยชน์หรอกนะ?

เดี๋ยวก่อนสิ… แล้วแก่นแท้พลังสีดำของข้าหายไปไหน?

หลังจากที่ตำหนักม่วงถูกสร้างขึ้นในตันเทียนของเจียงอี้ มันก็ดูเหมือนว่าแก่นแท้พลังสีดำจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย หรือเป็นไปได้ไหมว่าตำหนักม่วงสีดำหลังน้อยที่อยู่ภายในแท้จริงแล้วจะเป็นแก่นแท้พลังสีดำ?

แก่นแท้พลังสีดำเป็นพลังงานที่ลึกลับ เจียงอี้เริ่มท่องศาสตร์นิรนามเพื่อดูว่าเขายังสามารถบ่มเพาะแก่นแท้พลังสีดำได้อยู่หรือไม่

และแล้วก็มีบางอย่างเกิดขึ้นอีกครั้ง—!

เดิมทีเมื่อเขาท่องศาสตร์นิรนาม แก่นแท้พลังจะปรากฏขึ้นในตันเทียนของเขา แต่ในเวลานี้มันกลับไปปรากฏอยู่ในตำหนักม่วงหลังที่เล็กกว่าและยังอยู่ในสภาพของเหลว!

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่แก่นแท้พลังสีดำหนึ่งเส้นซึ่งเทียบเท่ากับหนึ่งในสิบของแก่นแท้พลังเหลวสีดำหนึ่งหยด แต่มันก็ยังคำทำให้เจียงอี้ตกตะลึงอยู่ดี

หากเขาจำไม่ผิด แก่นแท้พลังเหลวสีดำหนึ่งหยดสามารถเปลี่ยนให้เป็นแก่นแท้พลังเหลวสีน้ำเงินหนึ่งร้อยหยด และแก่นแท้พลังเหลวสีน้ำเงินหนึ่งหยดสามารถแปรสภาพเป็นแก่นแท้พลังในรูปแบบอากาศธาตุหนึ่งร้อยเส้น!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง แก่นแท้พลังสีดำหนึ่งเส้นสามารถเปลี่ยนให้เป็นแก่นแท้พลังสีน้ำเงินได้ถึงหนึ่งพันเส้น?

โอ้วพระเจ้า…

หลังจากที่วิเคราะห์เป็นอย่างดีแล้ว ร่างของเจียงอี้ก็สั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น ก่อนหน้านี้เขาบ่มเพาะพลังด้วยวรยุทธวารีตระกูลเจียงซึ่งทำให้เขาผลิตแก่นแท้พลังสีน้ำเงินได้เพียงแค่หนึ่งร้อยเส้นเท่านั้น

แต่ด้วยพลังของตำหนักม่วงหลังน้อย ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของเขาคงเพิ่มขึ้นนับสิบเท่าเลยใช่หรือไม่?

ตามความเข้าใจของผู้แปล

(แก่นแท้พลังสีดำ 10 เส้น = แก่นแท้พลังเหลวสีดำ 1 หยด)

แก่นแท้พลังเหลวสีดำ 1 หยด = แก่นแท้พลังเหลวสีน้ำเงิน 100 หยด

แก่นแท้พลังเหลวสีน้ำเงิน 1 หยด = แก่นแท้พลังสีน้ำเงินแบบเดิม(อากาศธาตุ) 100 เส้น

ดังนั้นจึงเท่ากับว่า แก่นแท้พลังสีดำแบบเดิม 1 เส้น(1/10ของหนึ่งหยด) = แก่นแท้พลังสีน้ำเงินแบบเดิม 1,000 เส้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด