ตอนที่แล้ว62 เหนือกว่าหนึ่งก้าว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป64 พายุฝนที่เทกระหน่ำลงมา

63 สังหารทุกอย่างที่ขวางหน้า!


63 สังหารทุกอย่างที่ขวางหน้า!

ภายในช่องทางการสื่อสารของทีมสีแดง เต็มไปด้วยเสียงอื้ออึงและความวุ่นวายจากเหล่าผู้เข้าแข่งขันร้อยกว่าคน ทุกคนได้แต่ระบายอารมณ์, พูดจาแดกดัน, และพร่ำบ่นออกมา มันวุ่นวายไปหมด ไม่ต่างไปจากตลาดสดที่เต็มไปด้วยเสียงเจี๊ยวจ๊าวเลย

เกิดเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังขึ้นมาจากจุดกึ่งกลางของเกาะมังกรปีศาจ จนทำให้พวกเขาต้องพากันเงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยเป็นเวลานาน

เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก ก็มีน้ำเสียงที่เกียจคร้านดังเข้ามาในท่องการสื่อสารของทีมสีแดง

“ฉันจัดการกับผู้บัญชาการของทีมสีน้ำเงินไปแล้ว ศูนย์บัญชาการทั้งหมดของทีมสีน้ำเงินก็ถูกระเบิดจนราบเป็นหน้ากอง! ในตอนนี้ พวกเขาก็ไม่ต่างไปจากฝูงมังกรที่ขาดจ่าฝูง มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเราแล้ว!”

“สิ่งที่พวกนายทุกคนต้องทำต่อมันนั้นง่ายมาก พวกนายไม่จำเป็นต้องรวมตัวกัน, ไม่จำเป็นต้องสร้างทีม, และไม่จำเป็นต้องทำงานร่วมกัน ทั้งหมดที่พวกนายต้องทำก็คือตะโกนออกมาว่า ‘เกาเย่ตายแล้ว! ทีมสีแดงชนะแล้ว!’ ตะโกนออกมาให้เหมือนกับว่าพวกนายเป็นหมูที่กำลังจะถูกเชือด แล้วเหวี่ยงดาบของพวกนายอย่างบ้าคลั่งและวาดผ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า แค่นั้นก็พอแล้ว ทุกคนเข้าใจไหม?”

“นายเป็นใคร? แล้วทำไมเราจะต้องเชื่อสิ่งที่นายพูดด้วย?” ภายในช่องการสื่อสารเงียบไปชั่วครู่ แล้วก็มีคนคนหนึ่งที่ไม่ได้ถูกคำพูดของหลี่เย้าชักจูงได้พูดขึ้นมา

“มันก็แล้วแต่ ว่าพวกนายจะเชื่อฉันหรือไม่ เพราะตอนนี้ฉันจะไปเก็บเกี่ยวแล้ว ทุกคนก็ทำตามที่ตัวเองต้องการก็แล้วกันนะ...มันจะดีที่สุดถ้าพวกนายจะอยู่กับที่ และไม่ต้องทำอะไรเลย แล้วปล่อยให้ฉันได้เก็บเกี่ยวคะแนนเพียงลำพัง ฮาฮาฮาฮาฮา เกาเย่ตายแล้ว! ทีมสีแดงคือผู้ชนะ! ตาย ตาย ตาย ตาย ตาย ตาย ตาย ตาย!”

เกิดเสียงกรีดร้องดังราวกับหมูถูกเชือดดังเข้ามาในช่องการสื่อสาร เมื่อฟังจากเสียงหัวเราะที่อวดดีนั้นแล้ว ทุกคนต่างก็จินตนาการไปถึง ภาพของชายคนหนึ่งที่กำลังถือดาบโซ่ไล่สังหารผู้คนไปทั่ว และเก็บเกี่ยว “ศีรษะ” ทั้งหมดตามที่เขาต้องการ

“ดูสิ ดูเหมือนว่าฝ่ายทีมสีน้ำเงินจะมีปฏิกิริยาแปลกๆนะ พวกเขาไม่มีการเคลื่อนไหวมาได้สักพักหนึ่งแล้ว อย่างกับว่า พวกเขาจะเจออุปสรรคเข้าแล้ว!”

ผู้เข้าแข่งขันทีมสีแดงสองคนได้กระซิบกระซาบกัน อยู่ที่มุมหนึ่งของเกาะมังกรปีศาจ

“บ้าเอ้ย! ถ้าหากปล่อยให้พวกเราต้องถูกจัดการไปอย่างนี้เรื่อยๆ มันก็คงจะจบเห่แน่ๆ! ช่างแม่*ง! เกาเย่ตายแล้ว! ทีมสีแดงจะเป็นผู้ชนะ!”

ผู้เข้าแข่งขันของทีมสีแดงทั้งสองคนแข็งใจ พวกเขายกดาบขึ้นมาและพุ่งตัวออกไปราวกับหมาป่าที่หิวโหย พวกเขาพุ่งตัวเข้าไปปะทะกับหน่วยสู้รบของทีมสีน้ำเงิน ด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน!

“เกาเย่ตายแล้ว! ทีมสีแดงจะเป็นฝ่ายชนะ!”

“เกาเย่ตายแล้ว! ทีมสีแดงจะเป็นฝ่ายชนะ!”

“เกาเย่ตายแล้ว! ทีมสีแดงจะเป็นฝ่ายชนะ!”

เกิดเสียงต่อสู้ดังสนั่นไปทั่วทั้งเกาะมังกรปีศาจ

ผู้เข้าแข่งขันของทีมสีน้ำเงินเพิ่งจะได้รับข่าว ของศูนย์บัญชาการของพวกเขาที่ถูกทำลายโดยฝ่ายศัตรู ผ่านทางช่องการสื่อสารของทีม พวกเขาต่างตกใจและตื่นตระหนกกับข่าวที่น่าตกตะลึงนี้ และถูกจัดการโดยผู้เข้าแข่งขันของทีมสีแดงที่บ้าคลั่งราวกับสัตว์ประหลาด ในหูของพวกเขาได้ยินแต่เสียงร้อวคำรามของผู้เข้าแข่งขันทีมสีแดง พวกเขาไม่เหลือแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะสู้กลับ!

ในตอนแรก ชัยชนะนั้นเอนเอียงไปทางทีมสีน้ำเงิน ไม่มีใครคิดเลยว่า หลี่เย้าจะสามารถปีนป่ายขึ้นมาและจัดการพลิกชัยชนะกลับมาเป็นของฝั่งทีมสีแดงได้ ในเวลานี้ ผู้เข้าแข่งขันของทีมสีน้ำเงินและสีแดงต่างก็ต่อสู้กันอย่างชุลมุน

จากขวัญกำลังใจและความตื่นเต้นที่เกิดขึ้น ทำให้สมาชิกของทีมสีแดงเริ่มเป็นฝ่ายนำขึ้นมา!

บนเรือธงเหลียวหยวนฮ่าว คนที่อยู่ภายในและภายนอกศูนย์มอนิเตอร์ต่างพากันเงียบกริบ ทุกคนอยู่ในอาการตกตะลึงจนพูดไม่ออก พวกเขาตกใจกับผลงานที่สุดยอดของหลี่เย้า ที่ฉายอยู่บนหน้าจอโฮโลแกรม

ในตอนเริ่มต้น เขาได้จัดการกับทีมลาดตระเวรทั้งสี่ทีมของทีมสีน้ำเงิน จากนั้น เขาก็เผยตัวต่อหน้าทีมลาดตระเวรของทีมสีน้ำเงินที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ต่อมา เขาก็แอบไล่ตามเฮ่อเหลียนเลี่ยและทีมของเขาไป และก็สามารถแอบเข้าไปในศูนย์บัญชาการของทีมสีน้ำเงินได้สำเร็จ แล้วเขายังรอคอยอยู่บนกิ่งไม้ที่อยู่เหนือหัวของศูนย์บัญชาการของทีมสีน้ำเมิงนานเกือบครึ่งชั่วโมง สุดท้ายเขาก็ลงมือโจมตีเพื่อดึงความสนใจของสมาชิกทุกคนในทีมสีน้ำเงินถึงสองครั้งตามลำดับ เมื่อการโจมตีประสบความสำเร็จ เขาก็ได้ทิ้งกองระเบิดเอาไว้ภายในศูนย์บัญชาการของทีมสีน้ำเงิน หลังจากที่เขาหนีออกไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยแล้ว เขาก็จัดการระเบิดศูนย์บัญชาการของทีมสีน้ำเงินจนเละเป็นจุน

นี่คือปฏิบัติการจู่โจมที่ชาญฉลาด, โดดเด่น, ราบรื่น, ราวกับออกมาจากในหนังสือ, และสุดคลาสสิค!

และการดำเนินการทั้งหมดตั้งแต่เริ่มแรก ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของหลี่เย้าเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น!

“วูซ วูซ วูซ วูซ!”

รายชื่อจำนวนมากได้หายไปจากหน้ากระดานอันดับ และชื่อของหลี่เย้าก็พุ่งขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง! ชื่อของเขาเคลื่อนตัวรวดเร็วราวกับพายุเฮอริเคน!

นี่เป็นเพราะ “การระเบิด” ที่ได้จัดการผู้บัญชาการและสมาชิกที่แข็งแกร่งของทีมสีน้ำเงินไป ทำให้คะแนนทั้งหมดกลายเป็นของหลี่เย้า เขาได้พุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่ง ราวกับมีดร้อนๆที่ผ่าลงไปบนเนย และคะแนนรวมของเขานั้นสูงกว่าอันดับที่สองถึงสิบเท่า!

ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันท้าทายขีดจำกัด คะแนนที่สูงขนาดนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย!

“สุดยอด เขาสุดยอดมาก! แค่ดูจากความพยายาม ที่เขาตั้งใจเพิ่มประสิทธิภาพของแรงระเบิดให้สูงขึ้น โดยการใส่หิน, ชิ้นส่วนต่างๆของอาร์ติเฟ็กซ์ และกระดูกที่คมกริบของสัตว์อสูรลงไป เพื่อเพิ่มแรงระเบิดให้มากขึ้นไปอีกสิบเท่า! นี่คือสิ่งที่ทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์สูงจะทำ! วิทยาลัยทหารแห่งแรกของสหพันธรัฐต้องการผู้มีพรสวรรค์แบบเขา! ใครจะกล้ามาแย่งเขาไปจากเรา!?”

หลังจากที่เงียบกริบกันไปได้สักพัก ภายในศูนย์มอนิเตอร์ที่เงียบสงบก็ได้เกิดเสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้น ไม่นาน เหล่าแมวมองทุกคนก็ได้พูดคุยกันเสียงดังแซงแซ่

“เรื่องอะไรกัน? อัจฉริยะแบบนี้ควรจะเป็นของมหาวิทยาลัยชิงหยุนต่างหาก!”

“วิทยาลัยการแพทย์เทียนตูของเราก็ต้องการอัจฉริยะแบบนี้เหมือนกัน ผมได้เตรียมข้อเสนอพิเศษให้กับเขาแล้ว คุณนั่นแหละที่ต้องถอยไป!”

“ฮึ่ม! ข้อเสนอพิเศษไม่มีค่าอะไรเลย เพราะมหาวิทยาลัยชิงหยุนของเราสามารถเสนอทุนการศึกษาก้อนใหญ่ให้กับเขา!”

ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างพากันทะเลาะเพื่อแย่งชิงหลี่เย้า จนหน้าดำหน้าแดง ภาพที่เห็นในเวลานี้เต็มไปด้วยความเร่าร้อน

มีเพียงเซี่ยทิงเสียนเท่านั้นที่ยังคงยิ้มมุมปากโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย ภายในสถานการณ์รอบด้านที่เต็มไปด้วยความตรึงเครียด แต่เขากลับยังสามารถทำใจเย็นได้อยู่ เพราะเขาได้ถือชัยชนะเอาไว้ในมือของเขาแล้ว

และติงหลิงตางที่นั่งห่างจากเขาไปไม่ไกล ก็ได้แต่กัดริมฝีปาก เธอลุกขึ้นเดินกลับไปกลับมาด้วยความหงุดหงิดและเป็นกังวล เธอเป็นเหมือนกับมังกรตัวเมีย ที่พร้อมจะพ่นไฟออกมาได้ทุกเวลา

“เจ้าเด็กนี่ ทำไมเขาต้องทำผลงานได้โดดเด่นขนาดนี้ด้วย? มันจบแล้ว มันจบแล้ว พอเขาได้รับข้อเสนอพิเศษจากแมวมองพวกนี้ เขาจะต้องไม่เลือกมาเรียนที่สถาบันการสงครามต้าฮวงแน่! หรือฉันจะจัดการซัดเขาให้มอบ และอุ้มกลับไปที่ต้าฮวงเลยดี?”

ติงหลิงตางขมวดคิ้วและใช้ความคิดอย่างหนัก จากนั้น เธอก็ส่ายหัวปัดแผนนี้ทิ้งไป “ฉันทำไม่ได้ ด้วยพละกำลังที่ฉันมี ถ้าเกิดชกออกไปหมัดเดียวแล้วเขาตายขึ้นมาจะทำยังไง?”

ภายในห้องโถงที่อยู่ด้านนอกศูนย์มอนิเตอร์ ภาพที่ยิ่งใหญ่ของหลี่เย้าได้สร้างคลื่นพายุที่รุนแรงยิ่งกว่าห้องด้านใน

ดูเหมือนว่าเหล่าหนุ่มสาวที่ได้เห็นภาพเหล่านี้ พวกเขาต่างก็ตกใจสุดขีด พวกเขาบางคนถึงกับต้องนวดตาของตัวเอง พวกเขาไม่กล้าที่จะเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น มีบางคนที่ถึงกับกรีดร้องออกมา

“โอ้แม้เจ้า! คนเพียงคนเดียวกลับสามารถจัดการศูนย์บัญชาการของทีมสีน้ำเงิน จนราบเป็นหน้ากองได้ขนาดนี้เลยเหรอ? นี่มันไม่แปลกเกินไปหรอกเหรอ?”

“อสูรกาย เขาเป็นอสูรกายแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาน่ากลัวเกินไปแล้ว!”

“สัตว์ประหลาดแบบนี้โผล่มาจากที่ไหนกัน? จากเมืองฝูเกอเหรอ? ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าที่เมืองฝูเกอจะมีคนเก่งขนาดนี้ ฉันเคยได้ยินแต่ชื่อเสียงของเฮ่อเหลียนเลี่ยและเจิ้งตงหมิง ฉันไม่เคยคิดเลยว่า แม้แต่เฮ่อเหลียนเลี่ยก็ยังต้านเขาไม่อยู่ และถูกเขาจัดการ!”

“เขาเป็นคนที่น่ากลัวจริงๆ เขาจะต้องมาจากตระกูลผู้ฝึกตนบางตระกูลอย่างแน่นอน เมื่อเอามาเทียบกับเด็กธรรมดาที่มีเงินและอำนาจอย่างพวกเราแล้ว ก็เหมือนอยู่กันคนละโลกเลย! เราเทียบกับเขาไม่ได้เลย!”

ในตอนที่เหล่าผู้เข้าแข่งขันที่อยู่บนเรือธงกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เหล่าผู้เข้าแข่งขันจากศูนย์บัญชาการของทีมสีน้ำเงินที่ถูกขับออกจากการแข่งขัน และเพิ่งจะถูกหลี่เย้าระเบิดจนต้อง “ตาย” ก็กลับขึ้นมาบนเรือธงแล้ว พวกเขาเดินเข้ามาภายในพื้นที่ที่ใช้เฝ้ามองการแข่งขัน ด้วยใบหน้าที่สับสนมึนงง

แล้วอยู่ๆพวกเขาก็ถูกปิดล้อมไปด้วยเหล่าผู้เข้าแข่งขันกว่าสองพันคน

โดยเฉพาะเกาเย่และเฮ่อเหลียนเลี่ยที่ได้รับความสนใจจากทุกคนมากที่สุด

“เกาเย่ นายคือความภาคภูมิใจของเมืองตงหนิง ทุกคนต่างก็รู้กันดีว่านายคืออัจฉริยะในด้านการบัญชาการ ฉันไม่คิดเลยว่า นายจะถูกศัตรูจัดการเอาได้ นายโอเคไหม? แล้วนายรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” คนหนึ่งในฝูงชนถามออกมาด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม

เกาเย่หัวเราะเบาๆ บนใบหน้าของเขาไม่มีร่องรอยของความพ่ายแพ้อยู่แม้แต่น้อย เขาพูดออกมาอย่างใจเย็นและสงบว่า “มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีต่างหาก จริงๆนะ การที่ได้มีศัตรูที่เก่งกาจขนาดนี้ มันทำให้ฉันได้รู้ว่า ทักษะในการบัญชาการของฉันยังอ่อนด้อยอยู่มาก และยังมีพื้นที่ให้ฉันได้พัฒนาตัวเองต่อไปอีก ถ้าหากครั้งหน้าเราได้เผชิญหน้ากันอีก ฉันจะไม่มีทางทำพลาดเหมือนเดิมอีก ฉันจะต้องจัดการล้มหลี่เย้าในทันที!”

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง และมองไปรอบๆ แล้วสุดท้าย สายตาของเกาเย่ก็จับจ้องไปที่ภาพของหลี่เย้า ที่อยู่บนหน้าจอโฮโลแกรม เขาสังเกตดูหลี่เย้าเป็นเวลานาน ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างจริงจังว่า “แต่ฉันก็หวังเอาไว้ด้วยว่า จะได้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับหลี่เย้า บนสนามรบเพื่อสู้กับสัตว์อสูร ฉันคงจะสามารถคิดยุทธวิธีการรบโดยที่มีเขาเป็นศูนย์กลางได้มากมายหลายสิบวิธีเลยล่ะ ฉันมั่นใจว่า หากฉันได้ร่วมมือกับเขา ด้วยความสามารถในการบัญชาการของฉัน บวกกับความสามารถในการต่อสู้ของเขา...ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรระดับสูง หรือแม้แต่ราชาของเผ่าอสูร...พวกแม่ทัพอสูร, ราชาอสูร และแม้กระทั่งเทพอสูร...พวกมันก็จะไม่มีทางหลุดรอดไปจากมือของพวกเราได้!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด